flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 366 คุณเองก็ต้องมีทักษะด้วย (6)

บทที่ 366 คุณเองก็ต้องมีทักษะด้วย (6)

“เสี่ยวจิ้ง ลำบากเธอแย่เลยนะ”

“แม่คะ แม่ไปพักผ่อนก่อนดีกว่านะ หนูเพิ่งจัดเวรพยาบาลเฝ้าไข้เรียบร้อยพอดี” เวินจิ้งลุกขึ้นยืน

หลินเวยส่ายหัวปฏิเสธ “แม่จะรอจนกว่าเด็กคนนั้นจะฟื้น ถึงจะวางใจได้ หนูรีบกลับไปพักผ่อนเถอะนะ”

เวินจิ้งพยักหน้า มู่วี่สิงยืนรอเธออยู่ที่ด้านนอกแล้ว

“ฉันกลับเองจะเป็นการดีที่สุด” เวินจิ้งขมวดคิ้ว

“ตอนนี้มันเที่ยงคืนแล้วนะ รถประจำทางเที่ยวสุดท้ายหมดไปแล้ว ถ้าเกิดเรียกรถแท็กซี่ คุณคิดว่าผมจะวางใจได้ไหม” สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชาเป็นอย่างมาก

“ขึ้นรถเสีย” เขาบีบแขนของเธอ และผลักเธอเข้าไปนั่งในที่นั่งผู้โดยสารข้างคนขับทันที โดยไม่รอให้เวินจิ้งคิดพิจารณาอะไรทั้งสิ้น

เมื่อมู่วี่สิงขึ้นรถแล้ว ก็รีบโน้มตัวเข้ามาใกล้เวินจิ้ง เพื่อช่วยคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธออย่างรวดเร็ว

นิ้วอันเรียวยาวของเขาลูบไล้ไปที่ผิวของหญิงสาว เวินจิ้งสะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อเงยหน้าขึ้น ริมฝีปากของเธอก็สัมผัสเข้ากับใบหน้าด้านข้างของมู่วี่สิงทันที

ความรู้สึกชาแผ่ซ่านล้อไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย เธอเกือบจะผงะถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว แต่ทว่ามือของชายหนุ่มกลับเร็วกว่าและช้อนด้านหลังศีรษะของเธอเอาไว้ ทั้งสองคนจูบซึ่งกันและกัน…….

กลิ่นอายที่แสนคุ้นเคยพัดคืนมาอีกครั้ง ทั่วทั้งร่างกายของเวินจิ้งตึงเครียดไปหมด แต่ทว่าทักษะของมู่วี่สิงช่างยอดเยี่ยมเสียเหลือเกิน สามารถทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายลงได้อย่างรวดเร็ว

เขาช่างเข้าใจเธอดีเสียเหลือเกิน และสามารถทำให้เธอเคลิบเคลิ้มได้อย่างง่ายดาย

เวินจิ้งมองดูใบหน้าอันหล่อเหลาที่กำลังแนบชิดอยู่ตรงหน้า ลมหายใจถูกปล้นชิงไปตามอำเภอใจ มู่วี่สิงยิ่งจูบยิ่งลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อย ๆ …….

เธอแทบจะต้านทานต่อไปไม่ไหวแล้ว รวบรวมความกล้าทำใจแข็ง และกัดเข้าไปอย่างเต็มแรง

ทั้งสองคนล้วนแต่ได้ลิ้มรสกลิ่นคาวของเลือด

มู่วี่สิงกลับไม่รู้สึกโกรธแต่อย่างใด เขาถอยออกมา แววตายังคงร้อนผ่าวเหมือนเช่นเดิม

เพียงแต่ว่า ลมหายใจกลับเปลี่ยนเป็นหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น

เวินจิ้งคุ้นเคยเขาที่เป็นเช่นนี้ดีเหลือเกิน มือของเธอรีบยันหน้าอกของเขาเอาไว้ในทันที

“คุณถอยไปนะ……” เห็นได้ชัดว่ามันเป็นประโยคด่าทอ แต่เมื่อมันออกมาจากปากของเวินจิ้งแล้ว มันกลับให้ความรู้สึกอ่อนโยนขึ้นมากทีเดียว

ริมฝีปากอันเรียวบางของมู่วี่สิงเผยให้เห็นรอยยิ้มขึ้น เขาค่อย ๆ ถอยไปอย่างช้า ๆ และช่วยเธอรัดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย

“รสชาติหวานละมุนมาก”

“คนขี้โกง!” เวินจิ้งเช็ดปากของเธอ

แม้แต่รสชาติของเลือด ก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายของมู่วี่สิง ที่ไม่อาจลบล้างออกไปได้

เมื่อกลับมาถึงยังโรงเรียน เวินจิ้งรีบลงจากรถในทันที โดยไม่ต้องการนั่งค้างอยู่ในรถต่ออีกสักวินาทีเดียว

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว เมื่อมองดูแผ่นหลังที่ราวกับจะเผ่นหนีของเธอเข้า สีหน้าของเขาก็ค่อย ๆ มืดหม่นมากขึ้น

ดูเหมือนว่า บรรยากาศโดยรอบยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของเวินจิ้ง และยังคงติดค้างอยู่เป็นเวลานาน

ติดใจจนถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว

เป็นเวลานานแสนนาน ก่อนที่เขาจะเดินทางออกไปจากมหาวิทยาลัยหลินไห่

เมื่อกลับมาถึงการ์เด้นมู่เจียวาน คนรับใช้ก็มาทำอาหารเย็นเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่มู่ซือซือไม่ได้กินเข้าไปเลยแม้แต่คำเดียว

“ไอ้สารเลวนั่นเป็นยังไงบ้าง” มู่ซือซือถาม

“อยู่ในอาการโคม่า”

เมื่อได้ยินดังนั้น มู่ซือซือจึงเย้ยหยันขึ้นมา “ฉันตีเขาไม่ตายเหรอเนี่ย!”

“ซือซือ เธอไม่จำเป็นต้องลดตัวไปทำร้ายคนแบบนั้น พี่บอกแล้วไง ว่าจะทำให้เขาได้รับผลกรรมอย่างสาสม” มู่วี่สิงกล่าวด้วยเสียงเข้ม

เขาเดินมาหา และกอดมู่ซือซือเอาไว้ในอ้อมแขน

ความเจ็บปวดของเธอ เขาสามารถรับรู้ได้ทั้งหมด

เพียงแต่ว่า ถ้าหากฉีเซินเกิดเรื่องขึ้นจริง ๆ มู่ซือซือเองก็ไม่สามารถหนีจากความรับผิดชอบนี้ไปได้

“ฉันรู้ดี แต่ว่าวันนี้ฉันหุนหันพลันแล่นจริง ๆ …….ทำไมเขาถึงยังอยู่ที่นี่ได้กัน!” มู่ซือซือกล่าวด้วยความโกรธ

“อืม ก่อนหน้านี้ เขาเตรียมตัวที่จะแต่งงาน จึงซื้อบ้านแล้วอาศัยอยู่ที่นี่”

ถึงแม้ว่าการ์เด้นมู่เจียวานจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป แต่ทว่าในตอนนั้น มู่วี่สิงเองก็ไม่รู้ว่าใครเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์หลังนี้ไปบ้าง

ต่อมา เมื่อเห็นเขากับฉินเฟยเข้ามาพักอาศัยอยู่ด้วยกัน ถึงจะได้รู้ความจริง

“นึกไม่ถึงว่ายังมีผู้หญิงที่กล้าพอจะแต่งงานกับเขาด้วย อีกอย่าง ข่าวอื้อฉาวของเขาพวกนั้นก็ไม่มีใครรู้ด้วย”

“ซือซือ ฉีเซินในรอบหลายปีนี้ก็ไม่ได้มีประวัติขาวสะอาดเหมือนกัน พี่ได้รวบรวมหลักฐานมากมายเอาไว้แล้ว ตอนนี้เป็นช่วงเวลาวิกฤติของบริษัทฉีซื่อกรุ๊ป ถ้าหากมีคนมาลงทุนดี ๆ ก็คงจะไม่ใช่ด้วยวิธีการที่สุจริตอย่างแน่นอน พี่จะปล่อยเขาไปไม่ได้แน่” มู่วี่สิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างชัดถ้อยชัดคำ

เขารอวันนี้มาเป็นเวลานานแล้ว

มู่ซือซือกอดพี่ชายเอาไว้แน่น “พี่ ขอบคุณพี่มากนะ ฉันแค่อยากได้ความยุติธรรมเท่านั้น ฉันต้องการประกาศเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นออกไป”

เมื่อได้ยินดังนั้น มู่วี่สิงขมวดคิ้ว

“พี่ไม่รับปาก”

“นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำลายฉีเซิน ฉันต้องการให้เขาไม่มีทางลุกขึ้นมาตั้งตัวได้ตลอดทั้งชีวิต” มู่ซือซือกล่าวอย่างโหดเหี้ยม

“พี่จะไม่ยอมให้เธอเปิดเผยข่าวอื้อฉาวนั่นหรอก!” น้ำเสียงของมู่วี่สิงไม่ยินยอมให้หารือ

“ไม่ได้ ฉันวางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว”

“มู่ซือซือ!”

“พี่ชาย พี่ทำในสิ่งที่พี่ต้องทำต่อไป ส่วนฉันก็แค่จุดไฟเพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง”

“ซือซือ” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ความทนไม่ได้ปรากฏขึ้นในแววตาของเขา

แต่ทว่ามู่ซือซือตัดสินใจเด็ดขาดไปแล้ว

เช้าวันต่อมา มู่วี่สิงและมู่ซือซือกลับมายังตระกูลมู่

มู่เฉิงรู้เรื่องของมู่ซือซือแล้ว

ถึงแม้ว่าเขาจะโกรธจัด แต่ก็พอจะเข้าใจหลานสาวของเขาได้

“คุณปู่”

“เจ้าเด็กนี่ ปู่ไม่อยากจะดุด่าแกเลย แต่แกนี่มันหุนหันพลันแล่นเกินไป!” มู่เฉิงกล่าวด้วยเสียงเข้ม

“ขอโทษค่ะ” ท่าทางของมู่ซือซือเต็มไปด้วยความจริงใจ

เธอรู้ดีว่าคุณปู่รักเธอเป็นอย่างมาก

ในตอนนั้น เสียงของมู่เหิงดังขึ้นมาจากด้านนอก

“คุณปู่ช่างลำเอียงเสียจริง ๆ เลย”

“ในสายตาของคุณปู่ ไม่เห็นผมเป็นหลานปู่เลยเสียจริง ๆ ” น้ำเสียงของมู่เหิงเย็นชา

“ฉันให้แกกลับมาก็จริง แต่ไม่ได้ให้แกมายึดเอาบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปไปไว้เป็นของตัวเอง!” เมื่อเห็นมู่เหิง สีหน้าของมูเฉิงก็เคร่งเครียดขึ้นในทันที

“ผมเองก็เป็นคนของตระกูลมู่ ทำไมผมจะทำไม่ได้ล่ะ” มู่เหิงหรี่ตาลง

“แกเทียบวี่สิงไม่ได้หรอก”

มู่เหิงรับผิดชอบดูแลอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในประเทศ C มาตั้งนานแสนนาน แต่ไม่เคยมีผลงานอะไรออกมาให้เห็นเลย

ผลประกอบการของบริษัทลดลงอย่างฮวบฮาบ โครงการที่ประสบความสำเร็จแทบจะไม่มีเลยแม้แต่โครงการเดียว

มู่เฉิงคอยติดตามเรื่องนี้อยู่ในสายตาเสมอ

แต่ทว่าเขากลับปล่อยปละละเลยมาเป็นเวลานานแล้ว

“น้องชายเป็นแค่หมอ ผมไม่คิดว่าเขาจะเจรจาธุรกิจได้”

เมื่อได้ยินดังนั้น มู่วี่สิงจึงหัวเราะเบา ๆ “มู่เหิง ถึงแม้ว่าฉันจะจับมีดผ่าตัดมาโดยตลอด แถมยังรับช่วงต่อบริหารบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปมาได้ยังไม่ถึงหนึ่งปี แต่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก็ได้ก้าวขึ้นเป็นบริษัทยาอันดับหนึ่งในหนานเฉิงแห่งนี้ ถ้าเป็นพี่ พี่จะทำได้ไหมล่ะ”

เมื่อหนึ่งปีก่อนหน้านี้ บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเป็นบริษัทที่แทบจะไม่มีชื่อเสียงโด่งดังอะไรมากนัก และตลาดก็กระจุกตัวอยู่ในต่างประเทศ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ยาตัวใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวของบริษัทคอยสร้างแรงกระเพื่อมให้กับตลาดอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นในอัตราสูงมาก เบียดเอาชนะบริษัทยาชื่อดังเจ้าเก่าไปเป็นจำนวนมาก

นี่เป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่ไม่ใช่ใคร ๆ จะทำออกมาได้อย่างง่ายดายแน่นอน

สีหน้าของมู่เหิงซีดเผือด กำหมัดแน่น ทันใดนั้น ก็ไม่พูดอะไรอีก

แต่ทว่าเขาไม่มีทางยอมรับมู่วี่สิงอย่างเด็ดขาด

“ผมต้องการอยู่ที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปต่อไป ผมเป็นผู้ถือหุ้น ผมมีสิทธิ์!” มู่เหิงกล่าว

แต่เห็นได้ชัดว่ามู่เฉิงไม่ได้เก็บคำพูดของเขาเอามาใส่ใจ พร้อมกับกล่าวอย่างไม่แยแสว่า “ฉันเป็นประธานของคณะกรรมการบริหาร ฉันเองก็นัดหมายกับทางฝ่ายบุคลากรเรียบร้อยแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น แกเองก็ถูกปลดออกจากตำแหน่งในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นแล้ว มีโครงการหนึ่งเกิดขึ้นอยู่ที่แอฟริกาเหนือเมื่อไม่นานมานี้ ถ้าแกอยากอยู่ที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปต่อไป แกก็ไปทำโครงการนั้นให้ประสบความสำเร็จเสีย”

เมื่อได้ยินดังนั้น มู่ซือซืออดไม่ได้จนต้องหัวเราะออกมา

มู่เหิงผู้ทำตัวสูงส่งดั่งเจ้าชายของตระกูลมาโดยตลอด กลับต้องไปที่แอฟริกาเหนือแทน เมื่อนึกถึงภาพฉากนี้เข้าแล้ว รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

สีหน้าของมู่เหิงดูน่าเกลียดเป็นอย่างมากในทันที “คุณปู่!”

“ถ้าแกยังเรียกฉันว่าปู่อยู่ละก็ แกก็ฟังฉันเสีย”

“ผมไม่มีทางไปที่นั่นหรอก”

“ฉันไม่วางใจให้แกรับช่วงต่ออสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ต่างประเทศหรอก”

“ทำไมครับ”

“แกคิดดี ๆ แล้วกัน”

เมื่อพูดจบ มู่เฉิงก็โบกมือปัด ท่าทางเช่นนั้นบ่งบอกอย่างเห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการพูดคุยด้วยอีกต่อไป และรีบขึ้นไปข้างบนอย่างรวดเร็ว

เมื่อมู่เฉิงอยู่ที่หนานเฉิงในช่วงระยะเวลานี้ ทั้งมู่วี่สิงและมู่ซือซือจึงไปอยู่ที่คฤหาสน์หลังเก่านั้นด้วย

มู่เฟิงย้ายออกไปนานแล้ว ดังนั้น จึงไม่มีใครสนใจมู่เหิงเลยสักนิด

เขาคอยขัดขวางเส้นทางที่มู่วี่สิงเดินจากไป

“แกเคยพูดในตอนนั้นเองว่าจะไม่สืบทอดบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป” มู่เหิงมองดูเขาอย่างเยือกเย็น

“ฉันสืบทอดแล้วเหรอ ตอนนี้อำนาจล้วนแต่อยู่ในมือของคุณปู่ต่างหากล่ะ” มู่วี่สิงพูดอย่างเรียบเฉย

“ฉันมองออกว่าคนที่เขาอยากให้สืบทอดกิจการต่อมากที่สุด ก็คือแก”

“มู่วี่สิง อย่าลืมสิ่งที่แกเคยสัญญากับแม่ไว้ในตอนแรกล่ะ” มู่เหิงเตือนความจำเขา

มู่วี่สิงเย้ยหยัน “ฉันจำได้ แต่พี่เองก็ต้องมีทักษะด้วย”

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

Options

not work with dark mode
Reset