flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1294 กำหนด

บทที่1294 กำหนด

“ เป็นอะไรไป?” ถังย่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำนี้ เธอจึงไม่ได้อ่านรายงานมาก่อน

เมื่อเห็นใบหน้าของฉินซีซีดลง เธอคิดว่าต้องมีบางอย่างที่ร้ายแรงอยู่ในนั้น

แต่ฉินซีทำเพียงแค่บีบกระดาษแน่น ก่อนส่ายหัว “ไม่มีอะไร”

ถังย่าลุกขึ้นนั่งด้วยความอยากรู้อยากเห็น ” รู้ไหมว่าสีหน้าเธอมันแย่มาก?”

ฉินซีเม้มปาก ปิดเอกสารในมือลง และนั่งลงข้างถังย่า

“เธอคิดว่า สิ่งที่เธอทำมาทั้งหมดนี่ มันคือสิ่งที่ถูกต้องไหม?” ฉินซีไม่ได้มองไปที่เธอ แต่มองขึ้นไปบนเพดาน

ถังย่ารู้ว่าฉินซีมีอะไรที่อยากจะพูด แต่เธอก็ไม่ได้เซ้าซี้ถามต่อ แค่ถามกลับไป “เธอจะไปบอกว่าอะไรถูกหรืออะไรผิดได้ยังไงล่ะ?”

ฉินซียิ้มจาง “ใช่ อะไรคือผิดและอะไรคือถูก?”

จากข้อมูลของคนๆนี้ เขาไม่ใช่คนดี ยกเว้นตอนเด็กที่ไปโกงพี่น้องของตัวเอง ภายหลังเรื่องปากท้องก็ไม่ใช่ของแท้แน่นอน

แต่ก็เป็นเพียงคนเดียวที่หลานสาวของเขาสนิทที่สุด

เขาตายไปแบบนี้ ฉินซีไม่รู้ว่าชีวิตของเด็กผู้หญิงจะเปลี่ยนไปหรือไม่

การทำลายชีวิตของคนอื่นในนามของการผดุงความยุติธรรมนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องจริงหรือ?

เธอไม่ได้พูดทั้งหมด แต่ถังย่าดูเหมือนว่าจะเข้าใจเธอจากคำถามง่ายๆเช่นนี้

“ฉินซี” เธอยิ้ม “เมื่อไหร่ที่เธอรู้สึกสงสัย เธอจะเจ็บปวด”

ถังย่าพอเข้าใจความรู้สึกของฉินซี แต่เธอไม่มีทางทำได้ด้วยตัวเอง

เพราะตรรกะและความคิดของเธอถูกหลอมรวมโดยองค์กรอย่างสมบูรณ์ ไม่มีวันที่จะสงสัยในตัวองค์กร

“ใช่ มันเจ็บปวดมาก” ฉินซีพึมพำ แต่ไม่นานเธอก็ยิ้มออกมา “แต่ความสงบที่เจ็บปวดนั้นดีกว่าความสุขที่สับสนวุ่นวายไม่ใช่เหรอ”

ถังย่าตกใจกับคำพูดของเธอและไม่ได้ตอบอะไรออกไป

ตอนแรกที่เธอมองไปที่ฉินซี เธอไม่เข้าใจ

ทำไมต้องเป็นเธอ? ทำไมจ้านเซินถึงชอบเธอ? มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับเธอ? เธอมีอะไรที่ฉันไม่มี?

แต่เมื่อถึงตอนนี้ เธอก็เข้าใจ

เพราะว่าฉินซีกับพวกเขาไม่เหมือนกัน

จ้านเซินเติบโตขึ้นมาในองค์กรตั้งแต่เขายังเด็ก และคนที่เขารู้จักก็ล้วนเป็นคนภายในเช่นเดียวกับเธอ ทุกคนไม่สงบนิ่ง ไม่แยแสต่อสิ่งใด และมีเป้าหมายเดียวกัน ราวกับเครื่องจักร

เมื่อตอนที่ถังย่าได้ติดต่อกับจ้านเซิน ก็เป็นช่วงที่เขาผ่านการฝึกฝนอย่างละเอียด

แต่ฉินซีเป็นคนธรรมดาคนแรกที่เข้ามา

เธอมีความรักโลภโกรธหลง มีความรู้สึกต่างๆ ถึงตอนนั้นเธอจะเป็นแค่เด็กผู้หญิง แต่เธอก็เหมือนสีสันสดใสที่แต่งแต้มบนจานสีที่มันมีแต่สีดำและขาว

ลู่เซิ่นอาจจะเริ่มให้ความสนใจเธอตั้งแต่นั้นมา และแม้ว่าตัวตนฉินซีจะกลายเป็นเหมือนพวกเขาในองค์กรมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ความอยากรู้อยากเห็นที่เขาเคยมีก็ไม่หายไปง่ายๆ ความสนใจและความอยากรู้อยากเห็นสามารถเปลี่ยนเป็นความรักได้ง่ายดายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้พบเจอฉินซีทุกวัน

ถังย่าหันไปมองฉินซี ใบหน้าของเธอมีความดื้อรั้น ดูไม่ยอมแพ้ ราวกับจะประกาศว่าเธอจะไม่มีวันภักดีกับองค์กรได้

ทันใดถังย่าก็หัวเราะขึ้นมา

จ้านเซินไม่สามารถกำจัดองค์กรได้ และเขาดันตกหลุมรักคนที่ไม่มีวันจะมาเป็นสมาชิกขององค์กร

เรื่องนี้มันคงถูกกำหนดให้เป็นโศกนาฏกรรมตั้งแต่แรก

“เธอหัวเราะอะไร?” ทันใดนั้นฉินซีก็หันกลับมามองรอยยิ้มอันเงียบงันบนใบหน้าของถังย่า

โดยปกติถังย่าจะไม่พูดสิ่งที่อยู่ในใจเธอ เธอเพียงแค่สายหน้ายิ้มจางๆ

ฉินซีไม่ได้ถามต่อ เธอเพียงแค่จมจ่ออยู่กับความคิดของตัวเอง

ก่อนงานแต่งของลู่เซิ่น ถ้ามีเป้าหมายที่จะละทิ้งองค์กรเพียงชั่วครู่ ภายในใจคิดเพียงแต่จะไปเฝ้าดูงานแต่งเขาอย่างราบรื่น

ทว่าตอนนี้ หลังจากที่เป้าหมายเล็กๆนี้ได้รับการแก้ไข เป้าหมายที่เธอพักไว้ชั่วครู่ได้กลับมาอยู่ในความคิดของเธออีกครั้ง เมื่อเห็นผลลัพธ์ของภารกิจสุดท้ายนี้ ความคิดที่จะออกไปจากองค์กรกลับเด่นชัดขึ้น

โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เธอเองไม่ได้เลวพอที่จะเป็นคนทำ แต่หนึ่งสิ่งที่เธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้คือ เรื่องนี้เธอเองก็มีส่วนเกี่ยวข้อง

แค่คิดว่าต่อไปในอนาคต เรื่องทำนองนี้คงเกิดขึ้นได้บ่อย ความคิดที่อยากจะออกไปก็เร็วมากขึ้นเท่านั้น

แต่เรื่องนี้ก็เอาไปพูดกับถังย่าไม่ได้ เธอไม่แน่ใจว่าในองค์กรนี้ใครจะช่วยเธอได้ และใครจะยืนหยัดอยู่กับเธอ และใครจะไม่ทรยศเธอ เธอพึ่งแค่ตัวเอง

“เอาล่ะ สิ่งที่ควรจะให้ฉันก็เอามาให้แล้ว ฉันต้องไปแล้ว อยู่นานเกินไปล่ะ” ถังย่าลุกขึ้น

ความคิดของฉินซีถูกขัดจังหวะโดยถังย่า เงยหน้าขึ้นมองเธอ และในที่สุดก็จำคำถามแรกของเธอได้

“จะว่าไป ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้”

ถังย่ายิ้มจาง ๆ “เกิดเรื่องบางอย่าง เลยต้องกลับมา ”

ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นจริงๆ นั่งเครื่องกลับพร้อมเธอมันจะสบายกว่าไหม

ต้องเป็นเรื่องที่เร่งด่วนมากสินะ ถึงกลับมาทันทีภายในไม่กี่ชั่วโมง

ฉินซีเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ไม่อยากถามอะไรไปมากกว่านี้แล้ว ทำได้แค่ผงกหัวเบาๆ ก่อนจะไปส่งเธอที่ประตู

ถังย่าเดินออกไปไม่กี่ก้าว เมื่อได้ยินเสียงปิดประตูลง จึงหันกลับไปมองอีกครั้ง

เธอไม่ได้โกหก เธอกลับมา … เพื่อต้องได้รับการรักษาจากนักสะกดจิต

ทุกครั้งที่เธออยู่ใกล้จ้านเซิน เธอรู้สึกเหมือนหัวใจมันแทบจะเต้นออกมาข้างนอกทุกที ถ้าหากไม่ระวังตัว คงไม่สามารถกลั้นความรู้สึกที่แท้จริงไว้แค่ในใจได้

แต่ เหตุผลที่ไม่กลับมาพร้อมพวกเขา…

ถังย่าหันหลังกลับ และเดินต่อไปพร้อมกับรอยยิ้มที่ขมขื่นบนใบหน้าของเธอ

เพราะเธอรู้ดีกว่าใคร ว่าจ้านเซินต้องการใช้เวลากับฉินซีสองต่อสอง

เธอไม่มีวันที่จะขัดขวางแผนการของจ้านเซินทั้งนั้น

เธอคิดพลางเดินไปยังหน้าห้องพักแพทย์

ถังย่ายืนนิ่งสักพัก ก่อนยกมือขึ้นเคาะประตู

หลังจากนั้นไม่นานประตูก็เปิดออกจากด้านใน

ใบหน้าของเหยาจ้าวก็โผล่ออกมา

เขามองไปที่ถังย่าด้วยใบหน้าเรียบเฉย แค่เพยิดคางไปด้านในส่งสัญญาณให้เธอเข้าไป

ถังย่าไม่พูดอะไร เธอแค่พยักหน้าเป็นการทักทาย แล้วเดินหายเข้าไปข้างใน

ประตูปิดตามหลังเธอ

จ้านเซินนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขา

หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขาแบ่งออกเป็นชิ้นเล็กๆ หลายจอ และแต่ละหน้าจอ เป็นภาพที่มาจากกล้องวงจรปิด แต่จอตรงกลางกลับกลายเป็นมืดสนิท

– จอนี้เคยเป็นของห้องฉินซี

เขารู้สึกลำบากเล็กน้อย และต้องการติดตั้งกล้องในห้องเธอเพื่อดูว่าตอนนี้เธอกำลังทำอะไรอยู่

แต่คำพูดของถังย่ายังดังก้องอยู่ในหูของเขา

“ฉินซีไม่ชอบถูกเฝ้าดู สิ่งนี้จะทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัย คุณอยากให้เธอรู้สึกว่าต้องระมัดระวังกับคุณตลอดเวลาหรือไง?”

คำตอบในใจของจ้านเซินคือไม่แน่นอน

ดังนั้นไม่ว่าเขาจะลังเลใจแค่ไหน แต่สุดท้ายเขาก็ยังคงทำตามคำแนะนำของถังย่า

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

Options

not work with dark mode
Reset