วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 630 เซอร์ไพรส์ให้เธอ

จนในที่สุดรับไม่ไว้จริงๆ แล้ว เขาสงสัยตัวเองถ้าไม่พูดไม่จาอีก ต้องถูกเธอตีจนตาย

นี่จึงรีบตะโกนว่า: “อย่า อย่าตีอีกแล้วเหยาเหยา คือผมเอง”

ในใจถังลั่วเหยากำลังโมโหอยู่เลย แต่กลับคาดคิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เสียงคุ้นเคย จู่ๆ ก็ตะลึง

หลังจากตั้งสติได้ ไฟในห้องก็สว่างขึ้นตาม

“กึก” เสียงหนึ่ง ไฟสว่างขึ้นมาทันที ผู้ชายข้างหน้าปรากฏตัวขึ้นมาทันที

ถังลั่วเหยาจ้องตาโตอย่างไม่น่าเชื่อ

“เฟิงยี่ เป็นคุณได้ไงอ่ะ”

เฟิงยี่แขนที่โดนเธอตีจนเจ็บไปด้วย มองเธออย่างน่าสงสารไปด้วย

“ก็ต้องเป็นผมน่ะสิ ไม่อย่างนั้นคุณคิดว่ายังจะมีใครอีกล่ะ”

ถังลั่วเหยาอึ้ง พอนึกถึงเรื่องเมื่อกี้ ขณะนี้รู้สึกแค่ว่าโมโหด้วยตลกด้วย

เธอจ้องเขาแวบเดียวอย่างหมดคำพูด บอกว่า: “คุณทำอะไรเนี่ย รู้ไหมว่าคนแกล้งคนจะตกใจตายนะ ถึงแม้คนจะไม่ได้ตกใจตาย ถ้าฉันลงมือขึ้นมาอย่างจริงจังแล้วไปตีโดนส่วนไหนของคุณก็ไม่รู้จะทำไง”

พูดไปด้วย แต่ก็ยังสงสารเขานวดแขนให้เขาไปด้วย

พอเฟิงยี่เห็นเธอมีสีหน้าเจ็บใจอยู่บนหน้า ทันใดนั้นอารมณ์ก็สดใสขึ้นมา

เขาพูดอย่างยิ้มแย้มว่า: “ก็ผมอยากมาเซอร์ไพรส์คุณนี่นา”

ถังลั่วเหยาจ้องเขาอีกครั้ง

เซอร์ไพรส์งั้นเหรอ!

นี่มันตกใจชัดๆ !

ก็ว่าทำไมเสียงในห้องดังขนาดนี้ บอดี้การ์ดสองคนข้างนอกเหมือนกับตายแล้วอย่างนั้น ไม่ยอมเข้ามาสักทีเลย

เพราะรู้ว่าคนที่อยู่ในห้องคือเขาแต่แรกแล้ว!

ถังลั่วเหยายังใสซื่อจนนึกว่าพวกเขาไม่รู้

ถ้าพวกเขาไม่รู้มีคนหนึ่งแอบเข้าในห้องจริงๆ ก็ไม่สมควรเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของเธอแล้ว

เฟิงยี่ดึงมือที่กำลังนวดแขนให้ตัวเองอยู่มา พูดอย่างขำๆ ว่า: “ได้ๆๆ เมื่อกี้คือผมผิดไปแล้ว ผมเลวเอง อยากจะแกล้งคุณสักหน่อยตอนที่คุณเข้ามา แต่ความเป็นจริงพิสูจน์ว่าผมคิดง่ายเกินไปแล้ว ถ้าผมเปิดไฟไม่ทัน สงสัยวันนี้ก็จะสิ้นใจไปก่อนวัยอันควรแล้ว”

ถังลั่วเหยาเห็นท่าทางเขาเล่นตลก ทำเสียงไม่พอใจอย่างเย็นชา

“หาเรื่องใส่ตัวเอง โดนตีตายก็สมน้ำหน้า”

เฟิงยี่อยู่นิ่งๆ ไม่กล้าโต้เถียงอะไร

รีบพูดตามคำของเธอว่า: “ใช่ๆๆ เมื่อกี้นี้คือตกใจ แต่ผมก็ได้เตรียมเซอร์ไพรส์อีกอย่างนะ”

ถังลั่วเหยาตะลึง ถามออกอัตโนมัติว่า: “เซอร์ไพรส์อะไรเหรอ”

เฟิงยี่ยิ้มพูดว่า: “ถ้าลืมตาไว้ก็ได้เห็นแล้วมันจะเป็นเซอร์ไพรส์ได้ไงล่ะ คุณหลับตาลงก่อน”

ขณะนั้นถังลั่วเหยาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้ชายคนนี้จะมาไม้ไหนอีก ได้แต่หลับลงอย่างเชื่อฟัง

ในเวลาเดียวกัน ในปากก็เตือนเขาอย่างเคร่งขรึม

“ฉันจะบอกคุณนะ คุณบอกว่าเป็นเซอร์ไพรส์ก็ต้องเป็นเซอร์ไพรส์จริงๆ ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยคุณไว้แน่”

เสียงของเฟิงยี่หัวเราะดังขึ้นมาข้างหู: “แน่นอน”

เขาพูดไปและพยุงมือของเธอไว้ พูดกับเธอว่า: “เดินตามผมมา”

ถังลั่วเหยาได้แต่หลับตาไว้ ให้เขาจูงเดินไปข้างหน้า

เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาอยากให้ตัวเองเซอร์ไพรส์อะไร ดังนั้นทั้งคนแทบจะเอาทั้งกายใจมอบให้กับเขา แล้วแต่เขาจัดการ

เดินไม่กี่ก้าวก็หยุดลงแล้ว

เธอได้ยินเสียงดึงผ้าม่าน

ถามว่า: “ตอนนี้ลืมตาได้หรือยัง”

เฟิงยี่ตอบว่า: “ยังไม่ได้ รออีกแป๊บหนึ่ง”

เขาพูดพร้อมกับปล่อยมือเธอ

ไม่รู้เหมือนกันว่าไปทำอะไรแล้ว ถังลั่วเหยารู้สึกแต่ว่าตัวเองหลับตาลงยืนอยู่ที่เดิมได้ประมาณนาที สองนาทีแล้วเขาถึงกลับมา

จากนั้นจับมือของเธอใหม่ “มา เดินมาข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว”

ถังลั่วเหยาเดินไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว

ครั้งนี้ เธอสัมผัสลมเย็นๆ ได้นิดหน่อย

“คุณพาฉันมาบนระเบียงทำไมเหรอ”

ครั้งนี้เฟิงยี่กลับไม่ได้พูดอะไรเลย แต่คือเดินไปอยู่หลังเธอ ยื่นสองมือปิดตาเธอไว้

ต่อมา ก็รู้สึกได้ว่าลมหายใจอุ่นๆ ของเขาพุ่งเข้ามาข้างหูตัวเอง พูดด้วยเสียงอ่อนโยนว่า: “เหยาเหยา ผมจะนับหนึ่ง สอง สาม คุณค่อยลืมตาขึ้นมาได้ไหม”

ถังลั่วเหยาไม่อยากทำลายเซอร์ไพรส์ที่เขาตั้งอกตั้งใจเตรียมเพื่อตัวเอง ดังนั้นได้แต่พยักหน้า

จากนั้น ก็ได้ยินเสียงอ่อนโยนของเขา พูดเบาๆ ว่า: “หนึ่ง สอง สาม …ลืมตา”

มือของเขาเปิดออกมาในชั่วขณะ ถังลั่วเหยาลืมตาขึ้นมา

ตอนแรกอึ้งก่อน ต่อมารูม่านตาขยาย ความรู้สึกเซอร์ไพรส์เต็มไปด้วยขอบตาทันที

โอ้พระเจ้า!

นั่นมันเป็นทิวทัศน์ยิ่งใหญ่ขนาดไหนเนี่ย

เห็นแค่บนท้องฟ้ากลางคืน กลุ่มที่ประกอบด้วยโดรนหลายๆ กลุ่มวูบวาบอย่างกับดวงดาวอยู่บนฟ้า

ภายใต้การควบคุมของคน ดั่งเอลฟ์น้อยหลายๆ ตัว เปลี่ยนพลิกไปมาบนท้องฟ้าอย่างอิสระ

ถังลั่วเหยาดูคำที่เปลี่ยนพลิกเหล่านั้นออกได้

เหยาเหยา ผมรักคุณ!

ตลอดไป ไม่ทอดทิ้ง!

ทันในนั้นเธอปิดปากไว้ รู้สึกแค่ว่าจุดที่อ่อนโยนที่สุดในใจ เหมือนกับถูกพุ่งชนอย่างหนักๆ ทั้งใจทั้งตาเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง

เสียงของเฟิงยี่ดังขึ้นข้างหูอย่างทันเวลา

“ชอบไหม”

ถังลั่วเหยาพยักหน้าสุดแรง

เขายืนอยู่ข้างหลัง โอบรอบตัวเธอ กอดเธอเข้ามาในอ้อมกอดตัวเองเบาๆ

มองดูคำที่เรียงกันเหมือนดั่งดวงดาวบนท้องฟ้ากลางคืน พูดเบาๆ ว่า: “ผมรักคุณ ทั้งชีวิตนี้ ผมรักแค่คุณเท่านั้น นอกจากว่าผมตาย ไม่อย่างนั้นตลอดไป ไม่ทอดทิ้ง”

ขอบตาของถังลั่วเหยาเปียก น้ำตาก็ไหลลงมาอย่างควบคุมไม่อยู่ทันที

เฟิงยี่ยกมือเช็ดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน จากนั้นถือหน้าของเธอไว้จูบเบาๆ

ทันใดนั้นถังลั่วเหยาซาบซึ้งด้วย แต่ก็รู้สึกตลกด้วย

“วัน วันนี้คุณตั้งใจมา เพื่อที่จะให้ฉันดูสิ่งนี้เหรอ”

เฟิงยี่ยกคิ้ว

“ไม่พอใจเหรอ”

“ไม่ ฉันพอใจมาก”

เธอจะไม่พอใจได้ยังล่ะ

วิธีพิเศษแบบนี้ คำพูดลึกซึ้งแบบนี้

เขานี่คืออยากจะให้เธอวางใจแค่ไหนเนี่ย ถึงคิดวิธีแบบนี้ออกมาบอกรักเธอจนได้

หลังจากดีใจเสร็จ ถังลั่วเหยาก็รู้สึกมีความกังวลอยู่เล็กน้อย

เธอมองคำเหล่านั้นที่ยังคงวูบวับอยู่บนท้องฟ้ากลางคืน พูดว่า: “แล้วนี่จะทำให้คนอื่นรู้หรือเปล่าว่าเป็นเรา”

เฟิงยี่ยิ้มพูดว่า : “อย่างนั้นคุณคิดมากเกินแล้ว ผู้หญิงที่ชื่อเหยาเหยาบนโลกนี้มีตั้งเยอะแยะ ผมก็ไม่ได้พูดชื่อเต็มสักหน่อย คนอื่นเขาจะไปรู้ได้ยังไง”

ถังลั่วเหยาลองคิดดูแล้วก็รู้สึกว่าใช่เหมือนกัน

ดูคำพูดบอกรักที่วูบวับอยู่บนท้องฟ้าเหล่านั้น ใจดวงหนึ่งก็ยิ่งหวานอย่างกับถูกเติมด้วยน้ำผึ้ง

เธอคลอเคลียเข้าไปในอ้อมกอดของเฟิงยี่เบาๆ พูดอย่างอ่อนโยนว่า: “เฟิงยี่ ขอบคุณนะ”

ขอบคุณที่ยอมมารักฉันแบบนี้

และขอบคุณที่มอบความกล้าหาญในการรับความรักใหม่ให้ฉัน

ขอบคุณความใจกว้างของคุณ และก็ขอบคุณความเป็นเด็กของคุณด้วย

ทำให้ฉันเห็นความอบอุ่นและความหวานในชีวิตที่คิดว่าจะน่าเบื่อไร้แสงในตอนแรก

เฟิงยี่ยื่นมือโอบกอดไหล่ของเธอ ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด

บรรยากาศอบอุ่นและสงบ ทันใดนั้นสองคนไม่คุยกันครู่หนึ่ง เพลิดเพลินกับเวลาอันสวยงามที่ได้มายากนี้เงียบๆ

แต่ทันใดนั้น ถังลั่วเหยาอยู่ๆ ก็ “อ๊ะ” เสียงหนึ่ง

เธอหนีออกมาจากในอ้อมของเฟิงยี่ หันหน้าไปดูเขา พูดว่า: “วันนี้คุณมา ไม่ได้โดนคนถ่ายใช่ไหม”

เฟิงยี่ขมวดคิ้ว

ท่าทางไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่

พอจะพูดอีก น้ำเสียงก็น่าสงสาร

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset