บทที่ 827 งั้นก็โกหกแล้วกัน
เมื่อเห็นรถของลู่เซิ่นขับออกไป ฉินหว่านโกรธมากจนหน้าอกไม่สบาย เธอด่าว่า”หน้าด้าน”
หซู่หนานมองสายตาของฉินหว่าน และค่อยๆผิดหวัง
ที่เบาะหลัง ฉินซีเกือบนั่งติดประตูรถเลย ออร่าของลู่เซิ่นค่อนข้างน่ากลัว ซึ่งทำให้ไม่กลัวที่จะเข้าใกล้
เมื่อกี้เธอหลอกใช้ลู่เซิ่น ไม่รู้ว่าเขาจะโกรธหรือเปล่า
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ฉินซีก็ใจกล้าหน่อย ขยับตัวไปหน่อย
สายตาเต็มไปด้วยหน้าหล่อของลู่เซิ่น ดูเหมือนเขาจะสังเกตสายตาของฉินซี เขาหันหัวและจ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นชา
เมื่อมองหน้ากัน ฉินซีมีแต่ยิ้ม แต่ ลู่เซิ่นยังทำหน้าเย็นชาอยู่ ไม่รู้ทำไงดี
เพื่อให้บรรยากาศสบายๆ เธอถามว่า”คืนนี้คุณมาได้ยังไง ไม่ค่อยไปงานเลี้ยงไม่ใช่เหรอ”
เธอรู้จักลู่เซิ่นดี ไม่ค่อยได้เข้าร่วมงานที่มีชีวิตชีวาแบบนี้ เป็นคนที่ไม่ค่อยออกตัวและลึกลับ
“มันเกี่ยวอะไรกับคุณ”น้ำเสียงของ”ค่อนข้างเยาะเย้ย
ฉินซี…
ฟังจากน้ำเสียง ก็รู้เลยว่าเขาโกรธ
“ฉันก็แค่เป็นห่วงคุณเท่านั้น”ฉินซีทำท่าเสียใจ
แต่ลู่เซิ่นตอบอย่างเย็นชาว่า”โกหก”
ฉินซีก้มหน้าลงเบาๆ สำหรับคำดุของลู่เซิ่น เธอไม่ได้ต่อต้าน
เอาใจลู่เซิ่นเสมอ เธอก็จะเหนื่อยเหมือนกัน แถมคืนนี้เธอต่อสู้กับฉินซึ่งเทียนแล้วด้วย เธอไม่มีอารมณ์อะไร แค่อยากจะอยู่เงียบๆ
ในเมื่อลู่เซิ่นก็คิดว่าเธอโกหกดังไปแล้ว งั้นก็โกหกแล้วกัน
วันรุ่งขึ้น ลู่เซิ่นไปทำธุระที่ต่างเมืองแต่เช้า เรื่องนี้แม่บ้านบอกเธอถึงรู้ ฉินซีทานอาหารเช้าและเปิดโทรศัพท์ ส่งข้อความให้ลู่เซิ่น: คุณลู่ คุณจะไปกี่วันเหรอ
แต่เธอไม่คิดว่าลู่เซิ่นจะตอบกลับหรอก เธอรีบไปเจออานหยัน
อานหยันเป็นหัวหน้าบรรณาธิการของนิตยสารบันเทิงแห่งหนึ่ง ยอดขายของฉบับของช่วงนี้ไม่ค่อยดี หซู่เป่ยเป็นข่าวใหญ่ที่สามารถทำให้ยอดขายดีขึ้นได้ ถ้าฉินซีสามารถถ่ายภาพข่าวใหญ่นี้ได้ ไม่ใช่แค่สามารถรักษาตำแหน่งหัวหน้าบรรณาธิการของอานหยันได้เท่านั้น ฉินซีก็สามารถได้เงินก้อนใหญ่ด้วย
ตอนนี้ตารางของหซู่เป่ยอัปเดตแล้ว หลังจากที่ฉินซียืนยันที่อยู่แล้ว ก็มาถึงสถานที่ที่เธอเคยไป
นี่คืออพาร์ตเมนต์ของหซู่หนาน
ผ่านไปสองชั่วโมง ฉินซีง่วงนอนมาก ในที่สุดก็เห็นพระเอกแล้ว
ที่นี่ไม่มีนักข่าวนั่งเฝ้าอยู่ หซู่เป่ยลงจากรถ แล้วเดินไปที่ที่นั่งผู้โดยสารเปิดประตู
ผู้หญิงที่ตัวผอมๆลงจากรถ
ฉินซีปิดเสียงชัตเตอร์และแฟลชอย่างชำนาญ และได้ถ่ายหลายภาพ
หซู่เป่ยกอดผู้หญิงเข้าไปในชุมชนอย่างรวดเร็ว ในขณะนี้ฉินซีรีบลงจากรถและตามไป นั่งยองลงถอดรองเท้าส้นสูงของเธอด้วย และโยนไปทางของสองคนอย่างสุดแรง บีบน้ำตาไหลลงมาด้วยซ้ำ “หซู่เป่ยคุณ … คุณทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง คุณไม่นึกถึงลูกของเราบ้างเหรอ … พวกคุณเลว ฉันจะไม่ปล่อยพวกคุณแน่ ผู้หญิงคนนี้ ฉันจะตบให้ตายเลย”
ฉินซีทำตัวเหมือนคนบ้า รปภที่ยืนอยู่ข้างๆไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลย สีหน้าดูน่าเกลียดไปสักพัก เขาก็มีแต่มองฉินซีใส่รองเท้าและไล่เข้าไปในอพาร์ตเมนต์ …
เธอเคยมาที่นี่มาก่อน กดรหัสอย่างเชี่ยวชาญแล้ววิ่งเข้าไปในลิฟต์
รปภ.อึ้งไปตั้งนาน ตอนนี้ชีวิตส่วนตัวของดาราวุ่นวายเหลือเกิน…
ชั้นที่18
หลังจากเข้าไปในอพาร์ทเม้นท์ หซู่เป่ยก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ยังไม่เข้าอพาร์ทเม้นท์ก็อดไม่ไหวที่จะกอดผู้หญิงอยู่ข้างๆเข้าไปในอ้อมแขนและจูบเธอ
หึหึ ดูเหมือนว่าข่าวที่อานหยันให้มาเป็นเรื่องจริงด้วย
ถ้าเธอเป็นคนแรกที่ได้หลักฐาน … เธอได้เห็นเงินจำนวนมากกำลังโบกมือให้เธอแล้ว
ฉินซีกำลังจะกดปุ่มชัตเตอร์ ผู้ชายที่ซุ่มซ่อนอยู่ไม่ไกลก็รีบพุ่งออกมา จับหซู่เป่ยไว้แล้วตบเขาอย่างรุนแรง และผู้หญิงที่อยู่ข้างๆตกใจมาก …
ฉินซีก็ตกใจเหมือนกัน มือยังกดปุ่มชัตเตอร์อยู่เรื่อยๆ และไม่สักพักหซู่เป่ยก็ต่อต้านกลับ กดผู้ชายคนนั้นและตบอย่างแรง
“แกกล้านอนกับผู้หญิงของฉัน “
“ไม่เห็นเหรอ ตอนนี้หล่อนอยู่กับฉัน” เมื่อพูดจบ หซู่เป่ยตบอย่างแรงอีกครั้ง
“ไม่กล้าดูภาพที่รุนแรงแบบนี้ และกลัวว่าจะเดือดร้อนไปด้วย ฉินซีก็เลยจากไปทันที
ที่บันได ฉินซีดูภาพที่ถ่ายไว้เมื่อกี้ ภาพที่สองคนจูบอยู่ไม่มากเท่าไหร่ แต่รูปถ่ายที่หซู่เป่ยต่อสู้กับคนอื่นเต็มไปหมดเลย
หซู่เป่ย หซู่หนาน
เธอรู้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนอยู่แล้ว ดังนั้นในเวลานี้เธอจึงลังเล
ภาพถ่ายที่หซู่เป่ยต่อสู้กับคนอื่นเผยแพร่ออกไปไม่ได้ นั้นจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของเขาแน่นอน
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ฉินซีกัดฟัน โยนการ์ดหน่วยความจำลงถังขยะและจากไป โดยไม่หันกลับมามอง
ในเวลานี้ หซู่หนานเพิ่งจอดรถเสร็จ เมื่อเห็นร่างที่คุ้นเคยเข้าไปในรถ ก็มีความโกรธขึ้นไปในดวงตา เขาขับรถตามไปทันที
หซู่หนานระมัดระวังตัวอยู่เสมอ สังเกตเห็นว่ามีคนตามเธออยู่อย่างรอดเร็วขมวดคิ้วและจอดรถไว้ข้างถนน
ผ่านไปไม่นาน หซู่หนานก็จอดรถ
หซู่หนานผลักประตูและลงจากรถ มองผู้ชายรูปหล่อที่คุ้นเคยที่อยู่ตรงหน้า พูดอย่างเฉยเมยว่า”คุณหซู่ คุณต้องการทำอะไรเหรอคะ”
“ฉันแค่อยากคุยกับคุณดีๆ”สีหน้าของหซู่หนานสงบลงแล้ว และค่อยๆเดินเข้าใกล้
ฉินซีห้ามเขาทันที และอยู่ห่างจากเขามากกว่าครึ่งเมตร ดวงตาเต็มไปด้วยความระวาง
เธอเยาะเย้ย”ตอนนี้คุณเป็นแฟนของฉินหว่านแล้ว จะคุยกับฉันโดยลำพัง ฉินหว่านคงจะหึงนะ”
เมื่อพูดถึงฉินหว่าน หซู่หนานก็ขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ทำไงดี”ฉินซี คุณพูดกับฉันดีๆไม่ได้เหรอ ฉันแค่อยากรู้ว่า ตอนนั้นทำไมคุณถึงบอกเลิกกับฉันกะทันหัน … “
ฉินซีขัดจังหวะเขา “คุณหซู่ ฉันไม่ชอบคุณแล้ว เหตุผลนี้พอยัง”
หัวใจของฉินซีก็เจ็บเบาๆเมื่อพูดแบบนี้
ยังไงก็ตาม ตอนนั้นเธอชอบเขามาก แต่ในเวลานั้นเธอไม่มีทางเลือกอื่นๆ เธอมีแต่ไปจากเขา
ที่แท้เธอมองเขาแบบนี้นั้นเอง ความห่วงใยที่เขามีต่อเธอ การดูแลที่เขาทำกับเธอ ไม่เคยทำให้เธอใจหวั่นไหวบ้างเลย
“นายหซู่ อย่าตามฉันอีกแล้ว คุณทำแบบนี้ มันไร้สาระ”หลังจากพูดจบ ฉินซีก็เข้าไปนั่งคนขับและขับออกไปอย่างรวดเร็ว
หซู่หนานสังเกตเห็นโลโก้ที่สะดุดตา เบนท์ลีย์?
คนที่ไม่ใช่คุณหนูอีกต่อไปอย่างฉินซี เธอจะสามารถซื้อรถราคาแพงขนาดนี้ได้ยังไง…
วันถัดไป
เมื่อได้รับโทรศัพท์จากน้องชาย หซู่หนานกำลังกินข้าวกับฉินหว่านอยู่
“พี่ชาย ฉันเกิดเรื่องแล้ว”
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง รถของหซู่หนานก็จอดที่หน้าอาคารแห่งหนึ่ง
ฉินซีเป็นช่างภาพในบริษัทนิตยสารแห่งหนึ่ง นี่เป็นงานหลักของเธอ เธอยังมีงานอื่นด้วย ก็คือช่วย อานหยันถ่ายภาพของดาราบ้าง
ฉินซีเพิ่งส่งงานถ่ายภาพล่าสุด เพิ่งออกมาก็ถูกหซู่หนานห้ามไว้
เมื่อเห็นใบหน้าหล่อๆที่คุ้นเคยอยู่ต่อหน้า ฉินซีก็ก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
“นายหซู่ มีธุระเหรอ”น้ำเสียงของฉินซีเย็นชามาก
ในวินาทีถัดมา ข้อมือของฉินซีก็ถูกจับไว้ และความแข็งแกร่งของหซู่หนานนั้นหนักมากจนเกือบจะทำให้ข้อมือของเธอหัก