บทที่ 826 ไม่มีอะไรที่คุณไม่กล้าทำ
ใบหน้าของฉินซึ่งเทียนเต็มไปด้วยความโกรธ เปลี่ยนเรื่องด่าว่าฉินซี”ฉันเป็นพ่อของแก ระวางทัศนคติของแกด้วย”
ฉินซียิ้มและไม่พูดอะไร
มีพ่อคนไหนจะสร้างหลักฐานมาใส่ร้ายแม่ของเธอเพื่อขอหย่าละ
“ฉินซึ่งเทียน ตอนที่คุณหย่ากับคุณแม่ ไม่ได้ให้เงินสักบาทเราสองแม่ลูกเลย ตอนนี้ตระกูลของคุณแม่พังพินาศ แต่คุณกับครอบครัวใหม่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา คุณไม่ฝันร้ายบ้างเมื่อนอนหลับเหรอ ฉันขอบอกนะ สิ่งที่เป็นของฉัน ฉันจะไม่ยอมให้ใครเด็ดขาด คุณอย่าหวังว่าจะได้ให้เมียน้อยและลูกเก็บของคุณเป็นอันขาด “
ฉินซึ่งเทียนโกรธมากจนพูดอะไรไม่ออกตั้งนาน เขาไม่รู้เลยว่าวันหนึ่งลูกสาวที่เงียบสงบมาตลอด จะมาต่อปากต่อคำแบบนี้ด้วย
เขายังคิดว่าฉินซีจะอ่อนแอเหมือนแม่ของเธอ
“แกอยากทำอะไร”ฉินซึ่งเทียนกล่าวอย่างโกรธเคือง
ฉินซียักไหล่และพูดเบาๆว่า”ก็ต้องเอาคืนสิ่งที่เป็นของฉันจากมือของคุณสิ”
“นี่ไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากได้ก็สามารถเอาคืนได้”ฉินซึ่งเทียนจับโต๊ะไว้ โกรธมากจนล้มลงบนเก้าอี้
เทียบกับความโกรธของฉินซึ่งเทียน ฉินซีสงบกว่าเยอะ”ฉันรู้ เมื่อคุณปู่มอบหุ้นให้คุณแม่ก็บอกอย่างชัดเจนว่า ถ้าคุณแม่จะมอบหุ้นให้ฉันต่อ ฉันต้องแต่งงานก่อน”
ฉินซึ่งเทียนขมวดคิ้วและหายใจแรงๆ เขามองลูกสาวคนนี้”เพื่อเอาคืนหุ้นพวกนี้ แก… “
“ใครจะไปรู้ละ แต่ว่าพ่อ ฉันทำได้”
เมื่อพูดจบ ฉินซีไม่ได้อยู่ต่อ ถือกระโปรงออกไปเลย
หลังจากลงไปชั้นล่าง ฉินซีไม่ได้อยู่ในห้องจัดเลี้ยง และเดินไปที่สวนด้านหลังโดยตรง
หาที่ที่เงียบสงบ ฉินซีค่อยโทรหาแฟนสาวอานหยัน
“ไปเจอฉินซึ่งเทียนเสร็จแล้วเหรอ”
“อืม ยืนยันเนื้อหาของพินัยกรรมได้แล้ว สามารถดำเนินตามทางกฎหมายได้เลย”
“เสี่ยวซี คุณแต่งงานจริงๆแล้วเหรอ”อานหยันถามอย่างไม่แน่ใจ
สองคนรู้จักกันมานานหลายปีแล้ว เมื่อฉินซีและลู่เซิ่น อยู่ด้วยกัน มีแค่อานหยันเท่านั้นที่รู้
แต่อานหยันรู้อย่างชัดเจนนว่าลู่เซิ่นเป็นคนยังไง
ผู้ชายที่มีชื่อเสียงมากในประเทศF เจ้าชายของบริษัทลู่ซือกรุ๊ป ผู้ชายที่ผู้หญิงทั่วประเทศอยากได้ทั้งนั้นมันอันตรายเกินกว่าที่ฉินซีจะแต่งงานกับเขา
“จดทะเบียนสมรสเรียบร้อยแล้ว”ฉินซีหลับตา ตอนนี้ก็ยังจำภาพในวันนั้นได้อย่างชัดเจน —-
เธอไม่ทางอื่นที่เลือกได้ หยุดอยู่หน้ารถของลู่เซิ่น และขอให้เขาแต่งงานกับตัวเอง
ในเวลานั้น เธอถูกไล่ออกจากตระกูลฉินแล้ว และเธอก็ไม่ใช่คุณหนูอะไรอีกต่อไป เธอรู้ว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติพอที่จะแต่งงานกับลู่เซิ่น
เธอเตรียมความพร้อมที่จะถูกปฏิเสธแล้ว แต่เธอไม่คิดว่าลู่เซิ่นจะตกลงจริงๆ
สองคนไปทะเบียนสมรสในวันนั้นเลย
กำลังคุยกับอานหยันอยู่ ทันใดนั้นฉินซีก็เห็นเงาทอดยาว อยู่ใต้โคมไฟเคลือบในสวน และร่างยาวกำลังพิงกับลำต้นไม้
ฉินซีหยุดไปสักพักและวางสายอย่างรวดเร็ว
ในวินาทีต่อมา ผู้ชายก็เดินออกมาจากความมืด และบุหรี่ที่ระหว่างปลายนิ้วของเขาก็ถูกโยนทิ้งลงบนฝาถังขยะ
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาสูงมาก ชุดสูทสีดำสั่งทำพิเศษดูสง่างามและหรูหรา รองเท้าหนังราคาแพงก็เหยียบลงบนถนน แสงบนร่างของเขาค่อยๆสว่างขึ้น และฉินซีก็เห็นหน้าที่คุ้นเคยของผู้ชาย
คือลู่เซิ่น
เขาอยู่ในอายุกำลังดี ออร่าของเขาสงบและมีเสน่ห์มาก แถมหน้าตาหล่อมากด้วย
ไม่น่าละที่ผู้หญิงทั้งเมืองชอบเขา อยากปีนขึ้นไปบนเตียงของเขาเหลือเกิน
ฉินซีกำลังคิดไปทั่ว ลู่เซิ่นยืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว ใช้นิ้วยาวบีบคางเธอ เธอเลยต้องมองสายตาเขา
“คุณลู่ บังเอิญจัง… “ฉินซีเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่หล่อๆของเขา และการแสดงออกก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่ลู่เซิ่นชอบไปอย่างรวดเร็ว
“อืม”ลู่เซิ่นตอบอย่างแผ่วเบา เพราะสูบบุหรี่ เสียงของเขาเลยเซ็กซี่และแหบ
“เมื่อกี้คุณได้แอบฟังโทรศัพท์ของฉันอยู่หรือเปล่า”ฉินซีทำอะไรอย่างใกล้ชิด แถมยังอยู่ระยะห่างจาก ลู่เซิ่นไว้ครึ่งเมตรด้วย
มีคนจะที่นี่ตลอดเวลา
“คุณมีอะไรที่ต้องปิดปังฉันเหรอ”เสียงของลู่เซิ่นไม่มีการผันผวน
ฉินซีเหมือนจะได้ยินความโกรธเล็กน้อย
เขาได้ยินจริงๆด้วย แต่เหมือนเธอก็ไม่ได้พูดอะไรที่บอกไม่ได้ในโทรศัพท์มั้ง
“ฉันจะกล้าปิดปังคุณลู่ได้ยังไงละ”ฉินซียิ้ม
คางเจ็บขึ้นๆเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเลยว่าลู่เซิ่นจับแรงขึ้น
สีหน้าของฉินซีเปลี่ยนไป และผลักเขาออกไปอย่างรวดเร็ว เสียงทุ้มของเขาดังเข้าในหู”ฉันว่าจะไม่มีอะไรที่คุณไม่กล้าทำหรอก”
ในขณะนี้ เสียงฝีเท้าจากไม่ไกลค่อยๆดังขึ้น รบกวนบรรยากาศที่เงียบสงบของตรงนี้ ฉินซีเงยหน้าขึ้น ฉินหว่านกำลังเดินมาที่นี่ เมื่อเห็นลู่เซิ่นที่อยู่ข้างๆฉินซี เสียงของเธอก็หยุดลงทันที
เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ ถึงถามฉินซีอย่างอ่อนโยนและสง่างาม”เสี่ยวซี คืนนี้คุณจะพักอยู่ที่นี้มั้ย ฉันจะให้คนรับใช้ทำความสะอาดห้องให้ ฉันให้คนรับใช้ทำความสะอาดห้องของคุณบ่อยๆ … “
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่สง่างามบนใบหน้าของฉินหว่าน ฉินซีก็อารมณ์ขึ้นไม่ได้ แต่น้ำเสียงก็เฉยเมยเหมือนเดิม”ในเมื่อห้องของฉันว่างอยู่ คุณก็ย้ายเข้าไปอยู่สิ คุณชอบทำเรื่องแบบนี้ที่สุดไม่ใช่เหรอ”
ลู่เซิ่นจ้องมองการแสดงออกที่เย็นเยือกของฉินซี สงบพร้อมกับก้าวร้าวด้วย และดูเหมือนจะแตกต่างกับผู้หญิงตัวเล็กที่มีเสน่ห์ในปกติ
ความอยากรู้อยากของลู่เซิ่นมากขึ้นเรื่อย ๆ
ฉินหว่านกำปลายนิ้วแน่นๆ อยากโกรธมาก แต่ลู่เซิ่นอยู่ด้วย เธอไม่กล้าทำอะไรมาก มีแต่พูดอย่างเย็นชาว่า”ฉินซี คุณพูดไม่น่าฟังตลอดเลย ฉันช่วยเก็บสิ่งของคุณอยู่มาตลอด คุณจะไปดูมั้ย”
ฉินซีมองฉินหว่าน แต่ก็อยากรู้ว่าเธอต้องการทำอะไร อีกอย่างเธอต้องการหาอะไรบางอย่างจริงๆ
เมื่อฉันผ่านทางเดิน ก็เห็นหซู่หนาน
คืนนี้เขาใส่ชุดสูทที่ดูดี ใบหน้าหล่อเหลามาก
“เสี่ยวซี”เขาเรียกเธอเบาๆ และยื่นมือออกจับข้อมือของฉินซีโดยไม่รู้ตัว
แต่ฉินซีหลีกเลี่ยงไปอย่างเย็นชา
“คุณหซู่ กรุณาให้ความเคารพด้วยค่ะ”
เมื่อพูดจบ เธอก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ดวงตาของหซู่หนานค่อยๆแสดงความเศร้าโศกเบาๆขึ้นมา
ฉินซีมาถึงห้องเก็บของ มีกล่องขนาดใหญ่หลายกล่องในข้างใน ฝุ่นเต็มไปหมด
ค้นพบทุกกล่องอย่างระมัดระวัง แต่จนกระทั่งค้นพบกล่องสุดท้ายแล้ว ก็ยังหาของที่เธอต้องการไม่เจอ
ฉินซีมีความหงุดหงิดเล็กน้อย
เพิ่งออกจากหลังหลัก ฉินหว่านก็ทำเป็นอ่อนโยนและถามว่า”เสี่ยวซี ฉันให้คนขับรถของตระกูลฉินส่ง
คุณกลับเถอะนะ”
“ไม่ต้อง”ฉินซีมองลู่เซิ่นที่อยู่ไม่ไกล “คุณลู่ ส่งฉันกลับไปได้ไหมคะ”
สีหน้าของฉินหว่านกลายเป็นเย็นชาทันที
ลู่เซิ่นไม่ตอบ แต่ฉินซีเดินเข้าใกล้ลู่เซิ่น”รบกวนด้วยนะ”
“คุณลู่อาศัยอยู่ในพื้นที่บ้านพักหรูหรา อยู่ที่ใจกลางเมืองด้วย ตอนนี้คุณพักอยู่ในชานเมืองไม่ใช่เหรอ
คุณทำให้คุณลู่ต้องลำบากชัดๆเลย”
“ท่าทางคุณฉินจะไม่รู้จักคุณลู่เลยนะ วิลล่าของคุณลู่เป็นรีสอร์ทชิงหยวนที่มีชื่อเสียง อยู่ในเขตชานเมือง”
ทันใดที่ฉินซีพูดจบ สีหน้าของฉินหว่านก็เปลี่ยนไปทันที
หนึ่งปีก่อน มีข่าวลือว่ามีผู้ชายลึกลับซื้อบ้านเก่าของตระกูลฉินหว่านในราคาหลายร้อยล้าน และสร้างเป็นวิลล่าที่ลึกลับเรียบง่ายแต่งดงาม – รีสอร์ทชิงหยวน
นั้นเป็นที่ที่ลู่เซิ่นอาศัยอยู่เหรอ
แล้วฉินซี รู้ได้ยังไง