ในโรงแรม ที่เมืองเจียงคุณช้าวกำลังนั่งอยู่ตรงหน้าของฉินเฉิง
เขาพูดออกมาด้วยท่าทางสุภาพ “คุณฉิน ฉันสนใจกับยาบำรุงธาตุทั้งห้าที่อยู่ในมือของคุณ”
ฉินเฉิงพยักหน้า พูดออกไปว่า “ถ้าหากคุณช้าวต้องการมันหละก็สามารถเอาวัตถุดิบมาแลกได้”
ในตอนที่คุณช้าวกำลังจะเอ่ยปาก จู่ๆโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
ดังนั้นคุณช้าวจึงรีบลุกขึ้นและพูดขอโทษออกมา “ต้องขอโทษด้วย คุณฉินไว้คืนนี้เราค่อยไปคุยกันตอนทานอาหารเย็นเป็นไง?”
ฉินเฉิงกำลังจะปฏิเสธออกไป แต่ทันใดนั้นจินฮู่ที่อยู่ข้างๆก็สะกิดเขาและพูดออกมาว่า “ช้าวปินคนนี้เขาทำธุรกิจเกี่ยวกับยา”
“เอ๋?” ดวงตาของฉินเฉิงโตขึ้น ทำธุรกิจเกี่ยวกับยา ดังนั้นเขาคงเก็บสมุนไพรดีๆเอาไว้ไม่น้อย
ดังนั้นฉินเฉิงจึงพยักหน้าและรับปากไป
ในตอนกลางคืน ช้าวปินได้จัดงานเลี้ยงในโรงแรมและเชิญฉินเฉิงมาด้วย
ที่งานเลี้ยง ช้าวปินลุกและพูดขึ้นมาว่า “ขอบคุณมากที่คุณฉินมา”
หลังจากที่ดื่มไปหนึ่งแก้ว ช้าวปินก็พูดออกมา “ฉันขอพูดตามตรงเลยแล้วกัน ฉันอยากทำธุรกิจระยะยาวกับคุณ ส่วนเรื่องราคาคุณเรียกมาได้เลย”
ฉินเฉิงแกว่งแก้วในมือของเขา เงียบไปสักพักและพูดออกมาว่า “เม็ดละ 1 ล้าน แน่นอนคุณช้าวสามารถเอาวัตถุดิบทำยาทำแลกได้ แต่ต้องมีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป คุณก็จะแลกกับยา 5 เม็ด ถ้าหากวัตถุดิบยิ่งดีเท่าไหร่ ปริมาณของที่จะได้มันก็จะมากไปตามนั้น!”
ช้าวปินยิ้มออกมา “ฉันเองก็คิดแบบนั้น! งั้นตกลงเอาแบบนี้! ขอให้การค้าของเราเป็นไปได้ด้วยดี!”
พูดจบเขาทั้งสองคนก็ชนแก้วกัน
ส่วนอีกด้านหนึ่งหยางอี้ก็มีท่าทางลับๆ คุยกับใครสักคนในโทรศัพท์มือถือ
“คุณเป็นอะไร ทำไมต้องทำลับๆล่อๆขนาดนี้ด้วย?” หลินชิงเฉิงที่เห็นแบบนั้นก็ถามออกมา
หยางอี้มองไปที่เธอ ยิ้มและพูดออกมาว่า “แน่นอนว่าต้องมีเรื่องใหญ่! ถ้าหากเรื่องนี้เป็นไปได้ด้วยดี พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องมาอยู่ที่ปีนังแบบหดหู่แล้ว!”
เมื่อถึงเวลานั้น ฉินเฉิงก็ไม่มีค่าพอที่จะมาเทียบกับเขา!
“ทำไมฉันรู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ไม่ดี….” หลินชิงเฉิงขมวดคิ้วและพูดออกมาด้วยความกังวล
หยางอี้กัดฟันและพูด “มันไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ถ้าไม่เสี่ยงเราก็ไม่รู้!”
“ลงมือ!” หลังจากที่เขาส่งข้อความไปเขาก็รีบลบมันทันที
ฉินเฉิงกับช้าวปินกำลังคุยกันอย่างรื่นเริง ช้าวปินเองก็เป็นคนที่ฉลาดคนหนึ่ง เขาวางตัวเป็นมิตรทำให้คนที่อยู่ใกล้เขารู้สึกดี
“คุณฉิน อีกเดี๋ยวให้ฉันเตรียมอะไรสนุกๆให้ไหม?” จินฮู่หรี่ตาลงและพูดออกมา
ฉินเฉิงโบกมือและพูดว่า “ไม่ต้อง ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ฉันต้องรีบกลับ”
“อ่า คุณฉิน พรุ่งนี้ฉันก็จะไปแล้ว อย่าปล่อยให้ทุกคนตัวเหงาหงอยสิ!” ช้าวปินยิ้มและพูดออกมา
ฉินเฉิงคิดอยู่สักพัก ว่าในฐานะที่ตนเองเป็นเจ้าบ้านเขาควรจะต้องทำอย่างไร
ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าและพูดออกไปว่า “ก็ได้ จินฮู่ นายไปจัดการ”
“ไม่มีปัญหา ฉันจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!” จินฮู่จับไปที่หน้าอกของตนเองและพูดออกมา
แต่ในตอนนั้นจู่ๆโทรศัพท์ของฉินเฉิงก็ดังขึ้น
เมื่อเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นเบอร์แปลก
“คุณฉิน แย่แล้ว…!” เมื่อรับโทรศัพท์ก็ได้ยินเสียงที้ร้อนรนดังมาทันที
“ฉินเฉิงขมวดคิ้วและถามออกไป “คุณเป็นใคร?””
“ผม..ผมเป็นบอดี้การ์ดที่คอยดูแลคุณหนูซูอยู่ลับๆ…” จากนั้นเขาก็พูดออกมาอีกว่า “คุณหนูซูเธอ…”
“เธอเป็นอะไร?!” ฉินเฉิงรู้สึกร้อนใจ จึงถามออกไปด้วยความตื่นตระหนก
“เมื่อสักครู่เธอเพิ่งจะถูกคนกลุ่มหนึ่งลักพาตัวไป ฉันดูแลเธอไม่ได้ ฉันสมควรตาย…” อีกฝ่ายพูดออกมาพร้อมกับร้องไห้
สีหน้าของฉินเฉิงเยือกเย็นทันที เขาสูดหายใจเข้าไปลึกๆ “ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้”
หลังจากที่วางสายโทรศัพท์ ฉินเฉิงก็ตรงไปหาช้าวปินและพูดออกมาว่า “ต้องขอโทษด้วย คืนนี้เกรงว่าฉันคงจะอยู่สนุกกับคุณไม่ได้แล้ว ไว้มีเวลาเราค่อยนัดกันใหม่”
จากนั้นเขาก็โบกมือ “จินฮู่ ขับรถกลับไปส่งฉันหน่อย!”
จินฮู่เห็นท่าทีของฉินเฉิงเขาก็ไม่กล้าถามอะไรออกมา เขาทำตามที่ฉินเฉิงสั่งทันที
ระหว่างทางที่กลับไปภูเขาหลงไห่ สีหน้าของฉินเฉิงก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
“ขับเร็วอีกหน่อย!” ฉินเฉิงพูดขึ้นมา
“คุณ..คุณฉิน เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” ด้วยนิยสัยของจินฮู่ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะถามออกมา
ฉินเฉิงหันไปมองทางเขาและพูดออกมาว่า “ซูวานถูกลักพาตัว นายรีบให้คนที่นายรู้จักทั้งหมดช่วยฉันตามหาเธอที!”
“ใครกันที่มันกล้าทำแบบนี้? กล้ามาจับตัวคุณหนูซู?” ริมฝีปากของจินฮู่ขยับ สีหน้าของเขาดูไม่เชื่อ
จากนั้นเขาก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันที ส่งข้อความไปหาทุกคนที่เขารู้จักเพื่อตามหาเบาะแสของซูวาน
ไม่นานรถก็ขับมาถึงภูเขาหลงไห่ ทันทีที่เขาลงรถเขาเห็นชายวัยกลางคนในชุดสูทและรองเท้าหนังยืนอยู่ที่นั่นด้วยท่าทางตื่นตระหนก นอกจากนั้น รปภ. ของภูเขาหลงไห่ก็มารวมตัวกันที่นี่
“คุณฉิน ฉันสมควรตาย…” ทันทีที่เขาเห็นฉินเฉิงเขาก็คุกเข่าลง ร้องไห้ออกมาไม่หยุด
ฉินเฉิงถอนหายใจและพูดออกไปว่า “ไปหาคุณหนูซูให้เจอก่อน เรื่องอื่นเอาไว้ทีหลัง”
“ครับ ได้ครับ…” บอดี้การ์ดคนนั้นรีบลุกขึ้นมาจากพื้นทันที จากนั้นก็พูดเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นออกมาอีกครั้ง
พวกเราได้ตรวจสอบมาเรียบร้อยแล้ว เป็นรถที่ไม่มีหมายเลขทะเบียนที่มาจับตัวคุณหนูไป” หัวหน้าของ รปภ. พูดออกมา “และในขณะเดียวกัน พวกเราก็ได้แจ้งตำรวจไปแล้ว”
ฉินเฉิงกังวลเป็นอย่างมาก เขาจะไปรอให้คนพวกนี้ไปหาโดยที่เขาอยู่เฉยๆได้ยังไง
“พวกนายไปตามหาต่อไป” ฉินเฉิงสูดลมหายใจเข้า เข้าใช้ทุกสิ่งที่อยากที่เขาได้รับมาทั้งหมดในพริบตา
“ครับ!” ทุกคนตอบรับกลับมา
จากนั้นฉินเฉิงก็รีบวิ่งขึ้นไปบนยอดเขา เขาเดินไปที่ห้องน้ำ จากนั้นก็ไปหาเส้นผมที่หลงเหลือไว้ของซูวาน
จากนั้นเขาก็กัดไปที่นิ้วของตัวเอง และหลดเลือดลงมา
“ฟู้ววว!” ในตอนที่เลือดสัมผัสกับเส้นผม เปลวไฟก็ลุกขึ้นมาทันที จากนั้นพลังวิญญาณของฉินเฉิงก็แผดเผาออกมาอย่างหนักหน่วง
พลังงานจิตวิญญาณมหึมาห่อหุ้มเปลวไฟนี้ และในไม่ช้าพลังงานสีดำก็พุ่งออกมาจากเปลวไฟ
นี่คือวิชารวบรวมพลังวิญญาณเพื่อคนหาตำแหน่งเป้าหมายของคนอื่น
วิธีนี้เป็นอันตรายต่อผู้ใช้เป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่จะใช้พลังงานทางวิญญาณจำนวนมากเท่านั้น แต่ในกรณีที่รุนแรงอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตด้วยซ้ำ
เพราะนี่เท่ากับการเปิดเผยความลับ
แต่ในตอนนี้ฉินเฉิงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ในใจของเขาต้องการเพียงอย่างเดียวคือการตามหาซูวาน
“ฟู้วววว!”
ลมพัดผ่านไปมาอย่างรุนแรง จากนั้นก็มีเหมือนกระแสขอข้อมูลพุ่งเข้ามาในหัวของฉินเฉิง
“ฟัพ!” ผลกระทบที่รุนแรงทำให้ฉินเฉิงรู้สึกปวดที่ต้นคือ มีเลือดไหลออกมาจากปากของเขา ทั้งตัวของเขาเหี่ยวแห้งไปเล็กน้อย
“ภูเขาเปาหยวนเฉิงตง” ฉินเฉิงพุดชื่อสถานที่ออกมา จากนั้นเขาก็รีบวิ่งลงมาจากภูเขา
ฉินเฉิงขับรถหรูของซูวานออกไปทันที โดยไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าระหว่างทางเขาผ่าไปแดงมากี่ครั้ง
“แม่งเอ้ย มึงเป็นคนรวยแล้วขับรถแบบนี้เหรอวะ ไอ้เวรเอ้ย!” ระหว่างทางก็ไม่รู้ว่ามีคนมากน้อยแค่ไหนที่ด่าเขา
ที่ด้านบนของภูเขาเปาหยวน ซูวานถูกมัดเอาไว้
ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยฝุ่น แต่การแสดงออกของเธอไม่ได้แสดงความตื่นตระหนกแม้แต่น้อย
“คุณหนูซู คุณไม่ต้องกลัว ขอแค่คุณทำตามที่เราบอก ฉันรับประกันว่าคุณไม่มีทางเป็นอันตราย” ตรงหน้าของเธอมีชายร่างกำยำคนหนึ่งยิ้มและพูดออกมา
ซูวานยิ้มและตอบกลับไปว่า “นายรู้ไหมว่าผลลัพธ์ของการลักพาตัวฉันมามันคืออะไร?”
“ฮ่าฮ่า ฉันรู้ สถานะของคุณนั้นสูงส่ง เปรียบได้เหมือนไข่มุกอันล้ำค่าของตระกูลซู แต่แล้วมันยังไง? หลังจากที่ฉันทำเรื่องนี้เสร็จ ฉันก็จะบินไปให้ไกลลับขอบฟ้า ถึงเวลานั้น ต่อให้เป็นตระกูลซูแล้วมันจะยังไง” ชายคนเดมพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ
ตามแผนที่ได้วางเอาไว้ หลังจากที่จับซูวานมาได้สองวัน พวกเราก็จะหนีบินไปอยู่ที่ไกลๆ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญก็คือเวลาที่เหลือ