มู้หรงจิ่นกับว่านไห่เคยรู้จักกันมาก่อน และว่านไห่ก็รู้กฎดี ว่าเขารอคนได้เต็มที่ไม่เกินครึ่งชั่วโมง
ดังนั้น มู้หรงจิ่นถึงเดินเข้าไปอยู่ในห้องน้ำ พอหลังจากผ่านไปครั้งชั่วโมงเขาถึงกล้าออกมา
“อยู่บนเวทีแล้ว” ฉินเฉิงชี้นิ้วและยิ้มออกมา
ใบหน้าของมู้หรงจิ่นเปลี่ยนไปเล็กน้อย หัวใจของเขาเริ่มตื่นตระหนก
และยังคงแกล้งทำเป็นว่าไม่รู้สึดอะไร “โชคดีที่ฉันยังไม่ได้กลับ ฉันจะไปจัดการเขาเดี๋ยวนี้แหละ…โอ้ย ทำไมท้องฉันถึงได้ปวดอีกแล้ว ไม่ได้ ฉันต้อง…”
“เขาแพ้ไปแล้ว” ในตอนนั้นเจ้าสำนักฟานทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว
มู้หรงจิ่นผงะ ขมวดคิ้วและพูดออกมาว่า “แพ้แล้ว? เป็นไปได้ยังไง? ใครเป็นคนเอาชนะเขา?”
“มันก็ต้องเป็นคุณฉินสิ” เจ้าสำนักฟานพูดออกมาอย่างไม่ลังเล
ตอนแรกก็คิดว่าจะไปเชิญใครที่เก่งกาจมา แต่ที่ไหนได้ไปเชิญพวกไม่ได้เรื่องมาเสียได้!
“พลังภายในของระดับอาจารย์มีระดับแค่นั้นเหรอ?” ฉินเฉิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะและถามออกมา
มู้หรงจิ่นไม่ได้พูดอะไร ส่วนทางด้านของฟานหยุนพูดออกมาอย่างไม่สบายใจ “นายจะจองหองอะไรอย่างนี้ พี่จิ่นของเราก็เอาชนะเขาได้เหมือนกัน!”
ฉินเฉิงไม่สนใจลูกลิ้วลูกล้อพวกนี้ เขาหันไปหาเจ้าสำนักฟานและพูดออกมาว่า “เจ้าสำนักฟาน ยังจำที่ฉันพูดได้ไหม”
“ใช่ ใช่” เจ้าสำนักฟานพยักหน้าออกมา “คืนนี้ คุณอยู่ทานข้าวที่นี่เป็นไง?”
“ไม่จำเป็น” ฉินเฉิงพูดออกมา
หลังจากพูดจบ เขาก็เดินจากไป
“ถ้าฉันไม่ดูถูกเขา เขาก็คงไม่ได้เงินมากมายขนาดนี้…” เจ้าสำนักฟานมองไปที่เงาหลังที่กำลังเดินจากไปของฉินเฉิง ถามหายใจและพูดออกมา
แต่น่าเสียดายที่โลกนี้มันไม่มียารักษาความผิดหวัง
หลังจากที่ออกไปจากที่นี่ ฉินเฉิงก็ตรงไปยังภูเขาหลงไห่
ผ่านมาหลายวัน “นักโทษหลบหนีจากต่างประเทศถูกยิงตาย” ข่าวลือนี้แพร่ออกไปเรื่อยๆ แม้กระทั่งแผนกรักษาความปลอดภัย เมื่อได้รับข่าวนี้ก็เอาภาพที่ออกมามาวิเคราะห์กันใหญ่
และผู้ที่ลงมือก็กลับกลายเป็นฮีโร่ และแผนกรักษาความปลอดภัยก็พยายามกันอย่างหนักเพื่อค้นหาคนคนนี้
“คุณฉิน ได้ยินมาว่ามีแผนกรักษาความปลอดภัยเข้ามาที่มณฆลใหญ่แล้ว ว่ากันมาพวกเขามาตามหาฮีโร่คนนั้น” บนยอดเขา ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้ายืนอยู่ด้านหน้าของฉินเฉิงและพูดออกมา
ฉินเฉิงค่อยๆลืมตาขึ้น ส่ายหน้าและพูดออกมาว่า “ฉันไม่สนใจพวกเขา”
“แต่ถ้าหากคุณไม่แสดงตัวออกไป จะต้องมีคนอื่นแฝงตัวไปแทนแน่” ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าพูดออกมาด้วยความตระหนก
ฉินเฉิงยิ้มและทำเป็นไม่ได้คิดอะไร
อะไรที่ไม่ใช่ของจริง มันก็ไม่ใช่ของจริง
ในขณะที่ได้รับเกียรติ เขาก็ได้รับความเสี่ยงไปด้วย
“ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง” ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าพูดออกมาว่า “ส่วนทางด้านของจินฮู่ ช่วงนี้เขากำลังนำยาที่คุณให้เขาเอาไปขายไปแยกส่วนประกอบอยู่”
“เอ๋?” ฉินเฉิงเลิกคิ้วขึ้นและพูดออกมาว่า “นี่เป็นความคิดที่ไม่เลวนี่ ดูเหมือนว่าฉันจะประเมินเจ้าจินฮู่คนนี้ต่ำเกินไป”
ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าขมวดคิ้วและไม่ได้พูดอะไร
ที่ที่ทำงานของจินฮู่ เขาได้จ้างหมอยาจีนมาเพื่อวิเคราะห์ส่วนประกอบของยาที่ฉินเฉิงให้เขาเอาไปขายโดยเฉพาะ
หลายคนเพื่อที่จะแลกกับยาชนิดนี้ถึงกับเอาโสมเก่าแก่ของตระกูลมาแลก
“คุณจิน ไม่รู้ว่าคุณจะแยกองค์ประกอบของยาไปทำไม มันมีประโยชน์อะไร?” เพื่อนที่เป็นนักธุรกิจของเขาถามออกมา
จินฮู่พูดออกมาว่า “แน่นอน นั่นเป็นเพราะว่าหมอจีนที่ให้ยานี่ฉันมาต้องการมัน! ฉันจะบอกพวกนายเอาไว้ให้ ขอแค่พวกเราสามารถหาวัตถุดิบในของยาเหล่านี้ได้ เขาก็สามารถผลิตยาเหล่านี้ขึ้นมาได้ตามที่เราต้องการ!”
ทันทีที่จินฮู่พูดประโยคนี้ออกไป นักธุรกิจพวกนั้นก็ออกไปหาวัตถุดิบทำยาทันที
ในตอนเที่ยงของวันหนึ่ง จินฮู่เดินปาดเหงื่อขึ้นมาที่ยอดเขาหลงไห่
“คุณฉิน ฉันมีข่าวดีมาบอกคุณ!” จินฮู่พูดออกมาอย่างตื่นเต้น
ฉินเฉิงค่อยๆลืมตาและถามออกไปว่า “มีข่าวดีอะไร?”
จินฮู่ลูบมือของเขาและพูดออกมาว่า “ที่เมืองเจียงมีเศรษฐีร่ำรวยคนหนึ่ง ฐานะของเขาไม่ธรรมดา จะออกไปไหนแต่ละครั้งนั้นไม่ง่ายเลย ได้ยินมาว่าครั้งนี้เขาต้องการยาบำรุงธาตุทั้งห้า!”
“พูดสาระสำคัญออกมา” ฉินเฉิงขมวดคิ้วและถามกลับไป
จินฮู่รีบตอบกลับมาทันทีว่า “ได้ยินมาว่าเขาเป็นผู้ครอบครองชูโวที่มีอายุมากกว่า 500 ปี!”
“500 ปี?” ฉินเฉิงตกใจตาเป็นประกาย “นี่เรื่องจริงไหม?”
“เรื่องจริงแน่นอนครับ!” จินฮู่พูดออกไปอย่างดีใจ “รอบนี้เขาเชิญคนเข้าไปมากมาย ใครผลิตยายาบำรุงธาตุทั้งห้าได้มาที่สุด คนคนนั้นก็จะเป็นผู้ที่ได้ครอบครองชูโว!”
หลังจากที่ฉินเฉิงได้ยินแบบนั้นเขาก็เงียบไปสักพัก พยักหน้าและพูดออกมาว่า “เขาอยู่ที่ไหน พาฉันไปหาเขาที”
โรงแรมเทียนหาว มีรถจำนวนมากจอดอยู่ที่หน้าโรงแรม
“คุณคะ ไม่รู้ว่าจินฮู่จะมาหรือเปล่า” หลินชิงเฉิงควงแขนหยางอี้ ท่าทางมีความกังวลอยู่ในใจ
หยางอี้กระแอมและพูดออกมาว่า “มาไม่มาแล้วยังไง? ปริมาณของยาบำรุงธาตุทั้งห้าในแต่ละเดือนมันคงที่! ในมือของพวกเรายังไงก็มีมากกว่าเขาอยู่แล้ว!”
“จริงเหรอ?” สายตาของหลินชิงเฉิงเป็นประกาย “งั้นก็ดีเลย ถ้าหากเป็นแบบนั้นจริงๆ เดือนต่อไปก็คงเอาไปแลกยาอื่นได้มากมาย แบบนั้นพวกเราจะไม่รวยกันตายเหรอ?”
หยางอี้หันมามองหลินชิงเฉิง ยิ้มและพูดออกไปว่า “เธอนี่มัน ไม่มองการณ์ไกลเอาเสียเลย รอฉันได้ชูโวมาก่อน ฉันก็สามารถก้าวข้ามจินฮู่ไปได้แล้ว จากนั้นก็สามารถเข้าหาหมอจีนอาวุโสตรงๆได้เลย!”
“เมื่อถึงเวลานั้นไม่เท่ากับว่าฉันต้องการเท่าไหร่ฉันก็จะได้เท่านั้นหรอกเหรอ?” หยางอี้ยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ
“ใช่…คุณนี่ฉลาดจริงๆ” พูดจบหลินชิงเฉิงก็เขย่งปลายเท้าและหยิกที่แก้มของหยางอี้เบาๆ
ที่ห้องสุดหรูของโรงแรมเทียนหาว ในตอนนี้ก็มีคนเข้ามามากมาย
“คุณช้าว ไม่รู้ว่าคุณสามารถนำชูโวของคุณออกมาให้ดูหน่อยได้ไหม?” หยางอี้ยิ้มและถามออกไป
ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามของเขาพยักหน้า เขาโบกมือ จากนั้นคนที่อยู่ข้างๆของเขาก็หยิบกล่องสมุนไพรขึ้นมา
สมุนไพรชนิดนี้ดูไร้ค่า เหมือนวัชพืชที่อยู่ตามข้างถนน
“อาจารย์เว่ย ช่วยดูหน่อย” หยางอี้มองมาที่หมอจีนชราคนหนึ่ง
หมอจีนชราคนนั้นพยักหน้า เขาหยิบชูโวขึ้นมามองอยู่นาน พยักหน้าและพูดออกมาว่า “อืม นี่คือชูโวอย่างแน่นอน อายุประมาณเกือบๆ 600 ปี”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ก็ดีใจขึ้นมาทันที
คนที่ชื่อเว่ยพูดออกมา “ฉันต้องการยาบำรุงธาตุทั้งห้าจำนวนมาก ใครที่ให้ฉันได้มากที่สุด ชูโวก็จะตกอยู่ในมือของคนคนนั้น”
“ฉันมี 2 เม็ด!” มีคนพูดออกมา
“ฉันมี 3 เม็ด!”
“ฉันมี 4 เม็ด! มีใครมีมากกว่าฉันไหม?”
เมื่อได้ยินว่า “4 เม็ด” ทุกคนก็ตกใจกันเป็นอย่างมาก
จินฮู่เอามาทั้งหมด 20 เม็ด แต่แค่ 5 เม็ดก็ถือว่าเยอะมากแล้ว
“ฮ่าฮ่า ไม่มีใครมีมากกว่าฉันแล้วใช่ไหม งั้นชูโวนี่ก็เป็นของฉัน” เศรษฐีคนหนึ่งพูดออกมา
“ช้าก่อน” ในตอนนั้นหยางอี้ก็ค่อยๆยืนขึ้น
เขาพูดออกมาว่า “ฉันมี 6 เม็ด!”
“6 เม็ด?!”
ทุกคนต่างตกใจ “ทำไมนายถึงมีเยอะขนาดนั้น?”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกนาย” หยางอี้ยิ้มและพูดออกไปว่า “สุดท้ายชูโวก็ต้องเป็นของฉัน”
ในตอนนั้นฉินเฉิงและจินฮู่ก็เดินเข้ามา
หลังจากที่เห็นจินฮู่ ทุกคนต่างก็ลุกขึ้นมาทักทาย “คุณจิน คุณมาแล้ว”
“ฉินเฉิง? นายมาได้ยังไง?” หยางอี้มองไปที่เขาถามออกมาแบบกลั้นขำไว้ไม่ได้
“ทำไม นายเองก็อยากจะมาเข้าร่วมด้วยเหรอ?” หยางอี้พูดออกมาอย่างยั่วยวน
ฉินเฉิงพยักหน้า และ อืม ออกมา
หยางอี้ยิ้มและตอบกลับมาว่า “แต่น่าเสียดาย ดูเหมือนชูโวนี่จะต้องเป็นของฉันแล้วหละ”
เมื่อเห็นฉินเฉิง หยางอี้ก็กลั่นความโกรธของเขาเอาไว้ไม่ได้
ทำไมขยะที่อาศัยอำนาจของผู้หญิงถึงยิ่งใหญ่ว่าตัวเขา?
วันนี้เขาต้องการจะบอกว่าต่อให้ตระกูลซูช่วยหนุนหลัง ก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้!
เมื่อเห็นท่าทางที่หยางอี้แสดงออกมา ฉินเฉิงก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาเดินไปนั่งที่โซฟา หลับตาและรอดูผลที่ออกมาอย่างเงียบๆ
หยางอี้ทำท่าทางหยิ่งยโสและพูดออกมาว่า “คุณฉินจะยอมแพ้ง่ายๆแบบนี้เหรอ”
“ใช่ ชูโวนี่มันน่าจะต้องตกเป็นของนายเสียแล้ว” ฉินเฉิงยิ้มและตอบออกมา
“รู้แบบนั้นก็ดีแล้ว” หยางอี้พูดออกมา จากนั้นเขาก็นำมือเข้าไปหยิบยาบำรุงธาตุทั้งห้าในกระเป๋าของเขาออกมา 6 เม็ด เมื่อเขาเดินไปด้านหน้าคุณเว่ยเขาก็ยิ้มและพูดออกมาว่า “คุณเว่ย ตามที่ได้ตกลงกันไว้ ชูโวอันนี้เป็นของฉันแล้ว”
คุณเว่ยพยักหน้า “คนอย่างฉันพูดคำไหนคำนั้น ถ้าหากมีโอกาสฉันเองก็อยากเจอหมอยาจีนท่านนี้จริงๆ”
หยางอี้อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างเย็นชา
อยากเจอหมอยาจีน? หลังจากวันนี้เกรงว่าคงมีแต่ฉันคนเดียวเท่านั้นที่จะได้ไปพบเขา!
หลังจากที่หยิบชูโวมาแล้ว หยางอี้ก็เดินตรงไปหาจินฮู่
“พี่ฮู่ ชูโวอันนี้สามารถเอาไปแลกกับยาบำรุงธาตุทั้งห้าได้เท่าไหร่?” หยางอี้ถามและหัวเราะออกมา
จินฮู่คิดแล้วคิดอีก จึงถามออกไป “นายอยากได้เท่าไหร่?”
หยางอี้หัวเราะออกมา “พี่ฮู่ ฉันมีเงื่อนไขอยู่เงื่อนไขหนึ่ง ไม่รู้ว่าพี่จะรับปากฉันหรือไม่”
“เงื่อนไขอะไร?” จินฮู่ถามออกมา
หยางอี้ยิ้ม “ฉันอยากเจอกับหมอยาที่ผลิตยานี้ ฉันรู้ว่านี่มันอาจจะเกินไปหน่อย แต่ว่า…”
“ได้!” หยางอี้ยังไม่ทันพูดจบ จินฮู่ก็ตอบตกลงทันที
หยางอี้ตกใจ พูดออกมาด้วยความตื่นเต้น “พี่ฮุ่ พี่พูดจริงไหม?”
“ก็จริงหนะสิ” จินฮู่ยิ้มอย่างเยือกเย็นและพูดออกมาว่า “ฉันจินฮู่พูดคำไหนคำนั้น”
“ขะ…ขอบคุณพี่ฮู่!” หยางอี้พูดออกมาติดๆขัดๆ “พี่วางใจ ความเมตตาของพี่ในครั้งนี้ฉันไม่มีวันลืมมันเป็นอันขาด!”
“ยินดีกับคุณหยางด้วย!” คนที่อยู่รอบๆกล่าวความยินดีออกมา
“หลังจากวันนี้เป็นต้นไป ตระกูลหยางของฉันก็คงทะยานขึ้นฟ้า”
“ฉันหวังว่าพี่หยางจะดูแลพวกเราเป็นอย่างดี”
หยางอี้พูดออกมาลอยๆ “ไม่มีปัญหา รอดูได้เลย!”
พูดจบเขาก็มองไปที่ฉินเฉิงที่กำลังนอนหลับตาอยู่บนโซฟา เขาอดไม่ได้ที่จะพูดโอ้อวดออกมา “ความสามารถมันไม่ใช่สิ่งที่มาตั้งแต่กำเนิด! ถ้านายโชคดีนายอาจจะชนะฉันก็ได้!”
“พี่ฮู่ งั้นพวกเราอย่ามัวเสียเวลาเลย วันนี้ฉันเป็นเจ้ามือ เชิญพี่กับหมอจีนท่านนั้นมาทานอาหาร!” หยางอี้หันมาพูดกับจินฮู่ด้วยความกระตือรือร้น