บทที่ 1108 ระแวงมากไป
ฉินซีเงียบไปชั่วขณะ
คลิปเสียงที่เธอได้รับมีคุณภาพเสียงที่ชัดเจน แม้แต่เสียงรอบข้างในคลิปนั้น บางทีก็มีเสียงนกร้องที่ฟังแล้วก็ได้ยินอย่างชัดเจน
อันที่จริงก่อนที่เธอจะมานั้น ภายในใจของเธอมีการแอบหวังเล็กๆว่าเธอจะโชคดี เธอยังแอบมีความหวัง ความหวังที่ถังย่าจะบอกกับเธอว่า คลิปเสียงนี้มีการตัดต่อเพื่อจุดประสงค์ที่ไม่ดี
“จากจุดๆนี้ ทำให้ฉันนั้นตัดความเป็นไปได้ของข้อที่ว่าคลิปเสียงมีการตัดต่อเพื่อจุดประสงค์ไม่ดีนั้นทิ้ง แต่บางทีมีคำสำคัญของเขาได้ถูกตัดออกไป จึงทำให้คลิปข้อความเสียงมีความหมายเช่นนี้ ยังจำเป็นต้องใช้เครื่องมือเฉพาะในการตรวจสอบ ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ฉันสามารถให้ช่างเทคนิคเข้ามาดำเนินการโดยตรงกับคอมพิวเตอร์ของคุณ รับประกันว่าคลิปเสียงนี้จะไม่ถูกคัดลอกอย่างเด็ดขาด” ถังย่ากล่าวต่อ
ท่าทีของเธอยังคงละเอียดลอออย่างไร้ที่ติ รายละเอียดต่างๆเธอก็สามารถพิจารณาได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน จนให้ฉินซีถึงกับสงสัยตัวเองว่า เมื่อวานตัวเองนั้นระแวงมากไปหรือเปล่า จึงทำให้สงสัยเธอ
“ดีค่ะ คุณให้ช่างเทคนิคเข้ามาได้เลย” ฉินซีพยักหน้า
ความจริงเธอก็ไม่ได้กังวลว่าคลิปเสียงนี้จะถูกปล่อยรั่วไหลออกไป เพราะเธอเข้าใจเป็นอย่างดีว่า ความจริงคลิปเสียงนี้นอกจากเธอแล้ว มันก็ไม่มีประโยชน์ต่อผู้อื่นแต่อย่างใด
ลู่เซิ่นไม่เคยป่าวประกาศเรื่องแต่งงานของตัวเองในที่สาธารณะ เรื่องระหว่างพวกเขาก็มีเพียงแต่คนในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปและบริษัทลู่ซื่อเท่านั้นที่รู้ หลังจากที่ลู่เซิ่นหย่าร้างกับตัวเองแล้ว สูหยิงก็แทบจะรอไม่ไหวที่จะป่าวประกาศให้โลกได้รู้ว่าลู่เซิ่นนั้นโสด เพื่อให้รู้ทั่วกันอย่างกว้างขวาง
ดังนั้นถึงแม้ว่าคลิปเสียงนี้จะรั่วไหลออกไป คนทั่วไปก็มีแต่แสดงความยินดีกับลู่เซิ่นที่สิ่งดีๆกำลังมาเยือน ไม่มีผลกระทบใดๆต่อเขาอย่างแน่นอน
เพราะฉะนั้นให้ช่างเทคนิคเข้ามาตรวจสอบ ก็เพื่อต้องการที่จะสังเกตท่าทีของถังย่าต่อไปเท่านั้น
ถังย่าพยักหน้าแล้วออกไปครู่หนึ่ง จากนั้นไม่นานก็กลับมาพร้อมกับคนสองคน
“ท่านนี้จะรับผิดชอบในส่วนตรวจสอบคลิปเสียงว่ามีการตัดต่อหรือไม่ ส่วนอีกท่านนั้นจะช่วยคุณสืบหาแหล่งที่มาของอีเมล” ถังย่าแนะนำให้ฉินซี
ฉินซีพยักหน้า เมื่อมองไปทางสองคนนั้น ความรู้สึกแปลกๆภายในใจก็ผุดกลับมาอีกครั้ง
ในความรู้สึกของเธอนั้น ช่างเทคนิคส่วนใหญ่นั้นจะค่อนข้างขาวสะอาดและผอมแห้ง เพราะงานที่พวกเขาทำตลอดทั้งปีไม่ได้มีกิจกรรมที่ใช้กำลังมากมาย
แต่ว่าช่างเทคนิคสองคนที่อยู่ตรงหน้า…..รูปร่างสูงใหญ่ ผิวคล้ำ มองดูแล้วเหมือนกับทำงานกลางแจ้งตลอดทั้งปี ซึ่งดูเหมือนจิ๊กโก๋มากกว่าเป็น…..ช่างเทคนิค
ฉินซีถูกความคิดของตัวเองทำให้ตกใจสั่น อดไม่ได้ที่จะแสร้งทำเป็นไม่สนใจแล้วคุยกับถังย่า : พนักงานชายบริษัทคุณต่างมีรูปร่างที่สูงใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ เมื่อวานจ้านเซินก็เช่นกัน วันนี้สองคนนี้ก็เช่นกัน”
ถังย่ายังไม่ทันได้ตอบ หางตาฉินซีก็สังเกตเห็นว่า ขณะที่เธอเอ่ยชื่อของจ้านเซินนั้น ช่างเทคนิคสองคนที่เข้ามานั้นมีการสบสายตากันอย่างรวดเร็ว
การกระทำของพวกเขานั้นไวมาก ถ้าหากฉินซีไม่ได้ให้การสังเกตตลอดเวลา ไม่มีทางที่จะเห็นได้
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเขาทั้งสองแล้ว ฉินซีก็มั่นใจความคิดของตัวเองในเมื่อวานว่า——จ้านเซินไม่ใช่เป็นแค่เพียงพนักงานธรรมดา
แต่เธอก็ไม่ได้แสดงความคิดของตัวเองออกมาให้เห็น และทำหน้าตั้งใจฟังถังย่าพูด
ถังย่ายังคงมีท่าทีที่ไม่มีพิรุธ เธอยิ้มเบาๆ พยักหน้าแล้วพูด : “ฉันส่งเสริมพนักงานบริษัทออกกำลังตลอด ตอนรับสมัครพนักงานก็ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ด้วย”
ถ้าหากว่าฉินซีไม่เกิดความสงสัย คำตอบที่คลุมเครือเช่นนี้ ฉินซีคงมองข้ามแล้วไม่อยากจะสนทนาต่อ
เพราะถึงอย่างไรเกณฑ์การรับพนักงานของบริษัท ถือเป็นปัญหาภายในของบริษัท ไม่จำเป็นที่จะต้องมาบอกกล่าวให้คนภายนอกทราบ
แต่ตอนนี้ฉินซีมองว่า ที่ถังย่าตอบแบบนี้ ก็เพราะมีความรู้สึกผิดในใจเล็กน้อย
ดังนั้นฉินซีจึงหรี่ตาลง และไม่มีการพูดจาใดๆ
ช่างเทคนิคสองคนได้นั่งลงข้างๆฉินซี แล้วเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบอย่างตั้งใจ
ฉินซีไม่ชำนาญเรื่องคอมพิวเตอร์ นั่งดูอยู่ข้างๆก็ดูไม่ออกว่าพวกเขากำลังทำอะไร
บังเอิญ ถังย่าได้พูดขึ้นมาอย่างถูกเวลา: “ในใจคุณมีตัวเลือกที่คิดว่าเป็นผู้ส่งอีเมลไหม”
ฉินซีพูดในใจ : มีสิ ก็ฉันกำลังสงสัยพวกคุณอยู่นี่ไง
แน่นอนเธอไม่สามารถที่จะพูดคำเหล่านี้ออกมาได้ แล้วเธอก็ส่ายหัว :”ฉันคิดไม่ออกว่าเป็นใคร”
ถังย่าพยักหน้าแล้วก้มลงพิมพ์บางอย่างในแล็ปท็อป ผ่านไปสักพักถึงได้เอ่ยปากขึ้น : “ฉันได้ร่างแบบฟอร์มออกมา ในนั้นรวมบุคคลที่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับประธานลู่ตอนนี้ คุณลองสแกนดูคร่าวๆว่าในนี้มีบุคคลที่ต้องสงสัยอยู่ไหม”
เธอพูดพลางหันแล็ปท็อปมาทางฉินซี
“อีกมุมหนึ่ง บุคคลที่สามารถแฮ๊กระบบอีเมลของคุณได้นั้น ขอบเขตนี้ดูจะกว้างไป บุคคลก็อาจจะไม่แม่นยำ แต่ใช้เพื่อประกอบการพิจารณา” ถังย่ากล่าวพร้อมวาดวงกลมสองวง โดยตรงกลางส่วนหนึ่งมีการทับซ้อนกัน “ผู้ที่สามารถส่งอีเมลนี้ให้คุณ มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นบุคคลที่อยู่ในส่วนที่เชื่อมต่อกันของสองแบบฟอร์มนี้ แบบนี้แล้วขอบเขตก็ดูแคบลงทันที มีเพียงคนเหล่านี้เท่านั้น”
เธอวงกลมลงในรายชื่อบางรายชื่อ
ฉินซีก้มลงไปสแกนรายชื่อ
ถังย่าเขียนชื่อ “ถังย่าจ้านเซิน” สองชื่อนี้ไว้ในที่ที่เห็นได้อย่างชัดเจน เหมือนกันว่าไร้ซึ่งความกังวล และไม่กลัวว่าฉินซีจะสงสัย
——เป็นเพราะเธอเปิดเผยตรงไปตรงมา ถึงได้ไม่กลัว หรือเป็นเพราะเธอรู้ว่า การเขียนด้วยวิธีนี้จะสามารถขจัดความสงสัยของตัวเองได้
ฉินซีตัดสินใจไม่ได้ในเวลาแค่เพียงชั่วครู่ เธอจึงทำท่าพลางคิด พลางก้มดูรายชื่ออย่างละเอียด
“อานหยัน……สามารถตัดออกไปได้เลย” เธอชี้ไปที่ใบรายชื่อ “ฉันมั่นใจในตัวอานหยัน เธอไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างแน่นอน”
ถังย่าเอียงศีรษะไปมา : “แต่ว่าถ้าฉันจำไม่ผิด คุณอานเหมือนจะไม่ค่อยสนับสนุนความสัมพันธ์ของพวกคุณสองคน เธอ…..”
“เป็นไปไม่ได้” ฉินซีส่งเสียงขัดจังหวะเธอ “ถึงแม้อานหยันไม่ค่อยเห็นดีเห็นงามฉันกับลู่เซิ่น แต่ไม่มีทางที่จะใช้วิธีนี้เพื่อทำลายฉัน ถ้าหากเธอได้รับคลิปเสียงนี้จริงๆ เธอจะปิดมันไว้ไม่ได้เลย จะต้องรีบมาหาฉันอย่างแน่นอน แล้วเปิดให้ฉันฟังต่อหน้า ไม่จำเป็นจะต้องส่งเป็นอีเอลนิรนามแบบนี้”
ถังย่าพยักหน้า และก็ไม่ได้เอ่ยถึงอานหยันอีก
แต่คำพูดของฉินซีล้วนเป็นคำพูดที่มาจากใจ
ตั้งแต่เมื่อวานถึงตอนนี้ เธอไม่เคยสงสัยอานหยันแม้แต่วินาทีเดียว
เธอเป็นเพื่อนที่ร่วมทุกข์ด้วยกันมา ไม่มีทางที่จะเป็นเธอได้
ถังย่าทำการวงกลมรายชื่ออีก จ้าวจิ้ง ทนายจ้าว พ่อบ้าน ต่างถูกฉินซีปฏิเสธหมด
สุดท้ายปลายปากกาของถังย่าหยุดอยู่เหนือชื่อของตัวเองกับจ้านเซิน
“ถ้าพูดอย่างเป็นกลาง พวกเราสองคนก็มีความน่าสงสัยเช่นกัน “ถังย่าเอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับว่ากำลังพูดเรื่องของคนอื่น เหมือนไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง “ถ้าคุณจะสงสัยในตัวของพวกเราสองคน ก็เป็นเรื่องที่ปกติ”
ฉินซีทำท่าอยากจะพูด ช่างเทคนิคทั้งสองคนที่เงียบมาโดยตลอดได้เอ่ยปากพูดขึ้น
“พวกเราทราบผลจากการตรวจสอบแล้ว”