บทที่197 เพื่อภรรยาแล้ว ก็สามารถข่มขู่เขาได้
ในรถ เวินจิ้งมองชายที่นั่งด้านหลังโดยไม่ตั้งใจ คิดไม่ถึงว่ามู่วี่สิงจะมารับเธอได้
งั้นเมื่อกี้เขา……ก็เห็นฉีเซินแล้วสิ?
มองไปที่เวินจิ้ง พร้อมจับมือที่เย็นเฉียบของเธอ
“ช่วงนี้อากาศเย็นแล้วนะ ยังจะใส่น้อยชิ้นอีก” เขาพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิเล็กน้อย
“นี่ไม่กลับไปแล้วหรอ?” เวินจิ้งยิ้มๆ
“วันนี้คุยได้อย่างราบรื่นมั้ย?” มู่วี่สิงถาม
เวินจิ้งส่ายศีรษะ “โป๋ทงที่นั่นไม่ค่อยร่วมมือกันเลย วันนี้เลยไม่มีอะไรคืบหน้า ฉันจะต้องรีบ
กลับไปส่งอีเมล์ให้คุณเสี้ยง”
“ไปกินข้าวกันก่อน” มู่วี่สิงกลับออกคำสั่ง
เวินจิ้งอยากโต้แย้ง แต่มู่วี่สิงแสดงสีหน้าที่อึมครึม เลยได้แต่พยักหน้าตกลง
เวลาใกล้ค่ำแล้ว มู่วี่สิงได้จองร้านอาหารญี่ปุ่นใกล้ๆโรงแรม เวินจิ้งพอนั่งลงก็รีบเปิดคอมทันที
“มู่วี่สิง คุณอย่าโกรธเลยนะ เรื่องวันนี้ฉันจะต้องรีบเอาคำตอบกับคุณเสี้ยง” เวินจิ้งเงยหน้าและ
คอยมองมู่วี่สิง
เขาทำหน้าเครียด แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ปฏิเสธ
กลับส่งข้อความให้เสี้ยวหงว่า : เข้ามาที่ เมืองBมาจัดการเรื่องของโป๋ทง ด้วย
เสี้ยวหง : ไม่ใช่ว่าฉันส่งให้ภรรยาคุณไปทำแล้วหรอ?
มู่วี่สิง : ตอนนี้โป๋ทง ใครเป็นคนกุมอำนาจคุณไม่รู้หรอ?
เสี้ยวหง : ……ฉันรู้ แต่นี่ไม่ใช่หน้าที่ของฉันนะ
มู่วี่สิง : ให้คุณมาก็ต้องมา!
เสี้ยวหงกลั้นไม่ไหวแล้ว เลยโทรไปหาเขา “วี่สิง นี่คุณหลอกฉัน! สัญญาก็เซ็นแล้ว ให้ฉันวิ่งไป
ทำอะไร!”
“คุณไม่อยากนั่งตำแหน่งนี้แล้ว?” มู่วี่สิงพูดอย่างเมินเฉย
เสี้ยวหงชะงัก จุ่ๆ เพื่อภรรยาแล้ว ก็สามารถข่มขู่เขาได้!”
“เห็นแฟนดีกว่าเพื่อน!”
“อ่ะหะ เรื่องของโป๋ทงไม่ได้ราบรื่นขนาดนี้หรอก” มู่วี่สิงพลางขมวดคิ้ว
ในช่วงเวลาที่คดเคี้ยว ประสบการณ์ของเวินจิ้งยังน้อย จัดการขึ้นมาคงจะลำบากมาก
อีกอย่าง โป๋ทงที่มีตำแหน่งสูงคือฉืออี้เหิงและฉีเซิน สองคนนี้ เขายิ่งไม่อยากให้มาแตะต้อง
เวินจิ้ง
“ฉันรู้ ในเมื่อคนที่อยู่เบื้องหลังคือฉีเซิน แน่นอนที่จะต้องมีการลวนลาม ฉันเข้าไปมันจะไม่ทำ
ให้เขาหมดโอกาสที่จะแผลงฤทธิ์หรอกหรือ?” เสี้ยวหงเหล่ตามอง
ฉีเซินสำหรับพวกเขาแล้วเป็นปลาใหญ่หนึ่งตัว ในเมื่อเป็นปลาใหญ่ ก็ไม่ใช่วันสองวันที่จะจับ
ขึ้นมาได้
“ให้หนานเฉิงเข้ามา”
และในเวลานี้ ลี่หนานเฉิงก็อยู่ที่ห้องทำงานบริษัทการผลิตยาเทียนอีแล้ว
“เสี้ยวหง ทำไมต้องลากฉันลงน้ำด้วย!” ลี่หนานเฉิงพูดอย่างไม่พอใจ
“คุณไม่อยากเข้าใจพี่สะใภ้มากกว่านี้หรอ นี่เป็นโอกาสที่ดีเลยนะ” เสี้ยวหงยกริมฝีปากบางๆ
“ฉันไม่ได้อยากจะแบ่งเบาภาระให้เธอ” ลี่หนานเฉิงขมวดคิ้ว
“ทำอะไรไม่ได้ วี่สิงเห็นด้วยแล้ว!” เสี้ยวหงยิ้ม
“ไอ้…! พวกคุณแน่มาก! รังแกฉัน! คนที่เฉลียวฉลาดมีความสามารถอย่างฉีเซิน คุณก็กล้าที่จะ
ร่วมงานกับเขา!” ลี่หนานเฉิงทำหน้านิ่ง ตอนแรกบริษัทการผลิตยาเทียนอีจะแบ่งขายให้โป๋ทง
เขาก็เคยเตือนเสี้ยวหงแล้ว แต่เสี้ยวหงกลับหาเรื่องใส่ตัวเอง
“การแบ่งขายของโป๋ทง ถ้าหากจัดการสำเร็จอย่างราบรื่น วี่สิงให้ผลประโยชน์คุณไม่น้อย
แน่นอน”
“ฉันคือคนในบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปนะ ไม่อยากยุ่งเรื่องของบริษัทเทียนอี! “ ลี่หนานเฉิงยังคงปฏิเสธ
“งั้นคุณก็ไปบอกกับมู่วี่สิงเอง คุณเดาว่าเขาจะเห็นด้วยหรือไม่?” เสี้ยวหงหยิบกุญแจรถ เดินจาก
ไปอย่างช้าๆ
ลี่หนานเฉิงกัดฟันอย่างโมโห สุดจะประนีประนอม เข้าไปใน เมืองB ทันที
เช้าวันถัดไป เวินจิ้งเช้าๆ ก็ตื่นขึ้นมาแล้ว จะดูว่าเสี้ยวหงส่งอีเมล์ให้เธอแล้วรึยัง?
พอพลิกตัว เอวบางๆ ก็ถูกชายข้างๆโอบกอด และจูบที่เร่าร้อน
เวินจิ้งถึงแม้จะเคยชินแล้ว แต่ตอนเช้าๆ พวกเขาทั้งคู่ยังไม่ได้แปรงฟัน……
บางทีก็จะขัดขืนบ้าง……
“โอ้……”ในเวลานี้ใช่เลย!
“มู่วี่สิง คันจัง……” มือของเขาลูบไล้ที่หลังเวินจิ้งตลอด เวินจิ้งอดไม่ได้ที่จะหดตัว
มู่วี่สิงลืมตาขึ้น มองลงที่ใบหน้าขาวผ่องและเนียนนุ่มของเวินจิ้งอย่างเร่าร้อน
“ขอนอนอีกหน่อย” เสียงที่นุ่มนวลของเขาทำให้คนหลงใหล
ใจของเวินจิ้งไม่อยู่บนนี้แล้ว ผลักเขาออก “หยุดกวนได้แล้ว”
“อืม เธอแหละหยุดกวนได้แล้ว รีบนอน” มู่วี่สิงจับศีรษะเธอไว้ในอ้อมกอดเขา
เวินจิ้งดิ้นออกอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้ผล
กลับรู้สึกไวต่อการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของมู่วี่สิง
เวินจิ้งแก้มแดงขึ้นมา ว่ากันว่า ตอนเช้าจุดนั้นของผู้ชายจะแข็งแรงที่สุด
ทันใดนั้นเธอจึงไม่กล้าขยับอีกเลย แต่พอนึกถึงงานค่อยๆ เปิดปากพูด “มู่วี่สิง ฉันจะต้องไปดู
อีเมล์จริงๆแล้วนะ”
พูดเสร็จ เวินจิ้งก็เอาคอมที่อยู่ข้างๆมา เห็นมู่วี่สิงยังคงง่วงมาก เธอพูดอย่างเอาใจว่า “ฉันไม่ลง
จากเตียงหรอก คุณนอนไปนะ”
“อืม เดี๋ยวสักพักจะให้เธอลงจากเตียงไม่ได้” มู่วี่สิงตอบเสียงเบาๆ
เวินจิ้งเปิดคอมแล้ว ได้ยินคำพูดของมู่วี่สิงแต่ไม่ได้คิดอะไรมาก จึงถามว่า “ได้ที่ไหนกันคะ ฉัน
จะต้องออกไปนะ”
พูดไปเปิดอีเมล์ไป เมื่อวานเสี้ยวหงตอบอีเมล์เขามาแล้ว ลี่หนานเฉิงจะมาในฐานะผู้จัดการ
ชั่วคราว และมาคุยรายละเอียดของงานกับโป๋ทง เวินจิ้งร่วมประชุมอยู่ข้างๆ
มีผู้บริหารระดับสูงมาด้วย เวินจิ้งกลับรู้สึกอุ่นใจไม่น้อย อย่างไรก็ตามโป๋ทง เสนอเงื่อนไขมาเยอะมาก
ที่แท้ประสบการณ์ของเธอยังไม่พอ แต่ว่า ลี่หนานเฉิงเหมือนจะไม่ใช่คนของบริษัทการผลิตยา
เทียนอี?
เธอได้มองไปทางมู่วี่สิงที่อยู่ข้างๆ โดยไม่ได้ตั้งใจ เธอรู้ว่าความสัมพันธ์ลี่หนานเฉิงกับมู่วี่สิงไม่
ธรรมดา
“มู่วี่สิง ลี่หนานเฉิงไม่ใช่คนของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปหรอ?” เวินจิ้งถามเขา
เธอคิดว่าเขาต้องรู้เรื่องที่ลี่หนานเฉิงจะมาแน่นอน
เพียงแต่ บางคนหลับไปแล้ว?
เวินจิ้งทำได้เพียงโทรหาลี่หนานเฉิง “ประธานลี่ ฉันคือเวินจิ้งนะคะ”
“ฉันพึ่งลงจากเครื่อง มู่วี่สิงล่ะ?” ลี่หนานเฉิงถาม
เวินจิ้งมองไปที่ผู้ชายที่กำลังนอนอยู่ ไม่ออกเสียง
ลี่หนานเฉิงชะงัก “โย เมื่อคืนคงหนักล่ะสิ?”
เวินจิ้ง:……
“ประธานลี่ ฉันช่วยจองโรงแรมให้คุณเรียบร้อยแล้วนะ” เวินจิ้งรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
“อืม ฉันจะถึงแล้ว”
หลังจากวางสาย ได้กลิ่นไอที่คุ้นเคยจากด้านหลัง เวินจิ้งหันกลับ มู่วี่สิงก็ตื่นนอนแล้ว
“จะออกไปกี่โมงหรอ?” มู่วี่สิงถาม
“อีกสักพักอะ”
“กินข้าวเช้าเป็นเพื่อนฉันนะ”
เวินจิ้งมองดูเวลา ก็รีบผลักมู่วี่สิงเข้าไปล้างหน้าแปรงฟัน
ผู้ชายกลับอุ้มเธอชิดกำแพง รูปร่างที่สูงยาวครอบคลุมลงมา และจูบเวินจิ้งอีกครั้งหนึ่ง
ผู้ชายคนนี้……จูบอย่างบ้าคลั่ง!”
กว่าสองคนจะล้างหน้าแปรงฟันเสร็จไม่ง่ายเลย พร้อมเดินลงไปร้านอาหารกับมู่วี่สิง พึ่งสั่ง
อาหารเสร็จ ลี่หนานเฉิงก็โทรมาพอดี
เวินจิ้งอยากรับสาย แต่ถูกมู่วี่สิงหยิบไปก่อน
“ขึ้นมาชั้นสอง แล้วหาที่นั่งเอง” มู่วี่สิงพูดด้วยน้ำเสียงที่ออกคำสั่ง
“เมียคุณล่ะ?” ลี่หนานเฉิงถามอย่างโมโห
เขามาตั้งไกล แต่กลับไม่มาต้อนรับด้วยตัวเอง!
“เธอกินข้าวเช้าเป็นเพื่อนฉันอยู่” มู่วี่สิงพูดอย่างแผ่วเบา
“ฉันก็จะให้คุณเป็นเพื่อนฉันด้วย!” ลี่หนานเฉิงยกริมฝีปากบางๆ
มู่วี่สิงกลับหัวเราะ “ฝันไปเถอะ”
พูดเสร็จ ก็รีบวางสายอย่างเร็ว
เวินจิ้งไม่รู้สองคนพูดอะไรกัน แต่ว่าลี่หนานเฉิงมาเพื่อหาเธอ ราวกลับว่าถูกมู่วี่สิงด่า เวินจิ้ง
กังวลเล็กน้อย
“คิดอะไรอยู่?” เห็นเวินจิ้งเหม่อ มู่วี่สิงหันหน้าเธอกลับมา
เวินจิ้งส่ายหัว มองเห็นร่างของลี่หนานเฉิง เธอชี้ไปทางนั้น “ประธานลี่มาแล้ว?”
“อืม”
ลี่หนานเฉิงแน่นอนว่าไม่ได้ฟังที่มู่วี่สิงบอกให้ไปหาที่นั่งเอง แต่กลับนั่งลงข้างๆเวินจิ้งอย่าง
ตามใจ!