ตอนที่ 87 ฝึกตบะ ฝึกตบะ (2)
“ท่านแม่ ข้าใช่ธิดาของเสด็จพ่อจริงหรือไม่ ข้าไม่เข้าใจ เป็นธิดาเหมือนกันแต่เหตุใดข้าถึงไม่ได้รับความรักจากพระองค์เลย” เฟิงหรูซวงเอ่ยด้วยความเคืองโกรธ “เป็นเพราะท่านแม่ของข้าไม่ใช่น่าหลานฮองเฮาหรือ?”
“ซวงเอ๋อร์!”
น้ำเสียงของหลิวหรงเข้มขึ้นหลายส่วนทั้งยังสั่นสะท้าน “เมื่อครู่นี้เจ้าพูดอะไร”
ภายใต้น้ำเสียงเย็นยะเยือกของนาง เฟิงหรูซวงถึงกับตัวสั่น นางเม้มปากเบาๆ “ท่านแม่ ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ข้าแค่โทษเสด็จพ่อที่ลำเอียงก็เท่านั้น…”
“พอแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว!”
น่าหลานเยียน ผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว!
นางแย่งชิงเอาดวงใจของฝ่าบาทไปแล้วยังไม่พอ แม้แต่ซวงเอ๋อร์ก็ยังอยากมีแม่เช่นนางอีก?
“ซวงเอ๋อร์ เจ้าฟังให้ดี” หลิวหรงสูดหายใจเข้าลึก บีบบ่าเฟิงหรูซวงแน่น “น่าหลานเยียนไม่มีอะไรเลย นางก็แค่ใช้มารยาจิ้งจอกของนางแย่งเอาฝ่าบาทไป เจ้าต้องสมบูรณ์แบบกว่าลูกสาวของนางถึงจะทำให้คนในใต้หล้ารู้ว่า ฝ่าบาทในเมื่อก่อนเลือกผิด”
เฟิงหรูซวงนิ่งไป นางก้มหน้าลง ไม่รู้เพราะเหตุใด หลังจากเฟิงหรูชิงฟื้นขึ้นมานางก็รู้สึกว่าเฟิงหรูชิงไม่ค่อยเหมือนเดิม…
“หลายปีมานี้ คนชั่วข้าก็เป็นมาแล้ว ทุกคนต่างก็รู้ว่าข้าหลอกเอาป้ายเลือดเหล็กของเฟิงหรูชิงมา พวกเขาเกลียดข้าเสียยิ่งกว่าสิ่งใด แต่เจ้าไม่เหมือนกัน ข้าเลี้ยงดูเจ้ามาเช่นนี้ก็เพื่อให้คนบนโลกได้รู้ว่าเจ้าสมบูรณ์แบบเพียงใด”
ไม่ว่าในสายตาของคนทั้งโลกจะมองเฟิงหรูชิงอย่างไร น่าหลานฮองเฮาก็ยังคงเป็นวีรสตรีของพวกเขา แต่นางหลอกเอาป้ายเลือดเหล็กมาทำให้คนพวกนั้นมีอคติต่อนาง
เรื่องชั่วร้ายนางก็ทำไปแล้ว เป้าหมายก็เพื่อเปลี่ยนเฟิงหรูชิงให้กลายเป็นคนดื้อรั้นไม่ฟังความ ใช้วิธีนี้เพื่อเสริมให้เห็นความสมบูรณ์ของซวงเอ๋อร์ได้ชัดยิ่งขึ้น
นางเชื่อว่า ซวงเอ๋อร์ของนางจะต้องกลายเป็นสตรีที่สมบูรณ์แบบที่สุดในใต้หล้า และเป็นเพียงคนเดียวที่คู่ควรกับกั๋วซือ
“ท่านแม่ ข้าเข้าใจ” เฟิงหรูซวงเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหลิวหรงด้วยความสงสัย “ข้ารู้ว่าข้าควรทำอะไร ข้าก็ไม่ยอม…ถูกคนอ้วนไร้ประโยชน์เช่นนั้นเหยียบอยู่ใต้เท้า ข้าจะทำให้เสด็จพ่อรู้ เลือกเฟิงหรูชิงละทิ้งข้า เป็นสิ่งที่พระองค์ทำผิดอย่างใหญ่หลวง”
นางงดงามเฉลียวฉลาด อ่อนโยนน่ารักใคร่ แล้วเฟิงหรูชิงล่ะ? อ้วนอัปลักษณ์ แล้วยังเป็นตัวไร้ประโยชน์เกียจคร้านสันหลังยาว!
คนเช่นนั้น มีค่าอะไรมาเปรียบเทียบกับนาง?
นางไม่คู่ควร!
ในที่สุดสีหน้าของหลิวหรงก็อ่อนลง เอ่ยพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ “นี่สิถึงจะเป็นลูกสาวคนดีของแม่ จริงสิ ก่อนหน้านี้เจ้านำบรรดาบุตรสาวของเหล่าขุนนางใหญ่ศึกษายาสมานแผล เป็นอย่างไรบ้าง”
เฟิงหรูซวงหัวเราะ “ท่านแม่ น่าหลานไต้เอ๋อร์อายุยังน้อยแต่กลับหน้าตางดงามเช่นนั้น วันหน้าต้องเป็นหญิงสาวต้นเหตุแห่งหายนะเพราะความงามแน่ อาจทำลายแคว้นหลิวอวิ๋นของพวกเรา ข้าใช้เฟิงหรูชิงทำลายใบหน้านาง ก็ทำเพื่อนางเองทั้งนั้น จะไปรักษาแผลเป็นให้นางจริงๆ ได้อย่างไรเล่า”
พวกหลินเย่ว์อิ่งต่างก็เชื่อนางหมดใจไร้ข้อสงสัย
แต่ว่า นี่ก็ต้องขอบใจเฟิงหรูชิง ถ้าไม่ใช่เฟิงหรูชิงให้โอกาสกับนาง ให้นางได้ช่วยคนที่ถูกเฟิงหรูชิงลงโทษมาจากเงื้อมือของเฟิงหรูชิง คนพวกนั้น…คงจะไม่จงรักภักดีกับนางเช่นนี้ได้
“อย่างนั้นก็ดี นี่ก็สายมากแล้ว พวกเราออกจากที่นี่กันก่อนเถิด”
สีหน้าหลิวหรงแฝงด้วยรอยยิ้ม กลับหลัง เดินไปตามทางลงภูเขาต้องห้าม
ด้านนอกภูเขาต้องห้ามไม่ไกลนัก นางกำนัลคนหนึ่งท่าทางมีลับลมคมในเหลียวมองรอบตัว รอจนหลิวหรงพาเฟิงหรูซวงเดินลงมาถึงนางก็รีบเดินเข้าไปหา ย่อตัวคำนับ “หม่อมฉันคารวะหรงกุ้ยเฟย องค์หญิง”
“ไปเถอะ” หลิวหรงโบกมือเบาๆ เป็นการบอกนางกำนัลไม่ต้องมากพิธีแล้วเดินมุ่งหน้าต่อไปทันที
ตอนที่ 88 เฟิงหรูซวงผู้ถูกละเลย (1)
ริมแม่น้ำฉินไหว หอแห่งแรก
หญิงสาวผู้มีความสามารถมากมายเข้ามานั่งจับจ้องพื้นที่กันแล้ว เสียงคึกคักดังออกจากในหอ คลาคล่ำไปด้วยเสียงหัวเราะของเด็กสาว ในเวลานี้เองหญิงสาวตาแหลมคนหนึ่งก็เหลือบไปเห็นเฟิงหรูซวงยืนอยู่ตรงปากประตูนางดีใจรีบผุดลุกขึ้นยืนทันที
“องค์หญิงรอง ในที่สุดท่านก็ออกมาแล้ว”
พลันเสียงหัวเราะก็หยุดลงสายตาคนทั้งหมดมองไปทางเฟิงหรูซวง แววตาของพวกนางมีแต่ความยินดี ดูเหมือนใครก็ไม่อาจคาดคิดว่าเฟิงหรูซวงจะปรากฏตัวขึ้นในที่ประชุมเช่นนี้
เฟิงหรูซวงแย้มยิ้มบาง “ก่อนหน้านี้ เหตุก็เพราะท่านพี่ ข้าทำให้เสด็จพ่อทรงกริ้ว เสด็จพ่อจึงได้ขังข้าไว้บนภูเขาต้องห้าม ดีที่สุดท้ายเสด็จพ่อก็รู้ว่าเข้าใจข้าผิดจึงได้ปล่อยข้าออกมา”
ความหมายก็คือที่นางต้องถูกขังไว้บนภูเขาต้องห้ามก็เพราะเฟิงหรูชิงจงใจใส่ร้ายนางต่อหน้าเฟิงเทียนอวี้ ตอนนี้เฟิงเทียนอวี้รู้แล้วว่าเข้าใจนางผิดจึงได้ปล่อยนางออกมา
หากเป็นเมื่อก่อน เฟิงหรูซวงกล่าวเช่นนี้จะต้องมีคนจำนวนมาเข้าข้างนางอย่างไม่ต้องสงสัยแต่ครั้งนี้ทั้งหอแห่งแรกกลับเงียบสงบอย่างน่าประหลาดสีหน้านางเผยให้เห็นถึงความเก้อเขิน ไม่รู้ว่าจะพูดต่อจากเฟิงหรูซวงอย่างไร
“เป็นอะไรหรือ?” เฟิงหรูซวงขมวดคิ้วน้อยๆ
นางถูกขังแค่ครึ่งเดือนกว่าเท่านั้น เหตุใด..นางรู้สึกราวกับว่าในครึ่งเดือนนี้มีบางอย่างที่นางไม่รู้เกิดขึ้น
“องค์หญิงรอง ท่านถูกขังเป็นเพราะองค์หญิงใหญ่เป็นต้นเหตุหรือ?” เจาหยางเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยถาม
เฟิงหรูซวงไม่ใช่เฟิงหรูชิง นางอัธยาศัยดีมาโดยตลอดแม้จะถูกนางถามกลับเช่นนี้เฟิงหรูซวงก็จะไม่โกรธเคือง นี่คือสาเหตุที่เจาหยางกล้าเอ่ยถามคำถามเช่นนี้ออกไป
เฟิงหรูซวงส่ายหน้ายิ้มขมขื่น “เรื่องนี้ไม่พูดถึงดีกว่า พวกเจ้ารู้แค่ว่านางเป็นพี่สาวของข้าก็พอแล้ว ท่านพี่ไม่มีแม่ตั้งแต่เล็กท่านแม่ของข้าจึงได้รักนางอยู่หลายส่วน ข้าเคารพนางรักและปกป้องนาง ไม่ว่านางทำอะไรชีวิตนี้ข้าก็สามารถให้อภัยนางได้ไม่มีที่สิ้นสุด”
ในแววตาของนางมีแสงสว่างส่องแพรวพราว มุมปากยกยิ้มบาง น่าหลงใหลเช่นนี้
“แต่ว่า…” เฟิงหรูซวงหลุบตาลงต่ำ ถอนหายใจเบาๆ “นางทำอะไรกับข้า ข้าก็สามารถยกโทษให้นางได้ แต่ที่ข้ายกโทษให้ไม่ได้คือนางทำร้ายไต้เอ๋อร์เช่นนี้ เพื่อไม่ให้ข้าพัฒนายารักษาแผลให้นาง ใส่ร้ายข้า ให้ข้าถูกขังบนภูเขาต้องห้ามจะได้พัฒนาต่อไม่ได้!”
หอแห่งแรกเงียบลงยิ่งกว่าเก่า เงียบจนได้ยินแม้เสียงเข็มหล่น
“เรื่องนี้…” ทันใดนั้นก็มีเสียงใสเสียงหนึ่งดังมาจากนอกประตู ไพเราะดุจเสียงธารน้ำไหล
“ดูเหมือนข้าจะมาโดยมิใช่เวลาสินะ?” เสียงนี้สำหรับเฟิงหรูซวงแล้วราวกับเป็นฝันร้ายก็มิปาน
ร่างของนางแข็งทื่อ กำมือแน่น พยายามเก็บความรู้สึกไว้ภายในอย่างสุดกำลังจึงจะสามารถรักษารอยยิ้มเอาไว้ได้ ในตอนที่นางหันหลังไปนั้น รอยยิ้มดั่งดอกไม้แรกแย้ม เปลือกนอกที่หอมหวานงดงาม
“ท่านพี่ ท่านมาที่นี่ได้เยี่ยงไรกัน?”
เฟิงหรูชิงผู้หญิงคนนี้ไม่รู้หรืออย่างไรว่า บรรดาคุณชายท่านหญิงเชื้อราชวงศ์เหล่านี้เกลียดนางเข้ากระดูก? เหตุใดนางจึงยังกล้ามาเผชิญหน้ากับพวกเขา?
เมื่อเฟิงหรูซวงเห็นร่างที่ยืนอยู่หน้าประตูชัดเจนรอยยิ้มของนางก็ต้องแข็งค้าง เบิกตาโตด้วยความไม่เชื่อสายตา เมื่อก่อนทุกครั้งที่เจอเฟิงหรูชิงนางมักจะอ้วนขึ้นทุกครั้ง นี่ก็หนึ่งเดือนแล้วที่ไม่ได้เจอ ทำไมนางถึงรู้สึกว่า…ผู้หญิงคนนี้ผอมลงไปถนัดตา?
แม้ว่าร่างกายของนางจะยังอวบอยู่แต่ที่ทำให้เฟิงหรูซวงรับไม่ได้คือ นางผอมลงแล้ว!