บทที่572 คืนที่เงียบสงบ
หลังจากเฟิงยี่ไปส่งเธอที่บ้านแล้วก็ไม่ได้หยุดพักและขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว
คืนนี้ถังลั่วเหยานอนหลับสบายมากอย่างน่าประหลาดใจ
อาจเป็นเพราะเธอไปเที่ยวสวนสนุกในช่วงบ่ายและตระหนักถึงความฝันที่เธออยากรู้มาตลอดเมื่อเธอยังเป็นเด็กดังนั้นในคืนนั้นเธอจึงฝันถึงวัยเด็กของเธอจริงๆ
ตอนนั้นตระกูลถังเพิ่งจะออกจากเมืองหลวงไป พ่อถังยังไม่ตายและครอบครัวก็อยู่กันอย่างมีความสุขและรักใคร่
มีครั้งหนึ่งเธอได้ยินเพื่อนที่โรงเรียนพูดว่าพ่อของเธอพาเธอไปเที่ยวสวนสนุกได้นั่งม้าหมุน ในตอนนั้นเธอรู้สึกอิจฉามาก เมื่อกลับบ้านยังเข้าไปหาพ่อของเธอเพื่อขอให้เขาพาไป
หลังจากตระกูลถังย้ายออกจากเมืองหลวงไปตั้งรกรากและทำธุรกิจเล็กๆ ในเมืองทางใต้
เพราะเพิ่งจะเริ่มต้น ดังนั้นพ่อถังจึงยุ่งมากทุกวันออกจากบ้านแต่เช้าและกลับบ้านดึกดื่นแทบจะสามร้อยหกสิบห้าวันซึ่งทำให้ไม่มีเวลาว่าง
แต่เพื่อให้ลูกสาวของตนเองมีความสุข พ่อถังจึงได้รับปาก
ยิ่งกว่านั้นยังรับปากเธอว่าหากเธอสอบได้ร้อยคะแนนเต็มจะพาเธอไปเที่ยวต่างประเทศด้วย
ถังลั่วเหยาดีใจมากจึงได้ขยันเรียนทุกวัน
เพียงแค่คิดถึงว่าพ่อจะพาตนกับแม่ไปเที่ยวต่างประเทศและมีความสุขร่วมกันอย่างนั้นแค่นั้นก็มีความสุขแล้ว
แต่ฟ้าฝนไม่อาจคาดเดา
คิดไม่ถึงว่าในวันที่เธอไปสอบนั้นพ่อของเธอกลับประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต
เธอจำได้ติดตาวันที่เธอถือกระดาษข้อสอบที่สอบได้หนึ่งร้อยคะแนนและยืนอยู่หน้าประตูบ้านวันนั้น
บ้านแสนสุขหลังเดิมไม่อยู่ที่นั่นแล้วมันถูกแทนที่ด้วยเสียงร่ำไห้แทบขาดใจของแม่ เพื่อนบ้านช่วยกันอย่างขะมักเขม้นและศพเย็นของพ่อที่นอนอยู่ตรงนั้น
เธอจำไม่ได้ว่าตนเองผ่านมันมาได้อย่างไร และจำไม่ได้ว่าช่วงที่ฝังศพพ่อของเธอ ตนเองทำอะไร
ในความทรงจำดูเหมือนช่วงเวลานั้นจะเลือนราง
ทั้งน้ำตาและสายฝนไหลเข้ารวมกัน ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่กระจ่าง
ต่อมาความทรงจำที่ลึกซึ้งที่สุดคือแม่เลี้ยงดูเธอและใช้ชีวิตที่ยากลำบากด้วยกัน
ถึงแม้อุบัติครั้งนั้นคู่กรณีจะชดใช้เงินมาจำนวนหนึ่ง แต่เพราะธุรกิจที่พ่อของเธอดูแลอยู่ในตอนนั้นได้รับผลกระทบ ดังนั้นเงินชดเชยนี้จึงถูกนำมาใช้เพื่อจัดการกับผลพวงทั้งหมด
ตลอดเวลาที่แม่แต่งงานกับพ่อของเธอมานานหลายปี ถึงจะไม่ได้อยู่ดีกินดี แต่ค่อนข้างมีชีวิตที่สบายมาตลอด
วันนี้เสาหลักของครอบครัวได้ล้มลง แม่ของเธอต้องรับภาระในการดำเนินชีวิตอีกทั้งยังมีเธอที่อายุเพียงสิบขวบที่ยังต้องเรียนหนังสือ ภายใต้ความสิ้นหวังก็ทำได้เพียงออกไปหางานทำ
คนที่ไม่เคยทำงานมาสิบกว่าปีจะหางานอย่างปัจจุบันทันด่วนมันจะง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร?
ถึงแม้ว่าแม่จะมีการศึกษาสูง แต่ด้วยระยะเวลาที่นาน และตอนนี้สิ่งที่เธอชำนาญที่สุดคือการอยู่เคียงข้างสามีและเลี้ยงดูลูก ไม่ใช่การจัดการเอกสารและทำรายงาน
ดังนั้นสุดท้ายหาไปหามาจึงได้เข้าไปทำงานกับบริษัทแม่บ้านแห่งหนึ่ง เป็นพี่เลี้ยงเด็ก
ช่วงเวลานั้น ถังลั่วเหยาจำได้ดีว่าเห็นแม่ของเธอแก่ลงทุกวันๆ
ผู้หญิงที่แต่เดิมเคยสดใส ภายใต้การขัดเกลาของชีวิต ก็ดูแก่ขึ้นเป็นสิบปีเพียงชั่วข้ามคืน
แต่เธอไม่เคยบ่น
ต่อให้ต้องลำบากเพียงใด ก็ยังมีขนมถังหูลู่ติดมือกลับบ้านมาให้เธอในยามดึกเสมอ หรือในช่วงสับเปลี่ยนฤดูก็ยังซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้เธอ
เธอมักจะกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเธอบนเตียงและกล่อมเบา ๆ
บอกว่าเหยาเหยาของแม่ต้องเป็นเด็กดี แม่ไม่ลำบากของเพียงลูกมีความสุข แม่ยอมทำทุกอย่าง
ในตอนนั้นถังลั่วเหยายังไม่เข้าใจความอดทนของแม่ เธอที่ยังเล็ก ยังไม่ประสากับโลกใบนี้
เรื่องที่กระทบจิตใจที่สุดคือการที่รู้ว่าพ่อไม่อยู่แล้ว ต่อไปไม่มีใครให้เธอเล่นขี่คอเป็นม้าข้ามเมืองอีกแล้ว และไม่มีใครจะอุ้มและแกล้งให้เธอหัวเราะเสียงดังอีก
มีอีกเรื่องคือ ดูเหมือนชีวิตจะไม่ได้ดีเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ถึงแม้ว่าแม่จะพยายามอย่างที่สุดเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่เธอก็ตาม
แต่อาหารการกินก็แย่ลงทุกวัน สถานการณ์ภายในบ้านก็แย่ลงทุกวันเช่นกัน
เธอเป็นเด็กดีมาถึงแม้ว่าจะรู้สึก แต่ก็ไม่เคยพูดอะไร
เธอไม่ได้เข้าใจในความลำบากของแม่ทั้งหมดแต่ก็รู้ว่าเป็นเด็กที่พูดรู้เรื่อง ถ้าแม่บอกว่าซื้อของเล่นพวกนั้นไม่ได้ เธอก็ไม่ซื้อ
จนกระทั่งวันหนึ่ง จู่ ๆ ก็มีคุณน้าแปลกหน้ามาที่โรงเรียนและเรียกเธอไประหว่างเวลาเรียน
แม่ของเธอเป็นลมไปขณะทำงาน
หลังจากรถฉุกเฉินนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้วก็พบว่าเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน
ต่อมาเธอจึงรู้ว่านอกจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบแล้วแม่ของเธอยังเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายที่ร้ายแรงมาก
ซึ่งทั้งหมดนี้มาเจอหลังจากที่พ่อเธอเสียชีวิตไปแล้ว
เธอเก็บซ่อนหยดน้ำตาและความเจ็บปวดไว้ลึกสุดใจ และแสดงออกแต่ด้านที่สวยงามและสดใสที่สุดให้เธอได้เห็น
ใช้ร่างกายที่อบอุ่นและผอมบางของฉันโอบท้องฟ้าไว้ให้เธอให้เธอได้รู้ว่า ต่อให้ไม่มีพ่อ เธอก็ยังมีแม่ เธอจะไม่มีทางมีน้อยกว่าเด็กคนไหนและไม่มีทางน้อยหน้าเด็กคนอื่น
ตอนนี้เองที่ถังลั่วเหยากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
จนกระทั่งถึงเวลานั้นเธอก็รู้สึกได้ถึงความกลัวที่กำลังจะมาถึงอย่างแท้จริง
เธอกลัว
เธอกลัวว่าเมื่อเธอสูญเสียพ่อไปแล้ว จะเสียแม่ไปด้วย เธอไม่อยากดูญาติสนิทของเธอจากไปด้วยตาของเธอเอง
ดังนั้นตอนที่เหอศื่อปรากฏตัวแสร้งทำตัวเป็นคุณลุงผู้ใจดีมีคุณธรรม ปรากฏตัวต่อหน้าและเข้ามาในชีวิตของพวกเธอสองแม่ลูกนั้น เธอก็มีไหวพริบและยอมรับการเข้ามาของเขา
เธอรู้ว่าแม่ของเธอตัวคนเดียวนั้นลำบากมาก และรู้ว่าร่างกายของแม่นั้นรับภาระที่หนักอึ้งในชีวิตไม่ไหวแล้ว
ดังนั้นเธอรับได้ ต่อให้ต้องมีคนแปลกหน้าอีกคนเข้ามาในชีวิตเธอ เธอก็พร้อมจะยอมรับ
ขอเพียงแค่ให้แม่เธอสบาย ไม่ต้องเจ็บป่วยอีก ไม่ต้องพบกับอันตรายใดอีก
แต่ว่าชีวิตที่ไหนมันจะง่ายดายเช่นนั้น?
ความเสแสร้งของผู้ใหญ่นั้น หลายครั้งแม้แต่ผู้ใหญ่ด้วยกันก็ยังมองไม่ออก
เด็กตัวเล็กๆ จะเข้าใจหัวใจที่ชั่วร้ายของโลกของผู้ใหญ่ได้อย่างไร?
หลังจากแม่แต่งงานกับเหอศื่อแล้ว วันเวลาที่แสนสงบและมีความสุขผ่านไปไม่ถึงหนึ่งปีซึ่งเป็นเวลาสั้นๆ เหอศื่อก็เผยธาตุแท้
เขาติดเหล้าติดการพนันและออกไปเสเพลกับผู้คนตลอดทั้งวัน
ทุกวันไม่ทำงานทำการยังพอว่า แต่พอกลับมายังทำตัวเป็นคุณชายให้แม่ต้องคอยรับใช้
ดีที่ตระกูลเหอมีห้องให้เช่าอยู่หลายที่ การดำรงชีพโดยอาศัยค่าเช่านั้นยังถือว่าพออยู่ได้
บวกกับงานสอนพิเศษที่แม่เธอรับมาเป็นครั้งคราว ถึงแม้ว่าเธอจะลืมวิชาคณิตศาสตร์ไปเยอะแล้ว แต่ภาษาอังกฤษยังดีอยู่
เพื่อเสริมภาษาอังกฤษให้กับเด็ก ๆ และหารายได้เสริม
วันคืนผ่านไปแบบสามวันดีสี่วันไข้อย่างช้าๆ
ถังลั่วเหยาเข้าใจว่าชีวิตแย่ๆ มันคงไม่แย่ไปกว่านี้แล้ว
แต่คิดไม่ถึงว่าพระเจ้าจะประทานความเสียหายให้กับคุณเสมอเมื่อคุณคาดหวังน้อยที่สุด
เธอไม่มีวันลืมเหตุการณ์ในคืนวันนั้น
มันเป็นคืนที่มีพายุและเหอศื่อก็รีบกลับมาจากข้างนอก