บทที่ 511 ในสายตาของคุณมู่ มองได้แค่ฉันคนเดียว
โจวหย่านรู้สึกงุนงง คุณปู่มู่ได้วางแผนจัดเตรียมปูทางเดิน ให้มู่วี่สิงต้องเดินตามตั้งแต่แรกแล้ว เขาคือคนของตระกูลมู่ ดังนั้นเขาต้องรับช่วงต่อของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป
ซึ่งก็เหมือนกับเธอ ตอนนี้เธอเป็นคนของตระกูลโจวแล้ว และตอนนี้โจวเซิน มีอำนาจในตระกลูโจว ดังนั้นเธอต้องฟังเขาทุกอย่าง
เติบโตมาในครอบครัวที่ร่ำรวย เรื่องพวกนี้โจวหย่านเข้าใจดี
“สิ่งที่เขาต้องทำ ก็คือกลับมาที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ไม่ใช่มัวแต่อยู่ที่โรงพยาบาล”น้ำเสียงของโจวหย่านต่ำลงเรื่องๆ
ประโยคนี้ ไม่ได้มีความมั่นใจที่จะพูดออกไปเลย
นี่คือสิ่งที่มู่เฉิงบอกเธอ ในสิ่งที่เธอต้องทำ คือชักจูงให้มู่วี่สิง กลับไปที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ถ้าเธอมันทำได้ มู่เฉิงจะทำให้เธอกับมู่วี่สิงได้หมั้นกัน
แต่ว่า เธอน่ะเหรอ ที่จะเป็นคนโน้มน้าวมู่วี่สิงได้อย่างไร
และในขณะนั้น ชายที่ว่าก็เดินผลักประตูเข้ามา
เมื่อเห็นโจวหย่าน มู่วี่สิงขมวดคิ้วขึ้นอย่างรำคาญ
“คุณหมอมู่คะ วันพรุ่งนี้ ฉันต้องออกจากโรงพยาบาลแล้ว”โจวหย่านเดินเข้าไปหาเขา
“อืม”มู่วี่สิงตอบอย่างไม่แยแส
“พรุ่งนี้ เป็นงานเลี้ยงฉลองครบรอบหนึ่งร้อยปีของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ฉันกับคุณปู่จะไปร่วมงานด้วย”
“โจวหย่าน คนแบบคุณ ไม่มีวันที่จะได้เป็นคนของตระกูลมู่”ประโยคของมู่วี่สิง หยุดทุกความคิดของโจวหย่าน
เมื่อพูดจบ มู่วี่สิงก็ไม่ได้อยู่ต่อ และดึงเวินจิ้งให้ออกมา
“พรุ่งนี้คุณจะไปใช่ไหมคะ?”โจวหย่านตะโกนถามออกไปอย่างกระวนกระวายใจ
ช่วงนี้มู่วี่สิง ไม่ได้สนใจเรื่องของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเลย ดังนั้นงานเลี้ยงนี้ มู่เฉิงเป็นคนจัดเตรียมการ แต่ยังไง ทางบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ต้องบอกให้มู่วี่สิงทราบอยู่แล้ว
ใบหน้าของมู่วี่สิง ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ กลับทิ้งไว้เพียงแค่ภาพของความเย็นชา
เขาเดินอย่างรวดเร็ว เวินจิ้งต้องวิ่งเหยาะๆ ถึงจะตามมู่วี่สิงได้ทัน หลังจากขึ้นรถ ใบหน้าตึงของมู่วี่สิง ก็อ่อนลง
“งานเลี้ยงของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปในวันพรุ่งนี้ คุณจะไปไหมคะ?”เวินจิ้งมองไปยังผู้ชายที่อยู่ข้างๆ เธอ
“อืม”มู่วี่สิงพยักหน้า และเลิกคิ้วขึ้นอย่างเหนื่อยหน่าย
เวินจิ้งขมวดคิ้วขึ้น แล้วยื่นมือออกไป ช่วยเขาบีบนวดให้ผ่อนคลาย
“คุณจะไปกับผมไหม หืม?”มู่วี่สิงมองมาที่เธอ อย่างต้องการคำตอบ
เวินจิ้งกัดริมฝีปาก และไม่ตอบคำถาม
งานเลี้ยงของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ยังไงก็ต้องเจอกับคุณปู่มู่ แต่ตอนนี้คุณปู่มู่ไม่ชอบเธอ เธอไม่ต้องการที่จะไปปรากฏตัวต่อหน้าเขา เพื่อให้ตัวเองขายหน้า
และเมื่อกี้นี้โจวหย่าน ก็ได้พูดแล้วว่า เธอจะไปร่วมงานด้วย
“ถ้าไม่ไปกับผม คุณปู่ต้องให้โจวหย่านเป็นคู่ควงในงานเลี้ยงแน่เลย”มู่วี่สิงพูดอย่างจงใจ
เมื่อได้ยิน ในดวงตาของเวินจิ้ง ก็แสดงความไม่พอใจออกมา แล้วก็รีบจับแขนของมู่วี่สิงทันที
เขาเป็นของเธอ
เธอแค่ไม่อยากให้โจวหย่านอยู่ใกล้เขา
ในดวงตาของมู่วี่สิง ระยิบระยับไปด้วยรอยยิ้ม จับไปที่ใบหน้าเล็กของเวินจิ้ง แล้วจูบที่หน้าผากเธอ
“ฉันแค่จะไปปรากฏตัวต่อสาธารณะ ฉันยังเป็นคนของตระกูลมู่ ซึ่งขาดไม่ได้”
บ่ายของวันรุ่งขึ้น เกาเชียนได้นำชุดเดรส ราคาแพงหลายชุดมาให้ เวินจิ้งถือชุดพวกนั้นเข้าไปในห้องลองเสื้อผ้า เพื่อที่จะลองใส่ หลังจากเลือกได้หนึ่งชุด เธอก็นำชุดที่เหลือ อีกสองชุดเพื่อส่งคืนกลับไป
แต่เกาเชียนได้ออกไปแล้ว มู่วี่สิงก็เข้ามากอดเธอ “ชุดเดรสพวกนี้ เอาไว้ที่นี่เถอะ ที่การ์เด้นมูเจียวาน มีชุดพวกนี้น้อยเกินไป”
“ฉันก็ไม่ค่อยได้ไปร่วมงานเลี้ยงบ่อยนะคะ”เวินจิ้งคิดว่ามันไม่ค่อยจำเป็น
ชุดเดรสหรูหราพวกนี้ แต่ละชุดราคาหลักหมื่นหลักแสน เธอคิดว่าถ้าได้ใส่มันแค่ครั้งเดียวล่ะก็ แค่เช่ามาใส่ก็เพียงพอแล้ว
อย่างไรก็ตาม มู่วี่สิงเขาเป็นคนใจกว้างมาเสมอ แถมยังขะมักเขม้น ช่วยเธอแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้าอีก
งานเลี้ยงฉลองครบรอบร้อยปีของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป จัดขึ้นในโรงแรมสไตล์รีสอร์ทแห่งหนึ่ง โรงแรมแห่งนี้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อไม่นานมา โรงแรมทั้งหรูหรา และงดงาม
เวินจิ้งก้าวลงมา บนรองเท้าส้นสูง และควงที่แขนมู่วี่สิง
เวินจิ้งไม่ใช่คนแปลกหน้า สำหรับแขกหลายๆ คน คนที่อยู่ข้างกายของมู่วี่สิง เป็นเธอมาตลอด
เมื่อเห็นพี่ชายมาร่วมงาน มู่ซือซือก็รีบผลักรถเข็นเข้าไปหาเขาทันที ส้งวี่คอยอยู่ข้างๆ เธอ
“ฉันคิดว่าพี่จะไม่มาร่วมงานแล้วซะอีก”มู่ซือซือขมวดคิ้วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
“อืม”ใบหน้าของมู่วี่สิงซีดเผือด
เพียงเวลามองไปที่เวินจิ้ง ก็มีอารมณ์บางอย่าง เกิดขึ้นในดวงตาเขา
“คุณปู่ยังไม่มา เมื่อกี้มีแค่ฉันคนเดียว ที่เป็นคนของตระกูลมู่ มีคนจำนวนไม่น้อย มาล้อมรอบถามฉัน เกี่ยวกับเรื่องเมื่อไม่นานมานี้ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป จนฉันหมดคำที่จะพูดแล้ว”มู่ซือซือพูดด้วยความรำคาญ
โชคดีที่ยังมีส้งวี่คอยอยู่ข้างๆ เธอ และเขาก็ช่วยสกัดกั้น พวกคนที่ชอบนินทาพวกนั้นให้ด้วย
“ทำงานหนักเลยสิ น้องสาวของพี่”ใบหน้าของมู่วี่สิงดูอ่อนโยนขึ้น
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับแขกที่มาร่วมงาน ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา และเคร่งขรึม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เขาไม่ตอบอะไรเลย
บรรดาแขกเหรื่อ ต่างอดไม่ได้ที่จะผิดหวัง เมื่อเร็วๆ นี้ ราคาหุ้นของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปได้ดิ่งตัวลง และหลายๆ โครงการก็ถูกระงับ ทุกคนต่างคาดเดากันว่า เกิดจากความไม่ลงรอยกันภายใน ระหว่างผู้บริหารรับสูงของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป และสถานการณ์ต่างๆ ก็เกิดขึ้นหลังจากที่มู่วี่สิง มารับช่วงต่อบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปได้ไม่นาน หากสถานการณ์เช่นนี้ยังคงดำเนินต่อไป บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปคงยากที่จะแบกรับไหว
คำพูดเหล่านี้ ค่อยๆ แพร่กระจายไปทั่วงานเลี้ยง เมื่อมู่วี่สิงได้ยินเข้า ก็ทำได้เพียงแต่ขมวดคิ้วขึ้น
เวินจิ้งมองไปที่ใบหน้าสงบนิ่งของชายของเธอ แต่ไม่สามารถคาดเดา ความคิดของเขาได้เลยจริงๆ
ในเวลานั้น ไม่ไกลนัก ก็มีร่างหนึ่งที่คุ้นเคยเดินเข้ามา คือโจวเซินที่อยู่ในชุดสูทสีกรมเข้ม
มือข้างหนึ่งใส่เข้าไปในกระเป๋ากางเกง มืออีกข้างถือแก้วไวน์ไว้ และกำลังเดินมาทางเวินจิ้ง
“เวินจิ้ง พวกเราเจอกันอีกแล้วนะ”โจวเซินยกแก้วไวน์ขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นว่า เขาต้องการที่จะชนแก้วกับเวินจิ้ง
แต่เวินจิ้งไม่สนใจเขา
“คุณโจว”พยักหน้าให้เขาอย่างสุภาพ แล้วหันไปคุยกับมู่วี่สิงต่อ ด้วยเสียงเบาๆ
สายตาของมู่วี่สิง ก็ไม่ได้มองไปทางโจวเซิน
โจวเซินที่จับแก้วไวน์ไว้ในมือ ค่อยๆ บีบแก้วในมือแน่นขึ้น
ในเวลานั้น ในที่สุดตัวเอกของงานเลี้ยงก็ได้เข้ามา
มู่เฉิงที่อายุมากแล้ว ถือไม้เท้า และเดินเข้ามาด้วยความช่วยเหลือของโจวหย่าน ออร่าของเขา ยังคงเปล่งประกายไปด้วย ความยิ่งใหญ่ และความน่าเกรงขาม
โจวหย่านที่อยู่ข้างๆ สวมด้วยชุดเดรสโปร่งสีขาวบริสุทธิ์ บนศีรษะประดับด้วยมงกุฎเพชรอันงดงาม การแต่งหน้าของเธอสวยงามอย่างน่าตกใจ และไร้ที่ติ
เธอเหมือนกับนางฟ้า ที่หลุดเข้ามายังโลก ทั้งอ่อนโยน และสวยงาม
สายตาของผู้ชายเกือบทั้งหมด อดไม่ได้ที่จะจับจ้อง มองไปยังร่างของโจวหย่าน
เมื่อได้มาร่วมงานเลี้ยงกับมู่เฉิง ตัวตนของโจวหย่านก็ถูกพูดถึงในทันที
แต่ตระกูลโจว ไม่ค่อยมีชื่อเสียงมากนัก จึงไม่ค่อยมีใครรู้จักโจวหย่าน
แต่ในคืนนี้ เธอทำให้คนทั้งเมืองต้องตกตะลึง
เวินจิ้งมองไปยัง ผู้หญิงที่อยู่ในชุดเดรสโปร่งสีขาว จากระยะไกล ถ้าค่ำคืนนี้ไม่ใช่งานเลี้ยงของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เธอคงจะคิดว่า นี่เป็นงานหมั้นของโจวหย่านเป็นแน่
“วันนี้ คุณผู้หญิงโจว สวยมากนะ”เวินจิ้งพูดเสียงเบา
มู่วี่สิงขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาของเขากวาดไปทั่วร่างของโจวหย่าน โดยไม่หยุด
“ไม่ว่าจะสวยขึ้นแค่ไหน ก็ไม่เคยเข้าตาผมอยู่ดี”น้ำเสียงของมู่วี่สิงลึกขึ้น
เวินจิ้งมองไปยังมู่วี่สิง เมื่อเขามองมาที่เธอ ความรักที่ลึกซึ้งของเขา ก็ไม่สามารถปกปิดได้
“ในสายตาของคุณมู่ มองได้แค่ฉันคนเดียว”เวินจิ้งพูดอย่างมีเลศนัย
“ถ้าอย่างงั้น มันก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณผู้หญิงเวิน ทำอะไรบ้าง”มู่วี่สิงเลิกคิ้วขึ้น บรรยากาศที่สวยงามแผ่กระจาย
ความใกล้ชิด และการเคลื่อนไหวของทั้งสองคนจากทางนี้ ถูกมู่เฉิงมองเห็นทั้งหมด สีหน้าของเขาเศร้าหมองลง เขาสั่งให้ผู้ช่วยโทรหามู่วี่สิง ให้มาตามลำพัง
“ฉันอยู่ที่นี่รอเธอ”
มู่วี่สิงไม่อาจยอมรับ จับไปที่มือเล็ก และพาเธอไปกับเขาด้วย
แต่ผู้ช่วย แสดงความลำบากใจ“คุณปู่มู่ได้พูดไว้แล้ว ว่าคุณมู่เท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ครับ”
“งั้นผมก็จะไม่เข้าไป ขวางหูขวางตาเขาแล้ว”เมื่อพูดจบ มู่วี่สิงก็หยุดการก้าวเดิน
“คุณชาย”
เวินจิ้ง ที่เห็นฉากที่อยู่ด้านหน้า ก็ค่อยๆ คลายมือที่จับออก“คุณเข้าไปก่อนเถอะ คืนวันนี้คุณก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย อย่าทะเลาะกับคุณปู่เลยค่ะ”
ตลอดเวลา เธอไม่ต้องเห็นมู่วี่สิง และมู่เฉิงต้องมีปัญหากัน