บทที่ 857 ความทรงจำ
ฉินหว่านไม่ใช่คนดีคนน่ารักแต่อย่างใด หลังจากแสร้งทำตัวน่ารักต่อหน้าฉินซึ่งเทียนมาสักพัก ก็มีความใจร้อนขึ้นมานิดหน่อย ความอดทนมีไม่เพียงพอ ที่จะลงไปห้องครัวที่ชั้นล่างเพื่อช่วยหรอด เพียงไม่กี่ก้าวก็เดินกลับห้องของตัวเอง
เธอนอนบนเตียง พลิกรายชื่อในโทรศัพท์ไปมา เมื่อเห็นข้อความในบทสนทนาที่อยู่ด้านบน ที่ตัวเองเมื่อหลายวันก่อน ได้นัดกับหซู่หนานเพื่อมาทานข้าว
เมื่อนึกถึงมื้ออาหารนั้น ฉินหว่านก็อดไม่ได้ที่โกรธ
หซู่หนานและเธอเองไม่ได้เจอกันมานานมากแล้ว แล้วเขาพูดว่าอะไร“เหนื่อยมากแล้ว ไม่อยากออกไปข้างนอก”หลังจากที่ถูกเธอลากออกมา ก็เอาแต่ใจลอย ตัวเธอเองก็โกรธเขา จนสะบัดมือออกไป แล้วเขาก็ตามไม่ทัน
แต่สิ่งที่ทำให้เธอโกรธมากขึ้น คือหลังจากสองวันผ่านไป หซู่หนานไม่เคยมาขอโทษตัวเธอเลย แม้แต่คำว่าราตรีสวัสดิ์ก็ไม่มี
ฉินหว่านที่แต่เดิมได้ข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ ตอนนี้ไม่ว่าจะมองอะไรก็ไม่น่าพอใจ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จะทะเลาะกับหซู่หนาน เธอจึงรู้สึกโกรธขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเอื้อมมือออกไปกดโทรหาหซู่หนาน
หซู่หนานรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว เหมือนปกติ“หว่านหว่าน”
เสียงของเขาบิดเบี้ยวไปเล็กน้อย หลังจากการประมวลผลของกระแสไฟฟ้า ฟังดูยังอ่อนโยนไม่ต่างจากเมื่อก่อน
ฉินหว่านเศร้าเสียใจ และร้องไห้ออกมาในทันที“นี่ก็สองวันแล้วนะ ที่คุณไม่มาหาฉัน!”
หซู่หนานที่ดูเหมือนจะพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นก็สบายใจขึ้น“ช่วงนี้ผมอยู่แต่ที่บ้านพักผ่อน วันนี้ก็กลับมาทำงานแล้ว อันที่จริงก็ยุ่ง……”
แต่ฉินหว่านไม่ได้ยินคำว่า“ยุ่ง”คำนี้เลย แล้วพูดขัดจังหวะเขาอย่างเสียงดังว่า“ก็มีแต่คุณเท่านั้นที่ยุ่ง!ไม่เคยจะมีเวลาอยู่กับแฟนเลย!ฉันไม่สนใจ วันนี้ฉันต้องได้เจอคุณ!”
หซู่หนานถอนหายใจออกมาทันที ยอมถอยออกมา“งั้น……ผมจะจองมื้ออาหาร คุณออกมาทานข้านไหม?”
ฉินหว่านที่อยากจะพยักหน้าตอบรับ แต่เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าสัญญากับหลี่เหวย ว่าจะอยู่ข้างๆ กับฉินซึ่งเทียน เมื่อเพิ่งจะเห็นเขาอยู่ที่ห้องหนังสือ ฉินซึ่งเทียนก็ขอให้เธอลงไปดูที่ห้องครัวชั้นล่าง ถ้าตัวเธอเองออกไปข้างนอกเพื่อทานข้าว มันจะดีหรือไม่ดีนะ?
ฉินหว่านกลอกตาไปมา“ไม่ต้อง คุณมาทานข้าวบ้านฉัน!พ่อและแม่ของฉันก็อยู่ด้วยพอดี คุณจะได้คุ้นเคยกับพวกท่านอีก”
หซู่หนานมีท่าทีที่ลังเล“……แบบนี้ จะไม่ค่อยสะดวกหรือเปล่า?”
ฉินหว่านไม่คำนึงถึงเหตุผล“มีอะไรที่ไม่สะดวก พวกคุณก็ไม่ใช่จะไม่เคยพบกัน ในอนาคตก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ทำตัวให้คุ้นเคยกันก่อน มีอะไรไม่ดี!”
เมื่อเห็นหซู่หนานยังคงลังเล ฉินหว่านจึงพูดอย่างโกรธๆ ว่า“หซู่หนาน!ครั้งก่อนคุณทำให้ฉันไม่มีความสุข ถ้าคืนนี้คุณยังไม่มา ตัวคุณก็คิดเอาเองแล้วกัน!”
เมื่อพูดจบ ก็ตัดสายเขา โดยไม่รอให้หซู่หนานได้ตอบ
ฉินหว่านรู้ว่าวิธีนี้ของตัวเองได้ผลเสมอ
แน่นอนว่า ไม่กี่วินาทีต่อมา ฉินหว่านก็ได้รับข้อความ ที่ส่งมาจากหซู่หนาน“ผมเพิ่งจะเลิกงาน ตอนนี้กำลังไป อาจจะช้านิดหน่อย”
ฉินซียิ้ม และตอบกลับในทันที“ไม่ต้องรีบค่ะ ฉันรอคุณได้”
เมื่อส่งข้อความเสร็จแล้ว เธอก็ลุกขึ้น ลงไปชั้นล่างราวกับผีเสื้อโบยบิน แล้วตะโกนเรียกหลี่เหวย“แม่คะ!หซู่หนานจะมาทานข้าวเย็นที่บ้านด้วยค่ะ!”
หลี่เหวยที่อยู่ในห้องนั่งเล่น เมื่อได้ยิน ก็มีสีหน้าที่งงงวย“ทำไมถึงมาอย่างกะทันหันล่ะ?”
ฉินหว่านไม่ได้บอกว่าเธอเป็นคนบังคับให้คนอื่นมา เกรงว่าหลี่เหวยจะคิดว่าเธอเสียหน้า จึงตอบแบบคลุมเครือว่า“ช่วงนี้เขาทำงานล่วงเวลาค่ะ พวกเราสองคนไม่ได้เจอกันนานแล้ว แม่ไม่ใช่ให้หนูอยู่กับพ่อเหรอคะ พวกเราจึงนัดพบกันที่บ้านค่ะ”
หลี่เหวยลุกขึ้น แล้วตีเธอ“ลูกคนนี้ก็จริงๆ เลย ทำไมไม่พูดแต่แรก แม่จะได้รีบเข้าไปบอกที่ห้องครัว ให้พวกเขาเตรียมเพิ่มสำหรับอีกหนึ่งคน”
ฉินหว่านคิดถึงการได้พบกับหซู่หนานในไม่ช้านี้ ในหัวใจก็มีความสุขขึ้น และไม่สนใจน้ำเสียงที่แปลกประหลาดของหลี่เหวย หัวเราะกับตัวเองบนโซฟา โดยมีโทรศัพท์อยู่ในอ้อมแขน และมองไปที่โทรศัพท์ ในทุกๆ ช่วงเวลา เพราะกลัวว่าจะพลาดข้อความของหซู่หนานที่มาถึงแล้ว
เมื่อพูดถึงกระบวนการที่เธอและหซู่หนาน รู้จักและตกหลุมรักกันได้ มันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งจริงๆ
ในสายตาของฉินหว่าน พวกเขาได้รับการตกแต่ง ให้เป็นเรื่องราวความรักโรแมนติก
แต่ในสายตาของหซู่หนาน อาจจะไม่ได้มีความหมาย ที่น่าสนใจอะไร
หนึ่งปีก่อน ฉินซีหายไปอย่างไร้เหตุผล
คนที่เห็นกันได้ในทุกๆ วันก่อนหน้านี้ ตอนนี้ที่ไม่ได้เจอกันหลายวัน แม้แต่โทรศัพท์ก็โทรหาไม่ได้
หซู่หนานรู้สึกแปลกใจ และกังวลเล็กน้อย
เขาได้ถามเพื่อนสนิททุกๆ คนของฉินซี ไม่มีใครรู้ที่อยู่ของเธอ บางคนก็โทรถามเขาด้วยซ้ำ เพราะคิดว่าเขากับฉินซีสนิทกัน และจะรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน
หลังจากที่นึกถึงเรื่องนี้ ก็ยังคงสอบถามเกี่ยวกับที่ตั้งของตระกูลฉิน แล้วหาเวลาเพื่อจะไปดูด้วยตัวเอง
ในตอนนั้น เขาได้เห็นข่าวจากในโทรศัพท์ ว่าแม่ของฉินซีฆ่าตัวตาย ด้วยการกระโดดลงจากตึก
รายงานข่าวอธิบายถึงสิ่งที่น่าเกลียด ที่แม่ของฉินซีได้ทำไว้อย่างละเอียด และในตอนท้ายก็เพิ่มประโยคหนึ่งว่า
“วันนี้คนผิดได้จากไปแล้ว แต่หนี้สินที่เธอทิ้งไว้ยังคงอยู่ตลอดไป”
ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า“ชีวิตนิรันดร์”เพียงแค่ว่าหนี้สินเหล่านี้ จะตกไปกองอยู่ที่ฉินซี
หซู่หนานรู้ว่าแม่ของเธอ มีความสำคัญกับฉินซีมากเพียงใด ดังนั้นเมื่อเห็นรายงานข่าว ภายในใจก็เกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นในทันที
ฉินซีไม่แน่ใจว่า……เกิดเรื่องอะไรขึ้นไหม?
เขาไม่สามารถรอได้อีกต่อไป แล้วรีบไปตระกูลฉินในทันที
ตำแหน่งบ้านตระกูลฉินไม่ผิด เมื่อเขามาเยี่ยม ก็มีคนมารอรับอย่างอดทน แต่ไม่ได้ยินข่าวของฉินซีแม้แต่เล็กน้อย
คนรับใช้เพียงแค่ยิ้มและส่ายหัว ไม่พูดอะไรเลย เมื่อถูกจี้ก็ตอบเพียงแค่“พวกเราไม่ทราบ”และเจ้านายตระกูลฉิน กลับไม่ปรากฏตัวเลย
หซู่หนานลุกขึ้นด้วยความโกรธ แล้วออกจากตระกูลฉิน
แต่กลับยังไม่มีข่าวคราวของฉินซี ราวกับว่าโลกได้ระเหยไปแล้ว
ในที่สุดหซู่หนานก็ไม่อาจจะทนได้แล้ว จึงไปที่สถานีตำรวจ เพื่อรายงานอาชญากรรม
ตำรวจที่รับเรื่องเขาดูเหมือนจะใจดีมาก แต่อย่างไรก็ตาม หซู่หนานถึงได้รู้สึกว่าต้องเผชิญหน้ากับคนรับใช้ของตระกูลฉินที่บ้านตระกูลฉินด้วยนะ
“หายตัวไป?”ตำรวจกดหยุดเครื่องบันทึกเสียงที่อยู่ในมือ มองไปที่เขา“หายตัวไปนานเท่าไหร่แล้ว?”
หซู่หนานนึกถึงความทรงจำอีกครั้ง“ประมาณหนึ่งอาทิตย์แล้วครับ”
ตำรวจจดบันทึกต่ออีกสองถึงสามบรรทัด แล้วเงยหน้าขึ้นถามเขาอีก“คุณกับฉินซีมีความสำพันธ์กันแบบไหน”
หซู่หนานตอบอย่างมั่นใจว่า“คนรักครับ”
ตำรวจพยักหน้า และหันกลับไปตรวจสอบข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ ไม่แน่ใจว่าเห็นอะไร เขาหันมาอีกครั้ง และกระซิบเบาๆ ขณะที่หันไปรอบๆ และหันไปมองหซู่หนาน“ทางเราได้ตรวจสอบแล้ว คุณบอกว่าฉินซีได้หายตัวไปหนึ่งอาทิตย์ มีประวัติเกี่ยวกับกิจกรรมที่จัดใกล้ๆ ตระกูลฉิน เมื่อวานก่อนและเมื่อวานนี้ครับ”
ดวงตาของหซู่หนานเบิกกว้าง“เป็นไปได้ยังไง?”
ตำรวจยักไหล่“แต่ได้มีหน่วยสอดส่องถ่ายรูปติดเธอ คุณลองคิดดูสิ ถ้าเธอหายตัวไปหนึ่งอาทิตย์จริงๆ ทำไมครอบครัวของเธอถึงไม่มาแจ้งความ มันต้องมีเรื่องที่เข้าใจผิดเกิดขึ้นแน่ๆ หรือเพราะคุณสองคนทะเลาะกัน คุณลองคิดดูใหม่นะ”
หซู่หนานไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องออกจากสถานีตำรวจ
เมื่อเห็นเขาลุกออกไป นายตำรวจชั้นผู้น้อยที่อยู่ข้างๆ จึงถามนายตำรวจแก่ๆ ที่อยู่ข้างๆ อย่างสงสัยว่า“ทำไมพวกเราถึงไม่รับแจ้งความล่ะครับ?เห็นได้ชัดว่าคุณตรวจสอบอะไรไม่เจอเลย”