บทที่ 604 ผู้ป่วยที่ไม่เชื่อฟัง
“คุณหยู สวัสดีค่ะ”เวินจิ้งยิ้มเบาๆ
“เมื่อวานขอโทษที่ปล่อยเครื่องบินของคุณ ผมไม่คิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุแบบนี้”
เวินจิ้งขมวดคิ้วอย่างแค้นเคือง ถ้าไม่ใช่เธอ……..
“คุณเวิน คุณรู้สึกผิดเหรอ? เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ เป็นอุบัติเหตุ” หยูจิ่งห้วนมองการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ของเวินจิ้ง
เวินจิ้งสติกลับคืนมา หยิบประวัติผู้ป่วยขึ้นมากลับหัวทำท่าไม่ถูก
“อืม แต่เพราะคุณมาพบฉันมันก็เลยเกิดเรื่อง”เวินจิ้งพูดเสียงต่ำ
“ดังนั้นคุณก็ช่วยชีวิตผมไว้ ไม่ใช่เหรอ?”
เวินจิ้งเงยหน้ามองชายรูปหล่อตรงหน้า แม้แต่เสียงของเขา ยังเหมือนกับมู่วี่สิง
เธอหลงใหลอย่างไม่ตั้งใจ
“อาการของร่างกายคุณ กลัวว่าจะต้องอยู่โรงพยาบาลสักพักหนึ่ง”เวินจิ้งเปลี่ยนหัวข้อพูด
“อืม ช่วงเวลานี้รบกวนคุณด้วยนะ”
เวินจิ้งไม่ใช่แพทย์ที่ดูแลหยูจิ่งห้วน แต่เพราะหลินเวยกำชับ บวกกับความไม่สบายใจของเธอ เข้ามาเกือบจะทุกวัน
ช่วงเวลานี้ทั้งสองคุ้นเคยกันไม่น้อย จนกระทั่งหยูจิ่งห้วนนั้นลงจากเตียงทำกิจกรรมได้ เกือบจะทุกวันมาหาเวินจิ้งที่ห้องทำงานเธอ เขาเป็นคนหล่อดูดี กลายเป็นเจ้าชายของพยาบาลสาวและแพทย์หญิง แต่กลับทำให้ทุกคนรู้สึกได้ เขาเหมือนกำลังตามจีบเวินจิ้ง
พึ่งออกมาจากห้องผ่าตัด เวินจิ้งกลับไปนั่งที่ห้องทำงาน หยูจิ่งห้วนก็บีบมา
“คุณหยู ขาคุณยังไม่หายดี ไม่ต้องเดินไปเดินมาแล้วค่ะ”เวินจิ้งจนปัญญาที่จะพูด
เขาเป็นผู้ป่วยที่ไม่เชื่อฟัง
“เวยอานบอกว่าคุณเข้าห้องผ่าตัดไปตั้งแต่ตอนเช้าแล้ว ตอนนี้ก็ผ่านไปแล้วแปดชั่วโมง อยู่เป็นเพื่อนคุณกินข้าวผมก็กลับไป”
เวินจิ้งพบกับสายคาที่ร้อนแรงของหยูจิ่งห้วน ไม่รู้จะทำอย่างไร
เขาคนที่ดูตัวคู่รักนี้ดูเหมือนจะเชื่อง เธอคิดว่าตัวเองต้องพูดให้ชัดเจน
“คุณหยู”เวินจิ้งเดินไปโซฟาที่อยู่ตรงข้ามเขา ยังไม่ได้เปิดกล่องอาหาร “ที่ตอบตกลงไปดูตัวกับคุณ เพียงแค่ตามคำขอของแม่ ตัวฉันเองยังไม่คิดที่จะแต่งงาน”
“อืม ฉันพึ่งเรียนจบมหาลัยได้ไม่นาน และก็ยังไม่คิดที่จะแต่งงาน ฉันไม่รีบร้อน”
เวินจิ้ง…..
อีกนิดเธอเกือบลืมแล้ว คุณหยูนี้อายุน้อยกว่าเธอห้าปี เรื่องแต่งงานถือว่ายังเร็วไปหน่อย
แล้วทำไมเขายังมาดูตัวกับเธอ……
“ผมรู้คุณคิดอะไร ผมยอมเจอคุณ ก็เหตุผลเดียวกัน ตอนเด็กแม่เสี่ยงทายให้กับผม ผมต้องแต่งงานมีลูกก่อนอายุยี่สิบห้า ตอนนี้ยังเหลืออีกสองปี แต่ผมยังไม่มีแฟน เธอก็เลยหาคู่รักให้”
เวินจิ้งคิ้วขมวด“ฉันอายุมากกว่าคุณ คุณหยู คุณคิดว่าเหมาะสมเหรอ?”
“เหมาะสมไม่เหมาะสม ต้องลองถึงจะรู้” หยูจิ่งห้วนพูดความหมายไม่ชัดเจน
เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก ยังรู้สึกไม่พอใจบ้าง
“กินข้าวก่อนเถอะ ตอนบ่ายคุณช่วยผมเปลี่ยนยาได้ไหม? คุณพยาบาลพวกนั้นวุ่นวายหมดแล้ว ทุกครั้งที่เปลี่ยนยาถามวีแชทแล้วก็ถ่ายรูปด้วย…..” หยูจิ่งห้วนพูดถึงคนอื่นนั้น อารมณ์บนใบหน้ารู้สึกรำคาญนิดหน่อย
“นั้นก็เพราะว่าคุณหล่อไง คุณควรจะชอบนะ”เวินจิ้งพูดเบาๆ
“ผมไม่ชอบแบบนี้ ดังนั้นเมื่อก่อนผมไม่ชอบอยู่โรงพยาบาล”
“แล้วตอนนี้ล่ะ?”เวินจิ้งถามเล่นๆ
“ตอนนี้สามารถเจอหน้าคุณทุกวัน ผมรู้สึกว่าอยู่โรงพยาบาลก็ไม่เลว” หยูจิ่งห้วนยิ้มที่มุมปาก
เวินจิ้งตกตะลึง ตอนนี้เด็กคนนี้แหย่เกินไปแล้ว…..
เธอกินข้าวหมดอย่างรวดเร็ว ไปห้องผู้ป่วยกับหยูจิ่งห้วน สั่งให้เวยอานเข้ามาช่วย
“คุณหยู บาดแผลของคุณดีขึ้นเยอะแล้ว ฉันดูแล้วไม่นานก็ออกโรงพยาบาลได้” เวยอานเอ่ยปากพูด
จริงๆแล้วคุณหยูอยู่ที่นี่รบกวนงานของเวินจิ้ง ถึงแม้เขาจะหล่อ เวยอานก็ไม่อยากให้เขาอยู่โรงพยาบาล
“อืม ผมก็อยากออกโรงพยาบาลเร็วๆ”หยูจิ่งห้วนพูด
เวินจิ้งสีหน้าเย็นชา หลังจากช่วยเขาพันแผล ชินกับการกำชับให้ระวังแล้วก็จากไป
เวยอานเดินด้านหลังเวินจิ้ง อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปาก“ดูเหมือนประธานโจวจะมีศัตรูหัวใจแล้ว”
ในประเทศF เวยอานไม่ใช่แค่ผู้ช่วยของเวินจิ้ง ทั้งสองคนคุ้นเคยจนถือว่าเป็นเพื่อนกันแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเวินจิ้งกับโจวเซินเวยอานก็รู้
“พูดอะไรอ่ะ”เวินจิ้งคิ้วขมวด
“ฉันไม่พูดผิดหรอก แถมเด็กคนนี้ดูดีไม่แพ้โจวเซิน”เวยอานดื้อด้านที่จะพูด
“นั้นก็ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับฉัน”เวินจิ้งพูดพึมพำ
ตอนเย็นหลินเวยและคุณน้าหยูมาด้วยกัน เวินจิ้งกำลังจะเลิกงาน โดนหลินเวยเรียกมาห้องผู้ป่วยของหยูจิ่งห้วน
“หนูเวิน ช่วงเวลานี้รบกวนหนูดูแลลูกชายน้าหน่อยนะ”คุณน้าหยูพูดอย่างกระตือรือร้น
เวินจิ้งยิ้ม“เขาเป็นคนไข้หนู นี้เป็นสิ่งที่หนูต้องรับผิดชอบ ”
“เด็กคนนี้ดื้อมาตั้งแต่เด็ก อย่างหนูเขาถึงจะเชื่อฟัง”
“ลูกสาวฉันนิสัยอ่อนโยน เธอไม่ค่อยอารมณ์ร้ายใส่ใคร”หลินเวยยิ้มแล้วพูด
“งั้นพอดีเลยมาเติมเต็มนิสัยเด็กอย่างจิ่งห้วน”
ฟังบทสนทนาของหลินเวยและคุณน้าหยู เวินจิ้งรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว มองไปที่หยูจิ่งห้วนอย่างไม่รู้ตัว ทำให้เขาตื่นเต้นตัดบทสนทนาของทั้งสองคน
ไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้ออกไป
มุมปากของหยูจิ่งห้วนยิ้มอย่าสุขุม นานถึงได้เอ่ยปาก“แม่ วันนี้คุณหมอเวินยุ่งมาทั้งวันแล้ว เธอควรเลิกงานได้แล้ว”
คุณน้าหยูถึงได้ตอบกลับ“โอเคๆ คุณหมอเวินหนูกลับไปเร็วหน่อย จะได้พักผ่อนดีๆ”
เวินจิ้งพยักหน้า ออกจากโรงพยาบาล อากาศที่สดใสทำให้ใจเธอนั้นสบายไม่น้อย
หลินเวยก็ขึ้นรถ ถามลูกสาว “เด็กจิ่งห้วน ไม่เลวใช่ไหมล่ะ?”
“อายุน้อยเกินไปแล้ว”เวินจิ้งพูดอย่างไม่มีอารมณ์
จริงๆก็ไม่เด็กแล้ว แต่ว่าไม่ว่าผู้ชายคนไหน….เหมือนเธอไม่มีความรู้สึกอะไรแล้ว
“แม่ดูเด็กคนนั้นชอบลูกจะตายไป อายุน้อยก็ไม่เป็นไร ที่สำคัญที่สุดคือความชอบ”
“อืม ค่อยๆดูเถอะค่ะ”เวินจิ้งพิงพนักเก้าอี้ ปิดตาลงด้วยความอ่อนเพลียเล็กน้อย
ทุกวันยุ่งกับการตรวจเพื่อรับการผ่าตัด เธอมาสามารถแยกพลังเพื่อทำความเข้าใจหยูจิ่งห้วน
หลินเวยถอนหายใจ มองสีหน้าลูกสาว ทั้งเป็นห่วงทั้งจนปัญญา
ทันใดนั้น เธอคิดวิธีออก
หลังจากกลับมาจากบ้านโจว เธอให้โจวเซิ่งติดต่อผู้อำนวยการโรงพยาบาลเหรินหมิน จัดวันหยุดให้เวินจิ้งหนึ่งเดือน เดิมทีโรงพยาบาลขาดคน ผู้อำนวยการเห็นแก่หน้าโจวเซิ่งถึงปล่อยคนให้
“ฉันว่าไม่นานโจวเซินก็กลับมาแล้ว ช่วงเวลานี้ทำให้เวินจิ้งกับจิ่งห้วนไปมาหาสู่กันบ่อยๆ และทำให้โจวเซินไม่ได้คิดอันนี้”
“ตอนเด็กฉันแทบจะไม่ได้เติบโตมาพร้อมโจวเซิน นิสัยของเขาบิดงอมืดมน เป็นความผิดของฉัน”โจวเซิ่งเสียใจ
ครึ่งชีวิตก่อนนอกจากงานแล้ว อย่างอื่นทั้งหมดของเขาแย่อย่างมาก การแต่งงาน ลูก ทั้งหมดถูกทำลายด้วยน้ำมือเขา
“เวยเวย เธอวางใจเถอะ เวินจิ้งก็เป็นลูกขอฉัน ฉันจะไม่ทำให้เธอได้รับความไม่เป็นธรรม”
เวินจิ้งรู้ว่าตัวเองจะหยุดหนึ่งเดือนหลังอีกสามวัน เวลานี้อีกหนึ่งวันหยูจิ่งห้วนก็จะได้ออกโรงพยาบาลแล้ว แถมเธอก็จะได้เริ่มพักยาวๆหนึ่งเดือน
แต่ว่าตารางผ่าตัดเดือนหน้าของเธอเต็มหมด ผู้อำนวยการทำไมถึงอนุมัติปลอมอย่างนี้?