บทที่ 1339 โต้ตอบ
ดังนั้นฉินซีจึงคิดถึงเรื่องนี้ ก่อนจะค่อยพูดออกมา “ลู่เซิ่น ถ้าหากมู่วี่สิงกับเวินจิ้งกลับมาคืนดีกัน คุณจะมีปัญหาอะไรไหม?”
ความประหลาดใจบนใบหน้าของเขาที่ฉายชัดออกมาเป็นของจริง เขาเลิกคิ้วไปยังฉินซี ก่อนถามกลับ “ทำไมคุณถึงคิดแบบนี้? ผมต้องการให้เวินจิ้งกลับไปหาเขาได้โดยเร็วที่สุด”
ฉินซีประหลาดใจเล็กน้อย: “แต่ … เธอเป็นภรรยาที่คุณป่าวประกาศให้คนทั้งโลกเห็นนะ ถ้าเป็นแบบนี้ “
“ฉินซี” ลู่เซิ่นขัดจังหวะทันที “ผมไม่เคยพูดชื่อเวินจิ้งหรือการมีตัวตนของเธอในที่สาธารณะเลย และไม่เคยพาเธอออกงานไปไหน คนที่รู้ถึงการมีตัวตนของเธอ นอกจากพวกเรา ก็มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้น ภรรยาที่ผมประกาศสู้สาธารณะ นอกจากคุณ ก็ไม่มีใครแล้ว”
ใจของฉินซีสั่น
… ในการเปรียบเทียบของลู่เซิ่น เธอระมัดระวังความคิดของตัวเองไม่ให้ขึ้นไปอยู่บนจุดยอดสุด
แต่ … นี่มันเป็นสิ่งที่เธอคิดจริงๆ
“ลู่เซิ่น” ฉินซีพูดด้วยความยากลำบาก “ฉันรู้ ว่าคนที่คุณอยากจะแต่งงานด้วยมีแค่ฉัน และก็รู้ว่าคุณก็ไม่ได้คิดอะไรกับเวินจิ้ง แต่ตอนนี้คุณต้องยอมรับ ว่าข้างๆคุณ ที่เวินจิ้งยืนอยู่ มันทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ ”
ท้ายที่สุดเธอก็ยังคงไม่สามารถพูดคำว่า “หึง” ได้อย่างชัดเจน แต่เมื่อมองไปที่รอยยิ้มบนใบหน้าของลู่เซิ่น เขาคงเข้าใจสิ่งที่ ฉินซีต้องการบอกแล้ว
“ดังนั้น” ฉินซีมองไปที่หน้าจอที่มีลู่เซิ่นมองตรงมาด้วยรอยยิ้มที่สดใสสว่างจ้า “ถ้าหากว่าฉันจะทำให้พวกเขาสองคนกลับมาคืนดีกัน คุณจะยอมไหม”
ลู่เซิ่นไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียวที่จะตอบออกมา “แน่นอน”
คนที่อยู่ในเรื่องนี้ด้วยไม่ใช่มีเพียงแค่ ฉินซี เขาก็ด้วย เขารู้ดีกว่าใคร แต่เพียงไม่ได้สนใจมัน
แต่ถ้าเขาสามารถแก้ปมนี้ได้ เขาก็ยินดีที่จะเห็นมันเกิดขึ้นแน่นอน
แต่แค่……
“คุณวางแผนจะทำอะไร” ลู่เซิ่นมองไปเธอ ความตั้งใจตอนแรกหายวับไป
เธอเพิ่งลุกขึ้นมาจากเตียง โดยมีโต๊ะข้างเตียงเป็นพื้นหลัง ชุดนอนของเธอพาดที่ไหล่อย่างหลวมๆ ใบหน้าสวยยังคงดูงัวเงีย
ลู่เซิ่นเลียริมฝีปากของเขาโดยไม่รู้ตัว
… ห่างกันแค่อาทิตย์เดียว แต่เขารู้สึกว่าเขาและฉินซีไม่ได้เจอกันมานานแล้ว
ในขณะนี้ ความคิดถึงที่เขามีต่อฉินซีมันค่อยๆรุนแรงขึ้น
แต่ฉินซีที่อยู่อีกด้านหนึ่งของหน้าจอไม่รู้ว่า ความคิดของเขาไม่ค่อยที่จะอยู่กับร่องกับรอยเท่าไหร่ เธอคิดสักพัก ก่อนพูดออกมา “เหตุผลที่มู่วี่สิงจะสร้างปัญหาให้ฉัน เป็นเพราะว่าเขาคิดว่าคุณและเวินจิ้งเป็นสามี ภรรยากันจริงๆ แต่คุณกลับมาคบชู้กับฉัน ประเด็นที่สำคัญที่สุด ก็คือให้เขาได้รับรู้ ว่าใจของเวินจิ้งยังคงมีแต่เขา คุณกับเวินจิ้งมันไม่มีอะไรเลย ”
ลู่เซิ่นเหม่อลอย พูดคำว่า “อืม” ออกมา
“ตอนนี้เห็นได้ชัดว่า ความรู้สึกของมู่วี่สิงที่มีต่อเวินจิ้งได้ถูกปกปิดไว้อยู่ แต่ท่าทีของเวินจิ้งยังคงคลุมเครือ ทำให้เขาเข้าใจผิด ดังนั้นถ้าหากฉันทำให้เวินจิ้งขยับไปข้างหน้าอีกนิด ทำให้มู่วี่สิงรู้ว่าเวินจิ้งยังคงแคร์เขาอยู่ เรื่องนี้ก็ถูกแก้ไขแล้ว ”
ฉินซีไม่สังเกตลู่เซิ่นที่กำลังเหม่อลอย ยังคงอธิบายต่อไปคนเดียว เมื่อมองขึ้นไปสบตาเขาที่ดูไม่มีสติ จึงถามออกมา “นี่คุณฟังฉันอยู่หรือเปล่า?”
ลู่เซิ่นเรียกสติที่หายไปกลับคืนมา เขาพยักหน้า “ใช่สิ คุณจะทำกับเวินจิ้งยังไง?เมื่อก่อนผมโน้มน้าวเธอหลายรอบ ใครๆก็ดูออกทั้งนั้นว่าระหว่างเขาสองคนยังคงมีเยื่อใยกันอยู่”
“คุณก็ดูออกเหรอ” ฉินซีประหลาดใจเล็กน้อย
ลู่เซิ่นยักไหล่ “ไม่ใช่เพราะเธอไม่เต็มใจที่จะหันกลับไปมองมู่วี่สิง ผมแนะนำตระกูลร่ำรวยของเมืองหนานให้เธอ แต่เธอก็ไม่สน ทุกครั้งที่ไปบาร์ ก็จะไปนั่งดื่มคนเดียว”
เขาพิสูจน์กับฉินซีอยู่ตลอด ว่าเขาไม่ได้ชอบเวินจิ้ง
ถ้าชอบกันจริงๆ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะแนะนำใครให้เธอรู้จัก
แต่ฉินซีก็ไม่เคยสังเกตเห็นถึงจุดสำคัญตรงนี้เลย ดวงตาของเธอเป็นประกาย “เวินจิ้ง… จะไปที่บาร์ไหม?”
ลู่เซิ่นพยักหน้าเบาๆ อย่างไม่ค่อยแน่ใจ “อืม ฉันแนะนำบาร์ของเถ้าแก่โจวให้เธอ เธอก็ไปบ่อยนะ ทำไม คุณมีแผนอะไร?”
ฉินซีกัดริมฝีปากเบาๆ “วิธี … ไม่ใช่ว่าไม่มี แต่มันก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่”
ลู่เซิ่นรู้สึกสงสัยเล็กน้อย “วิธีอะไร?”
ฉินซีกลอกตา “ลู่เซิ่น คุณยังมียานั่น อยู่หรือเปล่า?”
ฉินซีเน้นคำว่า “นั่น” อย่างยากลำบาก และบอกใบ้ให้ลู่เซิ่นผ่านทางสายตา
ลู่เซิ่นผงะ “ยาปลุกเซ็กส์”
ฉินซียักไหล่ “คนน่าสงสารสองคนนั้น พวกเขายังมีความรู้สึกต่อกัน ในสถานการณ์แบบนั้น ถ้าได้อยู่บนเตียงเดียวด้วยกัน วันรุ่งขึ้นก็คงแก้ไขปัญหานี้ได้แน่ เพราะดูท่าเวินจิ้งคงจะไม่ยอมอยู่กับมู่วี่สิงสองต่อสอง นี่เป็นวิธีที่เร็วที่สุด”
หลังจากที่ฉินซีพูดจบ และเงยหน้าขึ้นมาเธอก็เห็นรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้าของลู่เซิ่นที่อยู่อีกด้านหนึ่งของหน้าจอ เธออดไม่ได้ที่จะถามว่า “มีอะไรเหรอ ฉันพูดอะไรผิด?”
ลู่เซิ่นส่ายหัว “ไม่ คุณพูดถูก”
เขารู้สึก … เหมือนได้เห็นฉินซีเมื่อตอนเจอกันครั้งแรก
ทั้งดูสงบและน่ามอง ใบหน้าสวยงามนั้นเหมือนงูพิษที่มีลวดลายตระการตา บอกให้คนรู้ว่าตัวเองมีพิษร้าย แต่ก็ยังไม่วายอยากที่จะเข้าไปใกล้
แม้ว่าฉินซีจะพยายามอย่างมากที่จะไม่ปล่อยให้ตัวเองกลายเป็นเครื่องจักรเย็นชาอย่างคนอื่นๆ ในองค์กร แต่เมื่ออยู่ในนั้น เธอก็ต้องซึมซับวิธีการอันโหดร้ายต่างๆออกมาอยู่ดี
ลู่เซิ่นอยู่กับฉินซีหนึ่งปี โดยที่เธอไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับองค์กรหลงเหลืออยู่ ดังนั้นสิ่งที่องค์กรสอนเธอมาหลายปีจึงไม่ได้แสดงออกมา ตอนที่เขาได้อยู่กับเธอ มีบางครั้งที่รู้สึกได้ว่าผู้หญิงตรงหน้ากับผู้หญิงที่สั่งให้ทุกคนหนีห่างออกจากระเบิดอย่างใจเย็นตอนนั้น เป็นคนละคนกัน
แต่แค่ตอนนั้น เขาไม่ได้คิดมาก
แต่ในขณะนี้ เขารู้สึกได้ถึงความรู้สึกตอนที่ฉินซีกลับมาอยู่ข้างๆ ตัวเอง
แม้แต่หัวใจของเขาเอง ก็ยังเต้น
ฉินซีรู้สึกว่าลู่เซิ่นแปลกไปเล็กน้อย แต่ก็ยังพูดถึงเรื่องเดิมต่อไป “คลับที่เวินจิ้งชอบไปคือบาร์ของเถ้าแก่โจว ถ้าเราใส่ยาลงไปนิดหน่อย ก็สำเร็วแล้ว ข้างกายเวินจิ้ง มีคนคอยคุ้มกันไหม?”
ลู่เซิ่นพยักหน้า “มู่วี่สิงส่งบอดี้การ์ดมาแล้ว”
ฉินซียิ้มด้วยความพึงพอใจ “ถ้าอย่างนั้นก็พอดีเลย ฉันไม่ได้อยากจะทำร้ายเธอ ใส่ยาให้เธอก่อน ให้เธอไปหาเขา ถ้าหากเธอมีปัญหาอะไร มู่วี่สิงต้องเป็นคนแรกที่รู้แน่ หลังจากนั้นจะไม่เกิดอันตรายอะไรอีก”
หลังจากนั้นไม่นาน ฉินซีก็วางแผนไว้เกือบหมดแล้ว