บทที่ 611 เขาคงไม่สนใจ
“ฉันไม่ใช่”เวินจิ้งพูดปฏิเสธออกไปอย่างไม่รู้ตัว หรี่ตามองปฏิกิริยาของมู่วี่สิง
แต่ว่า หน้าเขานิ่งเงียบปกติ ไม่มีท่าทีอะไร
ใช่สิ เขาคงไม่สนใจ
“ตอนนี้ไม่ใช่ แต่เร็วๆนี้ก็ใช่”หยูจิ่งห้วนยิ้มแย้ม ไม่ละสายตาจากเวินจิ้ง
สายตาของมู่วี่สิงเหมือนกันจ้องอยู่ที่เวินจิ้ง วันนี้เธอสวมเสื้อกันหนาวตัวหนากับกระโปรงยาวถัก รองเท้าบูทลุยหิมะทรงกลม ผมยาวมัดแบบลวก ๆ ดูไปแล้วแต่งตัวเลอะเทอะ แต่มันแสดงอารมณ์ที่สดใหม่
เขาย้ายสายตา เดินไปข้างหน้าอย่างไม่แยแสแล้วพูดอย่างช้าๆ“คุณหยูพึ่งได้รับตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าแพทย์ของโรงพยาบาลหนานเฉิงประเทศF และตำแหน่งใหม่คือรองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยทางการแพทย์นานาชาติ”
“บางทีหลังจากนี้ พวกคุณทำงานต้องมีการปะปนมากมาย”มู่วี่สิงพูดแฝงความหมายลึกซึ้ง
“ใช่สิ สาขาโรงพยาบาลและโรงพยาบาลเหรินหมินอยู่ใกล้กัน”
“อืม”เวินจิ้งตอบกลับเสียงต่ำ เหมือนตอนนี้ เธอค่อยๆรู้จักหยูจิ่งห้วนผู้ชายคนนี้
พึ่งจะเรียนจบไม่นานก็สามารถอยู่ในสายตามู่วี่สิง เป็นถึงรองหัวหน้าแพทย์และรองผู้อำนวยการ เธอรู้มู่วี่สิงเข้มงวดขนาดไหน สามารถทำงานภายใต้มือของเขา ความสามารถต้องไม่เลวอย่างแน่นอน
“คุณหมอหยู ใกล้จะถึงเวลาแล้ว”เวลานี้ ผู้ช่วยข้างกายเตือนหยูจิ่งห้วน เขาพูดเสียงต่ำกับเวินจิ้ง“เดี๋ยวตอนเที่ยงผมมาหาคุณนะ”
เวินจิ้งถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว มู่วี่สิงยืนอยู่ไม่ไกลและกำลังคุยกับคนรอบข้าง หันข้างเล็กน้อย ที่ริมฝีปากไม่มีรอยยิ้ม
เธอไม่แน่ใจ…..เขาเห็นหรือไม่เห็นฉากนี้
เวลาเที่ยงนั้น คิดไม่ถึงว่าหยูจิ่งห้วนจะมาหาเธอจริงๆ
เขาถอดเสื้อสูทออกนานแล้ว พับแขนเสื้อขึ้นสูง ยิ้มทักทายเวินจิ้ง“มาทางนี้สิ”
มีจักรยานสองคันอยู่ที่ประตู เขาเชิญเธออย่างเป็นไมตรี“ผมมีเวลาแค่สองชั่วโมง”
เวินจิ้งรู้สึกไม่ดีที่จะปฏิเสธ“พวกเราจะไปไหน?”
“ออกจากป่าแห่งนี้มีทะเลสาบที่สวยงาม”หยูจิ่งห้วนชินกับการเกาผมตัวเอง“เหมือนทะเลสาบวอลเดน”
อากาศดีมาก แม้ว่าตอนนี้จะเป็นฤดูหนาว พระอาทิตย์กลับออกมาทุกตารางนิ้วรู้สึกอบอุ่นไปหมด
“ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”หยูจิ่งห้วนและเธอขี่เคียงข้างกัน ถามแบบไม่ตั้งใจ
ตามการเดินทางของเวินจิ้ง ตอนนี้ควรอยู่ขั้วโลกเหนือ ไม่ใช่ยังอยู่ที่เนเธอร์แลนด์
“ที่บ้านเกิดเรื่องนิดหน่อย ฉันต้องรีบกลับประเทศ แต่ตอนนี้เจอภูเขาไฟระเบิด พอดีคุณหมอมู่อยู่ที่นี่ ฉันก็เลยคิดว่าเขาสามารถมีวิธีพาฉันกลับประเทศได้”
“ที่บ้านเกิดเรื่องอะไร?” หยูจิ่งห้วนถามด้วยความเป็นห่วง
“แม่ฉันเข้าโรงพยาบาล”จริงๆแล้วเวินจิ้งไม่อยากพูดเรื่องที่บ้านกับหยูจิ่งห้วนเยอะ แถมแม่และคุณน้าหยูมีความสัมพันธ์ที่ดี คิดไปหยูจิ่งห้วนอยากรู้ก็ไม่ยาก
ทั้งสองคนพูดคุยกัน ไม่รู้สึกเหนื่อยบนท้องถนน
คาดว่ารอบเดียวสองชั่วโมงก็พอ แค่ครึ่งทาง ก็สามารถมองเห็นน้ำทะเลสาบระยิบระยับเบาบางไม่ไกล เสียงเบรกให้หยุด รถจักรยานของเวินจิ้งเหยียบไม่ขยับ
เวินจิ้งอายเล็กน้อย กลับเห็นหยูจิ่งห้วนเหยียบอย่างรวดเร็ว เสียงพูดเหมือนโกรธเป็นเวลานาน“ชาวเยอรมันมีชื่อเสียงด้านเครื่องจักรที่มีความแม่นยำไม่ใช่หรือ?”
มุมปากของเวินจิ้งอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “บางทีอันนี้อาจจะเป็นประเทศของพวกเราผลิต”
ความโกรธมานาน ในที่สุดหยูจิ่งห้วนก็ยอมแพ้อย่างอดอาลัยตายอยาก พูดอย่างยอมรับชะตากรรม“พอแล้ว พวกเรากลับไปก่อน ไม่อย่างนั้นประชุมตอนบ่ายผมต้องสายแน่”
โชคดีที่รถของหยูจิ่งห้วนบรรทุกคนได้…..ถึงแม้ว่าจะต้องนั่งข้างหน้าก็ตาม…..
ร่างของเวินจิ้งนั้นผอม สองมือกุมของหยูจิ่งห้วนขยับออกไป ยังมีที่ว่างอย่างเหลือเฟือ
“คุณนั่งสบายๆหน่อยได้นะ” มองไปที่ท่าทางการนั่งที่น่าอึดอัดเวินจิ้ง หยูจิ่งห้วนพูดแล้วยิ้ม“คุณไม่ลำบากเหรอ?”
เวินจิ้งตอบกลับ ยังคงคว่ำหน้าด้านหน้ารถอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
มองเห็นที่พักแล้ว หยูจิ่งห้วนปั่นจักรยานด้วยความรวดเร็ว “อย่าขยับ ใกล้จะถึงแล้ว”
พอดีต่อไปจะต้องขึ้นเนินสูง ทันใดนั้นความเร็วก็เร็วเหมือนกับลม เวินจิ้งยกเท้าทั้งสองขึ้น ร้องด้วยความตกใจ
ผู้ชายขี่รถกลับหัวเราะดังด้วยความสบายใจ กลั่นแกล้งด้วยความพอใจ
ในที่สุดจักรยานก็มาถึง เวินจิ้งหน้าเกือบจะเด้งลงมา ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ประตูสถานศึกษาเปิดออก พ่อบ้าน มองเวินจิ้งอย่างตำหนิ แล้วพูดกับหยูจิ่งห้วน “คุณหมอหยู การประชุมตอนบ่ายของท่านจะเริ่มแล้ว”
หยูจิ่งห้วนตอบกลับ มองๆเวลา ปั่นจักรยานแล้วจากไปอย่างรวดเร็ว
“คุณเวิน ครั้งหน้าถ้าคุณจะออกไป รบกวนบอกผมสักหน่อยว่าคุณจะไปไหน ”พ่อบ้านวางมาดขรึมเหมือนเดิม “ไม่อย่างนั้น…. ”
เขาคล้ายจะสงสัย มองกระโปรงที่สกปรกของเวินจิ้ง “คุณไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ”
เวินจิ้งเก็บอาการทั้งหมด แล้วพยักหัว
เธอหมุนตัวจะขึ้นไปชั้นบน แต่กลับเห็นหัวโค้งตรงบันได มู่วี่สิงยื่นตรงอย่างเงียบๆ
เงาร่างสูงของเขา ดึงยาวจากด้านล่างสุดของขั้นบันได หน้าหล่อไร้ความรู้สึก
ในใจของเวินจิ้งตุ๊บตับๆ เธอรู้ดี ตอนนี้มู่วี่สิงไม่มีความสุข
คนทั้งคนขากรรไกรล่างแน่นไปหมด ตาดำลึกเย็นชา อารมณ์ส่วนลึกสุดถูกเขาอำพราง
เขากำลังโกรธอะไร?
เธอไม่รู้สึกว่าตัวเองทำอะไรให้เขาโกรธ
เวินจิ้งไม่ได้มองเขา แต่มู่วี่สิงเดินลงมาทีละก้าว
เธอคิดอยากจะถอยหลัง วินาทีนั้นอยากออกจากประตู แต่เท้าเหมือนถูกให้หยุดอยู่นิ่ง ทำได้แค่ยืนอยู่กับที่อย่างใจลอย จนกระทั่งลมหายใจเขาพรวดพราดมาใกล้
เขาจับข้อมือของเธอ แรงเยอะเหมือนลวดรัด ดึงเธอขึ้นไปชั้นสอง
มืออีกด้านของเวินจิ้งจับราวบันไดไว้
“ปล่อย”เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เวลายาวนานไม่มีจำกัด นิ้วของเวินจิ้งค่อยๆปล่อย แล้วลากไปชั้นสองอย่างมึน ๆ
ประตูห้องนอนถูกเหวี่ยงดังโครม เธอถูกผลักเข้ากับกำแพงอย่างแรง เจ็บจนน้ำตาร่วงออกมา
มู่วี่สิงตาหรี่ ปลดเนคไทตัวเอง ริมฝีปากดูหมิ่นถึงขนาดยิ้มอย่างเหนือกว่าออกมา“เมื่อกี้เล่นสนุกมากไหม?”
เวินจิ้งส่ายหัวโดยไม่รู้ตัว เมื่อนึกถึงฉากเมื่อกี้ที่อยู่ด้วยกันหยูจิ่งห้วนปฏิเสธไม่ได้ ว่ามีความสุขมาก
เหมือนเวลาอยู่กับหยูจิ่งห้วนนั้น เขาสามารถทำให้เธอเต็มไปด้วยความแปลกใจและมีความสุข
เงยหน้าขึ้น ทันใดนั้นเธอตอบอย่างไม่ยอมเหมือนกัน“เล่นสนุกมาก”
วินาทีต่อมา มู่วี่สิงสีหน้ายิ่งเย็นชา เขาขังเธอไว้ในอ้อมแขนของตัวเองอย่างง่ายดาย ขมวดคิ้วมองกระโปรงบนร่างเธอที่สกปรก เหมือนพูดความในใจออกมา“ฉันไม่ชอบผู้หญิงสกปรก”
เขาจับกระโปรงยาวบริเวณที่มีรอยฉีกขาด เสียงฉีกอย่างแรง ทันใดนั้นผ้าก็ถูกฉีกขาด ทำให้เห็นขาขาวยาวเรียวของเวินจิ้ง
บรรยากาศรอบๆค่อยๆเย็น ทันใดนั้นขาเธอสั่น เกือบจะยืนไม่นิ่ง