บทที่ 346 สัญญาลับระหว่างสองคน
ได้ยินดังนั้น สีหน้าของAmyก็เปลี่ยนไป
ครั้งแรกที่เวินจิ้งได้เข้ามายังห้องทดลอง เธอก็ได้สังเกตเห็น
แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
เมื่อลงไปยังแผนกบุคคล Amy ก็ลาออกแล้ว เพื่อร่วมงานได้มาบอกกับเธอ
“เรื่องนี้ฉันเป็นคนที่ซวย พวกคุณต้องระวังเวินจิ้งซะ ไม่งั้นพวกคุณจะโดนไล่ออก”
“จริงเหรอ คิดไม่ถึงว่าที่เธอดูเป็นคนไร้เดียงสา จริงๆแล้วก็ช่างร้ายเหลือเกิน……..”
“คือ ฉันจำได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งเห็นเธอตั้งใจยั่วยวนคุณมู่”
“แล้วเหมือนว่าเธออยู่ในรถกับคุณมู่ด้วย!”
“…….”
ออฟฟิศท่านประธาน
มู่เหิงนั่งลงอยู่ตรงหน้ามู่วี่สิง พลางมีรอยยิ้มที่อวดดี
“ยากที่น้องชายของฉันจะมาหาฉันได้”
“มู่เหิง ฉันจะตามใจนายมากไปแล้ว” มู่วี่สิงเงยหน้าขึ้น ความเย็นชาในดวงตาเขาไม่สามารถซ่อนมันได้
“งั้นเหรอ ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าผมทำอะไรผิดหนิ”
“นายแตะต้องคนของฉัน”
ได้ยินดังนั้น มู่เหิงหัวเราะเบาๆ “พี่ชาย ผมไปแตะต้องใครกัน”
“เวินจิ้ง”
“หะ พี่เพิ่งไล่ Amy ออกไม่ใช่เหรอไง เรื่องนี้มาเกี่ยวอะไรกับผม”
“เรียกนายมานี่ ไม่ได้หมายความว่าให้นายมายอมรับ แค่ฉันอารมณ์เสีย” พูดจบ มู่วี่สิงก็ได้กระชากคอเสื้อของมู่เหิง
มู่เหิงไม่ทันได้หลบ เขาชกไปเต็มหมัด ทั้งคนเกือบจะตกจากโซฟา
เขาเงยหน้า และจ้องหน้าไปยังมู่วี่สิงด้วยความโกรธ
เขาคิดไม่ถึงว่าจะกล้าทำร้ายเขา! ก็แค่ผู้หญิงคนเดียว!
“ถูกแล้วล่ะที่จะอารมณ์เสีย มู่วี่สิง ผมก็แค่อยากให้คุณอารมณ์เสีย ผมจะบอกคุณให้นะว่า ผมจะไม่ปล่อยเธอไปแน่!” มู่เหิงข่มขู่อย่างดุดัน
“ถ้านายล้ำเส้นของเส้นฉัน งั้นก็ลองดู” มู่วี่สิงเบิกตากว้าง
มู่เหิงคลุมขาของเขา และต้องการต่อสู้กลับ แต่มู่วี่สิงไม่ได้ให้โอกาสเขา
“อย่าแตะต้องคนของฉัน มู่เหิง” เขาพูดอย่างเยือกเย็น
“พวกคุณหย่ากันแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมคุณยังนึกถึงเขาอยู่” มู่เหิงงอริมฝีปาก
“ถึงแม้ว่าเธอไม่ใช่คุณนายมู่ ก็ไม่ได้หมายความว่านายจะแตะต้องได้”
มู่เหิงมองดูมู่วี่สิง แต่เขาก็มีเกรงกลัวออร่าของเขา
ไม่ยอมที่จะทำหน้านิ่งขรึม เขาพูดจบว่า “งั้นผมก็จะแตะต้อง!”
ได้ยินดังนั้น แก้วที่อยู่ในมือของมู่วี่สิงถูกเขาปาจนแตกในทันที มู่เหิงได้ออกไป เขาได้ขมวดคิ้วพร้อมแฝงไปด้วยความเยือกเย็นที่อยู่ในสายตาเป็นเวลานาน
เขาสั่งให้เกาเชียนเข้ามา “ยกเลิกการประชุมเย็นนี้”
โรงพยาบาล
แม้ว่าเวินจิ้งไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ก็ยังต้องอยู่โรงพยาบาลสังเกตอาการอีกสองสามวัน
หลิงเหยากลับไปเมื่อตอนเที่ยงแล้ว ส่วนหลิงอี้อยู่เป็นเพื่อนเธอในห้องผู้ป่วยตลอดเวลา
หลังจากนั้นไม่นาน หลินเวยก็รู้เรื่องที่เวินจิ้งอยู่โรงพยาบาลแล้ว และก็รีบมา
“เสี่ยวจิ้ง ไปโดนก๊าซพิษอะไรมา ……” หลินเวยเป็นห่วงมาก
ทันทีที่ได้ไปพบแพทย์เพื่อทำความเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แม้ว่าเวินจิ้งไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ก็ยากที่จะรู้สึกสบายใจ
“แม่ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว” เวินจิ้งต้องการให้เธอสบายใจ
“เกิดอะไรขึ้นกับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป” หลินเวยถาม
บริษัทที่มีชื่อเสียงขนาดนี้ สุดท้ายแล้วจะมีช่องโหว่อย่างนี้ได้อย่างไร
เวินจิ้งขมวดคิ้ว วันนี้เธอยังไม่ได้เห็นมู่วี่สิง จึงไม่สามารถถามเหตุผลได้
แต่ถ้าเป็นสิ่งที่เธอคิดไว้ ที่เธอคิดก็มีแค่ฉินเฟยเท่านั้น
แต่เธอไม่ใช่คนของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป แล้วจะไปควบคุมให้เป็นเรื่องใหญ่ได้อย่างไร
“แม่จะช่วยเธอตรวจสอบให้ชัดเจนเอง” หลินเวยพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งลึก
“แม่ อย่าเข้าไปยุ่งเลย ตอนนี้ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว”
“แต่เธอคือลูกสาวของฉัน แม่ไม่สามารถปล่อยให้เธอจะต้องมารับความไม่เป็นธรรม เกี่ยวข้องกับมู่วี่สิงใช่ไหม” หลินเวยทำหน้าเย็นชา
เวินจิ้งส่ายหน้า “ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา ที่ฉันถูกขังอยู่ในห้องทดลองก็เพราะความผิดพลาด”
“เรื่องนี้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปจำเป็นต้องมีคำอธิบายออกมาให้ได้” หลินเวยกล่าวอย่างจริงจัง
เธอมองไปยังหลิงอี้ “หลิงอี้ เธอไปตรวจสอบให้ชัดเจน”
ได้ยินดังนั้น หลิงอี้เงยหน้าขึ้นมอง “คุณนายหลิน ผมจะต้องให้มู่วี่สิงตรวจสอบให้แน่ชัด”
“เพราะเขาเป็นคนทำร้ายเสี่ยวจิ้ง!” หลินเวยพูดพลางโกรธ
“แม่ กลับไปก่อนเถอะ ฉันเชื่อในตัวมู่วี่สิง” เธอพูดอย่างใจเย็น
ได้ยินดังนั้น สีหน้าของหลินเวยก็เปลี่ยนไป และก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
โรงพยาบาลได้จัดบุคลากรทางการแพทย์ที่ดีที่สุดให้กับเวินจิ้ง ก่อนที่เธอจะออกไป
หลิงอี้ยังอยู่ที่นั่น เวินจิ้งมองที่เขา “คุณก็กลับไปเถอะ”
“ผมไม่วางใจ”
“โรงพยาบาลมีอะไรที่ทำให้ไม่วางใจ”
“ฉันไม่อยากรบกวนคุณ”
อันที่จริง หลิงอี้อยู่ในห้องผู้ป่วย เพียงแค่จัดการกับภาระงานต่างๆอย่างเงียบๆ แต่เขาอยู่อย่างอดทน จนเวินจิ้งไม่สามารถเพิกเฉยต่อเขาได้
ไม่มีทางที่จะผลักเขาออกไปได้
เวินจิ้งได้หลับไปในตอนบ่าย เมื่อตื่นขึ้นมาก็เย็นแล้ว
ลืมตาขึ้น มองเห็นเงาร่างที่แปลกหน้า แต่กลับรู้สึกไม่คุ้นเคย
เธอคงจะฝันไป ……
มู่วี่สิงมาอยู่นี่ได้อย่างไร
เธอได้ขยี้ตา แต่เงาร่างที่อยู่ตรงหน้ายังไม่ได้หายไป
หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้น และมองเขาอย่างไม่กระพริบตา
มู่วี่สิงนั่งลง ลูบหัวเธออย่างทำตามใจเหมือนปกติ
เวินจิ้งถูกลูบโดยทันที
สิ่งนี้ได้กลายเป็นสัญญาลับของระหว่างทั้งสองคนแล้ว
เป็นเขาจริงๆ
“มู่วี่สิง……..”
ดวงตาอ่อนโยนของผู้ชายคนนั้น รอยยิ้มมุมปากของเขานั้น ยิ่งทำให้มีเสน่ห์มากขึ้น
“วันนี้คุณเป็นไงบ้าง” เขาถามด้วยความกังวล
เวินจิ้งนั่งลง และตอบเสียงต่ำๆ “ดีขึ้นเยอะแล้ว”
“อื้ม” มู่วี่สิงมองดูเธอ “เรื่องนี้ ผมให้คนที่รับผิดชอบออกจากงานแล้ว ขณะนี้ไม่มีหลักฐานที่จะพิสูจน์ได้ว่ามีใครทำเรื่องนี้ ตัดสินได้แค่เป็นเพียงอุบัติเหตุเท่านั้น”
แม้ว่าเขาได้เจอคนที่อยู่เบื้องหลัง นั่นก็คือมู่เหิง แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะทำลายเขา
“คุณคิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุไหม” เวินจิ้งมองเขา
เธอรู้สึกว่ามันแปลกเกินไป
แถมอีกอย่างห้องทดลองธรรมดาห้องหนึ่ง จะมีก๊าซพิษได้อย่างไร มันต้องมีการวางแผนมาล่วงหน้าอย่างแน่นอน
“เรื่องนี้ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ มันต้องเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ภายในของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ดังนั้นไม่สามารถตรวจสอบต่อได้”
เวินจิ้งลดตาลง แต่กำลังคาดการณ์ว่า
“หรือพุ่งเป้ามาที่ฉัน” เธอถาม
ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณ เดี๋ยวผมจะอธิบายเรื่องให้กับคุณ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เชื่อผมได้ไหม” แววตาของมู่วี่สิงร้อนรุ่ม
เวินจิ้งมองเขา และพยักหน้าอย่างหนักแน่น
เธอพยายามจับมือเขาอย่างไม่รู้ตัว แต่กลับหดมือกลับไป
มู่วี่สิงมองการเคลื่อนไหวของเธอ พลางทำดวงตาหนักแน่น
ไม่มีใครพูดอะไรอีก
เวินจิ้งได้หยิบการบ้านที่อยู่ข้างๆขึ้นมาทำ ไม่อย่างนั้น ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับมู่วี่สิงต่อ
ไม่อยากให้เขาแยกจาก แต่ก็ไม่ได้บอกให้เขาไป
ขณะที่อยู่เป็นเพื่อนนั้น ที่จริงแล้วอาลัยอาวรณ์มาก
“เดี๋ยวคุณอยากกินอะไรไหม”
“ไม่” เวินจิ้งกลับคิดอย่างจริงจัง
สิ่งที่เธออยากจะกิน …..ดูเหมือนตอนนี้กินไม่ได้แล้ว
“ผมจะจัดการให้”
พูดจบ มู่วี่สิงก็เดินออกไป
เวินจิ้งมองไปที่แผ่นหลังของเขาและริมฝีปากของเขาก็ยิ้มไม่ออก
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก็เพิ่งจะเห็นหลิงอี้ส่งข้อความถึงเธอ
เพราะมีธุระชั่วคราวที่บริษัท เขาจึงกลับมาช้า
เวินจิ้งตอบเขากลับทันที : ถ้าคุณยุ่ง ไม่ต้องกลับมาแล้ว
เปิดวีแชท เวินจิ้งตอบข้อความเสร็จ มู่วี่สิงก็กลับมาพอดี
ผมซื้อบะหมี่น้ำมา แต่เป็นสองชุด
เวินจิ้งมองเขาอย่างสงสัย เธอกินสองมื้อไม่ไหวนะ……