บทที่ 321 ผมแค่ คิดถึงคุณมาก
มู่เฉิงเรียกมให้มู่วี่สิงไปที่ห้องหนังสือ ใบหน้าที่เหี่ยวย่นไม่อาจปกปิดความโกรธไว้ได้
“อานเวยคิดจะทำร้ายฉือซินได้ไง เกิดเรื่องอะไรขึ้น!” มู่เฉิงถามด้วยความโกรธ
“เรื่องนี้ได้ถูกมู่เฟิงตรวจสอบเจอ เขาส่งหลักฐานไปยังสถานีตำรวจ” มู่วี่สิงได้มอบข้อมูลการสอบสวนให้กับคุณปู่ของเขา
อานเวยเคยติดสินบนผู้คุมคุกและให้ผู้ต้องขังวางยาพิษกับฉือซิน จนทำให้ฉือซินเสียชีวิต ด้วยเหตุนี้ มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันกับความจริงที่ว่าเมื่อสามปีก่อนฉืออี้เหิงได้นำตัวมู่ซือซือพาไปที่ฉีเซิน และทำให้มู่ซือซือถูกทำร้าย
“อานเวิยเป็นคนทำจริงๆเหรอ” มู่เฉิงเม้มริมฝีปาก
มู่วี่สิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “อืม”
“ซือซือทนไม่ไหวที่จะตอบโต้” มู่เฉิงได้ถอนหายใจ “ตอนนี้มู่เฟิงมีหลักฐานอยู่ในมือแล้ว และจะต้องส่งอานเวยเข้าไปแน่นอน”
“ตอนนี้มู่เหิงได้เอาเปรียบและสร้างความวุ่นวายให้กับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป แต่ก็ยึดอำนาจได้พอดี” มู่วี่สิงพูดอย่างเยือกเย็น
“เขาท้องใหญ่ถึงขนาดกินเสือดาวได้ทั้งตัว! บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ฉันจะไม่มอบมันให้กับเขา!”
“ตอนนี้พวกเขาได้รับหุ้นก็จำนวนไม่น้อย และจะต้องสาบานด้วยความจริงใจ
พวกเขาต่างคิดว่ามู่เฉิงจะโอนหุ้นที่อยู่ในมือให้กับมู่วี่สิงไปแล้ว แต่ความจริงแล้วไม่ได้ทำ
ไม่ว่าพวกเขาจะมีหุ้นอยู่ในมือเท่าไหร่ มันก็ไม่สามารถที่จะโค่นล้มบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปได้ทั้งหมด
……….
มหาวิทยาลัยหลินไห่
กลางคืนเวลาสามทุ่ม เป็นเวลาที่เวินจิ้งเลิกเรียนแล้ว ขณะที่กำลังรับประทานอาหารอยู่ในโรงอาหาร เธอได้เปิดดูข่าวอย่างไม่เป็นทางการ สายตาถูกดึงดูดให้จดจ้องกับข่าวที่ราคาหุ้นของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปกำลังตกต่ำ
บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเกิดอะไรขึ้น ……
เธอกำลังดูรายละเอียดข่าว และมีข้อมูลบางอย่างไม่ชัดเจน/คลุมเครือ แต่เธอก็ยังเข้าใจอยู่
กรณีที่ฉือซินถูกสังหารพลิกออกมาอีกครั้ง ไม่สามารถถอดความสงสัยกับความสัมพันธ์ของตระกูลมู่ได้
แล้วตอนนี้มู่วี่สิงเป็นอย่างไรบ้าง
ความเป็นห่วงภายในใจก็ได้ปรากฏออกมา เธอต้องกลั้นเอาไว้
แต่ได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา โดยที่เธอกดเบอร์ของเขาไปอย่างไม่รู้ตัว
คาดไม่ถึงว่าโทรศัพท์ได้ถูกกดรับอย่างรวดเร็ว เวินจิ้งรู้สึกกังวล และเธอก็ได้วางสายไปแล้ว/วางสายอีกครั้ง
เธอวางโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋า แล้วสูดหายใจลึกๆ เธอไม่อยากจะคิดต่อแล้ว!
ในเวลานี้ ที่โทรศัพท์กำลังสั่น เป็นสายของมู่วี่สิงโทรเข้ามา
เวินจิ้งดูสายที่กำลังโทรเข้า และยังคงแสดง “สามี”
เธอไม่ได้เปลี่ยนการบันทึกนี้
ปล่อยให้โทรศัพท์ยังคงดัง และเวินจิ้งไม่ได้สนใจมัน
บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป
ขณะที่มู่วี่สิงกำลังถือโทรศัพท์อยู่ เวินจิ้งยังคงได้รับสายโทรศัพท์ของเขา และได้โอนอัตโนมัติไปยังวอยซ์เมล
เขาขมวดคิ้ว และพูดออกไปเบาๆ “คุณนายมู่ คิดถึงผมเหรอ ฮึ้ม”
น้ำเสียงของเขา แต่ละคำพูดก็ได้ผ่านเข้าไปข้างๆหูของเวินจิ้ง
ความรู้สึกที่ราวกับถูกไฟฟ้าช็อตทำให้เธอตัวสั่น แค่เสียงของเขา ก็สามารถทำให้จิตใจของเธอสับสนได้
คิดถึง คิดถึงอยู่ตลอดเวลา ……
วันรุ่งขึ้น เวินจิ้งได้รับแจ้งให้ไปที่สถานีตำรวจ
กรณีที่เกี่ยวข้องกับฉือซินนั้น ขณะนี้มีความคืนหน้าในการสอบสวนใหม่ และเวินจิ้งยืนยันคำให้การอีกรอบ
ตอนนี้ทางตำรวจสงสัยว่าอานเวยได้ฆ่าฉือซินทางอ้อม แต่เวินจิ้งไม่ทราบความเกี่ยวข้องระหว่างอานเวยและตระกูลมู่
เมื่อออกจากที่นั่น มู่วี่สิงก็เข้ามาพอดี การเก้าเท้าของเวินจิ้งก็หยุดชะงัก
ดวงตาคมเข้มลึกของมู่วี่สิงนั้นลืมตากำลังเงยหน้าขึ้นมองเธอ
“รอผมอยู่ที่นี่” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว
“ฉันจะกลับแล้ว” เวินจิ้งไม่ได้สนใจเขา
ได้ยินดังนั้น มู่วี่สิงจับมือของเธอโดยไม่ตั้งใจ และพาเธอไปที่สถานีตำรวจอีกครั้ง
“มู่วี่สิง!”
“รอผมอย่างเชื่อฟัง” คำพูดของเขาสงบลง/นิ่งลง
มู่วี่สิงได้รับแจ้งจากทนายความว่า อานเวยได้รับการประกันตัวออกไปแล้ว
เวินจิ้งมองไปที่ผู้หญิงที่กำลังเดินออกมา มีสีผิวซีเซียว ใบหน้าที่ละเอียดอ่อน ระหว่างคิ้วของเธอกลับไม่ได้แสดงอารมณ์ ความสวยก็ยังงาม แต่เธอกลับไร้วิญญาณ
เธอได้ยินมู่วี่สิงเรียกเธอ “น้าอาน”
“วี่สิง รบกวนคุณแล้ว” น้าอานยิ้มอย่างไม่แยแส /น้าอานยิ้มอย่างไม่ใส่ใจใดๆ
“ฉันให้คนขับรถพาคุณกลับบ้านไปก่อน”
ขณะขึ้นรถ เวินจิ้งมองไปที่ผู้ชายข้างเขา “คุณพาฉันไปส่งที่มหาวิทยาลัยก็โอเคแล้ว”
“อยู่กินข้าวเป็นเพื่อนผมสักมื้อ” พลางเอนหลังพิงเก้าอี้ ความเหนื่อยล้าที่ดวงตาของมู่วี่สิงไม่ได้สะทกสะท้านแต่อย่างใด
เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก ชั่วพริบตาเดียวความเจ็บปวดในดวงตาเธอก็ได้ปรากฏออกมา
ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถเก๋งหยุดที่ร้านอาหารจีนร้านหนึ่งที่อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยหลินไห่
เมื่อเห็นว่ามู่วี่สิงนั้นไม่ได้ลงจากรถ เธอจึงหันกลับ แล้วพบว่าเขากำลังหลับอยู่
ในเวลานี้สีท้องฟ้าก็ได้ค่ำ ความหล่อเหลาของชายผู้นั้นได้ซ่อนอยู่ในความมืดเล็กน้อย
“มู่วี่สิง” เธอเรียกเขาเบาๆ
มู่วี่สิงไม่ได้ตอบรับ แต่คิ้วของเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ราวกับเหมือนรำคาญเล็กน้อย
เวินจิ้งยกมือขึ้น ปลายนิ้วหยุดบริเวณที่หน้าผาก
หรือเป็นเพราะหนักใจเรื่องของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป
ในระหว่างที่เขาไม่มีสตินั้น ดวงตาคมเข้มเหมือนหิวออบซิเดียนของชายผู้นั้นก็เปิดออก และเวินจิ้นได้ตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง แต่ทันใดนั้นก็ได้ถูกเขาจับที่ศีรษะ
การจูบแผดเผาที่คุ้นเคยนั้นได้จูบลงมา เวินจิ้งไม่มีทางถอย
สำหรับเรื่องแบบนี้ มู่วี่สิงมักจะยอมให้เธอดิ้นรนเสมอ
แต่เขาก็กลับอ่อนโยน จึงทำให้เธอหลงใหลอย่างไม่ตั้งใจ
“ไม่ …….”
เมื่อสติกลับมา เวินจิ้งผลักเขาออกอย่างเบาๆ
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว และค่อยๆผ่อนคลายออก
แต่ตอนนี้ทั้งสองยังคงอยู่ใกล้กันมาก และทั้งตัวเธอถูกเขากอด ไม่สนิทอย่างมาก
แก้มของเวินจิ้งเริ่มแดง และรีบผลักออกทันที
“มู่วี่สิง คุณอย่ามากเกินไป” เธอพูดด้วยความโกรธ
“ผมแค่ คิดถึงคุณมากเหลือเกิน” มู่วี่สิงบีบคิ้วของเขา น้ำเสียงเต็มไปด้วยเสียงที่แหบห้าว
ได้ยินได้ในหูของเวินจิ้ง แต่กลับแผดร้อนมาก
“ฉันกลับแล้ว” เห็นมหาวิทยาลัยอยู่ไม่ไกลนัก เวินจิ้งผลักประตูลงจากรถ และแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของมู่วี่สิง
มู่วี่สิงกลับจับมือของเธอแน่น “มาส่งเธอกลับ ยังไม่สามารถแลกกับข้าวหนึ่งมื้อเหรอ”
“วันนี้ผมยังไม่ได้กินอะไรเลย” เขาพูด
เวินจิ้งขมวดคิ้ว ความกังวลในดวงตาเธอก็เอ่อออกมา “ถึงคุณจะยุ่งกับงาน ก็ต้องใส่ใจร่างกายนะ!”
น้ำเสียงของเธอได้ตวาดด่าเล็กน้อย
พูดจบ ก็ถือว่าได้ประนีประนอมแล้ว
ในโรงอาหารมีนักศึกษาจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในมหาวิทยาลัยหลินไห่ ตอนนี้เรื่องการสอบสาธารณะที่สนามกีฬาได้แพร่กระจายไปทั่วมหาวิทยาลัยแล้ว ตอนนี้กระแสของเธอกำลังฮอตมาก อีกทั้งยังรูปร่างหน้าตาของเธอสง่างามและน่ารัก ทำให้นักศึกษาชายหลายคนแอบชื่นชอบเธอ
เมื่อเห็นเวินจิ้งเข้ามา มีนักเรียนคนหนึ่งที่นั่งอยู่หน้าประตูกำลังเดินเข้ามาด้วยความกังวล “เวินจิ้ง ฉัน ….. ฉันขอแอดวีแชทเธอได้ไหม”
เวินจิ้งตกตะลึง ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเธอได้แอดวีแชทของเพื่อนนักศึกษาหลายคนมาก ข้อความแทบจะระเบิด
แต่เธอก็ไม่มีเวลาที่ต้องมายุ่งกับโซเชียลมากนัก
“ขอโทษครับ”
“เวินจิ้ง ฉัน ……”
นักศึกษาชายกำลังตามจีบเธอ แต่เมื่อกำลังจะพูด เขาก็เผชิญหน้ากับสายตาที่เย็นชา ขณะนั้นก็ได้เกิดความกลัวขึ้นมาทันที
ออร่าของมู่วี่สิงยังคงเปล่งปลั่งอยู่เสมอ เวลานี้เขาเดินไปข้างๆเวินจิ้ง และทำให้นักศึกษาที่อยู่รอบๆต่างไม่กล้าเข้าใกล้
เวินจิ้งนั่งลง และรู้สึกได้ถึงความโกรธของมู่วี่สิง
“ดูเหมือนว่าอดีตภรรยาของฉันมีคนชอบมาประจบประแจงมาก” เขาขมวดคิ้ว
เวินจิ้งได้หยุดชะงัก ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคำพูดมู่วี่สิง
หลังจากการสอบสาธารณะครั้งก่อนที่มหาวิทยาลัย ความฮอตของเธอนั้นก็ได้มากขึ้น ในระหว่างนั้น ……ก็มีคนมาจีบจำนวนไม่น้อย
เพียงแต่เธอไม่ได้มีความคิดนี้
มู่วี่สิงได้สั่งอาหารที่เวินจิ้งชอบกินมาทั้งนั้น ในระหว่างนั้นเขาได้ทำงานไปด้วย และเวินจิ้งก็นั่งกินอย่างเงียบๆ
ครั้งที่แล้วกินข้าวด้วยกันกับมู่วี่สิง ก็ดูเหมือนว่าเรื่องก่อนหน้าได้เกิดขึ้นมานานแล้ว