บทที่ 543 ความสามารถของประธานมู่
สองชั่วโมงต่อมา ณ หนานเฉิง
หลังจากลงเครื่อง มู่วี่สิงต้องรีบกลับไปบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ส่วนเวินจิ้งต้องไปมหาวิทยาลัยF
ศาสตราจารย์ส้งเพิ่งกลับจากโรงพยาบาล เมื่อเห็นเวินจิ้งกำลังรอเธออยู่ แต่ไม่ได้เอะใจอะไร
มหาวิทยาลัยFเพิ่งประกาศยกเลิกสัญญาความร่วมมือกับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป แต่ทุกอย่างนี้ก็ไม่ใช่การตัดสินใจของเธอคนเดียว ตอนนี้ชื่อเสียงของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปไม่ค่อยดีแล้ว ส่วนมหาวิทยาลัยFเป็นสถาบันการศึกษาโด่งดังมานานนับร้อยปี เมื่อคณะกรรมการสถาบันได้คำนึงถึงจุดนี้ จึงตัดสินใจยื่นข้อเสนอยกเลิกการร่วมมือกับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป
“เวินจิ้งเอ๋ย ตอนนี้สถานการณ์ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเป็นอย่างไรเธอคงรู้ดี ที่เธอตั้งใจมาหาฉัน เกรงว่าฉันเองก็เปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของทางโรงเรียนและช่วยเธอไม่ได้อยู่ดี” การร่วมมือครั้งนี้ซึ่งเธอเป็นผู้เสนอให้กับโรงเรียนก่อน และเรื่องราวที่วุ่นวายถึงขั้นนี้ เธอก็มีส่วนเกี่ยวข้องไม่น้อยเหมือนกัน
“สำหรับข่าวของมู่วี่สิง ทั้งหมดนั้นคือข่าวลวงทั้งนั้น มันไม่ใช่เรื่องจริงเลยนะ” เวินจิ้งพยายามอธิบาย
“ฉันรู้อย่างแน่นอน แต่ว่าทางมหาวิทยาลัยFให้ความสําคัญกับชื่อเสียง บางที เรื่องนี้คงต้องให้ทางมู่วี่สิงมาเคลียร์ปัญหาเองแล้วล่ะ” ส้งเชนพูดด้วยความจริงใจ
เข้าใจแล้ว “ศาสตราจารย์ ขอบคุณนะคะ”
“ฉันก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้หรอกนะ แต่ถ้าตอนนี้เธอไม่มีโปรแกรมอะไรต่อ เธออยากกลับไปฝึกงานกับโจวเซินไหม?
เวินจิ้งตกใจ กับโจวเซิน……
เมื่อนึกถึงโจวเซินที่อาจจะก่อเรื่องให้กับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปมาตลอด ตอนนี้เธอรู้สึกเหลือทนกับเขามาก
“ศาสตราจารย์ หนู……” เวินจิ้งขมวดคิ้ว ด้วยสีหน้าที่อึดอัดมาก
“ตอนนี้มีตำแหน่งหนึ่งในแผนกของฉันที่ว่างสำหรับนักศึกษาฝึกงาน เธอมากับฉันสิ” เมื่อเห็นสีหน้าเวินจิ้งส้งเชนจึงพยายามเกลี้ยกล่อม
“จริงเหรอคะ?” เวินจิ้งคิดไม่ถึง
“อื้ม แต่ว่าฉันเข้มงวดมากเลยนะ เตรียมตัวให้ดีล่ะ” ส้งเชนยิ้มพูด
เวินจิ้งรีบพยักหน้าตอบ แล้วออกไปจากออฟฟิศเพื่อจะโทรหามู่วี่สิง แต่คิดว่าเขาคงยุ่งกับงานอยู่ จึงส่งข้อความไปแทน
สถานการณ์ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ณ ตอนนี้
ณ ตอนนี้มู่วี่สิงไม่ได้บริหารบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปโดยตรง แม้หลาย ๆ เรื่องต้องการคำสั่งจากเขาก็ตาม แต่เขาไม่ได้ออกหน้า และมอบหมายทุกอย่างให้ส้งวี่มาแทน
เรื่องวิกฤตของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปช่วงนี้ ส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากข่าวอื้อฉาวล่าสุดของมู่วี่สิง จึงทำให้หลาย ๆ บริษัทที่ร่วมมือกันเกิดความสงสัยไม่น้อย และมีอีกสาเหตุหนึ่ง บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปถูกหลาย ๆ บริษัทรวมตัวกันเพื่อแย่งตลาดของเขาไป จึงทำให้พื้นที่การขยายตลาดทั้งเก่าและใหม่เกิดวิกฤติตามไปด้วย
“วี่สิง คือความผิดพลาดของผมเอง ที่ไม่ได้จัดการวิกฤตครั้งนี้ให้อยู่หมัด” ส้งวี่ได้แต่ก้มหน้าด้วยสิหน้าที่ค่อนข้างแย่มาก
มู่วี่สิงก้มหน้ามองเอกสารด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง สีหน้าเขาก็กลายเป็นปกติทันที
ตระกูลโจวรวบรวมได้หลายบริษัทในครั้งนี้ แม้อิทธิพลของเขาไม่อยู่ในเมืองหนานเฉิงก็ตาม แต่ตอนนี้เขาค่อย ๆ แทรกซึมเข้ามาทีละนิดแล้ว” สีหน้ามู่วี่สิงเคร่งขรึม นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลย
เขาสองคนและผู้นำระดับสูงของบริษัทได้ประชุมจนกระทั่งดึกในวันนั้น มู่วี่สิงมองไปที่ส้งวี่ที่กำลังยุ่งอยู่กับการวางแผนการจัดการอยู่ “ซือซืออยู่กับนายเหรอ?”
“ใช่ครับ” ส้งวี่ตอบ
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว หลังจากออกจากบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เขาได้สั่งเกาเชียนไว้ว่า “ติดตามการเคลื่อนไหวเรื่องของซือซือด้วยนะ”
คืนนี้เวินจิ้งไม่ได้กลับไปที่การ์เด้นมูเจียวาน เธอดูข่าวบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปในห้องพักอย่างตั้งใจ เมื่อเห็นสายเรียกเข้าจากมู่วี่สิง เธอจึงรีบรับสาย
“คุณยังอยู่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเหรอ?”
“เพิ่งออกมา” เมื่อได้ยินเสียงอ่อนโยนของเวินจิ้ง ความเหนื่อยล้าของมู่วี่สิงก็ค่อย ๆ จางหายไป
เขาพิงไปที่เก้าอี้ และรู้สึกผ่อนคลายขึ้น
“สถานการณ์ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปตอนนี้ซับซ้อนไหม”
“เท่าที่ผมรู้ ไม่มีเรื่องไหนที่ไม่ซับซ้อนเลย”
เวินจิ้งยิ้มเบา ๆ “ฉันรู้ว่าท่านประธานมู่จะผ่านมันไปได้อย่างแน่นอน”
ทั้งสองคุยกันสักพัก เวินจิ้งก็ไปเข้านอนตามที่มู่วี่สิงสั่ง แต่เธอถือสายฟังเสียงมู่วี่สิงไว้ไม่อยากวางสายจากเขาเลย
จนเกือบตีสอง มู่วี่สิงกลับถึงการ์เด้นมูเจียวาน เธอถึงจะยอมวางสายลง
วันถัดมา เวินจิ้งเข้าไปโรงพยาบาลแต่เช้า นักศึกษาฝึกงานแผนกของส้งเชนรวมเธอแล้วมีทั้งหมดห้าคน ห้องทำงานจะอยู่ข้างห้องของโจวเซิน แต่เวินจิ้งก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาเลย
บทสนทนาของผู้ร่วมงานแผนกศัลยศาสตร์หลายคนได้พูดถึงโจวเซิน ซึ่งทั้งหมดนี้ก็หนีไม่พ้นการได้ยินของเวินจิ้ง
“ทำไมคุณหมอโจวหยุดเหรอ? แกเป็นแรงบันดาลใจในการมาฝึกงานของฉันทุกวันเลยนะ”
“ฉันคิดถึงแก……แกไม่มาหลายวันแล้ว ได้ข่าวว่าแกลาเป็นเดือนเลย”
“จริงน่ะสิ ถ้าไม่ได้พบแก แล้วชีวิตยังมีความหมายอะไรอีก……แล้วฉันมาเรียนแพทยศาสตร์มีความหมายอะไร!”
เวินจิ้งถึงกับทำหน้าไม่ถูก รู้ว่าโจวเซินนั้นโดดเด่นมาก แต่ไม่คิดเลยว่าจะมีผู้หญิงที่ชอบเขามากขนาดนี้
จนกว่าศาสตราจารย์ส้งเข้ามา การสนทนานั้นถึงจะหยุดลง เวินจิ้งเพิ่งมาจึงได้รับผิดชอบในการเก็บบันทึกประวัติผู้ป่วย และทั้งวันนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“เวินจิ้ง เดี๋ยวเราจะไปเยี่ยมรุ่นพี่โจว เธอไปด้วยกันไหม? เห็นว่าเธอเคยเป็นผู้ติดตามของแก” มีเพื่อนเดินเข้ามาทัก
ทุกคนเพิ่งได้ข่าวว่าโจวเซินนั้นเข้าโรงพยาบาล ดังนั้นจึงนัดกันเพื่อจะไปเยี่ยมเขา
เวินจิ้งยังไม่ทันปฏิเสธก็ถูกเพื่อนผลักเข้าไปในลิฟต์แล้ว ส่วนโจวเซินจะพักอยู่แผนกผู้ป่วยในโรงพยาบาลหลินไห่
“เวินจิ้ง เธอถือดอกไม้นี้ไว้”
“ฉัน……” เวินจิ้งขมวดคิ้ว แล้วเห็นเพื่อน ๆ ทุกคนต่างก็ถือของฝากมากมาย ซึ่งเธอไม่มีโอกาสพูดเลย
วางดอกไม้นี้ลงแล้วเดินจากไป เธอบอกตัวเองในใจ
เมื่อมาถึงห้องผู้ป่วย เวินจิ้งยืนอยู่ข้างหลังสุด มีเพื่อนผู้หญิงสามคนเดินเข้าไปในห้องก่อน แล้วมีเพื่อนผู้ชายถือผลไม้สดเข้าไปวางไว้ข้าง ๆ
“รุ่นพี่คะ ทำไมถึงป่วยคะ อาการเป็นยังไงบ้าง?”
“ไม่เป็นอะไรมากหรอก” สีหน้าโจวเซินขาวซีด
“แล้วจะได้ออกโรงพยาบาลเมื่อไหร่คะ พวกเราอยากให้พี่กลับมาที่แผนกเร็ว ๆ จัง……”
“กลับไปที่แผนก……ยังไม่แน่ใจหรอกนะ……”
โจวเซินขมวดคิ้ว ขณะที่เงยหน้าขึ้นก็เห็นเวินจิ้งที่ยืนอยู่ด้านหลังอย่างรวดเร็ว
เธอสวมชุดคลุมสีขาวทั้งชุด และโชว์ขาที่ขาวเนียนเล็กน้อย เธอดูดีและโดดเด่นที่สุดในกลุ่มเพื่อนนักเรียน
“เวินจิ้ง เข้ามาสิ” โจวเซินเรียกเธอโดยตรง
ทันใดนั้น สายตาของทุกคนก็หันมามองที่เวินจิ้ง เธอก้มหัวเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไป “รุ่งพี่คะ”
อย่างไรก็ตาม โจวเซินยังคงเป็นนักศึกษาในสถาบันเดียวกับเวินจิ้ง ดังนั้นเธอจึงต้องให้เกียรติเขา
“ซื้อดอกไม้ให้ผมเหรอ?”
“ใช่ค่ะ” เวินจิ้งวางดอกไม้ไว้ข้าง ๆ แล้วคิดว่าจะออกไป
“ไม่ได้ไปร่วมงานสัมมนาการโปรโมทเหรอ?”
“โครงการวิจัยและพัฒนาถูกระงับชั่วคราวค่ะ” เวินจิ้งอธิบาย
โจวเซินหรี่ตาลงเล็กน้อย เด็กนักศึกษาเหล่านี้คือเด็กฝึกงานของส้งเชน ดังนั้นที่เวินจิ้งมาที่นี่ ก็คงเป็นเด็กฝึกงานของส้งเชน
สีหน้าของโจวเซินเปลี่ยนไปกระทันหัน
“รุ่นพี่คะ พักผ่อนให้มาก ๆ นะคะ” เมื่อพูดเสร็จ เวินจิ้งก็เตรียมออกไป
เพื่อนนักศึกษามองไปที่สองคนนี้เหมือนมีอะไรแปลก ๆ บางอย่าง
“รุ่นพี่คะ เวินจิ้งอาจจะมีธุระต่อค่ะ เดี๋ยวพวกเราอยู่เป็นเพื่อนเองนะคะ” เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งนั่งลงที่ข้างเตียงผู้ป่วย
สีหน้าอันนุ่มนวลของโจวเซินก่อนหน้านี้ได้หายไปสักพักแล้ว เหลือเพียงแต่ความเคร่งขรึม
“กลับไปกันก่อนเลย ผมแค่ลำไส้อักเสบ เดี๋ยวคงได้ออกโรงพยาบาลแล้ว” โจวเซินหลับตาลงด้วยสีหน้าที่ดูเหนื่อยล้า
เพื่อนนักศึกษาเหล่านั้นจึงต้องกลับไปอย่างไม่เต็มใจ