บทที่ 508 ประจบประแจง
ผู้หญิงที่แม้แต่เฟิงยี่ก็ยังจัดการไม่ได้ ทำไมถึงได้ทำตัวดีกับเขาขนาดนี้กัน? เขาแทบจะรับไม่ได้จริงๆ……
ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย
เมื่อคิดไปคิดมาสักครู่ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะส่งข้อความให้เฟิงยี่ บอกเขาเอาไว้ก่อน เพื่อจะไม่ได้เกิดเหตุการณ์เข้าใจผิดกันในอนาคต
ไม่นานต่อมา คนในกองถ่ายและนักแสดงก็มารวมตัวกันจนครบ
ก่อนที่หลิวหมิงจะทำการเปิดกองอย่างเป็นทางการ เขาก็ได้กล่าวบางอย่างอะไรออกมา
ความหมายโดยรวมก็คือ กองถ่ายนี้อิงตามความสามารถเป็นหลัก ไม่ใช่ว่าใครมีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังว่าก็จะดีกว่าใคร
ดังนั้นหากว่ารักในการแสดงจริงเขาก็ยินดีต้อนรับ แต่หากจะใช้อำนาจของผู้สนับสนุนมาทำตัวใหญ่ อีกทั้งไม่มีความสามารถในด้านการแสดงมากพอ ต้องขอโทษด้วย ตำแหน่งนั้นคงต้องถูกเปลี่ยนคน
หลิวหมิงนั้นต่อให้จะต้องสูญเสียจนล้มละลาย เขาก็จะไม่อดทนให้เรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้น
เมื่อทุกคนฟังจบแล้วก็ได้แต่หันมามองหน้ากัน
พวกเขารู้ดีว่า หลิวหมิงหมายถึงใคร และด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงได้ตกตะลึง
คิดไม่ถึงว่าหลิวหมิงจะมีอคติกับถังลั่วเหยามากขนาดนี้……
เมื่อคิดได้ดังนั้น พวกที่ชอบคอยตอกย้ำคนอื่นจนเป็นนิสัย ก็ใช้แววตาที่เปลี่ยนไปมองถังลั่วเหยาทันที
แต่เมื่อถังลั่วเหยาต้องเผชิญหน้ากับสายตาเหล่านั้น เธอกลับไม่ได้รู้สึกลำบากใจอะไร และไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรไม่ดี
เธอยังคงปฏิบัติต่อหลิวหมิงด้วยความอบอุ่น และยิ้มเป็นความหมายว่าเธอนั้นเห็นด้วยกับความคิดของหลิวหมิง
ถังลั่วเหยาจะไปกลัวอะไรล่ะ?
เธอพยายามศึกษาบทละครนั้นอย่างหามรุ่งหามค่ำตลอดเวลาเวลา 1 เดือน
เธอจะยอมแพ้ให้แก่คำดูถูกของหลิวหมิงง่ายๆอย่างนี้เหรอ?
ถังลั่วเหยาเชื่อมั่นว่าเธอจะไม่ทำลายชื่อเสียงของตัวเองอย่างแน่นอน
ดังนั้นถังลั่วเหยาจึงตั้งมั่นว่าเธอจะใช้ความสามารถแสดงให้ทุกคนดู ด้วยการแสดงบทบาทให้ดีที่สุด ในขณะเดียวกันเธอก็ต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่า
ตนนั้นไม่ได้ใช้อำนาจของผู้สนับสนุน และพยายามบีบบังคับให้ดอกไม้ปักลงบนแจกัน เธอเป็นนักแสดง และเป็นนักแสดงตัวจริงเสียงจริง!
เมื่อเห็นความใจกว้างของถังลั่วเหยาดังนั้น หลิวหมิงก็ไม่เข้าใจในความคิดเธอเอาซะเลย
ไม่เห็นพฤติกรรมของถังลั่วเหยาไม่ได้มีความสำนึกผิดเลยสักนิด
หลิวหมิงไม่รู้ว่าถังลั่วเหยาเอาความกล้าหาญนั้นมาจากไหน ทั้งๆที่เธอไม่มีความสามารถอะไร แต่ยังคงกล้าที่จะสบตากับเขา และกล้าที่จะตอบรับคำพูดของเขา
จึงทำให้หลิวหมิงรู้สึกว่าตนกำลังถูกท้าทาย
แต่เขาก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา กลับพูดเบาๆว่า “ผมหวังว่าทุกคนจะเผยความสามารถของตัวเองที่แท้จริงออกมา อย่าทำให้ผมผิดหวังล่ะ”
หลังจากนั้นเขาก็หันไปมองถังลั่วเหยาอย่างจงใจ ก่อนจะหันหลังกลับไปนั่งตรงด้านหน้าจอแสดงผล และเริ่มทำการถ่ายทำ
ฉากแรกในวันนี้เป็นฉากของถังลั่วเหยา
เนื้อหาคร่าวๆก็คือ การโต้เถียงระหว่างเวินหนิงหานที่รับบทแสดงโดยถังลั่วเหยากับแม่ของเธอ
หลังจากได้รับข่าวว่าเวินหงเสียชีวิตอยู่ในสนามรบ เวินหนิงหานจึงแสดงออกว่าเธอจะไม่ให้บิดาตายเปล่า แต่คุณนายเวินที่ยึดในขนบธรรมเนียม กลับถามลูกสาวอย่างเด็ดขาดขึ้นว่า เธอจะทำอย่างไร
เวินหนิงหานจึงอธิบายความคิดของเธอออกมาทั้งหมด แต่คุณนายเวินก็บอกออกมาว่าเธอจะทำอย่างนั้นไม่ได้
เธอจะเห็นแก่หน้าตาของตัวเองอย่างเดียวไม่ได้ ในฐานะคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลเวิน และในฐานะลูกสาวคนเดียวของเวินหง และในนามของเวินหงด้วย
ตอนนี้เวินหงได้จากไปแล้ว และคุณนายเวินไม่อยากให้เขาต้องได้รับชื่อเสียงเสียหายหลังจากนี้อีก
แต่เวินหนิงหานกลับไม่เห็นเป็นเช่นนั้น
เธอมองออกว่า เพราะตนเป็นตัวแทนและหน้าตาของเวินหง เวินหนิงหานต้องลุกขึ้นยืนและกล่าวสิ่งนี้กับจักรพรรดิ เล่าถึงความสำเร็จของบิดา อีกทั้งบอกกับผู้ที่เป็นคนปลิดชีพพ่อของเธอว่า ตระกูลเวินไม่ได้ล้มลง ตัวเธอเวินหนิงหานนั้น จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆเด็ดขาด!
ท้ายที่สุด หลังจากที่เวินหนิงหานพยายามกล่อมเกลี้ยงกล่อมคุณนายเวินก็เห็นด้วยกับความคิดของเธอ
เพียงแต่คุณนายเวินมีข้อแม้อยู่หนึ่งอย่าง นั่นก็คือเวินหนิงหานจะต้องไปขอเครื่องรางจากวัดนิ่งกั๋ว ถ้าเธอทำอย่างนี้ ในฐานะผู้เป็นมารดาจึงจะวางใจ
ในขณะที่เธอกำลังเดินทางไปวัดนิ่งกั๋ว ตอนที่เวินหนิงหานกำลังข้ามสะพานก็ถูกคนกลุ่มหนึ่งเข้าโจมตี เพื่อเป็นการเอาชีวิตรอดเธอจึงกระโดดลงไปในน้ำและหลบหนี
ขณะนี้เป็นฤดูหนาวพอดี ที่ผิวน้ำมีน้ำแข็งเกาะตัวกันบางๆ
ความหนาวเย็นของน้ำแข็งนั้นทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง จากที่พวกเขาทั้งหลายมองดูแล้ว เวินหนิงหานไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอทั่วไป ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่อาจมีชีวิตได้
ดังนั้นพวกโจรจึงได้หยุดไล่ตามเธอ จึงทำให้เวินหนิงหานรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด
ตอนที่ถังลั่วเหยาเริ่มอ่านเนื้อเรื่องในตอนนี้ เธอก็ฉากสำคัญ
ทั้งหมดนี้มีฉากสำคัญอยู่สองจุด จุดที่หนึ่งคือการที่เวินหนิงหานมีความคิดขัดแย้งกับคุณนายเวิน
จุดที่สองก็คือ การที่เวินหนิงหานพยายามหนีเอาตัวรอด
จุดแรกนั้นเป็นฉากเริ่มต้นของเรื่อง และนับว่าเป็นฉากที่สำคัญมากทีเดียว
ในระยะเวลาสั้นๆเพียงไม่กี่นาที ถังลั่วเหยาต้องแสดงออกมาอย่างเต็มบทบาท ความเด็ดขาดที่จะล้างแค้นให้บิดา ในขณะเดียวกันเธอก็ค่อนข้างจะผิดหวังกับมารดา แต่ยังคงต้องแสดงถึงความกตัญญู และยินยอมในการกระทำของมารดาที่เธอเองไม่ได้เห็นด้วยนัก
หากว่าถังลั่วเหยาสามารถแสดงออกมาได้อย่างโดดเด่น เพียงแค่ฉากนี้เท่านั้น เธอก็จะสามารถเข้าถึงเนื้อหาตัวละครได้
แต่ว่ามันจะง่ายดายอย่างนั้นหรือ?
ดังนั้นท่ามกลางสายตาที่จับจ้องของทุกคน ทำให้ถังลั่วเหยาได้รับแรงกดดันอย่างสูง
สำหรับถังลั่วเหยาแล้ว ครั้งนี้เป็นการแสดงที่น่าทึ่งมาก
สำหรับเธอแล้วระหว่างการทำงาน หากสามารถท้าทายและเข้าถึงบทบาทของตัวละครได้ก็สำคัญกว่าใดๆทั้งสิ้น
ดังนั้นก่อนหน้าที่จะเปิดกอง ถังลั่วเหยาไม่ได้ทำท่าทางกระสับกระส่าย เธอไม่ได้พยายามสร้างแรงกดดันให้ตัวเอง เธอเพียงมองไปยังเพื่อนร่วมงานที่กำลังวุ่นวายกับการเตรียมงาน สายตาของเธอเผยถึงความรอคอยออกมา
สำหรับเธอแล้วนั้นการรอคอยนับว่าเป็นความสุขอย่างหนึ่ง
แต่สิ่งที่ถังลั่วเหยาไม่รู้ก็คือ ท่าทางของเธอเช่นนี้ในสายตาของหลิวหมิง มันเป็นเพียงการเสแสร้งเท่านั้น
ซึ่งก็จริงอยู่ จากคำที่ส้งเจียเจีย ใส่ความเธอเอาไว้ จึงทำให้หลิวหมิงไม่เหลือความประทับใจดีๆกับถังลั่วเหยาเลย
แต่ว่าถังลั่วเหยาไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้
สิ่งเดียวที่เธอให้ความสนใจนั่นก็คือเธอจะเริ่มแสดงเมื่อไหร่ และจะได้เริ่มหายใจไปพร้อมกับตัวละครในเรื่อง
สิ่งที่ทำให้ถังลั่วเหยารู้สึกดีใจนั่นก็คือเธอไม่ได้รออยู่นานมากนัก
ไม่นานต่อมาทุกคนก็เตรียมตัวเสร็จ
ถังลั่วเหยาที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จตั้งแต่เช้าลุกขึ้นยืน เธอตบลงบนชุดที่สวมใส่ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างมั่นใจ แล้วเดินมุ่งหน้าไปตรงกลาง
“ฉันจะคอยดู ว่าจะไปได้สักกี่น้ำ” หลิวหมิงมองไปยังถังลั่วเหยาที่ทำท่าทางกระตือรือร้น มุมปากของเขาเผยอขึ้นและยิ้มอย่างเยือกเย็น
เมื่อเดินมาถึงตรงกลางฉาก ถังลั่วเหยาก็ยิ้มให้กับผู้หญิงที่จะมาแสดงร่วมกับเธอในฉากนี้ เป็นความหมายถึงทักทาย
สายตาของผู้หญิงคนนั้นปรากฏความรุนแรงออกมา และฝืนตอบรับเธอกลับ
เธอจำได้ดีถึงเรื่องที่ส้งเจียเจียกำชับเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ต้องทำให้ถังลั่วเหยาแสดงออกมาได้ไม่ดี จึงทำให้จิตใจของเธอลุกลี้ลุกลน
ที่จริงแล้วเธอไม่อยากรับหน้าที่นั้นเลย
แต่น่าเสียดายที่ส้งเจียเจียบีบบังคับให้เธอทำแบบนี้ อีกทั้งยังข่มขู่เธอว่าถ้าไม่ทำตามที่บอก ส้งเจียเจียจะไปเกลี้ยกล่อมหลิวหมิงให้คัดเธอออกไปจากกอง
เธอคนนี้ใช้ความพยายามอย่างสูงกว่าจะได้รับบทบาทนี้มา ใจของเธอรู้ดีกว่าใคร
ดังนั้นเธอจึงต้องรักษาโอกาสนี้ให้ดีที่สุด ไม่อยากจะทำให้เป็นเพราะถังลั่วเหยา จึงทำให้ถูกเตะออกจากกองถ่ายโดยไม่รู้เรื่องรู้ราว
ไม่นานต่อมาฉากแรกก็เริ่มลงมือถ่ายทำ
เพียงเมื่อเธอเอ่ยประโยคแรกออกมา ถังลั่วเหยาก็รู้สึกว่าคู่แสดงของเธอนั้นไม่มีความรู้สึกอะไรเลย
จะพูดว่าอย่างไรดี อืม อาจพูดได้ว่า เธอนั้นแสดงบทบาทตัวละครของเรื่องอยู่ แต่ถังลั่วเหยาไม่ได้รู้สึกถึงอารมณ์ของตัวละครนั้นเลย