วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 414 ไม่ต้องสนใจเขา

บทที่ 414 ไม่ต้องสนใจเขา

แต่ไม่ว่าจะอายขนาดไหน สิ่งที่ตนเองทำแล้ว ตนเองก็ต้องรับผิดชอบแก้ไขปัญหา

เฟิงยี่ถอนหายใจลึกๆ

“เมื่อคืน ผมเมาจริงๆ ผมขอโทษที่ล่วงละเมิดทำอะไรคุณลงไป แต่ว่าไหนๆเรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้ว ถ้าอย่างนั้นเราสองคนก็คบกันไปเลยดีไหม?”

ถังลั่วเหยาลืมตาโต

ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะพูดคำพูดแบบนี้ออกมาได้

“คบกัน? คบกับน้องสาวมึงไปดิ!”

เธอโมโหสุดๆ ถีบเฟิงยี่ลงจากเตียงอีกครั้ง ตะคอกกลับไปอีกว่า: “ถึงแม้ผู้ชายบนโลกใบนี้จะตายไปจนหมด ฉันก็ไม่มีวันคบกับนายหรอก ยังจะให้คบกันอีกเหรอ? ไปคบกับผีคนเดียวเลยไป!”

พูดจบ เธอไม่สนใจเขาอีกเลย ดึงผ้าห่มปิดตัวเองไว้และโดดลงจากเตียง วิ่งไปทางห้องน้ำด้วยความโมโห

ไม่นาน ในห้องน้ำก็มีเสียงน้ำไหลดังออกมาข้างนอก

เฟิงยี่กุมหัวเข่าของตนเองที่ถูกถีบจนเจ็บ ร้องเจ็บโอ้ยๆเบาๆและลุกขึ้นยืน จากนั้นมองไปทางห้องน้ำ แววตาหม่นหมองลงเล็กน้อย

ไม่นานนักถังลั่วเหยาก็อาบน้ำเสร็จเรียบร้อย

ตอนที่อาบน้ำเสร็จออกมา บนตัวมีแต่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว หัวไหล่ที่ขาวเนียนใต้เส้นผมยาวที่พาดลงมาบนไหล่ ยังมองเห็นรอยจูบที่ร้อนแรงของเมื่อคืน

เธอก้มลงไปเก็บเสื้อผ้าของตนเองที่ถูกฉีกจนขาด มองดูแล้ว สีหน้าไม่น่าดูเลย

จากนั้น แววตาก็มองไปที่ไม่ไกลนัก เสื้อเชิ้ตสีขาวที่ชายหนุ่มโยนไว้บนโซฟา

ถึงแม้รู้สึกรังเกียจหน่อย แต่ว่าในเวลานี้ ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ดังนั้นจึงเดินไปเก็บเสื้อเชิ้ตสีขาวและเดินเข้าไปในห้องน้ำ

เฟิงยี่อ้าปาก กำลังจะพูดอะไรสักอย่าง แต่พูดไม่ทัน

ปิดประตูห้องน้ำดัง “ปั้ง” ผ่านไปประมาณหนึ่งนาที ถังลั่วเหยาเดินออกมาอีกครั้ง บนตัวใส่เสื้อเชิ้ตของเขา

รูปร่างของหญิงสาวทั้งบางทั้งผอม สูงหนึ่งร้อยหกสิบเซนติเมตร ใส่เสื้อของเขาที่สูงหนึ่งร้อยแปดสิบสาม เสื้อเชิ้ตยาวลงมาจนถึงหัวเข่า

เฟิงยี่มองดูจนลำคอคลื่นตัว กลืนน้ำลาย

“คุณ……”

“ฉันขอเตือนคุณ เรื่องระหว่างเราสองคน ห้ามพูดออกไปเด็ดขาด ห้ามพูดแม้แต่คำเดียว!”

คำพูดของเขายังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกหญิงสาวขัดขวาง

ถังลั่วเหยาจ้องหน้าเขาอย่างโหด หลังจากที่ตักเตือนเขาแล้ว ค่อยหยิบกระเป๋าของตนเอง เดินออกไปด้านนอก

เฟิงยี่ทำหน้าหงอย

“คุณจะไปไหน?”

“คุณไม่ต้องมายุ่ง!”

ประตูดัง “ปั้ง!” อีกครั้ง

ในห้องเงียบไปทันที

เฟิงยี่ยืนอยู่ตรงนั้น มองดูประตูที่ถูกกระแทก สักพักหนึ่ง ค่อยยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

ส่วนอีกฝ่าย ในขณะนี้

จิ่งหนิงและลู่จิ่งเซินขึ้นเครื่องบินที่จะบินไปประเทศF

ผ่านไปสี่ปี ค่อยกลับไปสถานที่คุ้นเคยแห่งนั้นอีกครั้ง จิ่งหนิงรู้สึกสับสนในใจ

เธอเคยคิดว่า ตนเองจากไปแล้ว บางทีชีวิตนี้จะไม่กลับมาที่นี่อีก

แต่กลับนึกไม่ถึง เพียงแค่สี่ปี……

แค่สี่ปี ทุกสิ่งยังไม่เปลี่ยนไปแต่ใจคนเปลี่ยนไปหมดแล้ว

ชูยีตายแล้ว มีหลินเทียนมาควบคุมดูแล ตาKตายแล้ว ใครมาควบคุมดูแล?

นึกถึงเมื่อก่อนตาKช่วยเหลือตนเองอย่างไม่คิดชีวิต จิ่งหนิงรู้สึกหนักใจ เหมือนมีก้อนหินก้อนหนึ่งกดทับไว้จนหายใจไม่ออก

แต่ก็ยังดี ครั้งนี้เธอไม่ได้มาคนเดียว

ยังมีลู่จิ่งเซินอยู่ข้างๆเธอ

เหมือนจะเข้าใจความรู้สึกของเธอ ฝ่ายชายกุมมือเธอไว้แน่นและบอกเธอ: “รอให้เราไปถึงที่โน่นแล้ว อาจจะต้องไปเยี่ยมเยียนตระกูลจิ้นสักหน่อย ครั้งนี้ผมออกมา ไม่บอกคนอื่นสักคนเดียว บอกแค่จี้หลินยวน เขาเป็นทายาทรุ่นต่อไปที่จะสืบทอดตระกูลจิ้น ตระกูลจิ้นมีอำนาจมากในประเทศF น่าจะมีประโยชน์ต่อการตรวจสอบของพวกเรา”

จิ่งหนิงพยักหน้า

ตระกูลจิ้นโยกย้ายถิ่นฐานออกนอกประเทศตอนปลายศตวรรษที่แล้ว ได้ยินมาว่าอำนาจที่อยู่เบื้องหลังไม่อาจหยั่งรู้ได้เลย

ยิ่งกว่านั้นคือ พวกเขาก้าวหน้าได้ขนาดนี้เป็นเพราะเดินทางใต้ดิน หลังจากที่ได้สร้างประเทศแล้ว การลงทุนธุรกิจภายในประเทศที่ไม่เอื้ออำนวย จึงออกนอกประเทศ ด้วยฝีมือและพื้นฐานที่หนักแน่นเกินไปของพวกเขา ในวันนี้เกือบจะครอบงำวงการใต้ดินของประเทศFจนหมดแล้ว

อยากตรวจสอบเรื่องราวบางอย่าง ลู่จิ่งเซินทำได้ แต่ถ้าจะตรวจสอบกลุ่มมังกร การตายของตระกูลจื่อจินและตาK ถ้าไม่มีตระกูลจิ้นช่วยเหลือ จะไม่สะดวกจริงๆ

นึกถึงเช่นนี้แล้ว จิ่งหนิงหายใจลึกๆแล้วค่อยๆคลายออก

มองดูนาฬิกา เวลายังเช้าอยู่ การเดินทางไกลอย่างน้อยเจ็ดแปดชั่วโมง

ดังนั้นจึงพูดว่า: “พักผ่อนสักพักเถอะ ถึงที่โน่นน่าจะเป็นตอนเช้าพอดี จะปรับเวลาให้ชินอาจจะต้องใช้เวลาหน่อย”

ลู่จิ่งเซินก็พยักหน้าด้วย ทั้งสองคนจึงหลับตาพักผ่อน

เครื่องบินถึงที่ประเทศFเป็นเวลาหกโมงเช้า

ลู่จิ่งเซินได้แจ้งตระกูลจิ้นล่วงหน้า ดังนั้นเพิ่งลงจากเครื่องบิน ก็เจอคนขับรถของตระกูลจิ้นที่ให้มารอรับพวกเขาที่สนามบิน

ทั้งสองคนกล่าวขอบคุณแล้ว ก็ไม่เกรงใจ เดินตามไปขึ้นรถ จากนั้นกลับตระกูลจิ้น

คฤหาสน์ของตระกูลจิ้นอยู่ในเขตที่พักของคนรวยในเมืองหลินของประเทศF มีทั้งภูเขามีทั้งแม่น้ำ พื้นที่ใหญ่กว่าสวนสาธารณะ มองไปไกลๆจะรู้สึกว่าที่นั่นเหมือนปราสาทที่สูงตระหง่านเหลืองอร่ามงามตา คู่ควรกับตระกูลอันยิ่งใหญ่ของคนจีนในประเทศF

รถแล่นมาถึงสวนดอกไม้ของคฤหาสน์ ได้ขับผ่านถนนที่ปลูกต้นเมเปิ้ลทั้งสองข้างทาง สุดท้ายจอดรถตรงหน้าคฤหาสน์ที่หรูหราอลังการ

“คุณลู่ คุณนายลู่ครับ ถึงแล้วครับ”

มีพ่อบ้านรอรับและช่วยคอยเปิดประตูรถให้พวกเขา ทั้งสองคนลงจากรถแล้ว เดินตามพ่อบ้านที่นำทางเข้าไปด้านใน

“จิ่งเซินกับหนิงหนิงมาแล้วเหรอ”

เพิ่งจะเดินเข้าประตู ก็ได้ยินเสียงที่กระตือรือร้นของคุณหญิงจิ้น

จิ่งหนิงและคุณหญิงจิ้นได้รู้จักกันเพราะติดตามดาราที่ชื่นชอบ จึงสนิทสนมกันมาก

พอเข้าไปแล้ว ก็ได้รับการต้อนรับด้วยความยินดีจากคุณหญิงจิ้น

“ฉันบอกพวกคุณแล้วตั้งนาน มีเวลาว่างต้องมาที่นี่ ดีจังเลย ในที่สุดก็ได้มาอย่างที่หวังไว้สักที”

ลู่จิ่งเซินกับจิ่งหนิงได้กล่าวสวัสดีคนที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกทีละคน เพิ่งสังเกตเห็นว่าวันนี้คนในตระกูลจิ้นเยอะมากจริงๆ

นอกจากพวกเขาสองคนแล้ว ตระกูลจิ้นเหมือนมีแขกท่านอื่นอยู่ด้วย

คุณหญิงจิ้นยิ้มและกล่าว: “มาเร็ว ฉันแนะนำให้คุณสองคนได้รู้จัก หลายๆท่านในที่นี้คือพี่น้องของปู่คุณที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยกัน ท่านนี้คือลุงเฉิน ท่านนี้คือลุงไป๋……”

แนะนำครบหมดแล้ว จิ่งหนิงถึงได้พอเข้าใจขึ้นมาบ้าง

ส่วนมากเป็นผู้ใหญ่รุ่นคุณปู่ ในช่วงปลายศตวรรษที่แล้ว เกิดกระแสการย้ายถิ่นฐานไปยังต่างประเทศในตอนนั้น คนกลุ่มนี้ น่าจะออกมาพร้อมกับตระกูลจิ้นในตอนนั้น

ในวันนี้ ผ่านไปหลายสิบปี ได้กลายเป็นกลุ่มคนผู้มีอำนาจที่ไม่สามารถดูถูกได้

ทั้งสองคนทักทายทุกคนอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน ยังไม่ทันนั่งลงกับที่ ก็ได้ยินเสียงอุทานที่ตกใจเพราะความดีใจ

“พี่จิ่งเซิน พี่มาได้ยังไง? โอ้พระเจ้า ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม!”

ทุกคนต่างตะลึงเล็กน้อย

จิ่งหนิงหันไปมอง เห็นคนที่มาคือหญิงสาวที่แต่งตัวด้วยชุดสไตล์อังกฤษดูห้าวหาญ

หน้าตาไม่ถือว่าสวยมาก แต่คิ้วดกมาก ดูห้าวๆ สีผิวเป็นสีแทนที่ดูแข็งแรง ไม่ค่อยเหมือนหญิงสาวภายในประเทศ

เธอวิ่งเข้ามาด้วยความดีใจและจับแขนของลู่จิ่งเซินไว้ทันที

ลูกจิ่งเซินขมวดคิ้วขึ้น แต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือ ได้แต่พูดด้วยน้ำเสียงที่เบาๆ: “หยุนหยุน? ไม่เจอกันหลายปี โตขนาดนี้แล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้ว”

คุณหญิงย่าจิ้นมองดูจิ่งหนิงแล้วแนะนำให้ด้วยความยิ้มแย้ม: “คนนี้คือหลานสาวของฉันเอง นามสกุลซู ชื่อหยุนคำเดียว ตอนนี้เป็นทหารอากาศทำงานอยู่กองทัพอากาศ เมื่อก่อนตอนเด็กๆอยู่ในประเทศ เติบโตมาด้วยกันกับพวกจิ่งเซิน”

จิ่งหนิงยักคิ้วนิดๆ

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset