flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 725 เธอไม่สามารถกลับไปที่จุดเดิมได้อีกแล้ว

บทที่ 725 เธอไม่สามารถกลับไปที่จุดเดิมได้

ท่าทางของมู่วี่สิงเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าเธอนัก ใบหน้าหล่อเหล่าเต็มไปด้วยโทสะ นัยน์ตาแดงก่ำ “เวินจิ้ง อย่ามาพูดคำว่าตายต่อหน้าฉัน!”

เขาทนไม่ได้ที่จะมีคำคำนี้แขวนอยู่ที่ชื่อของเธอ!

เธอยังไม่ทันได้ตอบอะไรกลับไป ก็เห็นเขาหยิบมีดที่วางอยู่ข้าง ๆ ขึ้นมา แล้วยัดด้ามมีดเข้ามาในมือของเธอ พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งที่แฝงไปด้วยความกดดัน “เธอรู้ดีว่าควรทำยังไง”

พอเธอกำมีดไว้ เขาก็คลายมือลง “เกลียดที่ฉันฆ่าพี่ชายของเธอใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นฉันจะชดใช้ให้เธอด้วยชีวิต จัดการเถอะ ”

เวินจิ้งเบิกตากว้าง มองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ จับมีดที่อยู่ในมือเอาไว้แน่น แล้วพูดออกมาทีละประโยคว่า “มู่วี่สิง คุณอย่าคิดว่าฉันไม่กล้านะ ถ้าคุณยังจะขวางฉันอยู่ ฉันจะลงมือจริง ๆ ”

ไม่คิดเลยว่าเขาจะบีบคั้นเธอขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่าเขาจะใช้วิธีการนี้มาบังคับเธอ

แววตาของเวินจิ้งค่อย ๆ แปลเปลี่ยนเป็นเย็นชา เธอยกมือขึ้นอย่างช้า ๆ ปลายมีดชี้ไปที่ตำแหน่งหัวใจของเขา พูดออกมาอย่างชัดเจนและคล่องแคล่ว “ถ้าฉันแทงลงไปแล้ว คุณจะให้คนของคุณปล่อยฉันไปใช่ไหม”

ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ไม่มีแม้แต่ความอ่อนข้อและการประนีประนอม

มู่วี่สิงพูดเสียงเรียบ “เธอลงมือกับฉันแล้ว ฉันจะให้โอกาสเธอหนีไป แต่ว่านะเวินจิ้ง ถ้าหากว่าครั้งหน้าพวกเราได้พบกันอีก เธอจะไม่มีโอกาสแบบนี้อีกแล้ว”

เวินจิ้งยิ้ม “ความหมายของคุณก็คือ ถ้าฉันฆ่าคุณไม่ตาย สักวันฉันก็จะถูกคุณพากลับมา ใช่ไหม ”

ความหมายของเขาก็คือ เธอต้องแทงให้โดนหัวใจเขาในมีดเดียว ทำให้เขาไม่มีโอกาสนั้นไปตลอดกาลสินะ

เธอเลิกคิ้วด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน พูดเสียงเบา “มู่วี่สิง พวกเราไม่เหมาะสมกันเลยสักนิด ทั้งต่างคนต่างสุดโต่งกันเกินไป เอาชีวิตมาเดิมพันกันแบบนี้ ก็มีแต่จะทำร้ายกันและกัน”

เธอใช้ชีวิตขอลูก แต่เขาใช้ชีวิตของตัวเอง

เวินจิ้งรู้สึกเพียงว่าตอนนี้แสงไฟจากเพดานเหนือศีรษะของเขาทำให้หดหู่จนแทบหายใจไม่ออก

พวกเราต่างสุดโต่งกันจนเกินไป นิสัยแบบนี้หากฝืนอยู่ด้วยกันต่อไปก็ไม่มีทางครบถ้วนสมบูรณ์

คิ้วของมู่วี่สิงไม่แม้แต่จะขยับ เขาเพียงพูดออกมานิ่ง ๆ “ถ้าอย่างนั้นเธอก็ลงมือเถอะ มีแค่วิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้น”

มือของเวินจิ้งค่อย ๆ ขยับเข้าไปใกล้ ขยับเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ

จะต้องเป็นเพราะแสงจ้ามากเกินไปแน่ ๆ ดวงตาของเธอถึงได้เจ็บขนาดนี้

ความเจ็บปวดแบบนั้นแพร่กระจายในหัวใจของเธออย่างรวดเร็ว เธอเจ็บมาก พูดเสียงสะอึกสะอื้นที่แฝงไปด้วยความวิงวอน “มู่วี่สิง ฉันขอร้องเถอะนะ อย่าบังคับฉันเลย ฉันอยู่กับคุณต่อไปไม่ได้แล้วจริง ๆ ฉันทำไม่ได้ คุณอย่าบังคับฉัน…”

อย่าได้บังคับเธออีกเลย เธอเหนื่อยมากแล้วจริง ๆ

เส้นประสาทในสมองของเธอบีบแน่นจนเกินไป ราวกับว่าจะขาดสะบั้นลงไปได้ทุกเมื่อ

มู่วี่สิงเดินเข้าใกล้เธอทีละก้าว ทีละก้าว รีดเค้นน้ำเสียงทุ้มต่ำออกมาอย่างสุดความสามารถ “เธอเกลียดฉันไม่ใช่เหรอ เธออยากจะจากฉันไปไม่ใช่เหรอ ถ้าอย่างนั้นก็ลงมือเถอะ หลังจากลงมีดเล่มนี้ ความเคียดแค้นชิงชังระหว่างเราก็หายไป ฉันเองก็ไม่ต้องการเป็นหนี้ชีวิตเธอ”

ตอนนี้มู่วี่สิงคิดว่า ถ้าหากเธอลงมือ บุญคุณความแค้นระหว่างพวกเราที่แม้แต่เขาก็ไม่สามารถแยกแยะออกได้พวกนั้น จะสามารถแยกแยะออกได้อย่างละเอียด

หลังจากนี้เขาจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนั้นอีก จะได้รักแค่เธอ

“คุณอย่าเข้ามานะ!” เขาเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ เธอทำได้เพียงเดินถอยหลังออกไปทีละก้าว ๆ ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้เธอหวาดกลัว

เธอไม่สามารถกลับไปที่จุดเดิมได้อีกแล้ว

พวกเราเดินกันมาไกลมากแล้ว ไม่สามารถทำให้เรื่องทั้งหมดหวนกลับไปได้

เธอไม่มีความเชื่อใจหลงเหลืออีกต่อไปแล้ว เป็นอีกครั้งที่เธอต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมแห่งความพินาศย่อยยับ

มู่วี่สิงสบเข้าไปในดวงตาของเธอ ความรู้สึกของเธอราวกับจะถูกบีบคั้นให้พังทลายลงมา “ถ้าหากไม่คิดที่จะลงมือ ก็เป็นคุณนายมู่ของฉันต่อไป”

ขณะที่เขากำลังยื่นมือออกไป

‘ฉึก…’ ในชั่วพริบตา ท้ายที่สุดเวินจิ้งก็ยกมือขึ้น

ท้องฟ้ายังคงไร้ซึ่งแสงสว่าง ทั่วทั้งเมืองยังคงตกอยู่ในการหลับใหล เงียบสงบจนไม่ได้ยินเสียงใด ๆ เลยแม้แต่น้อย

ตอนที่หยูจิ่งห้วนรับสายโทรศัพท์เขาก็อยู่ที่สนามบินแล้ว ตอนที่เพิ่งจะรับสายก็ได้ยินเสียงสะอื้นไห้ดังขึ้นมาทันที

หัวใจของเขาจมดิ่ง พูดออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เป็นอะไร เวินจิ้ง เธอไม่ไปแล้วเหรอ”

ถ้ามู่วี่สิงไม่ให้เธอไปจริง ๆ เธอก็คงไม่ร้องไห้แบบนี้

แต่เขาไม่เคยเห็นเธอร้องไห้หนักมากขนาดนี้มาก่อน ร้องแทบหายใจไม่ออก

หลังจากที่เวินจิ้งขึ้นนั่งบนรถแท็กซี่ เธอก็ใช้มือหนึ่งหยิบโทรศัพท์ จากนั้นก็ขดตัวและใช้อีกมือหนึ่งกอดตัวเองไว้ หน้าผากแนบชิดกับหัวเข่า ไหล่สั่นระริก

คนขับที่ขับอยู่ข้างหน้าหันกลับมามองเธอเป็นระยะ ๆ

เธอไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงร้องไห้ออกมา หยูจิ่งห้วนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำได้เพียงแต่พูดปลอบเธอว่า “เธออย่าเสียใจไปเลยนะ ถ้าไปไม่ได้ก็ไม่ต้องไป พวกเราค่อยให้ช้ากว่านี้อีกหน่อยก็ได้ ร่างกายของเธอยังไม่ฟื้นฟู ไม่ควรต้องมีสภาพอารมณ์ที่หนักหน่วงแบบนี้”

แท้จริงแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

เขาเพียงฟังเธอร้องไห้ก็รู้สึกว่าเธอกำลังใกล้จะพังทลาย เขาเคยพบเจอคนป่วยมามากมาย แต่ไม่เคยมีใครที่ร้องไห้ได้น่าปวดใจขนาดนี้

เวินจิ้งส่ายหน้า แม้ว่าเธอจะกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ และอีกฝ่ายก็ไม่เห็นการกระทำของเธอ เธอก็ยังคงส่ายหน้าและสะอึกสะอื้น น้ำเสียงรางเลือนไม่ชัดเจน

“ไม่ ฉันต้องไป ฉันต้องรีบไปเดี๋ยวนี้”

หยูจิ่งห้วนขมวดคิ้ว “ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน”

เวินจิ้งหลับตา เธอไม่เข้าใจ เธอไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดของตัวเอง รู้สึกเพียงปวดหัวจนคล้ายกับจะระเบิด

เส้นประสาทแต่ละเส้นราวกับกำลังฉีกกระชากออก “ฉันอยู่บนรถ อีกไม่นานก็จะถึงสนามบิน”

เมื่อวางสายโทรศัพท์ คนขับรถที่อยู่ด้านหน้าก็ถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ว่า “คุณผู้หญิง คุณจะบินรอบไหน คุณไปโรงพยาบาลก่อนดีไหม สุขภาพไม่แข็งแล้วขึ้นบินจะอันตรายเอานะ”

เวินจิ้งเงยหน้ามองกระจกหลัง จึงได้รู้ว่าสภาพของตัวเองในตอนนี้จนตรอกมากขนาดไหน ใบหน้าไร้สีเลือด นัยน์ตาดำกลวงเปล่า แม้แต่ริมฝีปากก็ขาวซีด โดยเฉพาะมือข้างที่กำโทรศัพท์เอาแต่สั่นระริกอยู่ตลอด

เธอกอดตัวเองแน่นขึ้น ไม่เคยรู้สึกหนาวขนาดนี้มาก่อน ความหนาวเหน็บของกระดูกไหลออกมาจากส่วนที่ลึกที่สุดของร่างกายอย่างต่อเนื่อง น้ำตาไหลไม่หยุด

ในหัวของเธอว่างเปล่า เธอคิดไม่ออกว่าตัวเองแทงมีดลงไปได้อย่างไร รู้เพียงแค่หลังจากที่เห็นว่ามีเลือดไหลออกมาจากหน้าอกของเขา เธอก็รู้ว่าเธอทำมันจริง ๆ

คิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะสามารถลงมือกับผู้ชายที่เธอรักเขามากแบบนี้ได้ การรับรู้นี้ทำให้เส้นประสาทที่แทบจะพังทลายของเธอยิ่งเปลี่ยนเป็นหนักหน่วงขึ้น

เธอไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป ในหัวของเธอคิดแต่เพียงว่าเธอต้องรีบหนีไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นเธอคงได้บ้าไปจริง ๆ

เพียงแค่เธอหลับตาลง ท้ายที่สุดหัวใจของเธอก็เริ่มบีบรัดด้วยความเจ็บปวด เธอทั้งสับสนทั้งหวาดกลัว

มีดด้ามนั้น…เธอแทงมันลงไปที่ตรงไหนกันนะ

ภาพของผู้ชายที่ถูกอาบย้อมไปด้วยเลือดค่อย ๆ ปรากฏชัดตรงหน้าเธอ เธอรู้สึกอ่อนแอลงเรื่อย ๆ

เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าหลังจากลงมีดไปแล้ว การแสดงออกของเขาเป็นอย่างไร

ตกใจ ประหลาดใจ หรือว่าโล่งใจ

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

Options

not work with dark mode
Reset