บทที่ 466 เป็นห่วงกันทั้งสองฝ่าย
ไม่เคยใครกล้าที่จะไม่เชื่อฟังคำสั่งของมู่วี่สิงเลย แต่ยกเว้นเวินจิ้ง
เขายอมด้วย
เขาสั่งให้เกาเชียนเอาผ้าห่มบางๆมา แล้วกดเวินจิ้งลงบนโซฟา”คุณนอนที่นี่ ฉันไปนั่งเฝ้าคุณปู่”
“เราสลับกันไปเฝ้าคุณปู่นะ”เวินจิ้งคว้าแขนของเขา เธอไม่อยากให้มู่วี่สิงเฝ้าทั้งคืน
เป็นห่วงกันทั้งสองฝ่าย
“จิ้งๆ คุณอยู่เคียงข้างฉันก็เพียงพอแล้ว นอนเถอะนะ”พูดเสร็จ มู่วี่สิงก็ช่วยจัดผ้าห่มให้เธอ ไม่ให้เธอต่อต้านต่อไปอีก
เวินจิ้งจ้องมองที่มู่วี่สิงโดยไม่ขยับตาเลย ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็ตาม มู่วี่สิงก็สามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างแสนดี
มีความง่วงนอน เวินจิ้งง่วงตั้งนานแล้ว เปลือกตาของเธอหนักขึ้นเรื่อยๆ มู่วี่สิงก้มหัวลงแล้วจูบริมปากเหมือนเชอร์รี่ของเธอ จูบค่อนข้างนานถึงจะออกไป
หยิบกล่องบุหรี่ขึ้นมา เขาเดินออกไปที่ทางเดิน เพิ่งจะจุดไฟก็เห็นมู่เหิงเดินจากลิฟต์ที่อยู่ไม่ไกล
มู่วี่สิงสะบัดเขม่าและขนคิ้วอย่างเย็นชา
มู่หเหิงไม่ได้สนใจมู่วี่สิง ผลักประตูเข้าห้องผู้ป่วยของมู่เฉิงโดยตรง
แต่ถูกมู่วี่สิงใช้มือห้ามไว้
“มู่วี่สิง”มู่เหิงมองเขาอย่างโกรธ
น้ำเสียงของมู่วี่สิงเย็นชาที่สุด และเขาแค่พูดคำเดียวว่า”ออกไป”
“ฉันมาเยี่ยมคุณปู่ของฉัน”มู่เหิงผลักมือของมู่วี่สิงออกไป
แต่ผลักไม่ออก
กลับโดนมู่วี่สิงจับคอของเขาอย่างรุนแรงและโยนเขาไปกำแพง
มู่เหิงสู้มู่วี่สิงไม่ได้สักหน่อย ล้มลงกับพื้นทั้งตัว น่าอับอายมาก
“ฉันจะไปเยี่ยมคุณปู่ของฉัน มู่วี่สิง คุณมีสิทธิอะไรมาห้ามฉัน”มู่เหิงพูดอย่างโกรธมาก
มู่วี่สิงเหล่ตาของเขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเกียจชัง”คุณรู้ไหมว่าคุณปู่มีอาการหัวใจล้มเหลวแล้ว รับกระตุ้นไม่ได้ เมื่อกี้ตอนที่รักษาฉุกเฉิน เขาเกือบจะตื่นขึ้นมาไม่ได้”
ดวงตาของมู่วี่สิงแดงไปหมด และพยายามควบคุมอารมณ์ของเขาอยู่
มู่เหิงอึ้งไปตั้งนาน ตัวสั่นตลอด สุดท้ายเขาไม่สามารถยืนขึ้นได้เลยล้มลงอีกครั้ง
มู่วี่สิงเตะขาของเขา”มู่เหิว ใส่หัวออกไป คุณไม่มีหน้าที่จะเจอคุณปู่”
พูดเสร็จ รูปร่างอันยาวของเขาก็เดินเข้ามาในห้องผู้ป่วย
มู่เหิงค่อยๆยืนขึ้นมา มีแต่มองคุณปู่ที่หมดสติไปผ่านหน้าต่าง จับนิ้วของเขาทุกนิ้วอย่างแน่น
“คุณปู่ ……”
ในห้องผู้ป่วย ไม่ใช่แค่เวินจิ้งตื่นอยู่คนเดียว มู่เฉิงก็ตื่นขึ้นมาแล้วด้วย
ความกระทำระหว่างมู่วี่สิงกับมู่เหิงในเมื่อกี้นี้ไม่ได้เบามาก
“วี่สิง”เสียงแก่ๆของมู่เฉิงดังขึ้นมา เวินจิ้นรีบวิ่งไปช่วยจับคุณปู่ลุกขึ้น
อาการง่วงนอนหายไปตั้งนานแล้ว
มู่วี่สิงยังมีออร่าที่น่ากลัวอยู่ทั่วตัวเขา ดวงตาของเขาเย็นชามาก และเขาก็ค่อยๆเก็บมันไว้
“คุณปู่คุณรู้สึกยังไงบ้าง”
เมื่อเขาพูด เสียงของมู่วี่สิงค่อยอ่อนโยน
“ตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้ว คุณปู่แก่แล้ว สุขภาพร่างกายไม่ได้แข็งแรงมากแล้ว”มู่เฉิงถอนหายใจ
เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกแล้ว เขาก็รู้ว่า เวลาของเขาคงเหลือไม่เยอะแล้ว
“คุณปู่คะ เวลาของคุณยังเหลืออีกเยอะเลยค่ะ”เวินจิ้งสปลอบใจ
ม่เฉิงส่ายหัว “คุณปู่แก่แล้ว พวกคุณกลับไปเถอะ ไม่ต้องอยู่เฝ้าปู่หรอกนะ”
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว เขาไม่ได้ไปอยู่แล้ว “คุณปู่ ฉันจะไปหาซื้ออะไรให้กินนะ”
คุณปู่ต้อนรับแขกอยู่ตลอดงาน ไม่ค่อยได้กินอะไรเลย มู่วี่สิงเห็นอยู่ตลอด
“อื่ม เวินจิ้ง หนูก็กลับไปเถอะ ตอนนี้ปู่ดีขึ้นเยอะแล้ว ไม่ต้องรบกวนพวกคุณหรอก”มู่เฉิงเขย่ามือตลอด
เวินจิ้ยิ่งงเป็นห่วงมากขึ้น เมื่อเห็นมู่วี่สิงออกไป มู่เฉิงก็ไล่เธอออกไปเหมือนกัน
มู่เหิงยังไม่ได้ไป ซึ่งมู้วี่สิงสั่งให้ รปภลากเขาออกไปเลย
ในช่วงกลางดึก ร้านอาหารที่อยู่ข้างถนนว่วยใหญ่ก็ปิดแล้ว
มู่วี่สิงหยุดอยู่หน้าร้านโจ๊ก
ร้านค้ากำลังจะปิด แต่เมื่อเห็นมู่วี่สิงก็รีบออกมาต้อนรับทันที
“ต้องการซื้ออะไรเหรอคะ นี่คือเมนูค่ะ”
เวินจิ้งรับไป มู่วี่สิงไม่ได้พูดอะไรเลย เวินจิ้งสั่งโจ๊กเปล่าโดยตรง เมื่อนึกขึ้นว่ามู่วี่สิงก็ไม่ได้กินอะไรเหมือนกัน ก็เลยสั่งโจ๊กเนื้อชุดหนึ่งด้วย
มู่วี่สิงไม่ได้พูดอะไรตลอดทาง ใส่มือของเขาในกระเป๋ากางเกงการ สีหน้าเย็นชามาก
สภาพแบบนี้ของเขา มีความรู้สึกที่น่ากลัวอยู่รอบตัวเขา
เวินจิ้งจับมือเย็นของเขาไว้ เดินเข้าใกล้เขาและกอดเขาไว้
แต่ตัวของมู่วี่สิงเย็นไปหมด เวินจิ้งรู้สึกท้อแท้เบาๆ
“มู่วี่สิง คุณพูดอะไรบ้างสิ”เวินจิ้งเป็นห่วงจริงๆ
ผ่านไปสักพัก มู่วี่สิงถึงหันหัวมากและลูกผมของเวินจิ้งอย่างเต็มไปด้วยความรักอย่างที่เคยทำ”ทำให้คุณต้องเป็นห่วงด้วย”
“รู้ก็ดี”เวินจิ้งบ่นว่า
“สถานการณ์ของคุณปู่เป็นยังไงบ้าง”เมื่อกี้มู่ซือซืออยู่ เธอเลยไม่ได้ถาม
สีหน้าขอมู่วี่สิงแย่ขนาดนี้ เธอเดาว่าต้องมีอะไรแน่ๆ
“หัวใจล้มเหลว ตามสภาพร่างกายของคุณปู่ ไม่สามารถผ่าตัดได้ ถ้าใช้ยารักษา ก็มีความเสี่ยงเหมือนกัน”
เวินจิ้งฟังอย่างเงียบๆ แค่รู้สึกว่าออร่าของมู่วี่สิงเย็นลงเรื่อยๆ
“ไม่รู้ว่าเวลาไหน คุณปู่อาจจะจากเราไปก็ได้”
มู่วี่สิงพูดอย่างเครียด
ความตายมันคาดเดาไม่ได้
แต่ความอันตรายนี้เกิดขึ้นได้กับมู่เฉิงสูงมาก
เวินจิ้งตัวสั่นไปเบา ในงานเลี้ยงของวันนี้เธอเห็นว่าคุณปู่แข็งแรงดีเลย แม้ว่าเขาจะอายุเจ็ดสิบกว่าแล้ว แต่คุณปู่ให้ความสนใจในการออกกำลังกายและรักษาสุขภาพอย่างดี ร่างกายของเขาแข็งแรงมาตลอด
เป็นเพียงว่าหลายปีที่ผ่านมาป่วยหลานครั้ง การทำงานของร่างกายก็ค่อยๆลดลง
“มู่วี่สิง”
“กลับไปเถอะ”มู่วี่สิงรับกล่องอาหารแล้วเดินไปที่ข้างหน้า
เวินจิ้งมองหลังของเขาอย่างเหงา อารมณ์ของเธอก็หนักขึ้นเหมือนกัน
เมื่อกลับถึงห้องผู้ป่วย มู่วี่สิงไม่ได้กินอะไรเลย มองคุณปู่กินโจ๊กให้หมดแล้ว คุณปู่ก็เริ่มไล่พวกเขากลับไปอีกครั้ง
ไม่อยากกระตุ้นมู่เฉิง มู่วี่สิงและเวินจิ้งออกจากห้องผู้ป่วย มู่วีสิงส่งเวินจิ้งกลับไปที่โรงเรียนก่อน
“งั้นพรุ่งนี้ฉันจะไปโรงพยาบาล”เวินจิงบอกว่า
“พรุ่งนี้คุณมีรียน อยู่โรงเรียนดีๆนะ”
เวินจิ้งขมวดคิ้ว ค่อนข้างไม่พอใจ
ในเวลานี้ เธออยากอยู่กับมู่วี่สิง
แต่ว่าบบใบหน้าของมู่วี่สิงเต็มไปด้วยความไม่ให้ต่อต้าน
อย่างไรก็ตาม พรุ่งนี้พอเลิกเรียนเธอก็จะรีบไป เวินจิ้งแอบคิดแบบนี้
ในวันถัดไป มู่เฉิงไม่มีอะไรก็ออกจากโรงพยาบาลแต่ช้า
มู่วี่สิงพาเขากลับไปที่บ้านหลังเก่าของตระกูลมู่
มู่ซือซือกำลังจะไปเยี่ยมคุณปู่ ก็เห็นว่าคุณปู่กลับมาแล้ว
“คุณปู่”มู่ซือซือผลักรถเข็นของเธอเข้าไปด้วยความตื่นเต้นมาก
มู่เฉิงยืนพิงไม้อยู่ สีหน้าของเขาดีขึ้นเยอะ แต่ใบหน้าของเขาก็ยังซีดเบาๆ
“หลานสาวของปู่ ตื่นเช้าขนาดนี้เหรอ”มู่เฉิงยิ้ม
“กำลังจะไปเยี่ยมคุณปู่เลย แต่ไม่คิดว่าจะได้ออกจากโรงพยาบาลเร็วขนาดนี้”
“ปู่ไม่ได้เป็นอะไร สุขภาพแข็งแรงดี ไม่ต้องนอนที่โรงพยาบาลหรอก”
มู่วี่สิงช่วยจับคุณปู่ไว้ แต่ไม่ได้พูดอะไรเลย
มู่ซือซือไปคุยกับคุณปู่สักพัก เมื่อลงมาที่ห้องนั่งเล่น เธอก็เห็นพี่ชายสูบบุหรี่อีกแล้ว
เมื่อก่อนเขาไม่ได้สูบบุหรี่เยอะมากนะ ช่วงนี้เขาเริ่มสูบมากขึ้นเรื่อย ๆ
“พี่ชาย คุณปู่ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม”มู่ซือซือถาม
“อื่ม ระวังอย่าทำให้คุณปู่ได้รับกระตุ้นนะ”
“ฉันไม่ได้อยู่แล้ว ฉันเป็นเด็กดีมาก แต่กลับว่ามู่เหิงจะกลับมาทำให้คุณปู่โกรธอีก”มู่ซือซือกลัวแล้ว
เมื่อคุณปู่เจอมู่เหิง คุณปู่โกรธมากจริงๆ
โดยเฉพาะดูเหมือนว่าตอนนี้การงานของมู่เหิงไปได้ด้วยดี
มู่วี่สิงขมวดคิ้วแล้วก็สูบบุหรี่อย่างแรง
“ฉันจะส่งคนติดตามมู่เหิง”