บทที่ 468 อยากได้รับบาดเจ็บชัดๆ
“พี่ชาย ขาของฉัน … “เมื่อมองเห็นสีหน้าเครียดของพี่ชาย มู่ซือซือรู้สึกใจตื่นเต้นมาก
“ต้องมีโอกาสได้ลุกขึ้นยืนอีกแน่นอน เชื่อพี่นะ”
สีหน้าของมู่ซือซือซีดมาก ในช่วงนี้ขาของเธอค่อยๆมีความรู้สึกแล้ว และเธอก็พยายามทำการฟื้นฟูมาตลอด
แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่มีความรู้สึกอีกแล้ว
ออกจากห้องรักษา เกาเชียนก็รออยู่ข้างนอกแล้ว
เมื่อเห็นเจ้านาย เขาก็เดินเข้าหน้าไปและรายงานทันที”คุณมู่ครับ คุณส้งเข้าไปในสถานีตำรวจเพราะเขาตบมู่เหิงครับ”
เมื่อได้ยินเรื่องนี้ มู่วี่สิงขมวดคิ้ว คงเพราะว่าส้งวี่โกรธที่มู่เหิงทำร้ายมู่ซือซือ จึงไปตบเขาแน่
“รีบไปเดี๋ยวนี้”
ตระกูลส้งไม่ได้อยู่ที่นี่ มู่ซือซือเข้ารักษาที่โรงพยาบาลอีก มีแต่เขาสามารถพาคนออกมาได้เท่านั้น
หลังจากส้งวี่ออกมา สองคนก็ไปโรงพยาบาลพร้อมกัน
“วี่สิง ต้องรบกวนคุณด้วย”ส้งวี่ขอบคุณ
“คน ตบได้ดีมาก”มู่วี่สิงเงยปากขึ้น
คนอย่างมู่เหิง อยากได้รับความบาดเจ็บชัดๆ
“เขากล้าทำร้ายซือซือ วี่สิง ฉันจะจัดการเขาเอง”เสียงของส้งวี่เย็นชามาก
มู่ซือซือเป็นคนรักของเขา ใครที่กล้าแตะต้องเธอ ก็เป็นศัตรูของเขาส้งวี่
“อื่ม ฉันก็จะไม่ปล่อยเขาเหมือนกัน แต่คนที่อยู่เบื้องหลังมู่เหิง คุณต้องระวังด้วยนะ”มู่วี่สิงเตือนเขา
จัดการมู่เหิงมันไม่ยาก แต่อำนาจที่อยู่เบื้องหลังเขาน่ากลัวมากว่า
มหาวิทยาลัยหลินไห่
เวินจิ้งเพิ่งกลับมาถึงหอพัก หลิงเหยาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าจะออกไปข้างนอกแล้ว
“ตึกขนาดนี้แล้ว คุณจะไปไหน”เวินจิ้งถามเธอ
“ซือซือเกิดเรื่องแล้ว อยู่โรงพยาบาล ฉันจะไปเยี่ยมเธอ”หลิงเหยาดูเป็นห่วง
“เกิดอะไรขึ้น”
“ฉันก็ไม่รู้ ได้ยินมาว่าเหมือนมู่เหิงผลักเธอ ขาเลยได้รับความบาดเจ็บ ถ้ามันส่งผลต่อการฟื้นตัวของซือซือฉันจะไม่ปล่อยเขาแน่”พูดเสร็จ หลิงเหยาก็รีบออกไปอย่างรวดเร็ว
มู่ซือซือเข้าโรงพยาบาล … งั้นมู่วี่สิงก็ควรอยู่ในโรงพยาบาลด้วย
เมื่อนึกถึงตรงนี้ เธอเลยโทรหามู่วี่สิง
“อะไรเหรอ จิ้งๆ”เสียงของผู้ชายผู้เต็มไปด้วยความเหนื่อย
“ซือซือเป็นยังไงบ้าง”
มู่วี่สิงปิดปาก ไม่พูดอะไรเลย
หัวใจของเวินจิ้งเต้นแรง เธอมีความรู้สึกที่ไม่ดี
“ฉันจะไปเยี่ยม”เวินจิ้งกล่าว
เธอเป็นห่วงซือซือ แล้วเป็นห่วงมู่วี่สิงยิ่งกว่า
“ไม่ต้องเลย จิ้งๆ คุณพักผ่อนในหอนะ ไม่ต้องมาหรอก”
“แต่ว่า……”
“ฟังฉันนะ จิ้งๆ ฝันดีนะ”
เวินจิ้งเงยปากขั้น ไม่ได้พูดอะไร
เมื่อ ตื่นขึ้นมาในวันถัดไป หลิงเหยาก็ไม่ได้อยู่ในหอ เธอต้องไปอยู่กับมู่ซือซือแล้วมั้ง
วันนี้เป็นวันพุธ วันเปิดรักษาของมู่วี่สิง เธอรีบไปโรงพยาบาลหลินไห่
จากระยะไกล รอบๆร่างยาวที่ใส่เสื้อคลุมสีขาวล้อมเต็มไปด้วยพยาบาล
เวินจิ้งไปที่ห้องรักษาเตรียมตัวโดยตรง สิบนาทีต่อมา มู่วี่สิงก็เดินเข้ามา
เวินจิ้งหันหน้ามา ไม่ได้สังเกตว่าเขากำลังเดินเข้าใกล้มา และล้มเข้าไปในอ้อมแขนของเขา
มู่วี่สิงกอดเธอไว้แน่นๆ
ใบหน้าของเวินจิ้งแดงไปเบาๆ รีบผลักเขาออกไปทันที
“ถึงเวลาทำงานแล้ว”
“อื่ม”มู่วี่สิงตอบเบาๆ แต่สายตายังมองเธอตลอด
ประตูเปิดไว้ เวินจิ้งไม่กล้าทำเรื่องสนิทกับมู่วี่สิง ถอยกลับไปอยู่ในระยะที่ปลอดภัยถึงเงยหน้าขึ้นมองเขา
สีเขียวใต้ตาของมู่วี่สิงมองเห็นได้ชัดมาก
เมื่อคืนเขาต้องไม่พักผ่อนแน่…
“มู่วี่สิง คุณทำให้ฉันต้องเป็นห่วงจริงๆ”เวินจิ้งพูดอย่างโกรธเบาๆ
ผู้ชายคนนี้คิดว่าร่างกายของเขาทำด้วยเหล็ก ไม่พักผ่อนแบบนี้ตลอด
“ร่างกายของฉันทำด้วยเหล็กหรือเปล่า คุณไม่รู้เหรอ”มู่วี่สิงม้วนปากบางของเขาขึ้น คิ้วมีเสน่ห์มาก
แก้มของเวินจิ้งยิ่งแดงไปอีก…
โชคดีที่ในเวลานี้ พยาบาลเข้ามาเพื่อเตือนเปิดรักษาได้แล้ว
จำนวนผู้ป่วยที่มาทุกสัปดาห์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เวินจิ้งนั่งอยู่ข้างๆมู่วี่สิง กังวลเสมอว่าเขาจะไม่ไหว
การรักษาก็จบในตอนเย็นสักที พยาบาลสั่งอาหารให้ทั้งสองคน แต่มู่วี่สิงไม่ได้กินและคิดจะออกไป
เวินจิ้งรู้ว่าเขาจะได้ดูมู่ซือซือ ถอดเสื้อคลุมสีขาวออก แล้วเดินไปที่ข้างๆเขา”เดี๋ยวคุณจะไปไหน ฉันก็ไปด้วย”
วันนี้เธอไม่มีอะไรต้องทำอยู่แล้ว
“โอเค”มู่วี่สิงยิ้ม
“แต่ตอนนี้ เราไปกินข้าวก่อน”
ดวงตาของมู่วี่สิงเต็มไปด้วยความรัก แต่เขาสู้เวินจิ้งไม่ได้ ก็เลยตามเธอไปที่ร้านอาหารที่สะอาดและเป็นระเบียบ
เมื่อรู้ว่ามู่วี่สองมีโรครักความสะอาดสูงมาก เวินจิ้งจึงทำความสะอาดของเครื่องใช้บนโต๊ะให้เขาก่อน
“อาหารที่นี่ทำเร็วมาก จะไม่เสียเวลาศาสตราจารย์มู่มากหรอก”
“เวลาที่อยู่กับคุณ จะเป็นการเสียเวลาได้ยังไงล่ะ”มู่วี่สิงยิ้มสดใสขึ้น
“ใครจะไปรู้ล่ะ ศาสตราจารย์มู่ยุ่งมาก”
“คำก็ศาสตราจารย์มู่ สองคำก็ศาสตราจารย์มู่ ตอนนี้ฉันไม่ได้สอนหนังสือให้คุณสักหน่อย”มู่วี่สิงทำเป็นโกรธ
“ใช่แล้ว โรงเรียนไม่ได้จัดตารางการสอนให้คุณเหรอ”เวินจิ้งถาม
“จัดแล้ว ไม่ได้ไปสอน”มู่วี่สิงพูดเบา ๆ
ตอนแรกไปสอนก็เพราะเวินจิ้ง แต่ตอนนี้เวินจิ้งส่วนใหญ่อยู่ในโรงพยาบาล เขาก็เลยไม่ไปสอน
“เอาแต่ใจอย่างนี้จะได้เหรอ”เวินจิ้งพูดเบาๆ
คนที่มีความสามารถมีทุนที่เอาแต่ใจได้จริงๆด้วย
“อื่ม เพื่อคุณ เอาแต่ใจแบบนี้ได้”
ใบหน้าของเวินจิ้งเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอชอบฟังคำพูดของมู่วี่สิง
ทันใดนั้นก็นึกถึงคำพูดที่ส้งวี่บอกเธอในงานเลี้ยงวันเกินของคุณปู่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่มู่วี่สิงรับมือบริษัทมู่ซือกรุ๊ปเป็นเพราะเธอเอง.
เวินจิ้งเงยหน้าขึ้น มองผู้ชายที่หน้าตาหล่อที่อยู่ต่อหน้าเธออย่างประหม่า อยากพูดอะไรแต่ก็ไม่ได้พูด
“พูดเสร็จค่อยกิน หรือว่าจะกินเสร็จค่อยพูดล่ะ”สังเกตสีหน้าของเธอ มู่วี่สิงวางตะเกียบลง
เวินจิ้งยื่นลิ้นออกมาเบาๆ มีความขืนอาย
“ฉันได้ยินมาว่า คุณรับมือบริษัทมู่ซือกรุ๊ปเป็นเพราะฉัน”
เมื่อได้ยินที่เธอพูด มู่วี่สิงขมวดคิ้ว”ใช่ คุณเป็นเหตุผลส่วนหนึ่ง”
ไม่คิอเลยว่า ม่วี่สิงจะยอมรับ
เวินจิ้งรู้สึกประหลาดใจมาก เธอคิดว่าเขาจะต่อต้านกับเธอสักอีก
“ทำไมคุณถึงซื้อบริษัทการผลิตยาเทียนอีล่ะในตอนนั้นเหรอ”เวินจิ้งถามอย่างประหม่า
ดวงตาที่ลึกซึ้งของมู่วี่สิงแคบลงเล็กน้อย”เป็นเพราะคุณอยู่ที่บริษัทการผลิตยาเทียนอี ฉันไม่อยากให้คุณต้องตกงาน”
เวินจิ้ง…
เป็นเพราะอย่างนี้ มู่วี่สิงจึงเข้าไปรับมือบริษัทมู่ซือกรุ๊ป แบบนี้ถึงจะสามารถซื้อบริษัทการผลิตยาเทียนอีได้และทำให้เธอไม่ตกงาน…
เวินจิ้งอดไม่ได้ที่จะสำลัก มันซาบซึ้งเหลือเกิน…
แต่การสูญเสียนี้ใหญ่เหลือเกิน
“คุณกำลังโกหกฉันอยู่ใช่ไหม”เวินจิ้งยังไม่อยากจะเชื่อ
ในเวลานั้น มู่วี่สิงไม่ชอบเธอสักหน่อย ทำไมต้องทำแบบนี้ล่ะ
ในวินาทีต่อมา มู่วี่สิงก็นั่งลงไปที่ข้างเธอแล้ว แล้วจิกคางของเธอ ดวงตาที่อบอุ่นและมีน้ำตาของเธอต้องมองสายตาที่แผดเผาของเขา
“จิ้งๆ เรื่องมันผ่านไปแล้ว อย่าไปคิดอะไรมากเลยนะ”
“แต่ว่า ทั้งๆที่ในตอนนั้นคุณสามารถเป็นหมอได้ต่อไม่ใช่เหรอ”เวินจิ้งมองมู่วี่สิงอย่างอึ้ง
หากมู่วีสิงเปลี่ยนทิศทางอาชีพของเขาเป็นเพราะเธอ เธอจะรู้สึกผิดมาก
“ก็ไม่ใช่แบบนั้น ยังไงฉันก็ต้องรับมือบริษัทมู่ซือกรุ๊ปอยู่แล้ว แค่ทำเร็วขึ้นเฉยๆ”
“จริงเหรอ”เวินจิ้งยังไม่ค่อยเชื่ออยู่
มู่วี่สิงลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน บนคิ้วของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่สดใส”จริงๆ จิ้งๆ ฉันเป็นคนของตระกูลมู่ ฉันก็ไม่สามารถปัดความรับผิดชอบบางอย่างออกไปได้”
เวินจิ้งเงียบ แต่ก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่
“แต่คุณควรยอมรับว่า มันเป็นเพราะฉันถึงซื้อบริษัทการผลิตยาเทียนอี”
อย่างน้อยในเวลานั้น บริษัทการผลิตยาเทียนอีก็เป็นบริษัทที่มีแต่เรื่อง ไม่มีทุนใดยอมซื้อมัน
ก็มีแต่มู่วี่สิงเท่านั้นแหละ