บทที่ 1155 ยังไม่พอสมควร
ไม่สนใจว่าตอนนี้ภายในใจของฉินซีจะเต็มไปด้วยความอันตรายมากมาย แต่ฉินซีในตอนนั้นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคนตรงหน้าเลยสักนิด
เธอตกใจที่ฝ่ายตรงข้ามสามารถจ่ายเงินได้อย่างง่ายดาย แทบจะไม่ดูรถให้ละเอียดเลย และจัดการดำเนินการ กระทั่ง…จ่ายเงินเต็มจำนวน
ฉินซีเห็นในบัญชีของตัวเองมีเงินเพิ่มขึ้นมาหลายล้าน รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อย
ดูเหมือนฝ่ายตรงข้ามจะยุ่งมาก หลังจากจัดการส่งมอบเสร็จก็รีบออกไป ปล่อยให้ฉินซีกับอานหยันอยู่ที่เดิม
ดูเหมือนอานหยันจะตื่นเต้นกว่าฉินซีเล็กน้อย เธอหันไปทางฉินซีเหมือนนึกอะไรขึ้นได้และรีบพูดออกมา : “ยังมีข่าวดีอีกหนึ่งอย่างฉันลืมบอกคุณ! ผลงานของคุณขายได้แล้วน่ะ เป็นบรรณาธิการที่ฉันคุ้นเคยคนหนึ่ง ให้ราคาสมเหตุสมผล คิดว่าเงินจะโอนมาให้บัตรไม่กี่วันนี้”
ฉินซีถอนหายใจอย่างโล่งอก : “ขอบคุณมากๆ”
อานหยันตบไหล่เธออย่างสบายๆ : “ระหว่างพวกเราจะขอบคุณอะไร เขายังบอกว่า พวกเขาอยากจะถ่ายภาพทัศนียภาพของประเทศT ค่าเดินทางเบิกได้ ไปกลับน่าจะใช้เวลา 1วัน เขาสนใจรูปของคุณมาก ให้ฉันถามว่าคุณมีเวลาว่างไปไหม”
ฉินซีนึกถึงสภาพจิตใจของเหยาหมิ่น ลังเลอยู่สักครู่และไม่ได้ตอบตกลงในทันที : “ฉันต้องดูแลแม่…คุณก็รู้ หลายวันมานี้สภาพจิตเธอไม่ดีเลย”
อานหยันพยักหน้าเข้าใจ : “ได้ ฝั่งนั้นไม่รีบร้อน ยังรอเธอได้อีกหลายวัน”
ฉินซีอยากจะพูดอะไรอีก อานหยันโบกมือ ยังไม่ทันได้พูดอะไรเสียงโทรก็ดังขึ้น
เขาไปรับโทรศัพท์อีกด้านหนึ่ง และกลับมาขมวดคิ้ว : “นิตยสารสังคมมีปัญหานิดหน่อย ฉันต้องกลับไปจัดการ คุณจะไปไหน? ฉันไปส่ง”
ฉินซีส่ายหน้า : “ฉันไม่รีบกลับ จะไปเดินเล่นตากลมหน่อย”
อานหยันไม่ได้บังคับอะไร จึงพยักหน้าจะเดินจากไป
ฉินซีเดินวนไปรอบๆ อย่างไร้จุดหมาย จึงขึ้นรถและวนไปรอบๆ รีสอร์ทชิงหยวน
หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น จริงๆ แล้วเธอรู้ดี
เธออยากไปดูที่ถนนเล็กๆ ตรงประตูหลังของรีสอร์ทชิงหยวน กลับได้เจอลู่เซิ่น เป็นเพราะหกล้มจนทำให้เสื้อผ้าเปียก ลู่เซิ่นพาเธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คฤหาสน์ ใส่ยาที่เท้าให้ จากนั้นจึงส่งเธอกลับไป
ที่ทำให้ฉินซีประหลาดใจ ถ้าคิดถึงตอนนั้นจริงๆแล้วตอนนั้นเธอจำลู่เซิ่นไม่ได้เลย
เป็นเพราะตอนนั้นจิตใจเธอรู้สึกหดหู่เกินไปและไม่คิดจะสังเกตคนข้างตัว ยิ่งตอนนั้นที่เธอหวั่นใจต่อลู่เซิ่นในระยะเวลาสั้นๆ ก็โดนจ้านเซินสังเกตเห็น เธอถูกสะกดจิตพาตัวกลับ ดังนั้นจึงมองลู่เซิ่นโดยไม่รู้สึกคุ้นเคยเลยแม้แต่นิด
ความทรงจำช่วงนี้น่าจะเป็นเพราะความสัมพันธ์ที่เธอเคยชิน ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฉินซีได้สติกลับมา รถที่ลู่เซิ่นให้มาส่งเธอก็มาจอดอยู่ตรงหน้าอพาร์ทเมนท์ที่พวกเขาอยู่แล้ว
ฉินซีลงจากรถ บอกลาคนขับรถอย่างสุภาพ ขณะที่กำลังจะเดินไปด้านใน สัมผัสที่หกก็รู้สึกถึงความอันตรายได้อย่างรวดเร็ว
“ใคร!” เธอหันหลังกลับ มองไปทางทางเดินที่ว่างเปล่าและตะโกนออกไป
ไม่มีใครตอบกลับมา แต่เธอกลับยืนอยู่ตรงที่หน้าประตูใหญ่ด้านนอก ไม่ยอมเดินเข้าไปด้านใน
ทั้งสองฝ่ายยืนอยู่ตรงนั้นไม่นาน ในที่สุดก็มีเสียงหัวเราะเบาๆ ออกมา : “ไม่เลวนิ ฉันคิดว่าพี่น้องของเราจะซ่อนตัวได้ไม่เลวเสียอีก”
ฉินซีไม่สนใจคำพูดของเขาและมองฝ่ายตรงข้ามอย่างเย็นชา
ผู้ชายร่างกายสูงใหญ่ 5 คน สวมเสื้อสูทสีดำ แต่คุณภาพของชุดกลับด้อยจนเห็นได้ในทันที บางคนบนข้อมือและคอใส่ทองเส้นหนา ท่าทีดูเหยียดหยาม
ผู้ชายทั้ง5คนปิดทางเดินบันไดได้สนิท และค่อยๆ ก้าวเข้ามาหาฉินซี
เธอดีใจที่ไม่ได้ผลีผลามเดินเข้าไปพลางเดินถอยหลังไปอีกก้าว จนกระทั่งถอยไปจนถึงสวนเขียวนอกอาคาร จึงหยุดลง
“วิ่งทำไม พวกเราไม่ได้จะกินคุณ” ผู้ชายที่อยู่ตรงกลางพูดพลางมองฉินซี สายตาที่มองมานั้นให้ฉินซีรู้สึกอึดอัด
แต่ถ้าจะทำให้เธอกลัว พวกเรายังทำไม่ได้
“พวกคุณมาทวงหนี้จากตระกูลไหน?” เธอเงยหน้าอย่างเย็นชา เผชิญหน้ากับผู้ชายตรงหน้าอย่างมุ่งมั่น
คนคนนั้นดูประหลาดใจเล็กน้อยกับท่าทีที่แข็งกระด้าง น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง และยักคิ้วไปมา : “ยังรู้ว่าติดเงินอยู่สิน่ะ? ฉันคิดว่าพวกคุณจะแกล้งตายจนถึงที่สุดไปเสียแล้ว”
ประโยคนี้ของเขา ทำให้ฉินซีมั่นใจ กลุ่มคนตรงหน้านี้ต้องเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มาเคาะประตูเมื่อสองวันก่อน
แต่อารมณ์ของเธอยังไม่อ่อนลง และยิ้มมุมปาก : “ไม่มีเงินจะเปิดประตูทำไม รอให้พวกนายมาแย่งของไปรึไง?”
ท่าทางที่ไม่เกรงกลัวของเธอทำให้คนเหล่านั้นหงุดหงิด และไม่เสแสร้งทำเป็นใจดีอีกต่อไปแต่กลับทำสีหน้านิ่ง : “ได้ ไม่ว่าคุณจะพูดยังไง แต่ตอนนี้คนอยู่ในมือฉันแล้ว ไม่มีอะไรต้องพูด เอาเงินมาสิ”
ฉินซียิ้ม : “บอกให้ฉันจ่ายก็จ่ายนี้น่ะ? ฉันจะรู้ได้ยังไงว่านายเป็นคนของใคร ถ้าเป็นการขู่กรรโชกล่ะ ฉันโดนหลอกเอาเงินไปล่ะ จะไปร้องไห้กับใคร?”
คนคนนั้นที่ถูกฉินซียิ้มเยาะ ยื่นมือโยนสัญญาฉบับหนึ่งมาตรงหน้าฉินซี : “คุณลืมตาดูให้ชัดๆ บนสัญญายืมเงินนี้เขียนชื่อของพ่อเธอชัดๆ และยังมีสัญญาอีกใบที่พ่อของเธอผลักภาระให้แม่ของเธอ ในเมื่อเธออยู่กับแม่ ท่าทางเธอก็แสดงออกว่าอยากจะช่วยเธอไม่ใช่รึไง? อยากช่วยเธอ ก็คืนเงินมา!”
ฉินซีเม้มปากและหยิบสัญญาขึ้นมาดู
วันก่อนที่ตรวจสอบเอกสารดู มีสัญญาเงินกู้นี้จริง
และก็เป็นหนึ่งในสัญญาที่มีดอกเบี้ยสูงเกินความจำเป็น
ฉินซึ่งเทียนกู้เงินจากที่นี่มาเป็นระยะๆ รวมแล้วเกือบ30ล้าน ทุกเดือนดอกเบี้ยราวๆ 800,000 ยิ่งไม่ต้องพูดถึง…นี้คือวิธีการทำกำไร
ฉินซีกัดฟันแน่น เอาชนะตัวเอง ปิดสัญญาลงและเงยหน้ามองผู้ชายคนนั้น : “ฉันไม่มีเงินมากขนาดนั้น”
ผู้ชายคนนั้นยิ้ม : “ไม่มีเงินต้นมาคืน จ่ายดอกเบี้ยสักหน่อยก็ยังดี ไม่งั้น…จะใช้อย่างอื่นจ่ายก็ได้”
พูดจบ เขาก็มองสำรวจฉินซีอีกครั้ง : “ฉันว่า ถ้าเอาเธอไปขาย มั่นใจได้เลยว่าคืนเงินได้ไม่มีปัญหา”
ฉินซีขนลุกกับคำพูดที่น่ารังเกียจของเขา
จะให้เธอขายตัว ฆ่าเธอให้ตายดีกว่า
แต่เธอรู้ว่าในสถานการณ์แบบนี้แสดงความกลัวออกมาไม่ได้ มองไปอย่างใจเย็นและไม่ยิ้ม : “คืนดอกเบี้ยไปแล้ว จะไม่มาเคาะประตูตอนเช้าไหม? เสียงดังจนนอนไม่หลับ”
ผู้ชายคนนั้นตื่นเต้นกับน้ำเสียงของเธอ จนลืมไปว่าตัวเองกำลังจะพูดอะไร จึงพ่นลมออกจากจมูกนิดหน่อย : “ปากกล้าดี คุณคืนดอกเบี้ยมาก่อน ฉันสัญญาว่าเดือนนี้จะไม่มารบกวนคุณ”
ฉินซีรอประโยคนี้จากเขา จึงรีบพูดออกไป : “นี่คุณพูดเองน่ะ ดอกเบี้ยเดือนนี้เท่าไหร่?”
ผู้ชายคนนั้นเพิ่งจะรู้ตัวว่าตกลงไปในกับดักของฉินซีแล้ว แต่จะเสียหน้าไม่ได้ จึงพูดมาว่า : “คืนมาก่อน780,000 แล้วค่อยมาคุยเงื่อนไขกับฉัน”
ฉินซีเพิ่งจะขายรถไป และยังได้เงินค่าถ่ายรูปมาแล้ว 780,000 ใช่ว่าจะจ่ายไม่ไหว