บทที่494 คุณตั้งใจ
เวินจิ้งลุกขึ้นยืน เดินผ่านโจวเซินแล้วพูดเบา ๆ “ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ”
“อืม” โจวเซินไม่มองเธอเลย เขาโฟกัสที่การตีกอล์ฟ
เวินจิ้งเดินเข้าไปในตึกใหญ่ด้านหน้า หลังจากออกมาจากห้องน้ำ ก็ไม่ได้กลับไปที่สนาม แต่เดินไปทางประตูอีกด้านหนึ่ง
แต่ว่า มีบอดี้การ์ดค่อยตามเธอตลอด
เห็นว่าแค่ก้าวไปก็พ้นประตูได้แล้ว บอดี้การ์ดทั้งสองก็รีบมาล็อคแขนเธอไว้
“คุณเวินครับ คุณโจวบอกให้คุณเชื่อฟังหน่อยครับ” การ์ดพูดแบบไม่ถ่อมตัวและจริงจังมาก
ฟังแบบนี้แล้ว เวินจิ้งก็กัดริมฝีปาก กำมือแน่นขึ้นมา
“ปล่อยฉัน ฉันเดินเองได้!” เวินจิ้งพูดด้วยความโกรธ
บอดี้การ์ดทั้งสองจ้องตากัน แล้วค่อย ๆ ปล่อยมือ
เวินจิ้งรู้สึกหงุดหงิด ไม่คิดว่าโจวเซินจะให้คนตามเธอตลอดแบบนี้
กลับมาที่สนาม ไม่ไกลนักก็มีสายตาที่เย็นชาของโจวเซินมองมาที่เธอ เหมือนว่าริมฝีปากจะมีรอยยิ้มเล็ก ๆ
เมื่อเวินจิ้งกลับมา เขาก็ถาม “ตีเป็นมั้ย?”
“ไม่เป็น” เวินจิ้งพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
โจวเซินไม่สนใจอารมณ์ที่ขุ่นมัวของเธอ พูดขึ้นว่า “ผมสอนคุณ”
เวินจิ้งยังไม่ทันดึงสติกลับมา ไม้กอล์ฟก็ยื่นมาตรงหน้าเธอแล้ว
“ตอนจับไม้มืออย่ากำแน่นเกินไป ไม่งั้นจะส่งผลตอนออกแรงตี” ไม่คิดว่าโจวเซินจะตั้งใจสอนจริง ๆ
เวินจิ้งถูกเขากอดไว้ ร่างกายแข็งทื่อเล็กน้อย มือก็ไม่ขยับเลย
รู้สึกได้ว่าเธออึดอัด โจวเซินก็ถอยหลังเล็กน้อย ตอนพูดไม่รู้ว่าเขาตั้งใจหรือเปล่า ริมฝีปากค่อย ๆ ถูกับใบหูของเธอ
“แกว่งไม้สิ” โจวเซินพูดเตือนเธอ
เวินจิ้งขมวดคิ้ว ตัวเองไม่ได้สนใจเรื่องแบบนี้เลย และเมื่อกี้ก็ไม่ได้ฟังที่โจวเซินพูดเลย
ตอนแกว่งไม้ไป เธอเหลือบมองชายที่ยืนข้างหลัง ร่างกายที่เรียวบาง แต่ข้อศอกของเธอกระแทกไปโดนหน้าอกของเขาอย่างตั้งใจ แรงไม่เบาเลย
วินาทีต่อมา เวินจิ้งก็ตีลูกกอล์ฟออกไป แล้วยื่นไม้กอล์ฟคืนให้แคดดี้ที่ยืนข้าง ๆ
ไม่คิดว่า จะเข้าหลุมแล้ว
สีหน้าของโจวเซินที่ดูเคร่งขรึม แต่เวลานี้ เขาก็ตบมือให้เธอ
“ดูเหมือนว่าผมสอนได้ดีเลยนะ”
เวินจิ้งไม่สนใจเขา ยังคงคิดว่าจะมีโอกาสหนีได้อีกเมื่อไหร่
ชายหญิงสองคนที่มาเมื่อกี้ไม่อยู่แล้ว ทั้งสนามมีแค่เธอและโจวเซินกับพนักงานอีกไม่กี่คน
โจวเซินคงไม่ได้พาเธอมาตีกอล์ฟอย่างเดียวมั้ง?
“เหนื่อยมั้ย?” โจวเซินถาม
“ไม่เหนื่อย”
“แต่ก็ต้องกลับไปแล้ว”
“อืม” เวินจิ้งตอบเหมือนท่อนไม้
ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเนื้อที่วางอยู่บนเขียง รอเวลาให้ โจวเซินจัดการ
และเวลานี้ มู่วี่สิงก็หาพิกัดความเคลื่อนไหวของโจวเซินจนเจอ แต่เมื่อรีบไป ก็ไม่มีคนอยู่ในสนามแล้ว
ในห้องชั้นบนสุด เวินจิ้งเห็นมู่วี่สิงอยู่ที่สนามกอล์ฟ แต่เธอรู้ ว่าเธอสามารถมองเห็นเขา แต่ว่า เขามองไม่เห็นเธอ
“โจวเซิน คุณตั้งใจ” เวินจิ้งพูดอย่างหนักแน่น
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าถือไวน์แดง ดวงตาสีดำเข้มมีความเยาะเย้ย “ใช่หรอ?”
“คุณต้องการอะไรกันแน่!” เวินจิ้งเริ่มโมโหแล้ว
เขากำลังทรมานเธอ หรือว่า ทรมานมู่วี่สิง?
โจวเซินหลับตาลง “ผมอยากจะแย่งคุณมา”
เวินจิ้งอึ้งไปเลย สีหน้าก็ซีดขาวมาก
เธอไม่เห็นความรู้สึกใด ๆ จากดวงตาของโจวเซิน แววตาของเขามีแค่ความเกลียดชัง
เขาเกลียด……มู่วี่สิงหรอ?
“ทำไม”
“คุณรู้แค่ว่า ตอนนี้ผมไม่ทำร้ายคุณก็พอ”
พูดจบ เขาก็ออกคำสั่ง “กลับไปกับผม ตอนนี้”
เวินจิ้งเหมือนโดนสะกดให้หยุดเดิน สายตายังคงจ้องมองไปที่ผู้ชายที่อยู่นอกหน้าต่าง มู่วี่สิงยังคงใส่เสื้อขาวกางเกงดำเหมือนเดิม มองไปรอบ ๆ สนามกอล์ฟ เธอสามารถรับรู้ถึงความกังวลของเขาได้
เหมือนว่าเธอกำลังบอกเขา ฉันอยู่นี่ไง
แต่เขาก็ไม่ได้ยิน
ตาร้อนผ่าวเพราะน้ำตาคลอเบ้า มือกดแนบไปที่กระจก เวินจิ้งภาวนาให้มู่วี่สิงเงยหน้าขึ้นมา
ระหว่างนั้น น้ำตาก็ไหลรินหยดลงมาที่มือ ในที่สุด มู่วี่สิงก็มองมาทางนี้แล้ว
แต่ว่า เขามองไม่เห็นอะไรเลย
เธอเห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาภายใต้แสงอาทิตย์ หัวใจก็เต้นเร็วขึ้น อยากจะทุบกระจกแล้วโดดลงไปตอนนี้เลย
และเธอก็ตัดสินใจทำเช่นนั้นแล้ว
มือทุบไปอย่างแรง โจวเซินก็รีบมาจับข้อมือเธอไว้แน่น
“เฮ้ ผมประเมินคุณต่ำไปจริง ๆ” คำพูดที่กำลังโมโห เขาไม่พูดอะไรก็ลากตัวเธอออกไป
สายตาที่มองเห็นมู่วี่สิงที่ยิ่งอยู่ยิ่งเล็ก สุดท้ายเขาก็หายไปจากสายตาเธอ
ณ เวลานี้ ที่สนามกอล์ฟ
สายตาขอมู่วี่สิงยังคงจ้องมองที่กระจกมืดดำนี้ แล้วรีบร้อนขึ้นมา เห็นเพียงแก้วไวน์สองแก้วที่วางอยู่ แก้วหนึ่งมีไวน์แดงที่เพิ่งเทออกมา ส่วนอีกแก้วว่างเปล่า
จับแก้วไวน์แดงขึ้นมา อุณหภูมิยังคงอยู่
สายตาเขาดูเคร่งขรึมมาก แล้วสั่งเกาเชียนที่อยู่ด้านหลัง “ยังไปได้ไม่ไกล ดูกล้องวงจรปิดแล้วรีบตามไป”
“ครับ”
……
ขึ้นรถ ในหัวของเวินจิ้งยังเห็นภาพของมู่วี่สิง
ทำให้เธอเป็นกังวล
สีหน้าโจวเซินน่ากลัวจนทำให้คนตกใจ ทั้งสองคนไม่พูดอะไรเลย บรรยากาศในรถก็เย็นมาก
ทันใดนั้น รถก็เร่งเครื่องเร็วขึ้น ร่างกายของเวินจิ้งก็กระแทกไปข้างหน้า โจวเซินรีบคว้าเธอไว้
มือจับไปที่เอวของเวินจิ้ง ถูกเธอผลักออกอย่างไร้เยื่อใย
แต่รถก็ยังไม่ได้ลดความเร็ว แต่กลับเพิ่มความเร็วขึ้น เสียงของคนขับรถดังขึ้น “คุณโจว มีรถตามมาด้านหลังตลอดทางเลยครับ”
โจวเซินมองไปที่กระจกหลัง เขากัดริมฝีปากไว้แน่น
หลังจากนั้น ก็ยกมุมปากขึ้นแล้วก็หัวเราะออกมา
รถแล่นขึ้นไปบนทางด่วน รถค่อนข้างติด จึงต้องลดความเร็วของรถ แล้วก็จอดนิ่ง
และเวลานี้ รถสีดำข้างหลังก็แซงขึ้นมาแล้ว มีทางโค้งอยู่ตรงทางด่วน คนขับรถจึงต้องเบรกรถอย่างกะทันหัน
เวินจิ้งเงยหน้ามอง เธอเห็น มีคนร่างสูงลงมาจากรถคันข้างหน้า ยังคงเป็นเสื้อขาวกางเกงดำ ดูสง่ามาก
โจวเซินพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ไอ้บ้า”
รถทั้งสองคันห่างกันแค่หนึ่งเซนติเมตร หากรถของมู่วี่สิงขับเลยไปอีกนิดหน่อย รถทั้งสองคันก็คงชนกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
และรถบนทางด่วนก็แน่นมากอยู่แล้ว ในตอนนี้ รถคันข้างหลังก็ไม่สามารถวิ่งต่อได้
เวินจิ้งเห็นมู่วี่สิงเดินเข้ามาใกล้ มือจับไปที่ประตู ออกแรงที่จะเปิดประตูลงไป
แต่ว่า ประตูรถถูกล็อคอยู่
เวินจิ้งหันไปจ้องโจวเซิน สายตาของเขามองไปที่มู่วี่สิงที่อยู่ไม่ไกลมาก ยกมุมปากขึ้นอย่างเย็นชา
“อยากลงไป?”
“ใช่”
“ถ้าผมไม่ยอมให้คุณลงไปล่ะ” โจวเซินสั่งคนขับรถ “กลับรถ”
คนขับรถไม่กล้าขัดคำสั่งของโจวเซิน แต่เมื่อรถถอยหลังไปนิดนึง รถคันข้างหลังก็ขับเดินหน้ามาแล้ว เห็นได้ชัดว่าคนของมู่วี่สิงได้ขวางไว้แล้ว
“โจวเซิน ปล่อยฉันลงไป ไม่งั้นก็รอให้ตำรวจมา ฉันจะฟ้องมาคุณลักพาตัว!” เวินจิ้งจ้องเขาด้วยความโกรธ
โจวเซินหัวเราะเบา ๆ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง “ฟ้องผม?ผมจะค่อยดู ว่าคุณจะฟ้องผมได้มั้ย”