flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1525 ตอบคำถามฉัน

นี่จึงเรียกได้ว่าธรรมชาติคัดสรร คนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่จะรอดชีวิตสินะ

มีไม่กี่คนที่สามารถทำตามใจตนเองได้เหมือนกับฉินซี สาเหตุที่เธอกำเริบเสิบสานอย่างนี้ แล้วยังอยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นเพราะด้านหลังมีคนเสียสละและคอยช่วยเหลืออยู่มากมาย

อีกอย่าง จ้านเซินรู้สึกกับเธอไม่เหมือนกับคนอื่น ไม่งั้น ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น เพียงครั้งแรกที่เธอมีความคิดจะทรยศต่อองค์กร ก็คงโดนจ้านเซินยิงทิ้งไปแล้ว

……

ดวงตาที่เปล่งประกายของจ้านเซินกำลังมองเหยาจ้าว เขาคำรามออกมาด้วยความโมโห: “ตอบคำถามฉัน!”

เหยาจ้าวไม่เคยเห็นเขาโมโหเช่นนี้มาก่อน จ้านเซินในตอนนี้ราวกับสิงโตที่ดุร้าย กลิ่นของความอันตรายแพร่กระจายออกมาทั่วร่าง

เขากำลังครุ่นคิดด้วยจิตใต้สำนึก แต่จ้านเซินมองความคิดของเขาออกอย่างทะลุปรุโปร่งตั้งแต่แรกแล้ว เดินเข้าไปใกล้ๆกดเขาลงไปบนโต๊ะ

ในฐานะที่เหยาจ้าวเป็นหมอคนหนึ่ง ถึงจะมีทักษะวิชามวยอยู่บ้าง แต่เทียบกับจ้านเซินที่คุ้นเคยกับศิลปะป้องกันตัวมาตั้งแต่เด็กคงไม่มีค่าพอที่จะให้พูดถึง

เขาไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะขัดขืน จึงโดนจ้านเซินคุมตัวเอาไว้อย่างแน่นหนา

จ้านเซินจับข้อมือของเขาเอาไว้แน่น พูดด้วยน้ำเสียงดุดัน: “ก่อนฉินซีจะหนีไป บอกอะไรนายไว้ใช่ไหม? นายบอกฉันมาตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?”

เสียงแหบพร่าของเขาพูดขึ้น ในดวงตาดำขลับเปล่งประกายความแวววาวที่อึมครึมไม่ชัดเจน

เหยาจ้าวรู้ ถ้าตนเองพูดความจริงออกไป จ้านเซินต้องไปจับฉินซีกลับมาด้วยตนเองแน่ๆ

แต่เดิมทีเขาก็ไม่รู้ว่าฉินซีอยู่ไหน ครั้งนี้เป็นเรื่องที่ไม่ได้คาดคิดเอาไว้จริงๆ ถ้าไม่ใช่จู่ๆจ้านเซินไปปรากฏตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ฉินซีเองหลังจากที่ไปเยี่ยมลู่เซิ่นแล้วก็คงกลับองค์กรทันที

ฉินซีไม่ได้รีบร้อนจะออกไปจากองค์กรขนาดนั้น เดิมทีเธอให้เวลาจ้านเซินได้ผ่อนคลายลง แล้วหวังว่าเขาจะเข้าใจได้ด้วยตนเอง

สาเหตุที่ตอนนี้เรื่องราวบานปลาย เหตุผลส่วนใหญ่ก็มาจากจ้านเซิน เพียงแค่จนถึงตอนนี้จ้านเซินก็ยังไม่เข้าใจสถานการณ์อย่างชัดเจน

เขายังคงจัดการตามวิธีการของตนเองด้วยความถือทิฐิ แต่กลับไม่รู้เลยว่าเรื่องราวเสียการควบคุมไปตั้งนานแล้ว

เหยาจ้าวหายใจเข้าลึกๆ พยายามควบคุมความประหม่าในใจเอาไว้ ค่อยๆเอ่ยปาก: “จ้านเซิน ต่อให้วันนี้นายฆ่าฉันให้ตาย ฉันก็ไม่รู้อยู่ดีว่าฉินซีอยู่ที่ไหน”

เขาพูดขึ้นโดยไม่สนใจความตายใดๆ ท่าทางที่เด็ดเดี่ยวนั้นทำให้จ้านเซินสะอิดสะเอียนอย่างถึงที่สุด

เขารู้สึกว่าตั้งแต่เหยาจ้าวมาที่องค์กร ความคิดของฉินซีก็ค่อยๆเปลี่ยนไปซับซ้อนขึ้นมา หลุดพ้นจากการควบคุมของตนเอง

บางทีตอนนี้ฉินซีอาจจะเปลี่ยนไปดื้อดึงยิ่งกว่าเดิม ไม่เพียงแต่เป็นเพราะลู่เซิ่น ยังมีอีกสาเหตุหลักนั่นก็เพราะเหยาจ้าวคอยล้างสมองอยู่เงียบๆ

จ้านเซินกำลังจ้องมองเหยาจ้าว ในแววตาที่ลึกล้ำประกายความกระหายเลือดออกมา

เหยาจ้าวสบเข้ากับดวงตาที่ลุ่มลึกคู่นั้นของเขา ในใจสั่นไหวด้วยความหวาดกลัว

เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน กลิ่นของความมืดมนภายในร่างกายของจ้านเซินแพร่กระจายออกมา ค่อยๆห้อมล้อมเขาเอาไว้ในนั้น ราวกับพันธนาการที่มัดมือมัดเท้าของเขา ทำให้เขาหมดหนทางที่จะหลบหนี

ความรู้สึกที่โดนเกาะกุมอย่างนี้ ทำให้ในใจของเหยาจ้าวสั่นไหว

สาเหตุที่เหยาจ้าวอดทนมาจนถึงตอนนี้ ก็หวังว่าจะสามารถหลบหนีออกไปจากองค์กรได้อย่างปลอดภัย

เขาไม่อยากใช้วิธีการบ้าคลั่งอย่างฉินซี เหยาจ้าวรู้ดี เขาไม่ใช่ฉินซี จ้านเซินไม่ออมมือให้เขาอยู่แล้ว

ถ้าเขาทรยศองค์กรแล้วโดนจ้านเซินจับได้ จ้านเซินคงจัดการเขาตามกฎเกณฑ์ที่ยึดถือกันมาขององค์กรแน่ๆ

เหยาจ้าวไม่มีสิทธิทำตามใจ เขาจึงไม่กล้าประพฤติตัวด้วยความไม่ระวัง

เพียงแค่ไม่คิดว่าเขาอดทนมาหลายปีขนาดนี้ แต่สุดท้ายยังคงมีจุดจบเช่นนี้อีก

นึกถึงตรงนี้บนใบหน้าหล่อๆของเหยาจ้าว ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะตัวเอง บางทีนี่อาจจะเป็นผลของเขา

จ้านเซินกำลังมองเขาที่ต่อให้ตายก็จะไม่ยอมเอ่ยปาก ความโมโหในใจก็ซัดสาดขึ้นมา

“นายคิดว่านายไม่พูด ฉันก็จะหมดหนทางแล้วงั้นเหรอ?”

จ้านเซินคว้าของคอเสื้อของเหยาจ้าว พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเฉียบคม

เหยาจ้าวไม่ได้ตอบ เพียงแค่ใช้สายตาจ้องกลับไป

ไม่ต้องพูดถึงที่เขาไม่รู้จริงๆว่าฉินซีอยู่ที่ไหน ต่อให้เขารู้ ก็ไม่มีทางบอกเด็ดขาด

ไม่ง่ายเลยที่ฉินซีจะหลุดพ้นออกไปจากสถานที่ที่เหมือนคุกเช่นนี้ได้ เขาก็ไม่หวังให้จ้านเซินจับเธอกลับมาหรอก

“นาย!”

จ้านเซินชูกำปั้นขึ้นด้วยความเดือดดาล สะบัดลงไปที่เหยาจ้าว

หมัดของเขากระแทกลงไปที่ดั้งจมูกของเหยาจ้าวอย่างแรง เลือดกำเดาของเหยาจ้าวไหลออกมาทันที

เหยาจ้าวรู้สึก เหมือนดั้งจมูกของตนเองหักไปแล้ว ขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด คำรามออกมา

จ้านเซินดวงตาแดงก่ำ เขาตะโกนออกมาด้วยความโมโห: “บอกฉันมา ฉินซีอยู่ที่ไหนกันแน่!”

เขาดึงคอเสื้อของเหยาจ้าวไว้แน่น คำพูดมาพร้อมกับการข่มขู่

มุมปากของเหยาจ้าวที่ปกปิดเอาไว้เผยรอยยิ้มเย้ยหยันออกมา: “ฉันบอกไปแล้ว ว่าฉันไม่รู้ ฉินซีหนีไปแล้ว เธอก็คงไม่กลับมาอีก นายยอมแพ้ไปเถอะ”

เขาพูดขึ้นด้วยความเบิกบานใจ ท่าทางเสียสติ

เหยาจ้าวเหมือนกับรอคอยวันนี้มานานแล้ว ดังนั้นตอนนี้เขาถึงดีใจยังไงล่ะ

นึกถึงตรงนี้ ในใจของจ้านเซินก็ยิ่งเดือดดาล

ก็ตอนที่เขาเตรียมจะฆ่าเหยาจ้าวให้ตาย ถังย่าก็รีบร้อนเข้ามา: “หยุด!”

เห็นการกระทำของจ้านเซิน ในใจของถังย่าก็ตื่นตระหนก

เธอไม่ได้คาดคิดเลยว่า ความรู้สึกของจ้านเซินจะพังทลายลงมาถึงจุดนี้

สองวันนี้ ที่จ้านเซินอยู่ในองค์กร แค่เจอเรื่องที่ไม่พอใจก็จะเริ่มอาละวาด

เหมือนเขาเสียสติไปแล้ว เห็นใครต่อใครก็รู้สึกว่าขัดตาไปหมด จ้องจับผิด แล้วก็จะฆ่าอีกฝ่ายให้ตาย

จ้านเซินในตอนนี้ ไม่เหมือนกับเขาเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง

คนมากมายในองค์กรพากันบ่นออกมาด้วยความไม่พอใจ พากันรู้สึกว่าจ้านเซินในฐานะที่เป็นผู้นำองค์กร เพื่อผู้หญิงคนหนึ่งจะสร้างปัญหาจนกลายเป็นอย่างนี้ แย่มาก

อีกอย่าง ในองค์กรมีกฎอย่างชัดเจน ห้ามมีความรัก ห้ามแต่งงาน ซึ่งก็หมายความว่าห้ามหวั่นไหว

จ้านเซินในฐานะที่เป็นผู้นำองค์กร แต่กลับไม่รักษากฎระเบียบขององค์กร ทำให้คนมากมายไม่พอใจ ตอนนี้เป็นอย่างนี้ ก็ยิ่งทำให้เกิดความโมโห

ทุกคนทยอยมาหาถังย่า เริ่มระบายความคับอกคับใจ

แม้ตอนนี้พวกเขาจะไม่กล้าปฏิบัติต่อจ้านเซินอย่างเปิดเผย แต่ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของเขาท่ามกลางพวกเขาก็เกิดความไม่ยุติธรรมขึ้นแล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป วันหลังคงยากที่จะได้รับความนับถือจากทุกคน

เดิมทีถังย่ายังตามหาร่องรอยของฉินซีกับลู่เซิ่นอยู่ข้างนอก หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากทุกคนอย่างต่อเนื่อง ก็รู้สึกได้ว่าเป็นปัญหารุนแรงแล้ว จึงรีบกลับมาทันที

แค่เธอกลับมาก็เห็นจ้านเซินเดินไปทางห้องทดลองด้วยความรีบร้อน ในใจของถังย่ามีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี จึงตามไปอย่างกระวนกระวาย

ว่าแล้วเชียวไม่ต่างจากที่เธอคิดเอาไว้เลย จ้านเซินสติแตกอีกแล้ว

ไม่นึกว่าเขาจะลงมือกับเหยาจ้าว เหมือนกับที่อยากฆ่าเธอ อยากจะฆ่าเหยาจ้าว

ตอนนี้ถังย่าถือว่าเข้าใจความรู้สึกของทุกคนแล้ว หลังจากเห็นเหยาจ้าวที่อดกลั้นจนหน้าแดง จึงรีบเดินเข้าไป พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด

เสียงที่ดังขึ้นอย่างฉับพลัน หยุดการกระทำของจ้านเซินเอาไว้ได้

จ้านเซินหันกลับมาทันที จึงสบเข้ากับดวงตาสีอำพันคู่นั้นของถังย่าพอดี

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

Options

not work with dark mode
Reset