บทที่ 450 แอบอยู่ด้วยกัน
เข้าใจความหมายในคำพูดของมู่วี่สิง เวินจิ้งกัดฟันอย่างไม่พอใจ
เธอเล็กตรงไหน ….
ยกหน้าอกขึ้น แล้วมองชายตัวสูงใหญ่ “ มู่วี่สิง ดูดีดี เล็กหรือไม่เล็ก …..”
“จิ้งจิ้ง เธอมันร้ายจริงๆ “
มองเธอที่ตั้งใจยื่นหน้าอกขึ้น มันยั่วคนนัก ชายอุ้มเวินจิ้งขึ้นมาด้วยมือเดียว จุดหมาย….. ไปทางห้องนอน !
รับรู้ได้ถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้น เวินจิ้งก็ขาอ่อนทันที
ครั้งสุดท้ายที่พึ่งจบลง พึ่งจะผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง มู่วี่สิงโหดมากจริงๆ !
……
อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา มู่เฟิงอยู่ในศาลเพราะข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับบริษัทฉีซื่อกรุ๊ป เพื่อเปิดเผยข้อมูลของมู่ซื่อกรุ๊ป
ช่วงนี้มู่เหิงมาบ้านเก่าตลอด พอเห็นคุณปู่ก็มาขออภัยให้กับมู่เฟิง
แม้แต่เย่ชิ่นก็วิ่งมาอย่างร้องห่มร้องไห้
เธอพึ่งแต่งงานกับมู่เฟิงไม่นาน ถ้ามู่เฟิงเข้าไปแล้ว เธอคนเดียวจะทำยังไง
มู่เฉิงโดนทั้งสองรบกวนสลับไปมา อารมณ์แย่นัก
ในความช่วยไม่ได้แล้ว มู่เหิงนัดโจวเซินมา
เขาไม่รู้อำนาจของโจวเซิน แต่คนรอบข้างที่ขอขอความกรุณาได้ เขาก็หาหมดแล้ว
หลายปีมานี้ แม้พฤติกรรมของมู่เหิงจะไม่ดี แต่กลับเข้าข้างมู่เหิงมากกว่าตลอด มากกว่านั้นคือให้หุ้นส่วนบางส่วนของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ให้กับมู่เหิง
ลับหลังเขาแอบทำอะไรบ้าง มู่เฟิงก็ลืมตาข้างหลับตาข้าง ทั้งสองอยู่เรือลำเดียวกันนานแล้ว
คลับหาวถิง ที่นี่เป็นอุตสาหกรรมส่วนหนึ่งของตระกูลโจว
ในทางฝั่งตะวันตกของเมืองหนานเฉิง จะต้อนรับแค่แขกพิเศษที่สนิทกับตระกูลโจว
“คุณโจว” มู่เหิงทักทายอย่างมีมารยาท
โจวเซินเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ลงทุนให้กับบริษัทผลิตยายูเหิง มู่เหิงเคารพในตัวเขาอย่างมาก
ทั้งที่ทั้งสองคนอายุเท่ากัน แต่แค่ในกลิ่นอายตำแหน่งโจวเซินกลับทำให้มู่เหิงดูด้อยลงอย่างชัดเจน
อยู่ต่อหน้าโจวเซิน มู่เหิงดูเหมือนคนตามมากกว่า
มู่เหิงหยิบกล่องบุหรี่ออกมา ยื่นให้อย่างเกรงใจ
โจวเซินกลับไม่ได้รับมา ขายาวทับกัน และมีความเย็นชามืดมน เต็มไปด้วยออร่าเย็นชา
“มีเรื่องอะไร “
มู่เหิงยื่นมือกลับมาอย่างอึดอัด เปลี่ยนเป็นการเสิร์ฟเหล้าให้โจวเซินแทน
“พ่อฉันอยู่สถานีตำรวจ เขาไปรับหน้าที่แทนฉัน คุณโจว ช่วยพ่อฉันออกมาได้ไหม ? “
ได้ยินแบบนี้ โจวเซินขมวดคิ้ว เม้มปากดื่มเหล้า สายตาคมชัดมองไปทางมู่เหิง
สายตานั้นทำเอาเขาไม่สบายไปทั้งตัว
“ฉันลงทุนให้กับบริษัทผลิตยายูเหิง เพราะฉะนั้น คุณก็คิดว่า แม้แต่เรื่องส่วนตัวฉันก็จะช่วยคุณงั้นหรอ ? “ โจวเซินพูดอย่างเฉยชา
มู่เหิงเม้มปาก ไม่พูดสักพัก
เขาไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับโจวเซินมาก ความรู้สึกที่เขาให้เขา ก็เป็นความลึกลับตลอด
“คุณโจว ฉันจะทำให้คุณได้กำไรไม่ขาดทุนจากบริษัทผลิตยายูเหิง ถ้าท่านช่วยฉัน เมตตาครั้งนี้ฉันจะจำไว้แน่นอน “ มู่เหิงพูดอย่างระมัดระวัง
โจวเซินจับแก้วเหล้าไว้
เขาพูดอย่างเย็นชา “ มู่เฟิงเข้าไปแล้ว เป็นเรื่องของข้างบนแล้ว ตำแหน่งฉันยื่นไม่เข้าไป อีกอย่างถ้าเขาหมดข้อหาแล้ว คนที่เข้าไปก็เป็นคุณแล้ว “
ได้ยินแบบนี้ สีหน้ามู่เหิงขาวซีดทันที
โจวเซินไม่ได้อยู่ต่อ มู่เหิงในสายตาเขา เป็นแค่ตัวช่วยเล็กๆเท่านั้น
คำพูดของโจวเซินจบลง ในความเห็นแก่ตัวของมู่เหิง ก็ไม่มีทางหาวิธีช่วยพ่อออกมา
หลังจากหนึ่งอาทิตย์ ข้อหากรณีเริ่มขึ้นแล้ว ตระกูลมู่ไม่มีใครออกงาน เขาถูกตัดสินจำคุก 20 ปี รถของมู่เหิงจอดอยู่นอกศาล ครึ่งชีวิตของมู่เฟิง คงจะต้องติดคุกตลอดชีวิต
พึ่งจะเริ่มออกรถ ร่างของเย่ชิ่นก็วิ่งเข้ามา บังมู่เหิงไว้
เขารีบจอดรถ สีหน้าตึงเครียดอย่างมาก
ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้ว !
ผลักประตูออกลงรถ เย่ชิ่นมองมู่เหิง เธอพึ่งจะอายุยี่สิบต้น เป็นอายุที่พอดีที่สุด แต่กลับต้องเป็นแม่หม้ายแล้ว
การตัดสินจำคุกเมื่อกี้ เธอได้ยินอย่างชัดเจน
แต่มู่เฟิงบริสุทธิ์ใจ !
เขากำลังรับโทษแทนมู่เหิง !
เธอเคยเตือนมู่เฟิง แต่แค่ไม่ช่วยอะไร มู่เหิงเป็นลูกชายที่เขารักและตามใจสุด เขาจะไม่ให้เขามีเรื่องอะไร
อำนาจตำแหน่งของมู่เฟิงไม่มีแล้ว แต่มู่เหิงไม่ใช่
เขาจึงได้แค่ปกป้องเขาแบบนี้
“เขาเป็นพ่อคุณ คุณจะยอมให้เขาเข้าคุกแบบนี้หรอ ! “ เย่ชิ่นตะโกนออกมาสุดขีด
“ไม่อย่างงั้นหล่ะ พ่อฉันสมยอมเอง ฉันไม่ได้บังคับเขา “ สีหน้ามู่เหิงเฉยชา
“พ่อให้เงินกับเธอคงไม่น้อยหรอกมั้ง พอที่จะให้อนาคตเธอไม่ต้องลำบาก ทำให้พ่อฉันมีความสุข เธอก็ไม่สมยอมไม่ใช่หรอ ? “ มู่เหิงพูดเย้ยหยัน
เย่ชิ่นห่างกับมู่เหิงสาบสิบปีเต็มๆ เย่ชิ่นในสายตาทุกคน มองแล้วก็เหมือนเป็นแค่เงินของมู่เฟิง
เย่ชิ่นหัวเราะ “ ถ้าฉันบอกว่า ฉันจริงใจหล่ะ “
มู่เหิงยังคงพูดเยาะเย้ย “ พ่อฉันก็เข้าไปแล้ว ไม่ต้องมาพูดปลอมหน่อยเลย อีกอย่าง อย่ามาเป็นบ้าต่อหน้าฉัน คนบ้า “
พูดจบ มู่เหิงขึ้นรถ หมุนรถแล้วจากไปอย่างเร็ว
เย่ชิ่นนิ่งอยู่กับที่ น้ำตาไหลไปทั่วหน้า
……
ไม่นาน ก็เป็นเวลาเปิดเรียนแล้ว นอกจากก่อนหน้านี้ที่นอนโรงพยาบาล เวินจิ้งก็อยู่กับการเรียนตลอด ไป๋สือพอใจในตัวเธอมาก
ก่อนหน้านี้ หลิงเหยาได้กลับไปบ้านหลิงอีกแล้ว ครั้งนี้กลับมาแล้ว เธอดูมีความโล่งอก
เพราะยังไงตอนเธออยู่ในบ้านหลิง เธอเหมือนโดนควบคุมไว้ตลอด พี่ชายก็ไม่อยู่ ที่ผ่านมาคุณแม่ก็เข้มงวดกับเธอ วันหยุดได้นัดกิจกรรมทางสังคมที่มีชื่อเสียงให้เธอไว้มากมาย เธอกลับไม่ได้ชอบมาก
กลางคืนเวินจิ้งและหลินเหยาได้ทานอาหารญี่ปุ่นแถวโรงเรียน พูดถึงเรื่องที่ช่วงนี้หลิงอี้จะกลับไปรับหน้าที่อุตสาหกรรมของบ้านหลิงที่ประเทศ C ช่วงนี้ก็จะไม่อยู่หนานเฉิงแล้ว
หลิงเหยาผิดหวังมาก พี่ชายในสายตาเขา เป็นเหมือนต้นไม้ที่สูงใหญ่ คอยปกป้องเธอตลอด
“ครั้งนี้ เธอกับมู่วี่สิงได้อยู่ด้วยกันจริงแล้วหรอ ? “ พูดเรื่องของตัวเองจบ แล้วถามเวินจิ้ง
เวินจิ้งนิ่งไป ค่อยๆพยักหน้า
“เธอกับเจียงฉีหล่ะ ? “ เวินจิ้งถาม
“ก็แบบนั้น แอบอยู่ด้วยกัน “ หลินเหยาแก้มแดงเล็กน้อย
“ปิดเทอม กลับไปบ้านหลิง แม่ฉันก็นัดบอดให้ฉัน ฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้ว “ หลิงเหยาพูดระบาย
เจียงฉีไม่ใช่ตระกูลเศรษฐี ไม่มีทางอยู่ในสายตาคุณแม่แน่นอน
ในสายตาแม่หลิง จำเป็นที่จะต้องมีตำแหน่งที่พอสูง ถึงจะแต่งงานกับหลิงเหยาได้
“ยังไงเธอก็ยังเรียนไม่จบ ไม่ต้องรีบขนาดนี้ก็ได้ “ เวินจิ้งพูดปลอบใจ
หลิงเหยาอายุน้อยกว่าเธอหลายปี เรียนปริญญาตรีจบก็เลื่อนขึ้นมาโดยตรง
“ฉันก็คิดแบบนี้ ยังไงอนาคตฉันก็ไม่ไปคิด ตอนนี้อยู่กับเจียงฉี ฉันมีความสุขมาก แค่นั้นก็พอแล้ว “ หลิงเหยามองกว้างมาก
……
หลังจากเปิดเทอม เวลาของเวินจิ้งก็แทบจะอยู่แต่โรงพยาบาล นอกจากไป๋สือ เธอยังตามเรียนรู้กับอาจารย์ท่านอื่น ใช้เวลาได้คุ้มค่ามาก
ตารางสอนของมู่วี่สิงได้จบลงในเทอมหนึ่งแล้ว จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการกำหนด แต่เวินจิ้งก็ยังมาเป็นผู้ช่วยของเขาในวันพุธที่เป็นเวรตรวจของเขา แต่เวลาที่ได้เจอกันก็น้อยลงมาก
โจวหย่านโดนย้ายไปสาขาอื่นแล้ว แต่เวินจิ้งก็จะบังเอิญเจอเธอบางครั้ง แต่แค่นิสัยอารมณ์ของโจวหย่านก็ดูเหมือนจะดีขึ้นไม่น้อย
จบการตรวจ วันนี้เวินจิ้งไม่มีธุระอะไรแล้ว มู่วี่สิงก็พาเธอกลับไปที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอย่างเคยชิน