บทที่ 244 คุณชอบฉันเข้าแล้ว
หลินเวยรออยู่ที่ห้องอาหารตั้งนานแล้ว เมื่อเห็นทั้งสองคนกลับมา รอยยิ้มบนใบหน้าก็ดูสดชื่นขึ้น
“เสี่ยวจิ้ง เธอมาแล้ว”
เวินจิ้งส่งยิ้มให้ นั่งลงด้านข้างหลินเวย
“คุณนายฉี” เธอทักทายออกไปอย่างมีมารยาท
สีหน้าของหลินเวยเปลี่ยนไป กลับไม่รู้ว่าควรจะออกปากอย่างไร
“ลองดูกับข้าวคืนนี้ถูกปากเธอมั้ย?” หลินเวยมองดูเวินจิ้งด้วยความหวัง
เวินจิ้งยังคงรักษาระยะห่าง “ดิฉันชอบค่ะ”
กับข้าวเป็นแบบเรียบๆ รสชาติกำลังดี แต่…..ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่รสชาติของคำว่าบ้านในใจของเวินจิ้ง
บรรยากาศของอาหารหนึ่งมื้อนี้ยังถือว่าเป็นไปด้วยดี ฉีเซินแสดงความอบอุ่น และเอาใส่ใจเวินจิ้งเป็นอย่างมาก
แต่กลับมีท่าทีเย็นชากับหลินเวยไปหน่อย
เวินจิ้งทานอาหารอย่างเงียบๆ ตอบคำถามกลับไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้แสดงความสนิทสนมอะไรมากนัก
หลังจากทานอาหารเสร็จ เวินจิ้งเดินเล่นเป็นเพื่อนหลินเวยที่สวนดอกไม้
และแล้วบรรยากาศอันสงบก็ถูกทำลายลง
“เสี่ยวจิ้ง ฉันติดค้างคำว่าขอโทษกับเธอ” หลินเวยตอบอย่างเสียงเข้ม
เวินจิ้งเม้มปาก มองดูหลินเวย บางทีเพราะว่าไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแต่เด็ก ความรู้สึกที่เธอมีต่อหลินเวย ยังคงจืดจาง
“คุณนายฉี เรื่องก็ผ่านไปแล้ว บางทีคุณก็มีความลำบากใจของคุณ คุณส่งฉันให้กับเจี่ยนอี จริงๆแล้วก็ไม่ได้ทอดทิ้งดิฉัน” เวินจิ้งยิ้มออกมา
อย่างน้อย แม่บังเกิดเกล้าของเธอก็คิดเพื่อเธอดีแล้ว
แต่ก็ไม่ได้ทิ้งเธอไว้ในสถานที่ใดที่หนึ่ง
“เสี่ยวจิ้ง ถ้าหากว่าตอนนี้ฉันอยากจะให้เธอกลับมาอยู่ข้างกายฉัน เธอจะยอมรับไหม?” สายตาของหลินเวยที่เจ็บปวดและรู้สึกสับสนแผ่กระจายออกไป เธอต้องการจะชดเชยให้เวินจิ้ง
เวินจิ้งหยุดคิดไปครู่หนึ่ง ถึงจะตอบออกมา “ตอนนี้ชีวิตดิฉันเองก็ดีมากอยู่แล้วค่ะ”
ในตาของหลินเวยเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า ไหล่เริ่มสั่นเทา ความอ่อนแอของเธอแสดงให้เวินจิ้งเห็นต่อหน้า
เธอสูดลมหายใจเข้า “ฉันรู้แล้ว แต่ฉันก็เป็นห่วงเธอ กังวลว่าคนของตระกูลมู่จะทำร้ายเธอ”
สำหรับตระกูลมู่แล้ว ท่าทีของหลินเวยและฉีเซินนั้นเหมือนกัน
เวินจิ้งขมวดคิ้ว “คุณนายฉี คุณวางใจได้ ไม่มีคนทำร้ายฉันหรอกค่ะ”
“ฉันคงจะคิดมากไปเอง ความรู้สึกของเธอกับมู่วี่สิงนั้นก็ดีมาตลอด” หลินเวยยิ้มอย่างขมขื่น
เวินจิ้งมองอารมณ์ของเธอไม่ออก
เจี่ยนอีตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่ข้างกายเธอ ฉันอยากจะดูแลเธอ อยากให้เธอมีบ้าน” หลินเวยมองดูเวินจิ้ง แต่เธอกลับดูสงบนิ่งมาก
เด็กคนนี้ เก็บความรู้สึกของตัวเองทั้งหมดไว้
เขามองดูแล้ว ไม่ใช่เรื่องดีแน่
“คุณนายฉี เรื่องบางเรื่อง ค่อยเป็นค่อยไปก็ได้ค่ะ ดิฉันจะลองยอมรับคุณดู” เวินจิ้งพูดตรงไปตรงมา
สิ่งนี้คือความประสงค์ของเจี่ยนอี ดังนั้นเธอจะรับฟัง
“ก็ได้ เธอคิดได้แบบนี้ก็ดีแล้ว”
“ดิฉันควรกลับแล้ว คุณนายฉี คุณพักผ่อนนะคะ ระวังสุขภาพด้วย” เวินจิ้งกำชับ
“เพื่อเธอแล้ว ฉันจะระวังสุขภาพให้ดี”
ก่อนจะออกไป หลินเวยให้ฉีเซินไปส่งเวินจิ้ง
เมื่อจะออกจากประตู รถของมู่วี่สิงก็จอดรออยู่
เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
เขาลงมาจากรถ มู่วี่สิงก็จับมือของเวินจิ้ง
“กลับไปกับผม อืม?” ถึงแม้จะเป็นน้ำเสียงของการถาม แต่ก็ฟังแล้วกึ่งเป็นการบังคับ
เวินจิ้งสับสนไม่ออก รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
“หรือไม่ก็จะอยู่ต่อไหม คุณแม่ผมก็อยากจะพูดคุยกับคุณเรื่องในใจอยู่” ฉีเซินเดินเข้ามา
แล้วก็จับที่ข้อมืออีกด้านหนึ่งของเวินจิ้งอย่างแข็งขัน
เวินจิ้งยืนอยู่ตรงกลาง รู้สึกลำบากใจ
เธอไม่อยากจะอยู่กับมู่วี่สิง แต่กับตระกูลฉี เธอก็ไม่อยากอยู่ต่อในตอนนี้
แต่ว่าตอนนี้ คงต้องกลับไปก่อน
“ฉีเซิน ฉันควรกลับแล้วหล่ะ” เธอตอบกลับฉีเซิน
“คุณต้องการแบบนี้จริงหรือ?” ฉีเซินมองที่เธอ เขาหรี่ตาลงอย่างเย็นชา
เวินจิ้งพยักหน้า
ถึงอย่างไร เธอก็จะไม่กลับไปที่การ์เด้นมู่เจียวานกับมู่วี่สิง
ฉีเซินมองดูเงาด้านหลังของเวินจิ้ง อารมณ์ในตาถูกเขาเก็บกดมันเอาไว้
เขาขึ้นไปที่ห้องของหลินเวย
“คุณจะให้ตระกูลหลินรู้เรื่องนี้ไหม?” ฉีเซินถามด้วยน้ำเสียงเข้ม
ตั้งแต่เล็กจนโต ความสนิทสนมระหว่างเขากับหลินเวยก็ไม่ใช่ว่าจะดีมากนัก
เธอก็ไม่ได้เข้มงวดต่อเขา และก็ไม่ได้โอบอุ้มตามใจเขานัก
“อืม ฉันจะพาเวินจิ้งกลับไปตระกูลหลิน” หลินเวยได้ตัดสินใจแล้ว
อีกทั้ง เกรงว่าหลินเจิ้นได้สืบหาว่าเวินจิ้งมีตัวตนขึ้นแล้ว
……
รถเก๋งไม่ได้ขับกลับไปยังถนนอันหนิง แต่กลับไปที่การ์เด้นมู่เจียวาน
เวินจิ้งหน้าบึ้งตึง “มู่วี่สิง ฉันไม่อยากกลับไป”
“ช่วงเวลานี้เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อการสอบของคุณ ผมจึงยอมให้คุณหรอก” เสียงของชายหนุ่มเย็นลง
“ดังนั้น ฉันต้องขอบคุณคุณสิน่ะ?” เวินจิ้งมองที่เขา
“คุณนายมู่ ผมจะไม่ทะเลาะกับคุณ” เสียงของมู่วี่สิงอ่อนโยนลง
“คุณมองว่าฉันกำลังโวยวายไม่มีเหตุผลใช่ไหม?”
มือเธอถูกมู่วี่สิงจับไว้ เขาล็อคมือเธอไว้ฝั่งที่นั่งข้างคนขับ “คุณไม่ได้โวยวายไร้เหตุผล เพียงแต่ผมไม่อยากให้คุณเข้าใจผมผิดไปตลอด ผมกับฉินเฟยไม่มีความเกี่ยวพันอะไรกัน เขาพ้นจากความผิด คนที่อยู่เบื้องหลังไม่ใช่ผม”
“หล่อนเป็นคนที่จะทำร้ายฉันใช่ไหม?” เวินจิ้งมองตาของมู่วี่สิง
เธอรู้สึกมาตลอดว่าเขาจะไม่หลอกเธอ
แต่ตอนนี้ เธอเมื่อไหร่จะสามารถมองทะลุเขาได้สักที?
“เรื่องเมื่อสามปีก่อน ฉินเฟยและฉืออี้เหิงเขาร่วมมือกัน ถ้าคุณต้องการให้ฉินเฟยได้รับการลงโทษ ผมจะช่วยคุณเอง”
เวินจิ้งอึ้งไป ในสมองกลับนึกถึงคำพูดของผอ.โรงเรียน ว่าเรื่องนี้อย่าได้ตามสืบต่อไปอีก
ให้จบแค่นี้เป็นพอ
เธอเดิมทีก็แค่ต้องการจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะเกี่ยวพันกับเรื่องที่ใหญ่โตเช่นนี้ไปได้
เธอต้องการให้คนที่ทำร้ายเธอนั้นได้รับการลงโทษ แต่เบื้องหลังดูเหมือนว่าจะมีอิทธิพลที่ใหญ่กว่าคอยขัดขวางอยู่
“คุณทำได้หรือ?” เวินจิ้งถามด้วยเสียงต่ำ
“ผมไม่แน่ใจ แต่หากว่าเป็นเรื่องที่คุณอยากจะทำ ผมก็จะช่วยคุณทำเอง”
“ทำไมหล่ะ?” เวินจิ้งมองที่เขา
ความเป็นจริงแล้ว เขาเองก็ไม่จำเป็น
“เพราะคุณคือคุณนายมู่ เป็นสิ่งที่ผมควรจะทำ”
เวินจิ้งส่ายหน้า “เรื่องนี้คุณไม่จำเป็นต้องสืบแล้ว ฉันไม่ต้องการจะตามเรื่องนี้แล้ว เพียงแต่ ฉันเองก็จะไม่เชื่อใจคุณ”
เธอเชื่อแค่สิ่งที่เธอเห็น
“ดังนั้น คุณก็ยังต้องการจะตีรวนกับผม หืม?” ดวงตาของมู่วี่สิงยิ่งดูอันตราย
สายตาอันน่ากลัวเริ่มแผ่กระจาย เวินจิ้งหลบสายตาเขา
แต่กลับถูกเขาดึงใบหน้าไป เธอจึงต้องสบตากับเขา
เธอกัดริมฝีปากตัวเอง เวลานี้ อยากจะหนี
ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะถูกเขาควบคุมอยู่ตลอด เธอเองก็ควรมีอิสระของตัวเอง!
“มู่วี่สิง ความสัมพันธ์ระหว่างเราเป็นแค่ทะเบียนสมรสใบเดียว ระหว่างเรา—–ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรต่อกัน!” เธอโพล่งเสียงดังออกไป
หลังพูดจบ ในใจของเธอก็รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวนัก
นานแล้วที่ไม่ได้มีความรู้สึกเช่นนี้ ที่ไหนได้เธอยังคงรู้สึกเจ็บปวด
ยังคงเจ็บปวดเพราะผู้ชายคนเดียว
“จริงหรือ?” มู่วี่สิงหรี่ตาลงอย่างเย็นเฉียบ สายตาอันครุ่นคิดในใจมองตรงมา
เวินจิ้งรู้สึกว่าตัวเองเหมือนอยู่ในคุก ตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว
หนาวมาก
“ใช่สิ หรือว่า คุณชอบฉันเข้าแล้ว?” เวินจิ้งกล่าวออกไป
เธอมองดูหน้าอันหล่อเหลาของมู่วี่สิง ชายหนุ่มผู้ที่ดูอ่อนโยนแต่เย็นชาคนนี้ เขานั้น กลับไม่มีความรู้สึกหรือ?
เธออยากรู้ยิ่งนัก
เพียงแต่ เธอดูไม่ออก
สีหน้าของมู่วี่สิงดูเรียบเฉย ที่พอจะดูออก ก็เป็นเพียงอารมณ์โกรธอันเล็กน้อยตอนนี้
นอกจากนี้แล้ว ก็ไม่มีสิ่งอื่นใด
ใจของเธอค่อยๆลึกลงไป สุดท้ายแล้วก็ยังคงสิ้นหวัง
ทำไมเธอถึงได้ ชอบเขาได้ขนาดนี้
ดวงตาของเธอเริ่มแดงขึ้น
มู่วี่สิงเม้มริมฝีปาก แรงในมือเริ่มคลายลง มองดูเวินจิ้ง ในตาลึกซึ้ง รู้สึกร้อนขึ้น และสับสน
เขาปล่อยเธอ
“ผมเคยพูดแล้ว ผมจะไม่ชอบคุณ”