การขอให้ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ลงมือเอง ราคามันก็เลยค่อนข้างสูง
หากว่าไม่มีเงิน ก็อาจจะทำมันไม่ได้แล้วก็ยังจำเป็นต้องได้รับการแนะนำจากคนรู้จักอีกด้วย
นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ทำให้เค้าสบายใจ
ประธานชาวางโทรศัพท์ เค้าไม่สนใจฉินเฉิงเลย เค้ามองไปที่งานประมูลและรอให้ดาบสัมฤทธิ์ออกมา
สินค้าบางรายการที่ประมูลกันก่อนหน้านี้ มันก็เป็นเพียงแค่หยกธรรมดาเท่านั้น ประธานชากับฉินเฉิงก็ไม่ได้สนใจอะไร พวกเค้าก็เลยไม่มีใครพูดถึง
“การประมูลต่อไปคือบัวหิมะเทียนซาน ราคาเริ่มต้นที่ห้าแสนหยวน!” ในตอนนี้เอง พิธีกรบนเวทีก็ตะโกนขึ้นมาในทันที
ฉินเฉิงเหล่มองไปรอบๆ เค้าพบว่าแม้ว่าบัวหิมะเทียนซานมันจะไม่แก่อะไรมากนัก แต่มันก็มีพลังอยู่ไม่น้อยเลย
มันก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่าดินแดนที่บัวหิมะเทียนซานงอกขึ้นมานั้น มันไม่ได้ถูกปนเปื้อนจากเรื่องทางโลกแล้วก็ยังเป็นสถานที่สำหรับบ่มเพราะพลัง
“น่าเสียดาย ถ้าปล่อยให้บัวหิมะนี้มันโตต่อไปอีกซักครึ่งปี ฉันคิดว่ามันน่าจะกลายเป็นราชาแห่งยาได้เลย” ฉินเฉิงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวขึ้นมา
แต่มันถูกค้นพบเร็วไปหน่อย ดังนั้นพลังที่อยู่ภายในตัวมันนี่ก็ไม่ต้องพูดถึงเลย
“ฉันจ่ายล้านหยวน!” ทันใดนั้นเอง ประธานชาที่อยู่ด้านข้างก็ชูป้ายเสนอราคาขึ้นมา
เค้าเหลือบมองไปที่ฉินเฉิง ในแววตาของเค้ามันดูมีความภูมิใจในตัวเอง
เฝิงกงที่อยู่ด้านหลังก็พูดขึ้นมาว่า: “ฉันจ่ายสองล้าน!”
ฉินเฉิงเหลือบมองเฝิงกงด้วยความสงสัยแล้วกระซิบว่า “นายอยากได้มัน?”
“เปล่า” เฝิงกงส่ายหัว “ผมแค่คิดว่าคุณสนใจมัน”
ฉินเฉิง: “…”
ในที่สุดดอกบัวหิมะเทียนซานก็ถูกส่งมอบให้กับประธานชาในราคาสามล้านหยวน
มันดูออกเลยว่า ประธานชามีเกียรติอย่างมากในหมู่คนพวกนี้ หลังจากที่เค้าได้ดอกบัวหิมะนี้มาแล้ว หลายคนก็ยืนขึ้นแล้วแสดงความยินดีกับเค้า
หลังจากนั้นไม่นาน ไฮไลท์ของการประมูลก็มาถึง
เจ้าภาพก็ไอกระแอมขึ้นมา จากนั้นประตูเหล็กขนาดใหญ่ปิดลงในทันที ทันใดนั้นเอง ไฟทั้งห้องมันก็สว่างขึ้นมา
“ของที่จะนำมาประมูลรายการต่อไปมีค่ามากและมีความสำคัญมาก เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น สถานที่แห่งนี้จะถูกปิดก่อน หวังว่าท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีจะไม่ว่าอะไร” เจ้าภาพก็กล่าวขอโทษขึ้นมา
ทันใดนั้น ก็มีชายหนุ่มสองคนที่เดินออกมาจากด้านหลัง
ชายหนุ่มสองคนถือตู้กระจกอย่างระมัดระวังและสิ่งที่วางไว้ในตู้กระจกก็คือดาบสัมฤทธิ์
“เอ๊ะ?” ฉินเฉิงขมวดคิ้วขึ้นมา เค้าหรี่ตาลงเล็กน้อย
“ดาบเล่มนี้…มันมีอะไรไม่ชอบมาพากล” ฉินเฉิงก็พูดเบาๆขึ้นมา
มันเห็นได้ชัดเลยว่าเค้ารู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นบนดาบ มันแตกต่างจากฤดูหนาวที่หนาวเย็น แต่อากาศที่หนาวเย็นมันถูกห้อมล้อมเอาไว้ด้วยโลหิตสดเป็นจำนวนมาก
แววตาของประธานชาที่อยู่ด้านข้างเค้าก็เป็นประกายขึ้นมาในทันที เค้าจ้องไปที่ดาบสัมฤทธิ์แล้วพูดเบาๆขึ้นมาว่า: “ดาบเล่มนี้แหละ ใช่แล้ว!
“พวกเราสืบค้นประวัติมาเยอะมาก แต่ก็ไม่พบที่มาของดาบเล่มนี้เลย” เจ้าภาพกล่าว “แต่มีเรื่องเล่ากันว่าดาบเล่มนี้ถูกใช้โดยเทพเจ้าแห่งสงคราม ตอนนี้เราก็มาเริ่มการประมูลกันครับ ราคาเริ่มต้นที่สิบล้านหยวน!”
“ยี่สิบล้าน!” ประธานชาลุกขึ้นแล้วตะโกนออกมาโดยไม่คิดอะไรเลย
“ฉันจ่ายห้าสิบล้าน!”
“ดาบเล่มนี้มันมีความเกี่ยวโยงกับตระกูลของฉัน มันจะต้องเป็นของฉัน หนึ่งร้อยล้านหยวน!”
ในเวลาเพียงแค่สิบนาที ราคาของดาบเล่มนี้ก็เพิ่มขึ้นเป็นสองร้อยล้านหยวนแล้ว!
“คุณฉิน พวกเราจะยกมือกันไหมครับ” เฝิงกงก็ถามขึ้นมา
ฉินเฉิงพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเฝิงกงที่อยู่ด้านข้างก็ยกมือขึ้นและตะโกนว่า “ฉันจ่ายสามร้อยล้าน!”
มันก็เกิดความโกลาหลขึ้นในที่ทันที การที่เค้าอ้าปากแล้วตะโกนขึ้นมาด้วยราคาที่สูงถึงสามร้อยล้านหยวน มันมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะทำแบบนี้ได้!
“หึ ห้าร้อยล้าน!” ประธานชาก็ยกมือขึ้นมาแล้วตะโกนออกมาโดยไม่ยังเลอะไรเลย
เค้ามองมาที่ฉินเฉิงอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “จะมาแย่งฉันเหรอ? แกไม่มีมีคุณสมบัติมากพอที่จะมาเทียบชั้นกับฉัน!”
เฝิงกงเงียบแล้วก็ไม่พูดอะไร เค้าเพิ่มราคาต่อไป: “แปดร้อยล้านหยวน”
ทันทีที่เค้าพูดราคาออกไป มันก็ดึงดูดผู้คนนับไม่ถ้วยโดยตรง
นักธุรกิจส่วนใหญ่ปิดปากเงียบอย่างเชื่อฟัง การซื้อดาบที่ราคาแปดร้อยล้าน นี่มันก็บอกได้เลยว่าพวกเค้าจะต้องรวยมากหรือไม่ก็บ้าไปแล้วอย่างแน่นอน
ประธานชาเหล่ตามองแล้วพูดว่า “หนึ่งพันล้านหยวน!”
เฝิงกงไม่ยอมแพ้ ในตอนที่เค้ากำลังจะพูดขึ้นมานี้เองฉินเฉิงก็โบกมือขึ้นมาเพื่อหยุดเฝิงกง
ประธานชาก็จงใจพูดขึ้นมาว่า: “ทำไม พันล้านหยวนนี่บ้านของพวกแกคงจะมีไม่มากพอสินะ?”
ฉินเฉิงยิ้มแล้วพูดว่า: “ดาบเล่มนี้ มันก็ถือว่าเป็นดอกเบี้ยที่ประธานชาเป็นหนี้ฉัน”
สีหน้าของประธานชาเปลี่ยนไป ทันใดนั้นเองเค้าก็ด่าขึ้นมาว่า: “แกหมายความว่ายังไงกัน หรือว่าแกคิดที่จะขโมยมันอย่างงั้นเหรอ?!”
ฉินเฉิงยังคงเงียบ เค้าเอนตัวลงบนเบาะหนังแล้วหลับตาลง
“แต่ไม่ต้องมาทำให้ฉันกลับเลย ที่นี่คือเมืองยุน ไม่ใช่เมืองเจียง!” ประธานชาก็ดูโกรธและไม่พอใจ “ฉันบอกแกแล้วไง ว่าอย่าทำให้ฉันหงุดหงิด!”
“หนึ่งพันล้านครั้งที่หนึ่ง พันล้านสองครั้งสองหนึ่งพันล้านครั้งที่สาม เรียบร้อย!” ในตอนนี้เอง พิธีกรบนเวทีก็ตัดสินขึ้นมา
“ขอแสดงความยินดีกับประธานชา!” นักธุรกิจหลายคนก็ยืนขึ้นแล้วแสดงความยินดีกับประธานชา
“ประธานชาได้สมบัตินี้มา เค้าร้ายกาจมากจริงๆ!”
ท่ามกลางการแสดงความยินดีของทุกคน ประธานชาก็ไม่พูดอะไรออกมาเลย สีหน้าของเค้ามันดูเย็นชา
เค้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดเบอร์โทรหาปรมาจารย์คนนั้น
“คุณหยาน คุณมาที่นี่ได้ยังไงกัน?” ประธานชาก็ถามขึ้นมาอย่างสุภาพ
น้ำเสียงที่เย็นชามันก็ดังออกมาจากสายของโทรศัพท์: “อยู่ที่ประตูทางเข้า”
ประธานชารู้สึกโล่งใจในทันที จากนั้นเค้าก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า: “คุณหยาน ฉันไม่ต้องการให้ไอ่เด็กนี่มันตายอย่างมีความสุข ฉันต้องการให้มันตายอย่างทุกทรมาณ!”
“ได้สิ” อีกฝ่ายก็ไม่มีเวลาที่จะพูดเรื่องไร้สาระอะไรมาก
หลังจากที่วางสายไปแล้ว ในที่สุดประธานชาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
แล้วเค้าก็หัวเราะเยาะขึ้นมา: “ถ้าแกไม่อยากตาย ตอนนี้ยังพอมีเวลา คุกเข่าขอร้องฉันซะ! ไม่อย่างงั้นแกจะไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้เดินออกไปจากที่นี่เลยด้วยซ้ำ!”
“รนหาที่ตาย!” เฝิงกงยกมือของเค้าขึ้นมาในทันที จากนั้นแรงมหาศาลมันกดลงไปที่ไล่ของประธานชาในทันที!
จู่ๆประธานชาก็รู้สึกแน่นหน้าอก เค้าถูกบีบจนอาเจียนออกมาเป็นเลือด!
“ถ้าแกกล้าดูหมิ่นคุณฉินอีก ฉันจะฆ่าแกเดี๋ยวนี้เลย!” เฝิงกงปล่อยพลังที่รุนแรงออกมา มันทำให้ทุกคนที่อยู่ใกล้ต่างก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
“คนๆนี้ดูเหมือนว่าเค้าจะไม่เห็นด้วยกับประธานชานะ”
“หึหึ ใครจะกล้าทำร้ายประธานชา? มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าประธานชามีความสัมพันธ์กับคุณหยาน? การทำให้ประธานชาขุ่นเคืองมันก็เท่ากับรนหาที่ตาย!!”
ประธานชาเงียบ เค้าระงับความโกรธโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
หลังจากนั้นประธานชาก็เดินตามเจ้าหน้าที่ในงานไปที่หลังเวทีเพื่อรับดาบสัมฤทธิ์นั่น
ในตอนนี้เอง ประตูมันก็เปิดออกอย่างช้าๆ
บอดี้การ์ดของประธานชาหลายคนก็เข้ามาขวางฉินเฉิงไว้
ทันทีที่ประตูเปิดออก หลายคนก็เดินเข้ามาจากด้านนอกประตู
“ใครที่ไม่เกี่ยวก็รีบออกไปจากที่นี่ซะ!” เสียงของคนที่เดินนำเข้ามาก็ดังไปทั่วทั้งงาน
ประธานชาก็หัวเราะเยาะขึ้นมา: “ไอ่เด็กเวร แกตายแน่!”
ฉินเฉิงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม เค้าดูไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย
“คุณหยาน นั่นคือเค้า!” ประธานชาวิ่งไปหาคุณหยาน จากนั้นก็ชี้ไปที่หลังของฉินเฉิง
คุณหยานก็ผลักเท้าของเค้าเบาๆแล้วทั้งร่างของเค้าก็ลอยขึ้นไปในอากาศ
ในเวลาเพียงแค่ชั่วพริบตา เค้าก็ลงมาอยู่ที่ตรงหน้าของฉินเฉิง
“แกกล้ามากนะ แกไม่รู้เหรอว่าประธานชาคือ… เอ่อ ฉิน… ฉินเฉิง?” ก่อนที่คุณหยานจะพูดจบ สีหน้าของเค้ามันก็เปลี่ยนไปในทันที