บทที่ 881 เขายังรักฉินซี
“เป็นเพราะคุณผมถึงอยากเลิกกับเธอ”
หซู่หนานจ้องมองตัวเลขบนลิฟต์ลดลงเรื่อยๆ น้ำเสียงยังคงเรียบเฉย
ฉินซีปริปากขึ้นอย่างทนไม่ได้ “ฉันบอกแล้วว่า ฉันแต่งงานแล้ว……”
“……ผมรู้”หซู่หนานหันมามองเธอ “แต่แม้ว่าคุณจะแต่งงานแล้ว ผมก็ยังคงลืมคุณไม่ได้”
ลิฟต์ “ติ้ง”เสียงหนึ่ง ฉินซีอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่กลับถูกหซู่หนานขัดจังหวะก่อน
“เข้ามาก่อนเถอะ”
เขาเดินเข้าไป ขวางประตูลิฟต์ไว้
ฉินซีต่อต้านที่อยู่พื้นที่อึดอัดกับหซู่หนานตามสัญชาตญาณณ ก็เลยยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน
หซู่หนานราวกับงุนงงกับพฤติกรรมของเธอ เอ่ยขึ้นว่า “คุณจะไปดูการดำเนินการของบริษัทไม่ใช่เหรอ?ผมนึกว่าคุณจะเริ่มดูที่ผมก่อน”
ก็จริง ตอนนี้หซู่หนานเป็นผู้จัดการของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป และดูแลธุรกิจของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปโดยตรงไม่น้อย บางอย่างถ้าฉินซีไปถามฉินซึ่งเทียนโดยตรง ก็ไม่อาจรู้เท่าหซู่หนาน
เธอมองไปที่การแสดงออกที่ตรงไปตรงมาของหซู่หนาน เม้มริมฝีปาก เดินเข้าไปในลิฟต์ รีบเดินไปในตำแหน่งที่ห่างจากหซู่หนานที่สุด
พฤติกรรมในตอนนี้ของหซู่หนานมันมากเกินกว่าที่เธอรู้จัก หซู่หนานที่อยู่ในสายตาเธอนั้นกลายเป็นไม่คุ้นเคยและเลือนรางเล็กน้อย
เธอไม่ระแวงไว้ไม่ได้
หซู่หนานราวกับว่าไม่รู้สึกถึงความระแวงของเธอ กดลิฟต์ แล้วเดินมาข้างๆฉินซี
“แต่ฉินหว่านไม่ได้ตกลงว่าจะเลิก เธอขู่ให้ผมอยู่ต่อโดยการจะกระโดดตึก”
น้ำเสียงของหซู่หนานไม่เหมือนกำลังโอ้อวด แต่ก็ไม่ได้มีความผันผวน ราวกับว่าถึงแม้ฉินหว่านจะโดดตึกจริงๆ สำหรับเขาแล้วก็ไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญอะไร
ฉินซีขมวดคิ้ว “แล้วนาย……”
หซู่หนานก้มลงมองหน้าเธอ “ฉินซี ผมจะไม่ถามคุณอีกว่าทำไมถึงจากไปอย่างกะทันหัน ผมแค่อยากรู้ ถ้าผมเทียบกับลู่เซิ่นได้ ถ้าหากข้างกายผมไม่มีฉินหว่าน คุณจะกลับมาเคียงข้างผมไหม?”
ฉินซีเงยหน้าขึ้นมา สบตากับเขา
หซู่หนานมีดวงตาคู่ที่ลึกซึ้ง ในเวลาที่เขาก้มหน้าตั้งใจมองใครคนหนึ่ง มักทำให้รู้สึกคิดไปเองว่าในสายตาของเขานั้นมีแต่ตัวเอง
ฉินซีก็เคยลุ่มหลงกับสายตาคู่นี้
แต่ตอนนี้เธอไม่มีความผันผวนอีกแล้ว หรือพูดอีกแบบว่า ไม่รู้สึกอะไรแล้ว
ระหว่างเธอและหซู่หนานนั้น ไม่เพียงแต่คั่นด้วยลู่เซิ่นและฉินหว่านเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเวลาที่ไม่สามารถผ่านไปได้ในปีนี้ และทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนตัวเธอ
จริงๆแล้วเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะบอกว่าหซู่หนานเปลี่ยนไป
เพราะว่าตัวเธอเอง ก็เปลี่ยนไปเหมือนกัน
ดังนั้นเธอจึงส่ายหัวอย่างไม่ลังเล “ไม่หรอก”
ใบหน้าที่คาดหวังของหซู่หนานผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด เขาถามด้วยความอดทนในขีดสุดท้าย “ผมสามารถรู้ว่า……เพราะอะไรได้ไหม?”
ฉินซีไม่ได้รีบตอบทันที แต่แค่เงยหน้ามองขึ้นไปหน้าจอแสดงผลในลิฟต์
ตัวเลขของลิฟต์โดดขึ้นทีละนิด ใกล้เข้าห้องทำงานของหซู่หนานขึ้นเรื่อยๆ ในลิฟต์นั้นเข้าสู่โหมดความเงียบงันสักพัก
หซู่หนานคิดว่าตัวเองคงรอคำตอบจากเธอไม่ได้แล้ว
จนกระทั่งประตูของลิฟต์ค่อยๆเปิดออก ฉินซีก็พูดขึ้นว่า “เพราะว่าฉินซีในอดีตชอบหซู่หนาน แต่ฉินซีในตอนนี้ไม่ได้ชอบหซู่หนานแล้ว”
เธอพูดเสร็จ ก็เดินออกไป
หซู่หนานยืนอึ้งอยู่ที่เดิม จนกว่าฉินซีจะเดินออกไป ในขณะที่ประตูลิฟต์กำลังจะปิด ถึงรีบกดปุ่มเปิด แล้วตามขึ้นไป
หซู่หนานไม่ได้ยอมแพ้กับคำพูดไม่กี่คำของฉินซี
แต่เขารู้ว่าแม้ตอนนี้ตัวเองจะถามยังไงก็คงไม่ได้รับการตอบสนอง ทำได้เพียงเลิกถามต่อ
……
ตำแหน่งของผู้จัดการในห้องทำงานนั้นฉินซีไม่ได้รู้สึกแปลก แต่ว่านี่เป็นห้องทำงานของหซู่หนาน เป็นครั้งแรกที่เธอเห็น
การตกแต่งในห้องทำงานเป็นเอกลักษณ์ของหซู่หนานมาก แทบไม่มีการตกแต่งใดๆเลย ดูเรียบง่าย มีเพียงคอมพิวเตอร์และเอกสารบนโต๊ะ ไม่เห็นสิ่งของส่วนตัวเลยสักนิด
แต่ฉินซีก็ไม่ได้รู้สึกสนใจกับของใช้ส่วนตัวของเขามากนัก เธอนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงาน เปิดอกคุยกันอย่างไม่อ้อมค้อม “ฉันต้องการเปิดเผยข้อมูลที่นอกเหนือจากงบการเงิน”
บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเป็นบริษัทมหาชนจำกัด มีการเปิดเผยรายงานต่อสาธารณะทุกปี ฉินซีสามารถรับรู้สถานการณ์ทางธุรกิจทั่วไปจากในนี้ อย่างน้อยจากรายบนนี้แล้ว ผลการดำเนินงานของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้แย่
แต่เธอกังวลเกี่ยวกับคำเตือนที่คลุมเครือจากลู่เซิ่นในเช้านี้
สิ่งที่เธออยากรู้ คือสถานการณ์ทางธุรกิจที่แท้จริงในปัจจุบันของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปซึ่งโลกภายนอกยากที่จะรู้
หซู่หนานราวกับว่าฟังความหมายแฝงของเธอออก มือเผยออกทั้งสองข้าง “ผมไม่รู้ว่าอำนาจตำแหน่งของคุณ จะสามารถดูข้อมูลทั้งหมดได้หรือเปล่า”
ฉินซีหลุดขำ “แม้แต่คีย์การ์ดใต้ตึกฉันก็ยังไม่มี จะเอาอำนาจไหนเข้าสู่ฐานข้อมูลของบริษัท ฉันแค่ต้องการรายงานจากนายทุกวัน ไม่จำเป็นต้องเป็นข้อมูลลับไปทั้งหมด”
รายงานในหลายวันที่ผ่านมานี้จะดูออกอะไรกัน?
หซู่หนานรู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่ก็ยังชี้ไปที่กองเอกสารบนโต๊ะ “ส่วนนั้นไม่เป็นความลับ คุณดูเลย”
ฉินซีพยักหน้า ยื่นมือไปเปิดเอกสาร
ดูไปไม่กี่หน้าจู่ๆก็เงยหน้าขึ้นมา “นายมีงานอะไรก็ไปทำเลย ฉันดูเสร็จจะไปเอง”
หซู่หนานพยักหน้าโดยจิตใต้สำนึก ผ่านไปไม่กี่วิกว่าจะรู้ตัว
นี่เป็นพื้นที่ของเขา ทำไมถึงมีความรู้สึกว่าถูกฉินซีควบคุม?
เขาระงับความโกรธ แต่ฉินซีเริ่มดูเอกสารอย่างจริงจัง เขาก็เลยเปิดคอม แล้วจัดการเอกสารที่กองทิ้งไว้จากเมื่อวาน
แต่เขายากที่จะมีสมาธิจดจ่อ แอบเหลือบไปมองฉินซีอยู่หลายครั้ง
ฉินซีหน้าตาสวยงาม ผมยาวลอนนิดๆ พาดไว้บนไหล่ อาจเป็นเพราะวันนี้เธอรีบตื่น ใบหน้าไม่ได้แต่งหน้าอะไรเลย แต่ภายใต้แสงแดด ผิวเธอยังคงดูใสมีออร่า
แต่ถ้าเทียบกับลักษณะภายนอกที่ดึงดูดความสนใจกว่า คือท่าทีตั้งใจของฉินซี
เธอก้มหน้า คางวางไว้บนมือข้างซ้าย ใช้มือข้างขวาเปิดเอกสาร ขนตางอนเล็กน้อย ขมวดคิ้วบ้างเป็นบางที ราวกับโยนหินลงในน้ำ แล้วทำให้น้ำสงบนิ่งนั่นหวั่นไหว
จู่ๆหซู่หนานก็นึกถึงฉินหว่าน
มนุษย์ถือว่าเป็นสปีชีส์ที่มองจากภาพนอกฉินหว่านที่ถือได้ว่าสวยน่ามองในปกติ ในขณะนี้กลับดูธรรมดาขึ้นมา
ตอนนั้นตัวเองคิดยังไงกันแน่?
แต่หลังจากเมื่อวาน เขารู้ว่าตัวเองไม่ควรรีบร้อน และห้ามทำอะไรเพียงเพราะความใจร้อนเหมือนเมื่อวานอีก
เขาต้องหาวิธีได้บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปมา สลัดการควบคุมจากฉินหว่านที่มีต่อตัวเอง
ถึงเวลานั้น ตัวเองก็มีสิทธิ์ให้ฉินซีไปจากลู่เซิ่น กลับมาเคียงข้างตัวเอง
……
ช่วงเย็น หซู่หนานได้มาตระกูลฉิน
คนรับใช้บอกว่าหลี่เหวยและฉินซึ่งเทียนยังไม่ตื่น เขาจึงไม่ไปรบกวน และตรงไปที่ห้องของฉินหว่าน
คนรับใช้รู้สึกลำบากใจเล็กน้อย ตระกูลฉินทั้งหมดรู้ว่าฉินหว่านจะโดดตึกเพื่อนหซู่หนานอยู่แล้ว เขาไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นความคิดที่ดีที่ปล่อยให้เข้าไปหรือไม่
แต่เขาไม่มีความกล้าที่จะหยุดหซู่หนาน ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเฝ้าดูหซู่หนานขึ้นไปชั้นบน
ในขณะที่หซู่หนานเคาะประตู ฉินหว่านไม่ได้หลับ
ทั้งที่เมื่อวานเธอร้องไห้โวยวายเหนื่อยมาก แต่ยังไงก็นอนไม่หลับ
แม้ว่าตามคำแนะนำของหลี่เหวยพูดโกหกกับฉินซึ่งเทียนได้โกหก ขอให้เขาตกลงที่จะช่วยตัวเองจัดการฉินซี แต่อารมณ์ของฉินหว่านก็ไม่ได้รู้สึกผ่อยคลายไปสักเท่าไหร่
คำพูดของหซู่หนานยังคงวนเวียนก้องอยู่ในหูของเธอ
หซู่หนานบอกว่าเขายังรักฉินซี
รัก หซู่หนานบอกว่ารัก เป็นคำที่ไม่เคยบอกกับเธอเลยสักครั้ง