บทที่ 1261เธอไม่ได้เต็มใจ
“เธอคงจะไม่นึกว่า การที่สถานที่แห่งนี้อยู่ใกล้กับรีสอร์ทชิงหยวนขนาดนี้เป็นเรื่องบังเอิญเรื่องหนึ่งหรอกนะ” น้ำเสียงของถังย่าแฝงไปด้วยแววหยอกล้อเล็กน้อย
สมองของฉินซีมีแผนที่เส้นทางที่ตัวเองวางแผนในตอนที่ยืนอยู่หน้าหน้าต่างเมื่อบ่ายแวบผ่าน
ใกล้มาก ถ้าเดินลัดไปตามตรอก ไม่ถึงสิบกว่านาทีก็ถึงแล้ว
ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยสงสัย แต่คิดว่าจ้านเซินน่าจะแทบทนไม่ไหวที่จะให้ตัวเองอยู่ไกลจากลู่เซิ่นแล้ว ก็ฝืนเชื่อว่านี่ล้วนเป็นเรื่องบังเอิญ
แต่ว่าตอนนี้……..
ถ้าหากว่านี่เป็นสถานที่ที่ถังย่าเลือก อย่างนั้นความบังเอิญ ก็ไม่น่าจะใช่ความบังเอิญแล้ว
“เธอคิดจะทำอะไร” ฉินซีไม่อ้อมค้อม ถามอย่างตรงไปตรงมา
ถังย่ากลับตอบคำถามที่เธอถามขึ้นก่อนหน้านั้นขึ้นมากะทันหัน “ที่อยากพูดเรื่องเหล่านี้กับเธอ ก็ไม่ใช่ว่าฉุกคิดขึ้นมาได้ พูดแล้วก็น่าขำ คนที่ฉันสามารถพูดเรื่องพวกนี้ด้วยได้ อาจจะมีเพียงแค่เธอคนเดียว”
สัญชาตญาณของฉินซีบอกว่าเธอยังมีอะไรจะพูดอีก จึงรอคำพูดต่อไปของเธออย่างเงียบๆ
“ถ้าหากว่ามีเหตุผลอื่นอีกล่ะก็” ถังย่าชะงักไปหลายวินาที ค่อยเอ่ยต่อว่า “ฉันหวังว่าเธอจะรู้ สิ่งที่เธอมีทั้งหมดโดยไม่ต้องเปลืองแรงนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่คนอื่นอยากได้ใจจะขาด”
ฉินซีขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เธอก็น่าจะพบแล้วว่า สถานที่ที่พวกเราอยู่ในตอนนี้ ใกล้กับรีสอร์ทชิงหยวนมาก” ถังย่าเอ่ยต่อ “คืนวันนี้ คนที่เฝ้าเธอมีแค่ฉัน พรุ่งนี้ก็เหมือนกัน ดังนั้น……จนถึงวันพรุ่งนี้ เธอล้วนเป็นอิสระแล้ว เธอสามารถไปในสถานที่ที่เธออยากจะไปได้”
คล้ายกับว่ามีขนมเปี๊ยะจากฟ้าหล่นลงมาใส่ฉินซี แต่เธอกลับไม่รู้สึกมีความสุข แต่รู้สึกว่าผิดปกติอยู่บ้าง “ทำไมเธอจะต้องช่วยฉันทำเรื่องพวกนี้ด้วย”
ถังย่าหัวเราะ “เธออย่าเข้าใจผิด ฉันไม่ได้จิตใจดีขนาดนั้น ถ้าเป็นไปได้ล่ะก็ ฉันแทบจะให้เธอยิ่งทรมานยิ่งดี”
“ดังนั้น…..เธอคิดจะให้ฉันไปพบกับลู่เซิ่นเป็นครั้งสุดท้ายหรือ” ฉินซีพูด คิ้วขมวดเป็นปม
“ไม่ผิด” ถังย่ายอมรับอย่างตรงไปตรงมา “ถึงอย่างไร เธอก็ถูกกำหนดให้ไม่มีหนทางที่จะไปจากองค์กรอยู่แล้ว แต่ลู่เซิ่นจะแต่งงานกับคนอื่นแล้ว ระหว่างพวกเธอสองคนก็น่าจะจบลงตรงนี้แล้ว จ้านเซินอาจจะไม่เข้าใจ แต่ว่าฉันเข้าใจดีมาก บางครั้ง ความยึดติดนั้น ไม่ใช่เพราะว่าไม่ได้รับบทสรุปที่ดีที่สุด แต่เพียงเพราะว่าไม่ได้บอกลากันดีๆเท่านั้นเอง”
ฉินซีชะงัก
เธอคิดไม่ถึงเลยว่า……ประโยคหนึ่งของถังย่า จะแทงถูกเรื่องในใจของตัวเองจริงๆ
เรื่องดำเนินมาจนถึงก้าวนี้แล้ว แม้ว่าเธอยังปรารถนาการไปจากองค์กรเพื่อที่จะได้รับอิสระ แต่ไม่ได้โอบกอดความคิดเพ้อฝันที่จะอยู่ด้วยกันกับลู่เซิ่นต่อไปแล้ว สิ่งเดียวที่เธออยากทำก็แค่ ได้พบกับลู่เซิ่น พูดคุยกันดีๆสักครั้งหนึ่ง
เพียงเท่านี้ก็พอแล้ว เธอสามารถปล่อยวางได้แล้ว
“ดังนั้น ฉันจะให้โอกาสเธอเป็นครั้งสุดท้าย” ถังย่ามองฉินซี “ฉันจะปิดบังเรื่องทั้งหมดแทนเธออย่างดี ไม่ให้จ้านเซินได้รู้ เธอสามารถทำเรื่องอะไรก็ตามที่เธออยากทำได้ พบคนที่เธออยากพบ เพียงแต่ว่าหลังจากที่ภารกิจในวันพรุ่งนี้สิ้นสุดลง เธอจะต้องรีบกลับมาที่นี่ในทันที ไม่มีใครรู้ว่าทั้งวันนี้เธอทำอะไรกันแน่”
ฉินซีหรี่ตาลง ไม่ได้เอ่ยพูดในทันที
เธอยังคงไม่กล้าเชื่อเรื่องราวทั้งหมดนี้อยู่บ้าง
เธอรู้ถึงความสัมพันธ์ของถังย่าและจ้านเซิน ดังนั้นจึงไม่กล้าเสี่ยงเชื่อคำพูดของถังย่า
ถ้าหากว่า….นี้เป็นกับดักที่จ้านเซินใช้หยั่งเชิงตัวเองอย่างหนึ่งล่ะ
ถ้าหากว่าตัวเองพยักหน้าตอบรับ จ้านเซินจะพังประตูเข้ามาจากด้านนอก บีบบังคับพาตัวเองกลับไปยังสำนักงานใหญ่ล่ะ
“เธอไม่กลัวว่าฉันจะหนีไปหรือ” ฉินซีเอ่ยถาม
เสียงหัวเราะของถังย่าเจือไปด้วยการเหยียดหยันอยู่หลายส่วน “เธอคิดว่า…..ตัวเองสามารถหนีไปได้จริงๆหรือ”
ฉินซีชะงัก เงียบขรึมไป
ในเมื่อจดจำเรื่องทั้งหมดได้แล้ว ฉินซีย่อมรู้เช่นกันว่า อิทธิพลขององค์กรแทรกซึมไปทั่วทุกแห่ง
แม้ว่าวันนี้เธอจะไปจากที่นี่แล้ว แต่ก็ไม่มีหนทางที่จะไปจากองค์กร และได้รับอิสระจริงๆ
แต่เธอยังคงไม่ได้ตอบรับอยู่ดี
อาจเป็นเพราะว่าการลังเลภายใต้ความเงียบงันของฉินซีนั้นเห็นได้ชัดเจน ถังย่าหัวเราะเสียงเบา “เธอไม่เชื่อฉันก็ได้ ตามใจเธอ ทั้งวันมานี้ เธอไม่ทำอะไรเลย และอยู่ที่นี่ก็ได้ ขอเพียงแค่เธอสมัครใจ”
ประโยคสุดท้ายเหมือนกับดาบเล่มหนึ่ง แทงตรงเข้ามาในใจของฉินซี
จนถึงตอนนี้ เธอจะไม่เข้าใจเป้าหมายที่ถังย่าทำทั้งหมดในคืนวันนี้ได้อย่างไร
แรกเริ่มคือการพูดอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ฉินซีเชื่อว่าที่นี่ไม่มีกล้องวงจรปิดและเครื่องดักฟัง ให้ฉินซีรู้สึกซาบซึ้ง ตื้นตันใจในสิ่งที่ตัวเองได้รับ ทั้งยังไว้วางใจเธอ จากนั้นก็ใช้ความไว้วางใจในส่วนนี้ โยนวัตถุประสงค์ในการมาของเธอในคืนนี้ออกมา…….ให้โอกาสฉินซี ไปบอกลากับลู่เซิ่นเป็นครั้งสุดท้าย
เมื่อมองแล้ว การกระทำทั้งหมด ก็เรียกได้ว่ามีร่องรอยอยู่ทั่วทุกแห่ง ถึงอย่างไรทั้งหมดที่เธอทำ ก็ล้วนทำเพื่อให้ฉินซีตัดใจจากโลกภายนอก และกลับสู่องค์กรอย่างแท้จริง
นี่สอดคล้องกับตรรกะที่คนในองค์กรปฏิบัติเสมอมา
สำหรับตัวถังย่าเองนั้น…..
ฉินซีรู้สึกแปลกว่า การสารภาพของถังย่าในคืนนี้ ไม่ใช่เรื่องที่แต่งขึ้นมาเพื่อให้ได้มาซึ่งความไว้วางใจจากเธออย่างบริสุทธิ์ แต่เป็นคำพูดที่เธออยากจะพูดจริงๆ
ถ้าหากว่าถังย่าชอบจ้านเซิน อย่างนั้นที่เธอสิ้นเปลืองความคิดช่วยให้ตัวเองไปหาลู่เซิ่น ก็เรียกได้ว่าสมเหตุสมผล
ถึงอย่างไร การผลักเธอไปใกล้ลู่เซิ่นเล็กน้อย ก็คือให้เธออยู่ไกลจากจ้านเซินนิดหน่อย
แต่ฉินซีไม่ได้หวั่นไหว เพราะว่าทั้งหมดนี้สอดคล้องกับตรรกะ
สิ่งที่สะกิดถูกฉินซีจริงๆ ยังคงเป็นประโยคนั้นของถังย่า “ขอเพียงแค่เธอสมัครใจ”
เธอไม่สมัครใจ
แน่นอนว่าไม่สมัครใจ
ถ้าหากว่าเธอสมัครใจ อย่างนั้นก็ไม่อาจจะยอมรับเรื่องราวมากมายขนาดนี้ แล้วต้องมาที่นี่ให้ได้
ถ้าหากว่าจากไปโดยที่ไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง……
ฉินซีรู้ว่า ถ้าเป็นแบบนี้ อย่างนั้นจ้านเซินจะกลายเป็นแต้มชาดสีแดงแต้มหนึ่งที่ไม่มีวันจางหายไปในใจของตัวเองตลอดกาล
ไม่รู้ว่าภายในห้องตกอยู่ในความเงียบนานเท่าไรแล้ว ฉินซีถึงได้ตอบเสียงเบาว่า “อย่างนั้นฉันไปแล้วนะ”
ถังย่าคล้ายกับว่าคาดการณ์ได้นานแล้ว น้ำเสียงแฝงไปด้วยความขบขัน “ได้ อย่าไปทางประตูหลัก ด้านล่างยังมีคนอีกสองคน”
ฉินซีรับคำ ลุกขึ้นยืน
อาศัยทักษะของเธอในตอนนี้ ออกไปทางหน้าต่าง ลงไปตามทางท่อระบายน้ำ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีใครเปิดไฟในห้อง
ถังย่านั่งอยู่ที่เดิม ฟังเสียงฝีเท้าของฉินซีเดินเข้าไปในห้อง
หน้าต่างถูกเปิดออก
หลังจากได้ยินเสียงกระทบสองสามที การเคลื่อนไหวทั้งหมดภายในห้องก็เลือนหายไป
ถังย่าหลับตาลง เธอรู้ว่า ฉินซีจากไปแล้ว
เธอลุกขึ้นยืน เดินไปที่ระเบียง เปิดโทรศัพท์มือถือ ต่อสายหาจ้านเซิน
“เธอไปแล้วหรือ”
เสียงของจ้านเซินเจือรอยโทสะเบาบาง
“อืม” ถังย่าตอบกลับง่ายๆ
“ถ้าหากว่าเธอหนีไป…..” จ้านเซินไม่ได้พูดจนจบ แต่ความหมายก็ชัดเจนมากแล้ว
ถังย่าหลับตาลง รอยยิ้มมุมปากนั้นแฝงร่องรอยขมขื่นอยู่หลายส่วน
“ถ้าหากว่าฉินซีหนีไป ฉันจะฆ่าตัวตายเป็นการขอโทษ”
เรื่องทั้งหมดในวันนี้ ไม่ใช่ว่าถังย่าคิดเองเออเอง แต่กลับเป็นข้อเสนอของถังย่า
แน่นอนว่าเธอไม่ได้ใช้การบอกลาที่เป็นเรื่องเพ้อฝันอะไรนั่นมาโต้เถียงเพื่อโน้มน้าวจ้านเซิน เพียงแค่ยืนข้อเสนอกับจ้านเซินง่ายๆว่า “แทนที่คุณจะจิตใจรุ่มร้อน กระสับกระส่ายในทุกๆวัน ใช้วิธีต่างๆมาหยั่งเชิง ไม่สู้วางทางเลือกไว้หน้าเธอ ถ้าหากเห็นอยู่ชัดๆว่าเธอมีโอกาสที่จะอยู่ข้างกายลู่เซิ่น แต่เลือกกลับมาที่องค์กร อย่างนั้นคุณไม่จำเป็นต้องสงสัยอีกแล้ว”
“ถ้าหากว่าเธอไม่กลับมาล่ะ” จ้านเซินถาม
ถังย่ายิ้ม “ไม่มีทางที่คุณจะพาเธอกลับมาไม่ได้”