หลังจากอาจารย์และเหล่าฉินจากไป ภายในบ้านก็เหลือเพียงผมและเฟิงเฉ่วหาน อ่อใช่และยังมียัยผีที่วิญญาณกำลังแตกสลายอยู่ด้วย
ผมและคุณชายเย็นชาหันไปมองเธอ แต่สิ่งที่คิดไม่ถึงก็เกิดขึ้น
ร่างวิญญาณขาดวิ่นของยัยผีร้ายนี้ กำลังพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ติง ติงฝาน ถึง ถึงตอนนี้แกจะยังไม่ตาย แต่ แต่ยัยนั้นก็ต้องฆ่าแกอยู่ดี ฆ่าแกให้ตาย!”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ วินาทีนั้นผมตกตะลึงในทันที
หมายความว่ายังไง ยัยนั้นจะฆ่าผมงั้นเหรอ แล้วยัยนั้นคือใคร
ขณะนั้นผมก็งงเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นผมก็พูดออกไปตรงๆ “ยัยนั้นคือใคร”
ผีผู้หญิงหัวเราะ “ฮึฮึฮึ” ออกมา ดวงตาทั้งสองข้างจับจ้องไปที่ด้านหลังของผม
ทันใดนั้นก็ทำให้ผมรู้สึกเย็นวาบไปที่หลัง ไม่ใช่แค่ผมที่สงสัย แม้แต่เฟิงเฉ่วหานเองก็หันไปมองข้างหลังผมอย่างไม่รู้ตัว
แต่ด้านหลังของผมนั้นว่างเปล่า ไม่มีอะไรทั้งสิ้น
ขณะที่ผมกำลังจะถามต่อ ผีผู้หญิงตนนั้นก็จางหายไปเสียแล้ว วิญญาณของเธอค่อยๆแตกสลายหายไปจากตรงหน้า
ดั่งคำโบราณว่าไว้ ในยามใกล้ตาย คำพูดคำจาล้วนดีมาก
ตอนที่ผีผู้หญิงพูดประโยคสุดท้าย เธอมองมาที่ด้านหลังของผม
ทำให้ผมคิดถึงผีเมีย นอกจากเธอแล้วยังจะมีใครอีกละ
แต่มันไม่มีเหตุผล อาจารย์เคยบอกว่า เมื่อคนเป็นแต่งงานกับคนตาย แม้จะมีกฎข้อห้ามมากมาย แต่เพียงแค่ถ้าผมไม่ล้ำเส้นผมเองก็จะไม่ตาย
ในเวลาเดียวกัน พวกเรายังมีชีวิตและร่างกายเดียวกัน ถ้าตายก็ต้องตายด้วยกัน และยัยผีนั้นก็ยังต้องได้รับผลกระทบต่างๆด้วย
แต่ขณะที่วิญญาณของผีผู้หญิงตนนี้กำลังแตกสลาย คงไม่ได้อยากทำให้ผมสับสนหรอกมั้ง
ในขณะนี้ผมกำลังสับสน แต่ทันใดนั้นคุณชายเย็นชากลับพูดกับผมว่า “ดูเหมือนยัยผีนี้จะพูดเป็นนัย!”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชามาก เหมือนกับไม่มีความรู้สึกใดๆเลย
ผมยิ้มแห้งๆ แต่ก็พูดถึงเรื่องแต่งกับผีไม่ได้ “ยัยผีนี้พูดเรื่อยเปื่อย! คงอยากให้พวกเรารอโง่ๆอยู่ที่นี่น่ะ ป่ะไปหาพวกเขากัน! ไม่แน่อาจช่วยอะไรได้บ้าง!”
เมื่อคุณชายเย็นชาได้ยินผมพูดแบบนี้ เขาไม่ได้รีบตอบกลับมาทันที หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง เขาก็พยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “โอเค!”
เมื่อได้ยินคุณชายเย็นชาตกลง ผมสองคนก็จับดาบไม้ขึ้นและวิ่งออกจากบ้านไปทันที
แต่หลังจากที่พวกเราออกมา รอบๆตัวต่างมืดมิด มองไม่เห็นอะไรเลยสักนิด นอกจากนั้นยังไม่มีร่องรอยของนักพรตตู๋หรือคนอื่นๆเลยสักนิด
ขณะที่ผมกำลังยืนงุนงง ผมไม่รู้ว่าควรไล่ตามไปทางไหนดี
ทันใดนั้นคุณชายเย็นชาก็ชี้ไปทิศทางหนึ่ง “น่าจะเป็นทางนี้!”
หลังพูดจบ เขาก็พุ่งออกไปทันที ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว
ผมไม่แน่ใจว่าเขาใช้อะไรมาตัดสิน แต่สุดท้ายก็ต้องตามเขาออกไป
แต่หลังจากที่พวกเรายิ่งตรงไปข้างหน้า กลับพบว่ามันยิ่งลึกเข้าไปเรื่อยๆ
ด้านหลังของทางเส้นนี้ ล้วนมีแต่ต้นไม้สูงใหญ่ แม้ว่าผมจะเป็นเจ้าถิ่น แต่ก็มาที่นี่น้อยมาก
ขณะนี้พวกเรากำลังเดินอยู่ในป่าที่มืดมิด ผมมักรู้สึกใจหวิวๆ และทั่วทั้งร่างยังรู้สึกถึงสายลมที่หนาวเย็น
หลังตามมาได้ไม่นาน พวกเราก็ยังไม่เจอใครสักคน ผมจึงพูดกับคุณชายเย็นชาว่า “เฟิงเฉ่วหาน นายพามาผิดที่รึเปล่า ถ้าตรงไปข้างหน้ามันก็เป็นภูเขาที่เก่าแก่แล้วนะ”
แต่คุณชาเย็นชากลับทำสีหน้าเยือกเย็น “น่าจะไม่ผิด ทิศทางนี้พลังหยิงแรงมาก และยังมีร่องรอยที่ถูกทิ้งไว้ด้วย”
ขณะที่พูด พวกเราก็ยังเดินตรงไปข้างหน้าเรื่อยๆ
หลังจากที่พวกเราเดินผ่านพุ่มไม้และต้นหญ้า จู่ๆพวกเราก็เดินมาถึงลำธารเล็กๆ
เสียงกระแสน้ำที่ไหลรินดัง “จ๋อมแจ๋ม…” แต่ก็มองไม่เห็นต้นน้ำ
ผมสองคนจ้องมันอยู่ครู่หนึ่ง ขณะที่กำลังจะข้ามลำธารเล็กๆนั้น
ทันใดนั้น ที่ปลายของลำธารก็มีเสียงดังขึ้นมาเบาๆ “เสี่ยว เสี่ยวฝาน เสี่ยวฝาน……”
แม้เสียงจะไม่ดัง แต่เมื่ออยู่ในภูเขาที่เก่าแก่แห่งนี้ ผมกลับได้ยินชัดอย่างไม่น่าเชื่อ
นี่มัน นี่มันเสียงอาจารย์นิ
สีหน้าของผมเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบหันไปมอง “นี่มันเสียงอาจารย์!”
หลังจากพูดจบ ผมก็ตะโกนไปทางนั้น “อาจารย์ เป็นคุณใช่ไหม”
“ใช่ ใช่อาจารย์เอง อาจารย์บาดเจ็บ แก แกรีบมาช่วยฉันหน่อย!” เสียงค่อยๆอ่อนลงเรื่อยๆ
เมื่อได้ยินเสียงนี้ ทั่วทั้งตัวของผมก็ร้อนรนทันที
“อาจารย์ ผมมาแล้ว ผมมาแล้ว!” ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับอาจารย์ แต่ผมก็รีบวิ่งอย่างบ้าคลั่งตรงไปยังทิศทางของเสียงทันที
แม้เฟิงเฉ่วหานจะไม่พูด แต่เขาก็ตามหลังผมมา
ผ่านไปไม่นาน พวกเราก็มาถึงแอ่งน้ำแห่งหนึ่ง
เมื่อพวกเรามาถึงที่นี่ ก็พบว่าห่างออกไปไม่ไกลจากแอ่งน้ำ กำลังมีคนแก่นอนอยู่หนึ่งคน
เขาบาดเจ็บ ร่างกายครึ่งท่อนกำลังแช่อยู่ในน้ำ และดูเหมือนเขาจะไม่สามารถขยับท่อนล่างได้
เมื่อลองมองดูดีๆ ถ้าไม่ใช่อาจารย์ แล้วจะเป็นใครได้ล่ะ
สีหน้าผมก็เปลี่ยนไปในทันที “อาจารย์!”
อาจารย์พยักหน้าเล็กน้อย หน้าตาของเขาบ่งบอกถึงความเจ็บปวดและความอ่อนแอ “เสี่ยวฝาน แก แกมาแล้วเหรอ รีบมาพยุง พยุงอาจารย์หน่อย! ผีชั่วนั้นร้ายกาจมาก ฉันเลยได้รับบาดเจ็บ!”
เมื่อผมเห็นอาจารย์ของตัวเอง วินาทีนั้นผมไม่คิดอะไรทั้งสิ้น
แม้แต่เฟิงเฉ่วหานเองก็ไม่สงสัยใดๆ เขาและผม ต่างพุ่งเข้าไปทันที เพื่อไปพยุงอาจารย์ออกมาจากน้ำ
แต่ ในช่วงระยะห่างไม่ถึง 2 เมตร ทันใดนั้นหูของผมก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงที่ฟังเหมือนเคร่งเครียดและจริงจังดังขึ้นมา “อย่าเข้าไปเจ้าผู้ชายกาก เขาเป็นตัวปลอม!”
จู่ๆเสียงนี้ก็ปรากฏขึ้นในหูของผม นอกจากนั้นน้ำเสียงและสำเนียงนี้ มันยังคุ้นหูผมมาก
โดยเฉพาะ “ผู้ชายกาก” สองคำนี้ มันแทงใจผมทันที เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเสียงของผีเมียที่ไม่เคยเปิดเผยใบหน้าให้เห็น
วินาทีนั้นผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่เมื่อเสียงนี้ปรากฎขึ้น ร่างกายของผมก็หยุดในทันที
มือทั้งสองข้างยังจับตัวของคุณชายเย็นชาเอาไว้ หลังจากเฟิงเฉ่วหานถูกผมรั้งไว้ เขาก็ทำหน้าตาสงสัย
ผมหันไปมองทางซ้ายและขวาครั้งหนึ่ง แต่ก็ยังไม่เห็นผีเมียที่พูดออกมา แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังเลือกที่จะเชื่อเธอ
ผมมองไปยังอาจารย์ที่กำลังนอนอยู่ที่ริมน้ำ และเลือกที่จะไม่ขยับตัวสักพัก
ถ้าสิ่งที่ผีเมียของผมพูดถูก แล้วชายคนนี้เป็นใครกันละ สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุดคือ เขาอาจจะเป็นผีที่ถูกกดไว้ในน้ำตนนั้น ผีชั่วที่ไม่อาจเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
ได้ยินมาบ่อยๆว่า ผีชั่วที่อยู่ในน้ำนั้น เพื่อที่จะหาร่างมาแทน มันต้องวางแผนขึ้นมา จากนั้นก็หลอกคนเป็นให้ลงไปในน้ำ
อย่างเช่นปลาตัวใหญ่ขึ้นมาติดฝั่ง หรือเด็กน้อยตกลงไปในน้ำบ้าง ขอแค่สามารถทำให้คนติดกับและลงไปในน้ำได้ ก็ไม่ต้องหวังเลยว่าคนเหล่านั้นจะได้กลับขึ้นมาอีกครั้ง
แม้จะไม่รู้ว่านั้นคือของจริงหรือปลอม แต่ถ้ามองจากสถานการณ์ในตอนนี้ ผมก็คงต้องระวังเอาไว้ก่อน
“เสี่ยว เสี่ยวฝาน แกทำอะไร! รีบมาเร็วๆซิ!” เสียงที่อ่อนแรง แต่ก็ยังแฝงไปด้วยการเร่งเล็กน้อย
ผมจ้องไปที่อาจารย์ และถามว่า “อาจารย์ ดาบเหรียญจีนที่อาจารย์พกติดตัวไปอยู่ที่ไหนแล้วครับ”
อาจารย์ส่ายหน้าเล็กน้อย “อ่อ! เมื่อกี้มันหล่นลงไปในน้ำระหว่างการต่อสู้ อย่าไปสนใจไอ้ของเล่นพันนั้น ตอนนี้รีบเข้ามาช่วยพยุงฉันก่อน! ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเจ้าผีชั่วนั้นจะกลับมาอีก”
อาจารย์พูดด้วยน้ำเสียงที่รีบเร่งกว่าเดิม แต่ผมกลับเผยสีหน้าที่เครงเครียดออกมาทันที เพราะตั้งแต่ออกจากบ้านอาจารย์ก็ไม่ได้พกดาบเหรียญนั้นมาอยู่แล้ว
ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมจึงใช้คำเลียนแบบจากอาจารย์ ด่าเจ้านั้นทันที “แม่…ซิ แกมันตัวปลอม!”
ขณะที่พูด ผมก็จับดาบไม้ในมือขึ้น
เมื่อเฟิงเฉ่วหานได้ยินผมพูดแบบนี้ เขาเองก็ตื่นตัวขึ้นเช่นกัน เขาจับดาบไม้ในมือขึ้นและพูดว่า“แน่ใจแล้วใช่ไหม”
“แน่ใจ อาจารย์ไม่ได้เอาดาบเหรียญออกมาจากบ้าน” ผมพูดออกมาตรงๆ
เสียงพึ่งขาดหายไปเท่านั้น ทันใดนั้นร่างที่ไร้เรี่ยวแรง หรืออาจารย์ปลอมที่นอนอยู่ในแอ่งน้ำ ก็ค่อยๆลุกขึ้นมาทันที
ในเวลาเดียวกันเขายังทำสีหน้าโกรธแค้น ก่อนจะเผยรอยยิ้มที่น่าขนลุกออกมา “มองให้ดีๆ ฉันก็คืออาจารย์ของแก!”
สีหน้าของเฟิงเฉ่วหานเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ติงฝาน เจ้านี้เข้าสิงร่างของอาจารย์นาย ถึงว่าทำไมเมื่อกี้ฉันถึงมองไม่ออก! ระวังอย่าเข้าไปใกล้น้ำ เพราะเจ้านี้มันเป็นผีน้ำ”
ขณะที่พูดเฟิงเฉ่วหานก็พาผมเดินถอยหลัง ผมสูดหายใจเข้าหนึ่งครั้ง อยากจะพุ่งออกไปแทงเจ้านี้ในตาย แต่ความสามารถของตัวเองนั้นมีไม่พอ
ส่วนผีชั่วนี้ก็เดินเข้ามาหาพวกเราทีละก้าวๆ “ไหนๆก็มาแล้ว งั้นก็อย่าไปเลย แม้จะยุ่งยากไปหน่อย แต่มันก็เป็นไปตามแผน รอให้ได้ร่างธาตุน้ำไร้รากของแกมาก่อนเถอะ ฉันก็จะกลับมาเป็นอิสระอีกครั้ง!”
หลังจากพูดจบ เขาก็เร่งฝีเท้าขึ้น เผยให้เห็นสีหน้าที่ตื่นเต้นแบบประหลาดๆ เขาเล็งมาที่ผมสองคน ก่อนจะพุ่งเข้ามาทันที……