ตอนที่ 3089 สาวสวยมาหา
ที่แม่น้ำโฮไลท์นั้นเต็มไปด้วยอันตราย มันมีหลายสถานที่ที่แม้แต่หานเซิ่นเองก็ยังไม่กล้าไป มันไม่ใช่ว่าเขากลัวตาย เขาแค่กลัวว่าจะถูกขังอยู่ที่นั่นและไม่สามารถกลับออกมาได้
โชคดีที่หานเซิ่นได้รับคําแนะนํามาจากเฟเธอร์แฟรี่ ทําให้เขาสามารถหลีกเลี่ยงจุดที่เป็นอันตรายต่างๆได้ หลังจากที่เขาได้เพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์ตามต้องการ เขาก็กลับไปที่เครื่องเทเลพอร์ตได้อย่างปลอดภัย นอกจากนั้นในระหว่างทางกลับ หานเป็นยังได้รับไข่ยีนระดับเอิร์ลและไวเคานต์มาหลายสิบใบจากยีนเรซที่พบ เขามีแผนที่จะนําพวกมันกลับไปวางขาย
หลังจากที่กลับไปถึงโรงแรม หานเซิ่นก็รู้สึกโล่งใจที่เห็นว่ามิสเตอร์หยางและคนอื่นๆยังปลอดภัยดี
“ทุกคนมารวมกันตรงนี้ ข้ามีบางสิ่งจะบอกพวกเจ้าทุกคน”
หานเซิ่นเรียกทุกคนมาและเล่าเหตุการณ์ที่เขาฆ่ากงซูจินให้ทุกคนฟัง แต่หานเซิ่นไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมาก มิสเตอร์หยางและคนอื่นๆอ้าปากค้าง พวกเขาพูดอะไรไม่ออก
“นายท่าน กงซูจื่อที่นายท่านพูดถึง… ใช่คนเดียวกับที่เป็นมิสเตอร์ที่มีชื่อเสียงมากๆในอาณาจักรฉันไหม?” มิสเตอร์หยางถาม เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นความจริง
“ใช่ เขานั่นแหละ” หานเซิ่นพูด
“สิ่งที่จะตามมานั้นจะเต็มไปด้วยอันตราย เขาต้องมาแก้แค้นข้าอย่างแน่นอน นั่นหมายความว่าพวกเจ้าที่เป็นคนของข้าจะถูกลูกหลงไปด้วย การติดตามข้าต่อไปจะเป็นอะไรที่อันตราย ถ้าพวกเจ้าต้องการจะไปจากที่นี่ พวกเจ้าก็เอาเงินที่ได้จากการขายไข่ยีนและไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในสถานที่อื่นที่อิสระ”
มิสเตอร์หยางรีบพูดขึ้นมาทันที “ข้าเลือกที่จะติดตามนายท่านไปเรียบร้อยแล้ว ข้าไม่คิดจะหนีไปเพียงเพราะข้ากลัวอันตราย แถมที่นี่ก็เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรฉิน แม้แต่กงซูจื่อคนนั้นก็ทําอะไรที่โจ่งแจ้งเกินไปไม่ได้”
หลี่ปิงหยูคิดในใจ “ทําไมจู่ๆเขาถึงได้ฆ่ากงซูจิน เรื่องทั้งหมดนี้มีจุดประสงค์บางอย่างแอบแฝงอย่างนั้นหรอ? นี่รัชทายาทไปฉินสั่งให้เขาทําหรือยังไง? หรือว่าเขาจะทํามันลงไปด้วยจุดประสงค์อื่น?”
ในตอนที่หลี่ปิงหยูเห็นหานเซิ่นมองมาที่เธอ เธอก็พูดอย่างเย็นชา
“ข้ายังคงติดหนี้บุญคุณเจ้า มันถือเป็นเรื่องดีถ้ากงซูจื่อจะมาเพื่อแก้แค้นเจ้า ข้าจะได้ปกป้องและตอบแทนเจ้า”
เจียงปู้กู่เพียงแค่ยิ้มให้กับหานเซิ่น เขาเองก็ไม่คิดจะไปไหน เจียงซื่อดึงโยวโยวเข้ามาใกล้และแสดงเจตนาที่จะไม่ยอมจากไปไหนเช่นเดียวกัน
“ถ้าพวกเจ้ายืนกราน ข้าก็คงจะทําอะไรไม่ได้ แต่มีอันตรายเกิดขึ้น พวกเจ้าก็จะมาโทษข้าไม่ได้”
หลังจากหยุดไปชั่วครู่ หานเซิ่นหันไปพูดกับมิสเตอร์หยาง “มิสเตอร์หยาง เจ้าไปเตรียมตัวให้พร้อม พรุ่งนี้เจ้าต้องไปที่ดาวกู่หย่างพร้อมกับข้า เจ้าจําเป็นต้องช่วยข้าหาตําแหน่งของชีพจรพระเจ้า”
หานเซิ่นมีแผนที่จะพามิสเตอร์หยางไปพบกับเฟเธอร์แฟรี่ แบบนั้นมิสเตอร์หยางก็จะสามารถใช้ยีนเรซได้
“ในตอนนี้สถานการณ์ค่อนข้างอันตราย” หลี่ปิงหยูพูด
“ข้ากลัวว่ามันจะมีอันตรายรอคอยเจ้าอยู่ระหว่างทาง แบบนั้นทําไมเจ้าไม่ให้ข้าไปด้วย?”
หานเซิ่นตอบ “ไม่มีความจําเป็น เจ้าอยู่ที่นี่และคอยดูแลคนอื่นๆ”
หานเซิ่นนําไข่ยื่นออกมามอบให้กับมิสเตอร์หยาง มิสเตอร์หยางรับพวกมันมาด้วยความรู้สึกแปลกๆ ถึงเขาจะเคยได้ยินว่าดาวคู่หย่างนั้นมีชีพจรพระเจ้าอยู่เป็นจํานวนมาก แต่หานเซิ่นเดินทางไปที่นั่นเพียงแค่สองวันและได้รับไข่ยีนกลับมาเป็นจํานวน นั้นเป็นอะไรที่น่าตกใจเกินไป
หานเซิ่นกลับไปที่ห้องของเขาและพักผ่อน ทุกคนเองก็กลับไปทําธุระของตัวเอง หลี่ปิงหยูกลับไปที่ห้องของเธอและครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้
เธอคิดไปไกลว่าเรื่องทั้งหมดนี้อาจจะเป็นแผนการลับทางการเมือง ไม่อย่างนั้นมันก็คงจะไม่มีใครไปฆ่าลูกชายของมิสเตอร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
เธอคิดเกี่ยวกับมันอยู่เป็นเวลานาน แต่เธอก็จับต้นชนปลายไม่ถูก ด้วยเหตุนั้นเธอจึงเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ เธอพันผ้าเช็ดตัวและเดินออกมาที่หน้ากระจกเพื่อเตรียมตัวจะแต่งตัว แต่ในตอนที่เธอมองกระจก เธอก็ต้องตกใจ เพราะภายในกระจกนั้นใบหน้าของเธอดูงดงามอย่างมาก เธอมีโครงหน้าที่สวยคมราวกับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่งดงามที่สุด มันทําให้แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังคิดว่าเธอนั้นงดงาม
“โอ้ ไม่นะ!” หลี่ปิงหยูรู้สึกตัวถึงบางสิ่ง แต่มันก็สายเกินไปแล้ว เธอไม่สามารถละสายตาไปจากกระจกได้ ดวงตาของเธอดูลุ่มหลงราวกับว่าเธอกําลังตกหลุมรัก
จิตใจของหลี่ปิงหยูค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่ถ้าหานเซิ่นก็ยังต่อสู้กับอะไรแบบนี้ไม่ได้ มันก็ไม่มีทางที่เธอจะต่อต้านมันได้ในเวลาเพียงไม่นานเธอก็ตกหลุมรักภาพสะท้อนของตัวเธอเอง
หลังจากนั้นในสายตาของหลี่ปิงหยู ภาพสะท้อนในกระจกก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าๆ มันเปลี่ยนเป็นภาพสะท้อนของหานเซิ่น
หานเซิ่นกําลังนอนอยู่บนเตียงและคิดเกี่ยวกับวิธีการที่เขาจะรับมือกับกงซูจื่อ เขาไม่คิดจะอยู่เฉยๆและรอให้กงซูจื่อมาทําการโจมตี ถ้ากงซูจื่อปฏิบัติกับเขาเหมือนเป็นศัตรู เขาก็รู้ว่ามันจะดีกว่าถ้าเขาเป็นฝ่ายโจมตีก่อน ขณะที่เขากําลังครุ่นคิดอยู่นั้น จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงประตูถูกดันเปิดออก มันทําให้หานเซิ่นขมวดคิ้ว
มิสเตอร์หยางและคนอื่นๆจะไม่ดันประตูเข้ามาโดยที่ไม่ได้ขออนุญาตแบบนั้น และถ้ามันเป็นคนที่ถูกส่งมาโดยกงซูจื่อ พวกเขาก็จะไม่เข้ามาทางประตูอย่างโจ่งแจ้งแบบนั้นเช่นกัน
หานเซิ่นรู้สึกสับสน เขามองไปทางประตูและต้องตกใจเมื่อเห็นผู้หญิงที่งดงามที่มีแค่ผ้าเช็ดตัวสีขาวพันรอบๆตัวเดินเข้ามา หน้าอกของเธอโตและขาวมากๆ เขาสามารถเห็นแม้กระทั่งร่องก้นของเธอ ขาขาวที่เรียวยาวของเธอทําให้เขาตกตะลึง
เธอมีเส้นผมที่เปียกแฉะ ยาวลงมาเหมือนกับน้ำตก ดวงตาของเธอดูเต็มไปด้วยความใคร่ มันทําให้หานเซิ่นอึ้งจนทําอะไรไม่ถูก
“โกสต์คิลล์ เจ้ามีอะไรอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นพูด เขาจําได้ว่าเธอก็คือโกสต์คิลล์ เธอมันจะสวมหน้ากากผีและดูเย็นชาอยู่ตลอดเวลา แต่ทว่าตอนนี้ท่าทางของเธอดูแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง ถ้าหานเซิ่นไม่ใช่คนช่างสังเกต เขาก็คงจะคิดว่าเธอเป็นคนละคนกับโกสต์คิลล์
หลี่ปิงหยูไม่พูดอะไร เธอบิดประตูด้านหลังก่อนที่จะล็อคมัน หลังจากนั้นเธอก็ทําท่าทางเหมือนกับแมวป่าที่หิวกระหาย ขณะที่เธอเข้ามาที่เตียง เธอคลานขึ้นมาและวางมือของเธอลงบนไหล่ของหานเซิ่น ดวงตาของเธอดูลุ่มหลง ขณะที่เธออยู่ห่างออกไปจากหานเซิ่นแค่สามนิ้ว เธอก็ยื่นลิ้นออกมาเพื่อจะเลียแก้มของหานเซิ่น
“นี่เจ้าบ้าไปแล้วอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นผลักไหล่ของหลี่ปิงหยูเพื่อจะหยุดเธอ
หานเซิ่นรู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งผิดปกติ เห็นได้ชัดว่านี้ไม่ใช่ลักษณะนิสัยของโกสต์ศิลล์
หลี่ปิงหยูยังคงพยายามเข้ามาใกล้ เธอรู้สึกเหมือนกับว่าผู้ชายตรงหน้าคือคนที่เธอหลงรักมาชั่วนิรันดร์ เธอต้องการมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเขาและต้องการจะได้ทุกสิ่งทุกอย่างของเขา
ขณะที่หานเซิ่นกําลังคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้น จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงของบิ๊กสกายเดม่อนดังขึ้นมา
“เจ้าชอบหญิงงามคนนี้ไหม? ถ้าเจ้าต้องการ ข้าจะทําให้หญิงงามทุกคนมาอยู่ในอ้อมแขนของเจ้า ข้าจะทําให้พวกนางตกหลุมรักเจ้าจนโงหัวไม่ขึ้น พวกนางจะทําทุกอย่างเพื่อเจ้า”
เงาของบิ๊กสกายเดม่อนปรากฏตัวข้างๆหานเซิ่น ริมฝีปากของเธอกัดที่หูของเขา ขณะที่เธอพูด มันเหมือนกับว่ามีน้ำหอมบางอย่างฉีดเข้ามาในหูของหานเซิ่น ซึ่งทําให้เขารู้สึกคันคะเยอ
“แน่นอนว่าข้าชอบหญิงงาม แต่ข้าไม่ชอบตุ๊กตาที่ถูกควบคุม”
หานเซิ่นพูดอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาดูสงบนิ่ง พวกมันเป็นเหมือนกับลูกศรที่แทงทะลุเข้าไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยความใคร่ของหลี่ปิงหยู
หลี่ปิงหยูรู้สึกหนาวขึ้นมา เธอตื่นจากมนตร์สะกด ร่างกายของเธอยังคงคร่อมอยู่บนตัวของหานเซิ่นเหมือนกับแมวป่า ดวงตาของพวกเขาจ้องมองกันและกันในท่วงท่านั้น