บทที่ 125 คุณอยากไปกับผมเหรอ
แก้มทั้งสองข้างของเวินจิ้งเปลี่ยนเป็นสีแดงจัด ก่อนที่เธอจะได้โต้ตอบกลับไป เธอก็ถูกมู่วี่สิงคว้าตัวเข้าไปกอดอยู่ในอ้อมแขนของเขา เมื่อเดินเข้าไปยังภายในห้องนอน เขาก็อุ้มเธอไปวางลงบนเตียง
“ฉันยังบาดเจ็บนะ……” เวินจิ้งเอ่ยปากขัดขืนโดยไม่รู้ตัว
“วางใจได้ ผมจะไม่ทำให้ตรงนั้นเจ็บหรอก” รูปร่างสูงยาวของมู่วี่สิงปกคลุมตัวเธอ มือถูกวางไว้เหนือศีรษะ
เวินจิ้งเงยหน้าขึ้น มู่วี่สิงคุ้นเคยกับร่างกายของเธอเป็นอย่างดี ความรู้สึกแล่นผ่านเข้ามาอย่างรวดเร็วเหลือเกิน จนทำให้เวินจิ้งไม่สามารถต้านทานได้
เสียงฟุบดังขึ้น เวินจิ้งถูกชายหนุ่มจับนอนคว่ำหน้าบนเตียงนอน และในตอนนั้น โทรศัพท์มือถือของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น
แต่เขากลับเมินเฉย ริมฝีปากอันเรียวบางค่อย ๆ โลมไล้ไล่ลงไปตามด้านหลังคอของเวินจิ้งทีละน้อย
เวินจิ้งรู้สึกสั่นเทิ้มเล็กน้อย เธอหันศีรษะกลับมา และเห็นว่าโทรศัพท์มือถือของมู่วี่สิงยังคงกะพริบอยู่ มันเป็นโทรศัพท์มือถือส่วนตัวของเขา โดยปกติแล้ว มีเพียงเรื่องสำคัญหรือคนรู้จักใกล้ชิดเท่านั้น ที่จะต่อสายมาที่โทรศัพท์เครื่องนี้ได้
“มู่วี่สิง คุณฟังโทรศัพท์ก่อน…..” เวินจิ้งเอ่ยปาก เธอดึงผ้าห่มมาคลุมตัวและลุกขึ้นนั่ง
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ดวงตาของเขายังคงแผดเผาด้วยความเร่าร้อนเหมือนเช่นเดิม แต่เมื่อสายตาของเขามองไปยังโทรศัพท์มือถือ เขาก็กดรับสายนั้น
“คุณหมอมู่ คุณรีบบินมาที่ประเทศ C ด่วนที่สุดเลยได้ไหม ผมไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ของผู้ป่วยได้แล้ว” อานจิ้งโทรศัพท์มาหาเขา ผู้ป่วยที่มู่วี่สิงลงมือผ่าตัดในประเทศ C เมื่อวันก่อน ปรากฏอาการแทรกซ้อนร้ายแรงที่เกิดขึ้นหลังจากการผ่าตัดให้เห็นอยู่ตลอดเวลา
“อืม ฉันจะไปถึงพรุ่งนี้ตอนเที่ยง ตอนนี้เขามีอาการเป็นยังไงบ้าง” มู่วี่สิงหรี่ตาลง สีหน้าเคร่งเครียด
เวินจิ้งรอให้มู่วี่สิงกดวางสายโทรศัพท์ หลังจากนั้นจึงเอ่ยปากถามเรื่องราวทั้งหมด “พรุ่งนี้คุณต้องบินไปประเทศ C เหรอคะ”
“อือ ธุระทางนั้นยังไม่เรียบร้อยดี”
“ขอโทษที่ฉันต้องทำให้คุณรีบบินกลับมาแบบนี้ คืนนี้คุณพักผ่อนให้เต็มที่ดีกว่าค่ะ เลิกทำงานหนักได้แล้วนะ” เวินจิ้งสวมกอดเขา และเอ่ยปากด้วยความรู้สึกกังวล
“ถ้าคุณขอโทษผมอีกครั้ง ผมจะไม่ฟังคุณและทำงานหนักให้มากขึ้นไปอีก!” มู่วี่สิงหรี่ตาของเขาลง และกดตัวเวินจิ้งลงกับเตียงอีกครั้งหนึ่ง
เธอร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ คุณพระช่วย พละกำลังของผู้ชายคนนี้ช่างน่าทึ่งเหลือเกิน!
แต่อย่างไรก็ตาม มู่วี่สิงจะต้องรีบไปขึ้นเครื่องบินในวันรุ่งขึ้น สุดท้ายแล้ว เขาก็ไม่ได้แกล้งเธอเหมือนเดิมอีก
เวินจิ้งเอนกายพิงเข้าไปในอ้อมแขนของเขา ตอนที่เธอถูกลักพาตัวไปนั้น ทำให้เธอยากที่จะนอนหลับได้ตลอดทั้งคืน แต่ในที่สุดตอนนี้ เธอก็สามารถหลับตาพักผ่อนได้อย่างเต็มที่แล้ว
มือของเธอสวมกอดมู่วี่สิงเอาไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว
แต่สายตาของชายหนุ่มกลับจ้องมองออกไปยังบรรยากาศกลางคืนอย่างลึกซึ้งและคาดเดาไม่ได้ยิ่งขึ้น
วันรุ่งขึ้น เวินจิ้งตื่นแต่เช้าเพื่อช่วยจัดกระเป๋าให้มู่วี่สิง เมื่อเธอคิดกลับไปกลับมาหลายต่อหลายครั้ง เธอก็ตัดสินใจจัดกระเป๋าของเธอด้วยเช่นกัน
อย่างไรเสีย ภาระงานโดยปกติของเธอคือการรายงานผลการทดลองให้มู่วี่สิง ในเมื่อตอนนี้เขาไม่ได้ทำการทดลองอื่นใด การติดตามเขาไปก็อาจจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า
เมื่อเห็นว่าเวินจิ้งเก็บกระเป๋าของตัวเธอเอง มู่วี่สิงพลันยิ้มขึ้นมา อันที่จริง เขาเองก็วางแผนเช่นนี้เอาไว้แล้วตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้
“คุณอยากไปกับผมเหรอ” มู่วี่สิงผลักเธอประชิดติดกำแพง และขังเธอเอาไว้ภายในอ้อมแขนอย่างสมบูรณ์
“คุณคือหัวหน้าของฉัน ฉันก็ควรต้องตามคุณไปทำงานด้วยไม่ใช่เหรอคะ” เวินจิ้งแสดงทัศนคติในการทำงานของเธอออกมา
“ในเมื่อคุณนายมู่เป็นคนริเริ่มเองแบบนี้ ผมก็คงไม่ปฏิเสธหรอก”
เวินจิ้งคว้าเนกไทของเขาเอาไว้แน่น และลงมือผูกเนกไทให้ทันที เธอพลันยิ้มและพูดออกไปว่า “แหม ฉันทำให้คุณต้องลำบากใจขนาดนั้นเลยเหรอ”
“คุณเป็นภาระของผม” มู่วี่สิงพูดเสียดสีเธอ
เวินจิ้งตีหน้านิ่งในทันที “คุณหมายถึงใคร! ฉันรับปากว่าฉันจะไม่สร้างปัญหาให้คุณอีก!”
มู่วี่สิงหยิกจมูกที่เล็กกระจุ๋มกระจิ๋มของเธอ และยิ้มขึ้นที่มุมปาก “ผมจะรับฟังไว้ก่อนแล้วกัน”
สามชั่วโมงต่อมา เครื่องบินร่อนลงจอดที่ประเทศ C และต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่ลดลงฮวบใหญ่ ทันทีที่เวินจิ้งลงจากเครื่อง เธอก็จามอย่างรุนแรง
มู่วี่สิงนำเสื้อคลุมตัวนอกส่งให้กับเธอ เวินจิ้งส่ายหัวปฏิเสธ เธอเอนกายหลบเข้าไปซ่อนในอ้อมแขนของมู่วี่สิง “แค่คุณให้ความอบอุ่นกับฉันก็พอแล้วล่ะ”
“คุณนายมู่ คุณคิดจะใช้ประโยชน์จากผมอย่างเปิดเผยในที่แจ้งใช่ไหม หืม” มู่วี่สิงโอบเอวที่แสนบางของหญิงสาว และกระชับตัวเธอให้เข้ามาใกล้ชิดเขามากยิ่งขึ้น