บทที่ 165 คุณส่งฉันขึ้นไปได้ไหม
กลางคืนแล้ว ความสดใสของเมืองนี้พึ่งจะเริ่มขึ้น
เวินจิ้งรีบเดินเข้าคลับ ถามแล้ว จึงหาห้องที่อั้ยเถียนอยู่ได้อย่างเร็ว
เปิดประตู กลิ่นบุหรี่เตะจมูก ทำให้เธอไอ เวินจิ้งนั่งข้างอั้ยเถียน ในห้องมีผู้บริหารระดับสูงของ บรัทลู่เซิง และชายอายุประมาณสี่สิบกว่า
“เวินจิ้งเป็นเพื่อนร่วมงานฝ่ายขายของพวกเรา คุณเฉิน คุณดูเอกสารสัญญาได้เลยค่ะ “ อั้ยเถียนยื่นเอกสารไป
หน้าเธอมีความแดง มองออกว่าเธอดื่มเหล้าไปไม่น้อย เวินจิ้งห่วงเธอเล็กน้อย
อั้ยเถียนจะดื่มเหล้าอีกแล้ว เธอห้ามไว้ “ ให้ฉันดื่มเถอะ “
อั้ยเถียนรีบแย่งแก้วเหล้ามา “ อย่าเลย แก้วนี้แก้วเดียวฉันไม่อยากจะแบกเธอกลับบ้านหรอกนะ “
เวินจิ้งขมวดคิ้ว แต่มองอั้ยเถียนที่ดื่มไปเรื่อยเรื่อย แม้เธอจะคอแข็งขนาดไหน แต่ก็ไม่ควรดื่มแบบนี้
“ เอกสารฉันต้องการใช้เวลาในการดู คุณอั้ย ไม่งั้นพวกฉันเปลี่ยนที่ ? “ ชายหยี่ตาขึ้น สั่งให้เลขากลับก่อน แล้วเดินมาทางอั้ยเถียน
อั้ยเถียนแขวนรอยยิ้มไว้บนหน้า “ ถ้างั้นพวกเราออกไปที่ห้องโถง ? “
ชายขมวดคิ้วไปมา “ ไปโรงแรมฉันที่นั่น คนน้อย พวกฉันก็คุยได้สบาย “
พูดจบ เขาก็มองไปทางเวินจิ้ง มุมปากเผยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย “ คุณเวิน ไปด้วยกันเถอะ ? “
“เวินจิ้งยังมีธุระ คุณเฉิน ฉันไปกับคุณเถอะ “ อั้ยเถียนส่งสายตาไปทางเวินจิ้ง ให้เธอรีบกลับไป
แต่เวินจิ้งจะกลับจริงได้ที่ไหน ผู้ชายคนนี้ดูแล้วไม่ง่ายขนาดนั้นแน่ ไม่แน่ ไปถึงโรงแรม อั้นเถียนก็โดนกลืนอย่างสะอาดหมดจดแล้ว
เห็นเวินจิ้ง อั้ยเถียมีสีหน้ากังวล กำลังจะเดินออกจากคลับ ชายก็มาดึงเวินจิ้งมาที่ข้างเขา “ ในเมื่อคุณเวินอยากจะไปด้วยกัน ถ้างั้นก็มาเถอะ “
“คุณเฉิน เวินจิ้งไม่ได้เข้าร่วมกับงานครั้งนี้ ก็อย่าไปเสียเวลาเธอเลย “
“เธอว่ายังไง คุณเวิน ? “ สายตาชายมองเวินจิ้ง
เวินจิ้งรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง เธอก็อยากไป แต่ข้อแม้คือเธอต้องพาอั้ยเถียนไปด้วย
เธอรู้ว่างานร่วมมือครั้งนี้สำคัญต่ออั้ยเถียนมาก แต่สำคัญแค่ไหนก็ไม่ควรทำเรื่องเกิน
“ คืนนี้ฉันก็ไม่มีธุระอะไร “ เวินจิ้งพูด
อั้ยเถียนทนไม่ไหว จึงเหยียบไปที่เท้าเวินจิ้งอย่างโกรธ แต่เธอดึงดันมาก ถ้าอั้ยเถียนไม่ไป เธอก็จะไม่ปล่อยเธอไว้คนเดียว
โรงแรมที่คุณเฉินพัก ก็อยู่ตรงหน้า ระหว่างทางอั้ยเถียนอธิบายงานให้เขา แต่ชัดเจนว่ากระจิตกระใจชายไม่ได้อยู่ที่เรื่องนี้
ถึงหน้าโรงแรมแล้ว อั้ยเถียนเสนอเอง ว่าให้ไปห้องอาหารชั้นหนึ่ง คุณเฉินกลับส่ายหัว “ ไปห้องฉันเถอะ สงบดี“
“ในเมื่อแบบนี้ เวินจิ้ง เธอกลับไปก่อนเถอะ “ อั้ยเถียนพูดออกมา
เวินจิ้งสีหน้าเปลี่ยน รีบดึงอั้ยเถียนไว้ “ คุณเฉิน มีเรื่องอะไรเราคุยกันที่นี่ ! “
คุณเฉินหัวเราะ หยี่ตาแล้วมองไปที่บนตัวเวินจิ้ง “ ที่นี่คนเยอะไป ถ้าพวกเธออยากให้ฉันเซ็นสัญญาในคืนนี้ก็ขึ้นไปกับฉัน “
“ คุณเฉิน ถ้างั้นฉันขึ้นไปกับคุณก็ได้แล้ว “ พูดจบ อั้ยเถียนก็บังเวินจิ้งไว้
ชายก็ไม่ได้บังคับอะไร อั้ยเถียนรีบเดินเข้าลิฟต์ เวินจิ้งอยากเข้าไป กลับโดนอั้ยเถียนห้ามไว้หน้าลิฟต์
“ ไว้ใจเถอะ “ เธอพูดข้างหูเธอเบาเบา
แต่เวินจิ้งจะไว้ใจได้ที่ไหน มองชั้นที่ลิฟต์หยุด ก็ขึ้นไปด้วยลิฟต์อีกด้าน
แต่ประตูลิฟต์ใกล้จะปิด ก็มีร่างที่คุ้นเคยเดินเข้ามา
“ คุณเสี้ยง “ เขาคือเจ้านาย เวินจิ้งทักทายอย่างมีมารยาท
เสี้ยวหงมองชั้นที่เวินจิ้งกด จึงเข้าใจทันที
“ เธอกลับไปเถอะ “ เสี้ยวหงเปิดปาก
“ ท่านมาหาอั้ยเถียน ? “ เวินจิ้งเหมือนจะเข้าใจแล้ว
“ เธอมักจะหาเรื่องแบบนี้ ครั้งหน้าฉันจะไปสนใจเธอแล้ว “ แม้ภายนอกเสี้ยวหงโกรธ แต่น้ำเสียงก็ปิดบังความห่วงใยไม่ได้
“ติ้ง” ลิฟต์หยุดอยู่ที่ชั้น 29
เวินจิ้งมองหลังเสี้ยวหงที่เร่งรีบ คิดถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นกับอั้ยเถียน รีบตามขึ้นไปอย่างกังวล
เสี้ยวหงได้บัตรห้องเรียบร้อยแล้ว เปิดประตู อั้ยเถียนรีบวิ่งออกมา กระโปรงบนตัวโดนฉีกไปเรียบร้อยแล้ว
“แก …… ไปไกลไกลนะ ! “อั้ยเถียนพูดอย่างก้าวร้าว
เห็นเสี้ยวหง อยากจะกอดเขาไว้ แต่ก็เลือกเดินไปทางเวินจิ้ง
เสี้ยวหงสีหน้ามืดหมอง จ้องไปที่สายตาของคุณเฉิน พูดอย่างเย็นชา“ ตั้งแต่ตอนนี้ เทียนอีจะไม่เซ็นสัญญากับบรัทลู่เซิง ”
“คุณเสี้ยง ไม่จำเป็นต้องทำเพื่อผู้หญิงคนเดียว แล้วแตกแยกความสัมพันธ์ของพวกเราหรอก “ ชายมีความสับสน
เสี้ยวหงไม่มีสีหน้าอะไร “ เธอคือผู้หญิงของฉัน “
คำเดียวนั้น อั้ยเถียนตกตะลึงทันที ยกสายตามองร่างสูงของชายคนนี้ คำพูดของเขา ทบทวนอยู่ในหัวเธอตลอดเวลา
เธอคือผู้หญิงของฉัน
เพื่อคำนี้ เธอพยายามเยอะมาก และรอนานมาก
เวลานี้ น้ำตาก็ทนไม่ไหวที่จะพุ่งออกมา
เวินจิ้งขมวดคิ้วย่างทำอะไรไม่ได้ เช็ดน้ำตาให้อั้ยเถียน “ เธอไม่ได้เรื่องขนาดนี้ตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย ? “
ถ้าเสี้ยวหงไม่มา วันนี้เธอคงจบแล้ว !
“ใช่ ฉันไม่ได้เรื่องขนาดนี้แหละ เวินจิ้ง เธอไม่เข้าใจ เพื่อเขา ฉันสามารถทำได้ถึงขนาดไหน “ อั้ยเถียนพูดเบาเบา
มองเสี้ยวหงที่เดินมาทางนี้ อั้ยเถียนรีบเช็ดน้ำตา เงยหัวขึ้นแล้วใจเย็น
สายตาเสี้ยวหงหยุดอยู่ที่ต้นขาที่โชว์ออกมาของเธอ กระโปรงโดนฉีก แม้จะไม่นับว่าเห็นหมด แต่ก็ยังคงโชว์มากเกินไป
สายตาเขาเย็นชาสักพัก โทรออกทางมือถือ สั่งให้ผู้จัดการนำบัตรห้องขึ้นมา
เขาอุ้มอั้ยเถียนขึ้นมา พูดออกมา “ เธอยิ่งอยู่ยิ่งท้าทายอารมณ์สุดขีดของฉันแล้ว “
อั้ยเถียนก้มหัวลง ริมฝีปากกลับค่อยค่อยพูดขึ้น “ ฉันทำอะไรผิดหรอ ? งานนี้คุณเป็นคนบอกว่าต้องเซ็นให้ได้ฉันเป็นแค่ลูกจ้างของคุณ ก็ต้องฟังคำสั่งของคุณ ไม่ว่ายังไงก็ต้องเซ็นให้ได้ “
เสี้ยวหงโกรธ “ ไม่ว่ายังไงในที่นี้ คือเธอต้องปกป้องตัวเอง “
“ คุณไม่ได้บอกนี่ อีกอย่าง คุณห่วงฉันด้วยหรอ ? “ อั้ยเถียนทำสีหน้า
เสี้ยวหงหยี่ตาขึ้นอย่างเย็นชา เข้าใกล้อั้ยเถียนจนติดผนัง …..
เวินจิ้งจากไปอย่างรู้ตัว ในใจรู้สึกถึงความกล้าของอั้ยเถียนเมื่อกี้
เดินออกจากลิฟต์ เห็นชายหญิงที่เดินเข้ามาจากหน้าโรงแรม เวินจิ้งรู้ตัว แล้วรีบถอยหลัง ยืนอยู่ที่หลังเสาหินอ่อน
เพียงไม่กี่เมตร ลู่หวั่นพิงอยู่ในอ้อมกอดของมู่วี่สิง ไหล่สั่นไปสั่นมา ชัดเจนว่าเธอกำลังร้องไห้
มู่วี่สิงยื่นผ้าเช็ดให้เธอ ถอยหลังเว้นระยะห่าง
ลู่หวั่นกลับดึงแขนเขาไว้แน่น “ วี่สิง ฉันกลัวจัง …… ทำไมเขาถึงอยู่ที่นี่ คราวหลังเขาก็จะตามติดฉันใช่ไหม……..”
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว พูดเสียงต่ำ : “ เธอไม่อยากเห็นเขา ฉันจะจัดการเขาเอง คราวหลังก็ห้ามเขาเข้าเมืองหนานเฉิง “
“ จริงหรอ ? “ สายตาลู่หวั่น ดูมีความหวัง
มู่วี่สิงพยักหน้า “ เธอกลับไปเถอะ ฉันสั่งให้บอดี้การด์ดูแลเธอแล้ว เขาเข้าใกล้เธอไม่ได้แล้ว “
“แต่ ….. ฉันกลัว วี่สิง คุณส่งฉันขึ้นไปได้ไหม ? “
น้ำตาลู่หวั่นไหลลงมา ร่างกายเธอสั่นอยู่ตลอดเวลา ยิ่งอยู่ยิ่งเข้าใกล้ สุดท้ายทนไม่ไหวที่จะกอดมู่วี่สิง