ตอนที่ 170 นางพญา
ระหว่างที่พวกเรากำลังตกตะลึง แต่หมอผีคนนั้นกลับพูดว่า จะทำให้พวกเรากลายเป็นส่วนหนึ่งของเจ้าหนอนยักษ์นั้น
พวกเราจึงได้สติทันที และผมก็อารมณ์เสียมากๆ
ปีศาจที่เลี้ยงแมลงอย่างแก พวกเรามาบุกถึงที่แล้ว ยังกล้าทำปากดีอีกนะ
ดูเหมือนถ้าไม่ทำให้เขาได้เห็นดี เขาก็คงไม่รู้ถึงความร้ายกาจของพวกเรา
“ ไอ้ปีศาจ วันตายของแกมาถึงแล้ว ยังกล้าทำปากดีอีกนะ ! ” ผมตะโกนออกมาตรงๆ ในเวลาเดียวกันก็ใช้ดาบไม้ชี้ไปที่เขา
แต่หมอผีคนนั้นกลับหันหน้ามามอง เขาจ้องผมอย่างเย็นชา “ รนหาที่ตาย ! ”
หลังจากพูดจบ เขาก็แกว่งมืออย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นแมลงที่เกาะแขนเขาอยู่ ก็กระเด็นมาทางผมอย่างรวดเร็ว
ผมจะกล้ารอช้าได้ยังไง ผมรีบเบี่ยงตัวหลบ หนอนพวกนั้นจึงลอยผ่าน ลำตัวของผมไป
ตอนแรกผมคิดว่าสามารถหลบการโจมตีของหนอนพวกนั้นได้หมด แต่ใครจะรู้ วินาทีที่หนอนพวกนั้นลอยผ่านตัวผมไป จู่ๆพวกมันตัวหนึ่งก็พ่นน้ำสีเขียวออกมาจากปาก
“ ฟู่ ”
แม้ว่าน้ำที่ออกมาจะมีไม่มาก แต่มันจะต้องอันตรายอย่างแน่นอน
ผมตกใจ รีบหลบอีกครั้ง
แต่ก่อนหน้านี้คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะสามารถทำแบบนี้ได้ ดังนั้นผมจึงไม่สามารถหลบน้ำที่พุ่งออกมาได้
ตอนที่ผมเห็นว่าตัวเองแย่แล้ว ท่านนักพรตตู๋กลับเอื้อมมือเข้ามา จากนั้นก็กางร่มที่พกติดตัวออก “ พรึบ ” ร่มคันนั้นหยุดน้ำพวกนั้นเอาไว้ได้พอดี
แต่น้ำพวกนั้นเพิ่งสัมผัสโดนตัวร่ม ทันใดนั้นเสียง “ ซ่าซ่าซ่า ” ก็ดังขึ้น จากนั้นควันสีดำก็โพยพุ่ง ร่มที่เคยดูดีก็กลายเป็นรูเล็กๆในทันที
เมื่อเห็นภาพนี้ ผมก็ช็อก มันอันตรายมาก
ท่านนักพรตตู๋แสดงสีหน้าเคร่งขรึม “ น้ำนี่มีพิษ ระวังเอาไว้ด้วยละ…… ”
เมื่อหมอผีเห็นผมสามารถรอดพ้นจากอันตรายได้อย่างหวุดหวิด เขาก็หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “ นี่มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ยังหลบไม่พ้น งั้นต่อไปพวกแกก็คงต้องสนุกแล้วละ ! ”
หลังจากพูดจบ หมอผีคนนั้นก็มองไปยังหนอนยักษ์ “ นางพญา พวกมันเป็นของเธอ ไปกินพวกมันซิ ! ”
ในเวลาเดียวกัน หมอผีคนนั้นก็ลูบที่หัวของหนอนยักษ์
ทันใดนั้น หนอนยักษ์ก็เริ่มคึกคัก ในเวลานี้มันก็ดูตื่นเต้นมาก
ดวงตาของมันเป็นประกายแวววาว ในปากคำราม “ คา ” ออกมาหนึ่งครั้ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้น และเริ่มพ้น “ น้ำลาย ” ใส่พวกเราสามคนอย่างบ้าคลั่ง
“ ฟู่ฟู่ฟู่ ” น้ำลายพวกนั้นลอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มันทั้งเร็ว และเยอะมาก
วินาทีนั้นม่านตาของพวกเราสามคนหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว พวกเราไม่กล้าประมาท
ทุกคนต่างกางร่มที่พกออกอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เริ่มหาที่หลบ
ระหว่างนั้น เจ้าหมอผียังปล่อยพวกหนอนออกมาเป็นบางครั้ง โจมตีใส่พวกเราจากทางด้านหนึ่ง
“ แหวะแหวะแหวะ ” น้ำกรดพวกนั้นพุ่งเข้ามาจากทุกสารทิศ
ถ้าสัมผัสกับมัน ผิวของคุณก็จะโดนกัด
เพราะต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวสดที่อยู่รอบๆถูกน้ำชนิดนี้เข้าไป ตอนนี้พวกมันจึงเริ่มแห้งเหี่ยวและจนกลายเป็นสีดำ จะเห็นได้ชัดว่าเจ้าสิ่งนี้มีพิษร้ายแรงขนาดไหน หรือเปรียบได้กับน้ำกรดซัลฟิวริกดีๆนี่เอง
หลังจากพวกเราหลบมาสักพัก ท่านนักพรตตู๋ก็พูดว่า “ จะหลบต่อไปไม่ได้ พวกนายคอยคุ้มกันฉันจากทั้งสองข้าง ดูซิว่าพวกเราจะฟันเจ้าสัตว์ประหลาดนั้นไม่ขาดได้เหรอ ! ”
“ ได้ครับ ! ” ผมตอบรับทันที
“ วางใจได้เลยอาจารย์ ! ” เฟิงเฉ่วหานเองก็ขานรับเช่นกัน
จากนั้น ท่านนักพรตตู๋ก็ตัวสั่น พลังของเขาขึ้นมาถึงจุดสูงสุด
ระหว่างนั้น ดูเหมือนการเคลื่อนไหวของท่านนักพรตตู๋จะเร็วขึ้นมาเท่าตัว ความคล่องตัวในการทำสิ่งต่างๆ ไม่เหมือนกับคนที่มีอายุ 50 เลยสักนิด
ตอนนี้ท่านนักพรตตู๋ถือดาบไม้ไว้ในมือหนึ่งข้าง ส่วนมืออีกข้างถือร่ม เขาหลบซ้ายหลบขวา วิ่งตรงเข้าไปหาหนอนยักษ์เรื่อยๆ
แต่ในเวลานี้หนอนยักษ์ตัวนั้นกลับโจมตีถี่กว่าเดิม น้ำกรดจากตัวมันพ่นเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ร่มที่ท่านนักพรตตู๋ถืออยู่ในมือ ได้ปรากฎรูโหว่ขนาดใหญ่แล้ว
แม้แต่เสื้อผ้าของท่านนักพรตตู๋ ก็ยังถูกกัดเป็นจุดๆ
ถ้ายังเร็วไม่พอ และประมาทแค่เล็กน้อย ตอนนี้เขาก็คงติดพิษไปแล้ว และผลที่ตามมาก็คงเป็นหายนะ
แต่มันยังไม่จบเท่านี้ นอกจากหนอนยักษ์จะพ่นพิษออกมาอย่างต่อเนื่อง พวกเรายังต้องคอยระวังหนอนที่หมอผีปล่อยออกมา
นอกจากหนอนบนตัวหมอผีแล้ว ยิ่งพวกเราเข้าใกล้นางพญาได้มากเท่าไหร่ หนอนตัวเล็กๆที่อยู่รอบๆก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากเข้ามาในสนามรบนี้แล้ว พวกเราพบว่า
ไม่ใช่หนอนทุกตัวที่สามารถพ่นน้ำกรดออกมาได้ มีเพียงแค่ตัวที่เป็นสีแดงเข้ม และลำตัวมีเส้นเลือดสีแดงอยู่เท่านั้น ถึงจะพ่นน้ำกรดออกมาได้
และหนอนแบบนี้ก็มีไม่มาก แต่กลับอันตรายมาก
แต่ยิ่งพวกเราเข้าใกล้หมอผีและนางพญามากเท่าไหร่ จำนวนของหนอนชนิดนี้ ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
การเคลื่อนไหวของท่านนักพรตตู๋เร็วมาก ความคล่องแคล่วของร่างกายก็ยอดเยี่ยม ภายใต้การคุ้มกันของผมและเฟิงเฉ่วหาน ตอนนี้พวกเราได้ฝ่าเข้ามาถึงระยะ 3 เมตรจากตัวนางพญาแล้ว
ท่านนักพรตตู๋หลบการโจมตีอีกหนึ่งครั้ง จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับฟันดาบไม้ในมือออกไป “ ตายซะ ! ”
ตามพลังที่ท่านนักพรตตู๋มี ถ้าการแทงครั้งนี้โดนนางพญาจริงๆ นางพญาตัวนั้นก็จะต้องตายอย่างแน่นอน
แต่สิ่งที่พวกเราคิดไม่ถึงคือ วินาทีที่ท่านนักพรตตู๋กระโดดขึ้น
จู่ๆหนอนยักษ์ตัวนั้นก็อ้าปาก ส่งเสียง “ แหวะ ” ออกมา ทันใดนั้นน้ำลายรูปตาข่ายก็พุ่งออกมา
มันมีรูปร่างเหมือนใยแมงมุม หลังจากกางออก มันก็ไม่รอให้ท่านนักพรตตู๋ได้เข้าไปฟัน ทันใดนั้นมันก็เข้าไปห่อหุ้มตัวเขาไว้ทันที
และดูเหมือนตาข่ายสีขาวนั้นจะมีความสามารถหดตัว ตอนที่มันเพิ่งสัมผัสกับร่างของท่านนักพรตตู๋ มันก็เริ่มหดตัวอย่างรวดเร็ว
ท่านนักพรตตู๋ถูกควบคุมร่างกายเอาไว้ วินาทีนั้นร่างกายของเขาก็เสียสมดุล “ บึก ” จึงหล่นลงพื้นทันที
“ ท่านลุงตู๋ ! ”
“ อาจารย์ ! ”
ผมและเฟิงเฉ่วหานตกใจมาก พวกเราคิดไม่ถึงจริงๆ ว่านางพญาตัวนี้จะสามารถทำน้ำลายให้กลายเป็นตาข่ายได้ มันช่างแปลกประหลาดจริงๆ
แต่เหมือนหมอผีจะเดาทุกอย่างเอาไว้แล้ว ในเวลานี้เขาหัวเราะ “ ฮึฮึฮึ ” ออกมาอย่างเย็นชา “ กล้ามาสู้กับฉัน รนหาที่ตาย ! ”
หลังจากพูดจบ หมอผีคนนั้นก็ยกมือขึ้น เขาโยนหนอนหลายตัวเข้ามาทันที เห็นได้ชัดว่าในเวลานี้เขากำลังจะฆ่าท่านนักพรตตู๋
ผมและเฟิงเฉ่วหานเห็นแบบนี้ จึงตกใจหนักกว่าเดิม
“ อาจารย์…… ” เฟิงเฉ่วหานตกใจ
ผมเองก็ขมวดคิ้ว หน้าผากปรากฎรอยย่นที่น่าหวาดกลัวผิดปกติ วินาทีนั้นผมรีบเข้าไปทันที ผมต้องช่วยเขาให้ได้
แต่ระยะห่างระหว่างพวกเรา เห็นได้ชัดว่าเข้าไปช่วยไม่ทัน จึงทำได้เพียงมองดูหนอนพวกนั้นเข้าไปใกล้ท่านนักพรตตู๋
จบกัน ชีวิตของท่านนักพรตตู๋ตกอยู่ในอันตราย วินาทีนั้นหัวใจของผมเย็นวาบ
ผมคิดไม่ออกจริงๆ ในเวลานี้ผมจะช่วยท่านนักพรตตู๋ให้พ้นจากอันตรายได้ยังไง
ถ้าหนอนพิษพวกนั้นโดนตัวท่านนักพรตตู๋ หรือท่านนักพรตตู๋โดนน้ำกรดพวกนั้นกัด ท่านนักพรตตู๋ก็จะติดพิษ การโดนพิษในที่แห่งนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการตาย
พวกเรากลัวมาก กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น
แต่ ในเวลานั้นพวกเรากลับดูถูกท่านนักพรตตู๋มากเกินไป
ท่านนักพรตตู๋เป็นคนเรียนรู้วิชาด้วยตนเอง เคยร่อนเร่พเนจรไปทั่ว เคยไปเห็นภูเขาห้าเซียนที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เคยไปสู้บนผืนแผ่นดินทะเลใต้
เขาสามารถมีชีวิตได้ถึงอายุขนาดนี้ นอกจากจะคอยระวังตัวแล้ว ก็ไม่มีอะไรมารับประกันความสามารถของเขาอย่างแน่นอน
ขณะที่หนอนพิษพวกนั้นตกลงบนตัว ทันใดนั้นท่านนักพรตตู๋ก็ตะโกนออกมาทันที “ ขอเชิญเทพลุ่ยลิ้ง เปิด ! ”
เสียงดังก้อง ในวินาทีนั้น จู่ๆผมก็รู้สึกถึงพลังหยางที่ระเบิดออกมา มันเป็นพลังที่เยอะกว่าพวกเราถึงหลายเท่าตัว
สายลมลูกใหญ่พัดไปมา วินาทีนั้นรอบๆตัวของเขากระจายออก หนอนหลายตัวที่ลอยเข้ามาหาเขา ได้ถูกพัดออกไปทันที
จากนั้น เสียง “ ปัง ” ก็ดังขึ้น ตาข่ายน้ำลายสีขาวที่รัดตัวท่านนักพรตตู๋เอาไว้ ได้ขาดออกจากกันทันที
ท่านนักพรตตู๋เหมือนปลากระโดดกลับหลัง เขารีบลุกขึ้นทันที
หลังจากท่านนักพรตตู๋ลุกขึ้น ท่าทางของเขาก็ดูสง่างามมาก เขาแสดงสีหน้าตาเฉยชา
เขาจับดาบไม้ขึ้น จากนั้นก็มองหมอผีอย่างเย็นชา
ทันใดนั้นปากของเขาก็พูดอย่างรุนแรง “ ชีวิตของข้า ไม่ใช่สิ่งหมอผีอย่างแกจะเอาไปได้…… ”