บทที่1461เตือน
ชายหนุ่มโกรธพลางก้าวไปข้างหน้าเพื่อสั่งสอนฉินซีที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง แต่กลับถูกร่างของเขาขวางไว้ข้างหน้าอย่างคาดไม่ถึง
หลูจื๋อหลินเบิกตากว้างมองเขาครูหนึ่งเพื่อตักเตือน:คุณชายหาง คุณฉินเป็นแฟนของผม หวังว่าคุณจะเห็นแก่หน้าผม ลดความโกรธลง อย่าทำให้เธอต้องลำบากใจ ไม่งั้นผมก็จัดการลำบาก
คำพูดที่ออกมาจากปากเขาดูเกรงใจ แต่น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยการขู่เตือน
เมื่อผู้คนต่างเห็นว่าหลูจื๋อหลิน ออกตัวปกป้องเช่นนี้ สายตาของฉินซีเผยแววตาประหลาดใจออกมา
โดยปกติแล้วไม่ว่าแฟนสาวของหลูจื๋อหลินจะทำอะไร ส่วนใหญ่เขามักทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ราวกับไม่ได้ใส่ใจ
ในสายตาของหลูจื๋อหลินแล้ว ผู้หญิงเหล่านั้นก็เหมือนกับเสื้อผ้าที่ใส่ครั้งเดียว หากสกปรกก็เปลี่ยนตัวใหม่
แต่ว่าความรู้สึกที่ฉินซีให้เขากลับไม่ได้เป็นแบบนั้น
หลูจื๋อหลินไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะฉินซีปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า หรือว่าเป็นเพราะตอนนี้ฉินซียังไม่ได้ตกอยู่ในมือของเขา ก็เลยรู้สึกผิดปกติ
ขณะที่คุณชายหางล่วงเกินฉินซี ภายในใจของเขาก็โมโหเป็นอย่างมากและเขามาขวางที่ด้านหน้าของฉินซีอย่างอัตโนมัติ
ฉินซีมองไปที่เงาหลังที่สูงใหญ่และโอบอ้อมอารีของเขา แววตาเผยความไม่เข้าใจออกมา
เธอรู้ดีว่าตอนนี้หลูจื๋อหลินกำลังปกป้องเธอ เพียงหวังว่าในสายตาของเธอจะรู้สึกดีกับเขามากกว่านี้หน่อย
วิธีการที่เจ้าชายออกโรงช่วยเจ้าหญิงแบบนี้เป็นวิธีแบบเก่าๆแล้ว ฉินซีไม่หวั่นไหวอย่างแน่นอน
คุณชายหางเผยสีหน้าแสดงถึงความประหลาดใจออกมา:ประธานหลู ผมยังไม่ได้ทำอะไรคุณฉินเลย ผมก็แค่อยากเป็นเพื่อนกับคุณฉินก็เท่านั้น ใครจะไปรู้ว่าคุณฉินจะวางแผนไว้แต่แรก ดูเหมือนว่าจะมีจุดประสงค์ไม่ดีในการเข้าหาพวกเรา น่าเสียดายที่พวกเรามีแต่ความจริงใจให้ ดูเหมือนว่าพวกเราจะไม่คู่ควรเสียแล้ว
เขาคิดไปคิดมา ก็แสร้งทำทีเสียใจ
น้ำเสียงของคุณชายหางเต็มไปด้วยความหดหู่ ดูเหมือนว่าเขาจะถูกทำให้กระทบกระเทือนจิตใจ
ในพริบตาเดียวเขาก็ปัดความผิดทั้งหมดให้กับฉินซี
ฉินซีมองดูอยู่ข้างๆอย่างนิ่งเงียบ ในใจอดไม่ได้จึงกล่าวชมขึ้นว่า:กลับผิดให้เป็นถูกได้เก่งจริงๆ
คิดไม่ถึงเลยว่าข้างกายของหลูจื๋อหลินจะมีพยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลกอยู่ แม้แต่คนที่มีความสามารถแบบนี้ก็ยังมี
น่าเสียดายที่คุณชายหางท่านนี้ไม่ได้ใช้ความสามารถที่มีในทางที่ถูกต้อง วันทั้งวันเอาแต่มั่วสุมอยู่ในผับไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงอาจกลายเป็นราชาภาพยนตร์แห่งวงการบันเทิง
เมื่อหลูจื๋อหลินได้ยินเขาพูดแบบนี้ ก็ขมวดคิ้ว
ทุกคนที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ต่างโอหังพ่อแม่ของพวกเขาต่างเป็นคนที่มีเงินและอำนาจ แน่นอนว่าจะล่วงเกินง่ายๆไม่ได้
อีกทั้งพวกเขาที่ต่างคิดว่าตนสูงส่งกว่าคนอื่นเมื่อได้ยินคุณชายหางบอกว่าฉินซีดูถูกพวกเขา สีหน้าล้วนแสดงความไม่พอใจออกมาชั่วขณะ
ไม่รู้ว่าเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี้มาจากไหนกัน ถึงได้กล้าทำตัวไม่เคารพพวกเขา คงเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว
หากไม่ได้เห็นแก่หน้าของหลูจื๋อหลิน ตอนนี้ฉินซีคงถูกกดลงบนโซฟาแล้วถูกต่อยอย่างแรงไปยกหนึ่งแล้ว
เพื่อให้ฉินซีสามารถอยู่ในวงการนี้ต่อไปได้ หลูจื๋อหลินจึงจำเป็นต้องช่วยเธอแก้ไขสถานการณ์:คุณชายหางคุณเข้าใจผิดแล้ว
ฉินซีเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ยังปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิตในประเทศไม่ได้ อีกทั้งนิสัยเดิมทีของเธอก็ยังเป็นคนขี้อายตอนที่ผมอยากจะเข้าใกล้เธอต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก หวังว่าทุกท่านอย่าได้ถือสา รอให้ทุกคนคุ้นเคยกันแล้ว แล้วทุกท่านจะรู้เองว่าฉินซีเป็นคนที่เข้าหาได้ไม่ยาก ไม่เพียงแต่รูปร่างหน้าตาสะสวย อีกทั้งยังมีความรู้ที่กว้างขวางอีกด้วย
หลูจื๋อหลินพูดถึงข้อดีของฉินซีอย่างน้ำไหลไฟดับให้กับทุกคนได้ฟัง หวังว่าทุกคนจะสามารถคลายอคติที่มีต่อเธอลงได้
เขาได้แอบเช็กประวัติของฉินซีแล้ว พบว่าประวัติของเธอขาวสะอาด ไม่มีความผิดปกติใดใด
อีกทั้งฉินซียังจบด้านการเงินมาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของต่างประเทศ เพียงแค่เวลาสามปีก็สามารถคว้าใบปริญญาโทควบเอกมาได้
ผลการเรียนที่ดีเยี่ยมแบบนี้ ทำให้หลูจื๋อหลินอดไม่ได้ที่จะมองเธอในมุมมองใหม่
เดิมทีเขาคิดว่าปลากับอุ้งตีนหมีไม่สามารถได้ทั้งสองมาพร้อมกันง่ายๆ ผู้หญิงรูปร่างหน้าตาสวยก็ถือว่าใช้ได้แล้ว จะมีความรู้หรือไม่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
แต่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่คนๆหนึ่งมีทั้งรูปร่างหน้าตาที่สะสวยและมีสองอันชาญฉลาด เขาก็อดไม่ได้ที่จะหวั่นไหว
หลูจื๋อหลินใช้ชีวิตมากว่าห้าสิบกว่าปี ก็ไม่เคยเจอคนที่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับฉินซีได้
ดังนั้นตอนนี้เขาได้สนใจท่าทีที่ฉินซีมีต่อเขาเลย เพราะผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมอย่างฉินซีจะมีอารมณ์แบบนั้นก็เป็นเรื่องปกติ
ฉินซียืนอยู่ที่เดิมอย่างไม่ยินดียินร้าย ฟังหลูจื๋อหลินพูดจาเพ้อเจ้อกับเพื่อนของพวกเขา
เธอไม่ได้ต้องการที่จะเข้าไปพูดแทรก รอบกายของเธอรายล้อมไปด้วยความเย็นยะเยือกราวกับถูกแยกออกไปเป็นคนนอก
ลู่เซิ่นยืนอยู่มุมตรงกลางมองไปยังเงาบางของเขา นัยน์ตาสีดำเผยรอยยิ้มอ่อนๆออกมา
ผู้หญิงของเขาไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
เมื่อเห็นหลูจื๋อหลิน ถูกฉินซีปั่นหัว ในใจของลู่เซิ่นก็รู้สึกทะนงตนอย่างบอกไม่ถูกความรู้สึกงุ่นง่านในใจลึกๆเมื่อสักครู่นี้ก็กลายเป็นความเบิกบานใจ
ที่แท้เหยาจ้าวก็ไม่ได้โกหกเขา
ลู่เซิ่นมองออกว่าในระยะเวลาเดือนกว่านี้ฉินซีใช้ชีวิตอยู่ในองค์กรไม่เลวเลยจริงๆ
สุขภาพจิตใจรวมไปถึงสุขภาพร่างกายของเธอ ดีกว่าตอนที่ใช้ชีวิตข้างนอกเป็นอย่างมาก
เพียงแต่ลู่เซิ่นพบว่ารอยยิ้มของฉินซีไม่ได้มากเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
ฉินซีมีความสุขุมและหนักแน่นมากกว่าเดิม ลู่เซิ่นเห็นที่ตาและในใจก็เจ็บปวด
เขารู้ดีว่าสาเหตุที่ฉินซีเปลี่ยนไปจนกลายเป็นแบบนี้ เพราะอะไร
เมื่อเห็นฉินซีเพียรพยายามเพื่ออนาคต ในใจของลู่เซิ่นก็ทรมานเป็นอย่างมาก เขาโกรธเกลียดตนเองที่ไม่ปัญญา พาฉินซีออกมาจากองค์กรได้ อีกทั้งยังต้องให้เธอต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว
ฉินซีสัมผัสได้ถึงสายตาร้อนระอุ ที่กำลังจ้องมองตนเอง เธอหันไปมองแววตาของลู่เซิ่นที่ล้ำลึกอย่างอัตโนมัติ
แม้จะเหลือบมองแค่ครู่เดียวแต่ฉินซีก็รู้สึกราวกับตกอยู่ในทะเลลึกที่ไร้ขอบเขต แต่ไม่สามารถที่ตะหลุดพ้นได้
ฉินซีเดินไปยังที่ที่ลู่เซิ่นอยู่ โดยไม่สนใจหลูจื๋อหลินที่กำลังอธิบายให้เพื่อนของเขาฟังเลยแม้แต่น้อย
หลูจื๋อหลินไม่ได้สังเกตเห็นว่าฉินซีจากไปแล้ว แต่กลับเป็นสายตาที่เฉียบคมของคุณชายหางที่เห็นฉินซีค่อยๆจากไปจากมุมนั้น
คุณชายหางเตือนขึ้นด้วยความโมโหว่า:ประธานหลู
คุณดูคนดีที่คุณพามา
เขาเฮิงด้วยน้ำเสียงเย็นชา ยิ้มอย่างเย้ยหยันพลางพูดขึ้นว่า:ประธานหลูคุณพยายามช่วยเธออธิบายของเต็มความสามารถอยู่ที่นี่ พูดจนคอแห้ง แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับไม่ใส่ใจในสิ่งที่คุณทำเลยแม้แต่น้อย เธอมองข้ามคุณไปอย่างไร้มารยาท ทิ้งคุณแล้วจากไป คุณไม่โกรธเธอเลยเหรอ?
คุณชายหางมองไปยังหลูจื๋อหลินอยากจะรู้ว่าในใจเขาคิดยังไงกันแน่
เดิมทีเขาคิดว่าจะได้เห็นสีหน้าของหลูจื๋อหลินเปลี่ยนไป แต่ทุกคนต่างสวมหน้ากากอยู่ จึงทำให้ไม่เห็นอะไรเลย
แน่นอนว่าในใจของหลูจื๋อหลินทรมานเป็นอย่างมาก แต่ว่าเขาก็น้ำออกถึงน้ำเสียยงเย้ยหยันของคุณชายหาง
เขาสูดหายใจลึก พยายามกดทับความโกรธไว้ในใจ พลางเอ่ยปากแล้วยิ้มอ่อนๆว่า:บางทีอาจจะเป็นเพราะคุณฉินไม่ได้เจอเพื่อนมานานแล้วก็เลยดีใจ จนลืมทักทายพวกเรา เดี๋ยวผมจะไปตามเธอกลับมา ทุกคนสนุกกันไปก่อนเลย ไม่ต้องเกรงใจ ตามสบาย