บทที่338 ก็อยู่ข้างเธอ
“พี่ไม่ได้จีบเธออยู่เหรอ? เบอร์ก็ไม่มี น่าโมโหจริงๆเลย! ”
“เธอก็อาจจะไม่อยากรับสายของพี่ก็ได้ ”
“พี่ พี่นี้น่าสงสารจริงๆ แต่ว่าฉันว่าพี่มีโอกาสแน่นอน ตอนนี้เวินจิ้งตัดความสัมพันธ์กับมู่วี่สิงอย่างชัดเจนแล้วนะ! ”
“หมายความว่าไง? ”
“ก็เหมือนกับที่พูดไป อาทิตย์นี้มู่วี่สิงมาบรรยายที่โรงเรียน เวินจิ้งก็ไม่ไป ไม่มีความสนใจแม้แต่นิดเดียว งั้นก็แสดงว่าใจได้ตายไปจากเขาจริงๆแน่นอน ”
หลิงอี้นิ่งเงียบ มีบางครั้งที่หลบหนีคนคนหนึ่ง ก็เป็นเพราะว่ายังวางคนนั้นไม่ลงก็ได้นะ
“มู่วี่สิงจะมาบรรยาย? แต่ก่อนเขาเกลียดการเปิดเผยหน้าในที่สาธารณะมากที่สุด ” หลิงอี้ขมวดคิ้ว
แต่ว่าครั้งนี้เขากลับตอบตกลงแล้ว?
“ดูเหมือนว่าก็เป็นความจริง แต่ก่อนเขานิ่งเงียบ แต่ว่าเขาไม่เพียงแต่มาทำการบรรยายที่โรงเรียนเท่านั้น ทั้งยังดูเหมือนว่าจะถูกเชิญมาสอนด้วย……”
“พี่รู้แล้ว ” หลิงอี้วางสายโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว
ผ่านไปไม่นาน ผู้ช่วยเดินเข้ามาในห้องทำงาน
“ประธานหลิง วันนี้ตอนเช้าบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปได้ประกาศล้มละลายแล้ว ”
ได้ยินคำพูดนั้น หลิงอี้เปลี่ยนสีหน้า “ฉีเซินไม่ได้ช่วย? ”
“ตอนนี้บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปก็ไม่ดี ตลาดยาไม่น้อยของบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปมีอัตราลดลงมากอย่างรวดเร็ว บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปยังมียาตัวใหม่ที่จะวางขายในตลาด ล้วนเป็นการโจมตีบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปโดยตรง ”
หลิงอี้เลิกคิ้ว บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปรอบรู้เรื่องนี้มากนะ……
……
มู่วี่สิงออกจากโรงเรียนก็เป็นเวลาสายแล้ว เมื่อออกมา นักเรียนไม่น้อยล้อมรอบเข้ามาเรื่อยๆ
และพอดีที่เวินจิ้งถูกศาสตราจารย์ไป๋เรียกมาพอดี มองเห็นผู้ชายที่ถูกล้อมอยู่ตรงกลางมาตั้งแต่ไกล
เขาเป็นคนที่โดดเด่นมาตลอด ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขานั้นสะดุดตามาก และเผยด้านที่สง่างามและอ่อนโยนออกมา
แต่ตอนนี้เธอก็กลับยิ่งรู้สึกไม่รู้จักเข้าใจเขาขึ้นไปอีก
จงใจเดินอ้อมแล้วเข้าตึกไป สายตาของมู่วี่สิงนั้นก็ไปสะดุดที่ร่างกายของเวินจิ้ง
ขมวดคิ้ว เขาไม่ได้พักอยู่อีกต่อไป
เวินจิ้งมองแผ่นหลังที่ยาวของเขา ยากที่จะละสายตาออกไปได้แล้ว……
……
ผ่านไปพริบตาก็เป็นวันศุกร์แล้ว วันนี้สำหรับนักเรียนของมหาวิทยาลัยหลินไห่นั้น เต็มไปด้วยการตั้งตารอคอย
ช่วงนี้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเป็นที่นิยมอย่างมาก เดิมทีมู่วี่สิงก็เป็นคนสูงส่ง และช่วงนี้ยังประสบความสำเร็จในได้การค้นคว้ายาตัวใหม่อีกด้วย การบรรยายในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากนักเรียนในโรงเรียนเป็นอย่างมาก
หลิงเหยาวางแผนที่จะไปจองที่นั่งในห้องบรรยายก่อน เห็นเวินจิ้งที่ไม่ได้แยแสอะไร เธอเดินเข้าไป “เวินจิ้ง คุณจะไม่ไปฟังการบรรยายของมู่วี่สิงจริงๆเหรอ? ”
เวินจิ้งส่ายหัว “ฉันไม่มีความสนใจ ”
“จริงป่ะ? คุณคงไม่ใช่เป็นเพราะเพื่อที่จะหลบหน้ามู่วี่สิงถึงไม่ไปใช่ไหม ”
“ไม่ใช่……” คำพูดของเธอ แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่เชื่อ
เพื่อที่จะหลบหน้ามู่วี่สิงจริงๆ แต่ในความเป็นจริง เธออยากไปมากๆ
“ก็ได้ ไม่ไปก็ไม่ไป แต่ว่าเขาเป็นศาสตราจารย์ประสาทและสมองนะ คุณเป็นนักเรียนภาควิชาระบบประสาทและสมอง ไม่ไปฟังก็คงน่าเสียดายแย่ ”
คำพูดของหลิงเหยาวนอยู่ในหัวไม่ออกไปไหน
เวินจิ้งมองหนังสือที่อยู่ตรงหน้า ค่อยๆกลายเป็นท่าทางของมู่วี่สิง
จับผมอย่างร้อนอกร้อนใจ เวินจิ้งเปลี่ยนเสื้อผ้า แบกกระเป๋าออกไปด้านนอก
เมื่อตอนที่เธอมานั้นก็สายไปซะแล้ว ด้านในและด้านนอกของห้องบรรยายเต็มไปด้วยนักเรียน ด้านในไม่มีที่นั่งเหลือตั้งนานแล้ว
มู่วี่สิงยังไม่มา เวินจิ้งเดินวนไปมา ทางเข้าประตูเต็มไปด้วยคน ไม่มีทางที่จะเข้าไปได้
ดูเหมือนว่า จะฟังการบรรยายไม่ได้แล้ว
วางแผนที่จะกลับ หันไปเห็นศาสตราจารย์ไป๋เดินมาพอดี
“เวินจิ้งอา มาฟังการบรรยายเหรอ? ”
“ใช่ค่ะ แต่ว่าคนเยอะเกินไป……” เวินจิ้งขมวดคิ้ว
“คุณตามอาจารย์มาเถอะ ด้านข้างอาจารย์มีที่นั่งอยู่ ”
เดิมทีเวินจิ้งโล่งใจแล้ว แต่ว่าตอนนี้ไป๋สือพาเธอเข้าไป เธอกลับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว
แต่ว่าห้องบรรยายมีคนตั้งเยอะแยะมากมาย มู่วี่สิงคงไม่เห็นเธอหลอกมั้ง?
แต่คิดไม่ถึงว่า ที่นั่งไป๋สือกลับอยู่แถวแรกสุด……
เดิมทีที่นั่งข้างเขาเป็นที่นั่งของคณบดี แต่ว่าคณบดีไปราชการด้านนอกชั่วคราว
“ช่วงนี้ในเรื่องการวิจัยค้นคว้ายาของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปนั้น คุณรู้สึกว่ายังไงบ้าง? ” ไป๋สือถาม
ปัจจุบันเวินจิ้งเป็นนักเรียนคนเดียวที่เขาดูแล ใส่ใจเธอเป็นอย่างมาก
อีกทั้ง เขาก็มองเด็กคนนี้ไว้ดีแล้ว
“ทีมการค้นคว้าวิจัยของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปนั้นเป็นสุดยอดของหนานเฉิง ฉันได้เข้าร่วมแล้ว ได้เรียนรู้อะไรได้มากมาย ”
“อืม การค้นคว้าวิจัยที่สำคัญตอนนี้ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก็คือยาประสาทและสมอง คุณก็สามารถเรียนรู้กับมู่วี่สิงได้ แต่ว่าทำไมอาจารย์รู้สึกว่า ช่วงนี้พวกคุณมีอะไรแปลๆไป? ” ไป๋สือขมวดคิ้ว
ถ้าว่ามู่วี่สิงมาบรรยายที่มหาวิทยาลัยหลินไห่ เวินจิ้งที่ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ก็จำเป็นต้องมีที่นั่ง แต่ว่าเมื่อกี้เธอยืนอยู่ด้านนอกตลอด
เวินจิ้งนิ่งเงียบไป ผ่านไปสักครู่ใหญ่ถึงพูดขึ้น “ศาสตราจารย์ค่ะ พวกเราหย่ากันแล้ว ”
ไป๋สือมีความตกใจนิดหน่อย สำหรับเขาแล้วตอนแรกที่มู่วี่สิงแต่งงานนั้นก็ทำให้เขามีความแปลกประหลาดใจอยู่
และอีกอย่างทั้งสองคนเพิ่งจะแต่งงานกันได้ไม่นาน
“เรื่องส่วนตัวอาจารย์ก็จะไม่ถามแล้ว แต่ว่าตอนนี้เขาเป็นศาสตราจารย์พิเศษของมหาวิทยาลัยหลินไห่ หลังจากนี้พวกคุณหลีกเลี่ยงที่จะไม่พบเจอกันไม่ได้ ”
“ฉันรู้ค่ะ ศาสตราจารย์ ” เวินจิ้งยิ้มๆ ไม่อยากให้ศาสตราจารย์กังวลใจ
ผ่านไปไม่นานมู่วี่สิงก็มาถึง เวินจิ้งหยิบสมุดขึ้นมา เกือบจะก้มหน้าจดอยู่ตลอดเวลา น้ำเสียงทุ้มต่ำจากลำคอที่ไพเราะของมู่วี่สิงเข้ามาในหู เธอเงยสายตาขึ้น ชั่วพริบตาเดียว ทั้งสองคนก็สบตากันมากกว่าครึ่งวินาที
สีหน้าของผู้ชายเคร่งขรึมนิ่งเงียบ ไม่มีความรู้สึกเกินเลยใดๆ
เวินจิ้งก้มสายตาลง สนใจเนื้อหาที่มู่วี่สิงบรรยาย
ช่วงเวลาที่มีนักเรียนถามคำถาม มีคนใจกล้าที่จะถามเรื่องส่วนตัวของมู่วี่สิง
“คุณหมอมู่ ได้ข่าวมาว่าคุณแต่งงานแล้ว ภรรยาของคุณก็มีอาชีพเดียวกันกับคุณใช่หรือไม่? ”
ได้ยินคำถาม เวินจิ้งเงยหน้าขึ้น
อยากจะรู้คำตอบของมู่วี่สิงจริงๆ
“อืม ตอนนี้เธอมีฐานะเหมือนพวกคุณ เป็นนักเรียน ”
ไป๋สือมีความประหลาดใจนิดๆ หันไปมองเวินจิ้ง สายตาลึกซึ้ง
การบรรยายได้เสร็จสิ้นลงแล้ว มู่วี่สิงเดินเข้ามาหาไป๋สือ การบรรยายจบเวินจิ้งก็จะจากไป
ไป๋สือกลับเรียกเธอไว้ “เวินจิ้ง คุณอยู่ก่อน ”
เวินจิ้งจำเป็นต้องหยุดย่างก้าวอย่างจำใจ และมู่วี่สิง……ก็อยู่ข้างๆเธอ
แค่สายตาของเขากลับไม่ได้อยู่ที่ตัวของเธอ
ทั้งสองคนพูดคุยกันเกี่ยวกับปัญหาของภาควิชา เวินจิ้งพูดแทรกไม่ได้ รอบข้างมีนักเรียนไม่น้อยที่เดินเข้ามา ล้วนอยากจะมาถามคำถามมากมายกับมู่วี่สิง
เวินจิ้งถูกกลฝูงคนเบียด แต่ข้างเธอก็คือมู่วี่สิง แค่ผลัก ก็ล้มไปทางมู่วี่สิงอย่างเป็นธรรมชาติ
ลมหายใจที่คุ้นเคยเตะเข้ามาที่จมูก แขนที่มั่นคงโอบกอดเธอ
ปรายตาขึ้น สายตาของมู่วี่สิงกำลังมองที่เธอ ขมวดคิ้วนิดหน่อย
“ทุกคนไม่ต้องเบียด หลังจากนี้ผมจะอยู่ที่โรงเรียน” มู่วี่สิงยิ้มอย่างอ่อนโยน
“แฟนคลับของคุณเยอะจริงๆ ผมไม่รบกวนคุณแล้ว ” ไป๋สือมองฝูงคน ส่ายหัวอย่างจนปัญญา และพูดต่อว่า “ดูแลนักเรียนของผมให้ดี ”
พูดประโยคนี้จบ แก้มของเวินจิ้งก็แดงก่ำขึ้นมา
คำพูดของศาสตราจารย์ไป๋นี้หมายความว่ายังไง……
“ศาสตราจารย์ ผมไปหาท่านช้าหน่อย ”
“คุณปล่อยฉันก่อน คุณหมอมู่ ” เวินจิ้งยังคงถูกเขาโอบไว้อยู่ ท่าทางไม่เป็นธรรมชาติไปทั้งตัว
มู่วี่สิงเลิกคิ้ว “คุณแน่ใจว่าคุณจะออกไปตอนนี้ได้? ”
นักเรียนที่ห้อมล้อมพวกเขา อย่างน้อยก็มีร้อยกว่าคนขึ้นไป
“อืม คุณปล่อยฉันก่อน ” เวินจิ้งพูดอีกครั้ง
มู่วี่สิงปล่อยมือจริงๆ แต่เวินจิ้งถอยหลังไปหนึ่งก้าว ก็กลับถูกฝูงคนผลัก และตกลงไปในอ้อมแขนของมู่วี่สิงอีกครั้ง