“คุณฉิน? จินฮู่เรียกเค้าว่าคุณฉิน? ” ทุกคนเองต่างก็ประหลาดใจขึ้นมา ชายหนุ่มคนนี้ เค้าเป็นคนใหญ่คนโตอย่างงั้นเหรอ?
ต้วนซุนที่อยู่ท่ามกลางผู้คนเค้าก็ดูละอายขึ้นมาเป็นอย่างยิ่ง เมื่อดูจากน้ำเสียงของจินฮู่แล้ว ชายหนุ่มคนนี้เค้าดูเหมือนว่าจะไม่ใช่คนธรรมดาเลย!
แต่เมื่อคิดถึงว่าเค้ายังมีต้วนตงที่เป็นคนของสำนักงานความมั่นคง ต้วนซุนก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“คุณฉิน ไอ่เวรนี่มันก่อเรื่องอะไรครับ? ให้ผมช่วยคุณสั่งสอนมันไหมครับ?” จินฮู่ก็พับแขนเสื้อขึ้นมาแล้วพูด
ฉินเฉิงก็พูดว่า: “ไม่ต้องหรอก นายมาหาฉันมีเรื่องอะไร พูดมาเถอะ”
จินฮู่ยืนตรงในทันทีแล้วเค้าก็พูดขึ้นมาอย่างจริงจังว่า: “คุณฉิน ผมสาบานเลย ผมแค่อยากมาอวยพรปีใหม่คุณตั้งแต่เนิ่นๆ!”
“อวยพรเสร็จแล้วก็ไม่มีอะไรแล้ว? อย่างงั้นอวยพรเสร็จก็กลับไปได้แล้ว?” ฉินเฉิงพูดขึ้นมา
เหตุผลที่เค้ามาที่มณฑลเหม่ยนี่ ก็เพราะว่าเค้ากลัวว่าคนเหล่านี้จะมาทำให่ตัวเองรำคาญ แต่ก็คิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะหนีไม่พ้น
ฉินเฉิงเหลือบมองไปที่ต้วนอู่ที่อยู่ที่พื้น
ต้วนอู่ก็รีบลุกขึ้นมาจากพื้น เค้าอยากที่โกรธ แต่เค้าก็ไม่กล้าเพราะเกรงกลัวจินฮู่
“พี่ฮู่ นี่ … นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?” หลังจากนั้นไม่นาน ต้วนอู่ก็ยังคงหน้าแดงแล้วมองไปที่จินฮู่
จินหูมองที่เค้าแล้วพูดว่า: “นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันสิที่ต้องเป็นคนถามแก! อย่ามาพูดจาไร้สาระให้มาก”
“พี่ฮู่ นี่มันก็เรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อยนะครับ!” ในตอนนี้เองต้วนซุนก็วิ่งเข้ามา
จินฮู่เป็นคนฉลาด เค้ามองสถานการณ์ในตอนนี้ออกในทันที เค้าต้องการที่จะแสดงมันต่อหน้าของฉินเฉิง
ดังนั้นจินฮู่ก็เดินเข้าไปหาตระกูลต้วนแล้วด่าขึ้นมาว่า “นี่มันเรื่องอะไรกัน? แม้แต่คุณฉินพวกแกยังกล้ายั่วโมโหเค้าอย่างงั้นเหรอ? ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อกันแล้วใช่ไหม?”
“จินฮู่ คนพวกนี้เค้าคือคนในครอบครัวของฉัน จะพูดจาอะไรก็ระวังหน่อย” ในตอนนี้เอง ต้วนตงก็พูดเตือนขึ้นมา
เมื่อได้ยินคำพูดของต้วนตง จินฮู่ก็ชี้ไปที่หน้าของเค้าแล้วด่าขึ้นมาว่า: “ไอ่*** ฉันรู้จักแกเหรอ? ตระกูลของแกมันเกี่ยวอะไรกับฉัน? แกคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?”
ท่าทางของต้วนตงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยแล้วเค้าก็พูดขึ้นมาว่า: “สำนักงานความมั่นคง ต้วนตง ดาวประดับบ่าหนึ่งดวง”
เมื่อได้ยินเแบบนี้ จินฮู่ผู้ดุดันก็ดูเหมือนลูกบอลที่บิดเบี้ยวไปในทันที
เค้าเอียงคอแล้วไม่รู้จะพูดอะไรอยู่ซักพัก
สำหรับคนอย่างจินฮู่แล้ว สิ่งที่เค้ากลัวที่สุดก็คือสำนักงานความมั่นคง
เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว ทุกคนในตระกูลต้วนก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก สายตาของพวกเค้าก็จ้องมองไปที่ต้วนตงด้วยความชื่นชม
รู้จักกับจินฮู่แล้วยังไง? จะเก่งมากแค่ไหนมันก็สู้อะไรกับสำนักงานความมั่นคงไม่ได้หรอก?
“จินฮู่ จะอยู่พูดคุยกันซะหน่อยไหม?” เมื่อต้วนซุนเห็นจินฮุ่เค้าก็กลัวขึ้นมา เค้าก็รู้สึกไม่มั่นใจในทันที การเรียกเค้าว่า “พี่ฮู่” ก็เปลี่ยนไปเป็นเรียกชื่อจินฮู่โดยตรง
จินฮู่มองไปที่ฉินเฉิงโดยไม่รู้ตัวราวกับว่ากำลังรอคำสั่ง
แต่ฉินเฉิงไม่ได้มองเค้าเลย ดวงตาของเค้ามองออกไปที่นอกหน้าต่าง นี่มันก็ไม่รู้เลยว่าเค้ากำลังคิดอะไรอยู่
“ถ้าอย่างนั้น…ผมขอตัวก่อนนะครับ” จินฮู่พูดพร้อมพลางถูมือ
หลังจากนั้น เค้าก็วิ่งเข้าไปหาฉินเฉิงแล้วพูดว่า “อย่างไรก็ตาม คุณฉิน ผมได้เตรียมยาทั้งหมดที่คุณขอไว้ให้แล้ว มันมีจำนวนมาก ผมก็เลยไม่ได้เอามาด้วย ก็เลยสร้างโกดังเก็บเอาไว้”
ฉินเฉิงหันไปมองจินฮู่ เค้าพยักหน้าแล้วพูดว่า “เอาหละ ขอบใจมาก”
จินฮู่ก็รู้สึกปลาบปลื้มและรีบพูดว่า: “คุณฉิน ไม่ต้องสุภาพมากหรอกครับ ฉันทนไม่ไหวแล้ว! งั้นถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ…”
“อยู่ก่อน” ฉินเฉิงพูดขึ้นมาในทันที
ความสามารถในการทำสิ่งต่างๆของจินฮู่นั้นดีมาก เค้าเข้าใจเรื่องความสัมพันธ์ในสังคมเป็นอย่างดี
ฉลองปีใหม่นี่ ก็ไม่รู้เลยว่าจะมีคนมาอวยพรกันกี่คน งั้นก็ให้จินฮู่อยู่ก่อนแล้วเก็บของขวัญทั้งหมด
“ครับ ครับ ขอบคุณคุณฉินมากครับ!” จินฮู่ก็โค้งคำนับครั้งแล้วครั้งเล่า
ผู้คนที่ดูอยู่ด้านข้างต่างก็ตกตะลึง สำหรับพวกเค้าแล้ว จินฮู่คือสิ่งมีชีวิตที่ไม่อาจยั่วยุได้เลย!
ใครที่เคยไปเมืองปีนังมา ไม่มีใครที่ไม่รู้จักจินฮุ่? เค้านี้แหละคือคนที่ครองเมืองตัวจริง!
แต่ในตอนนี้เอง เจ้าเมืองคนนี้กลับมาคำนับเด็กหนุ่มคนนี้ สิ่งนี้มันทำให้คนอื่นต่างก็สับสนขึ้นมา
“เสี่ยวเหม่ย เพื่อนของลูกคนนี้ เค้าเป็นใครกันแน่” แม่ของชายที่หน้ามีรอยแผลเป็นก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
ชายที่มีแผลเป็นที่หน้าก็รีบพูดขึ้นมาว่า: “นี่…ผมเองก็ไม่รู้จะอธิบายให้แม่ฟังยังไง สรุปสั้นๆ แม่รู้แค่ว่าเค้าเป็นคนที่มีอำนาจมาก ไม่มีใครในห้องนี้ยั่วยุเค้าได้เลย รวมถึงต้วนตงด้วย ”
ในตอนที่พูดนี้เอง ฉินเฉิงกับจินฮู่ก็เดินเข้ามาแล้ว
“กลับกันเถอะ” ฉินเฉิงก็พูดขึ้นมา
หลังจากนั้น เค้าก็เดินตรงเข้าไปที่ห้องอาหารส่วนตัว
ทุกคนกลับมาที่ห้องอาหารส่วนตัวแล้วนั่งลง ต้วนซุนโบกมือของเค้าขึ้นมาและขอให้พนักงานเสิร์ฟจัดเก็บจานบนโต๊ะ
ดูเหมือนว่าจินฮู่จะนั่งนิ่งๆไม่ได้ เค้าลุกขึ้นแล้วพูดว่า “อืม… ผมขอไปห้องน้ำนะครับ”
ฉินเฉิงพยักหน้าแล้วจินฮู่ก็รีบออกไป
สมาชิกของตระกูลต้วนในห้องอาหารส่วนตัวต่างก็มองดูต้วนตง ดูเหมือนว่าต้วนตงจะเป็นความหวังเดียวของพวกเค้าแล้ว
ต้วนตงเหลือบมองไปที่ฉินเฉิงแล้วพูดขึ้นมาเบาๆว่า: “แกทำให้ตระกูลต้วนของเราขุ่นเคือง จินฮู่ เกรงว่ามันเองก็ไม่น่าจะปกป้องแกได้หรอกนะ”
“ปกป้องฉันเหรอ?” ฉินเฉิงส่ายหัวขึ้นมา “คนอย่างฉันต้องการให้คนอื่นมาปกป้องด้วยอย่างงั้นเหรอ?”
“หึหึ” ต้วนตงก็หัวเราะขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่วนคนอื่นๆ พวกเค้าไม่สามารถยั่วยุจินฮู่ได้เลย แต่สำหรับเค้าแล้วมันกลับเป็นเรื่องตรงกันข้าม
ในตอนนี้เอง ที่ห้องอาหารส่วนตัวก็มีคนเข้ามาอีกครั้ง
เค้าถือของขวัญไว้ในมือด้วยและเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่เคารพ
ต้วนตงพูดเบาๆว่า : “ของขวัญในกล่องนั่น ตอนนี้ฉันไม่รับนะ ค่อยเอากลับมาใหม่ก็แล้วกัน”
ชายคนนั้นมองต้วนตงแล้วบ่นขึ้นมาเบาๆว่า “บ้าบอ”
ทันทีที่เค้ามองไปที่ฉินเฉิง เค้าก็ยิ้มและพูดว่า: “คุณฉิน ผมเป็นคนของหวังกรุ๊ปในเมืองเจียง ผมมาที่นี่เพื่อนสวัสดีปีใหม่คุณ”
เป็นคนที่มาอวยพรปีใหม่ฉินเฉิงอีกแล้ว? ชายคนนี้…..เค้าเป็นนักธุรกิจมาจากเมืองเอกของมณฑลอย่างงั้นเหรอ?
สีหน้าของทุกคนยิ่งงุนงง ชายหนุ่มคนนี้… เค้าเป็นลูกคนรวยที่มั่งคั่งจากเมืองเอกของมณฑลงั้นหรือ? หรือลูกชายของคนใหญ่คนโต?
ฉินเฉิงก็โบกมือขึ้นมาเพื่อบอกให้เค้าวางลง
หลังจากนั้น แขกที่อยู่ที่ด้านนอกประตูก็เดินเข้ามากันไม่หยุดหย่อน
“คุณฉิน ผมมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้าเจิ้ง ผมมาอวยพรปีใหม่ให้กับคุณ! บริษัทของเราต้องการเอาหุ้นออก 10% เพื่อแลกกับการคุ้มครองของคุณ!”
“คุณฉิน ผมมาจากธุรกิจรุนเจ๋อและเรายินดีที่จะถอนหุ้นออก 20% เพื่อให้คุณลงทุน!”
“คุณฉิน ฉันคือ…”
ทันใดนั้นเอง ห้องอาหารส่วนตัวทั้งห้องก็แออัดเกินไป เป้าหมายของพวกเค้าคือการมอบเงินและของขวัญให้กับฉินเฉิง
ฉินเฉิงที่นั่งอยู่ที่นั่น เค้าก้รู้สึกปวดหัวขึ้นมาในทันที
“พวกนายทั้งหมดไปคุยกับจินฮู่ก็แล้วกัน” ฉินเฉิงโบกมือขึ้นมา นี่คือเหตุผลที่เค้าขอให้จินฮู่อยู่ต่อ
สีหน้าของต้วนตงเริ่มน่าเกลียดมากขึ้นเรื่อยๆ เค้าสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วถอนหายใจออกมาอย่างเย็นชา: “มันเป็นแค่นักธุรกิจธรรมดาไม่ใช่เหรอ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของต้วนตง ตระกูลต้วนที่ดูเหมือนจะมีความมั่นใจก็หน้าหดแคบลงไปในทันที
“ตระกูลเฝิง เฝิงกง มาแล้วครับ!”
“ตระกูลเฉิน เฉินคุน มาแล้วครับ!”
“ตระกูลหู เจ้าแห่งลมปราณหู มาแล้วครับ!”
“ตระกูลจี้ จี้หงเซิง มาแล้วครับ!”
ในตอนนี้เอง ที่ด้านนอกประตูก็เต็มไปด้วยผู้คนวุ่นวายไปหมด
เมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของต้วนตงก็ดูไม่ได้เลย