บทที่ 105 ขอโทษ
เห็นเจี่ยนอีขึ้นมาชั้นบนก็เก็บข้าวของ เวินจิ้งเดินตามเข้าไป “แม่ คุณหมอมู่จะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดได้แน่ๆค่ะ แม่อย่าโกรธเลยนะคะ”
“แม่ไม่ได้โกรธ เวินจิ้ง ลูกก็กลับไปพร้อมกับแม่ คนที่นี่มือไม้ไม่สะอาด ยังจะสามารถดูแลลูกได้ยังไงกัน สู้กลับบ้านแม่ดูแลลูกเองยังจะดีกว่า!” เจี่ยนอีโมโหสุดๆ ดึงเวินจิ้งเตรียมที่จะออกไป
มู่วี่สิงเดินเข้ามา ขมวดคิ้วขึ้น “แม่ครับ ผมรับปากกับเวินจิ้งเอาไว้แล้วว่าช่วงระยะเวลานี้จะดูแลแม่ คราวนี้เป็นความประมาทเลินเล่อของผมเอง โปรดให้โอกาสผมอีกสักครั้งเถอะครับ เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”
เวินจิ้งตะลึงงัน เป็นครั้งแรกที่ได้ยินมู่วี่สิงกล่าวขอโทษ
เขาคนที่สูงส่งแบบนี้น่ะนะ เวลาไหนก็มีคนคอยประคบประหงม แต่ตอนนี้ท่าทีนอบน้อมถ่อมตัวเช่นนี้
เจี่ยนอีกลับไม่ได้ผลกระทบใดๆเกิดขึ้น “ไม่มีครั้งต่อไปแล้ว แม้ว่าบ้านของเราจะเล็กไปหน่อย แต่อย่างน้อยที่สุดชีวิตก็เรียบง่ายสุขสบาย และก็ไม่ได้มีเรื่องมากมายขนาดนั้น!”
“แม่ครับ หากแม่รู้สึกไม่สบายใจ ผมพาแม่ไปส่งที่โรงแรมก่อน เวินจิ้งเป็นภรรยาของผม พวกเราจำเป็นต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน”
“เวินจิ้ง ลูกว่าไง จะอยู่ที่นี่หรือไปเป็นเพื่อนแม่?” เจี่ยนอีมองดูลูกสาว
เวินจิ้งขมวดคิ้วขึ้น ช่วงระยะเวลานี้คุณแม่ได้รับความตื่นตระหนกตกใจไม่น้อย เธออยากจะอยู่เป็นเพื่อนเจี่ยนอีให้มาก
แต่มู่วี่สิงคนเดียว…
คิดไม่ถึงว่าเธอจะรู้สึกอาลัยอาวรณ์ที่จะจากไป
ดูความลังเลของเวินจิ้งออก เจี่ยนอีถอนหายใจออกมา “ลูกอยู่ต่อเถอะ ที่นี่แม่อยู่ไม่ได้ เรื่องในคราวนี้ตรวจสอบให้แน่ชัดล่ะ ตอนนี้จะดูหน่อยไหมว่ากระเป๋าของแม่ยังขโมยของอย่างอื่นอีกหรือเปล่า?”
สีหน้าของเวินจิ้งซีดเผือดลงมา ส่ายศีรษะให้กับมู่วี่สิง
แต่พ่อบ้านกลับเดินเข้ามา หากไม่ใช่ว่ามีหลักฐาน เขาก็คงจะไม่ชี้หลักฐานไปที่เจี่ยนอี
“คุณชาย”
“คุณนายมู่ คุณส่งคุณแม่ไปที่โรงแรมก่อน”
เวินจิ้งพยักหน้า ระหว่างทางเธอปลอบโยนคุณแม่อยู่ตลอด แต่ว่า…ผลที่ได้ไม่มากนัก
บ้านตระกูลมู่
เรื่องราวอย่างชัดเจนตั้งแต่พ่อบ้านเริ่มทำการตรวจสอบหยกที่ถูกขโมย พบว่าตอนที่ถูกขโมยไปนั้นหยกหาเจออยู่ในห้องของเจี่ยนอี ตามการวินิจฉัยแล้ว คงจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเธออย่างแน่นอน
แต่ในเมื่อมู่วี่สิงยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจี่ยนอี พ่อบ้านจึงตามตรวจสอบจากเบาะแสอื่นๆ ไม่ช้าก็สืบสาวไปถึงคนรับใช้ที่ทำความสะอาดห้องของเจี่ยนอีในวันนี้
“คุณชาย เรื่องนี้คือความประมาทของผมเอง คุณโทษผมเถอะครับ” ลุงเฉินทำงานอยู่ที่บ้านเก่ามานานหลายปี แต่คราวนี้เป็นเพราะความสงสัยโดยไม่ไตร่ตรองของเขา ทำให้ความสัมพันธ์ของคุณชายกับคุณนายเจี่ยนอีเกิดรอยร้าวขึ้นมา
มู่วี่สิงหรี่ตาลง กลับไม่ได้ซักไซ้ไล่เลียงอะไรอีก “ออกไปเถอะครับ ต่อไประวังหน่อยก็พอแล้ว”
ตกเย็น เวินจิ้งยังไม่กลับมา มู่วี่สิงจัดหาคอนโดที่อบอุ่นหลังนึงให้กับเจี่ยนอี เจี่ยนอีกลับชอบที่นี่มาก
คฤหาสน์ในก่อนหน้านี้ สำหรับเธอแล้วราวกับเป็นโลกสองใบ
“แม่คะ เรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณหมอมู่ เขาไม่เคยสงสัยในตัวแม่มาก่อน”
“ลูกน่ะนะ ตอนนี้ความคิดจิตใจต่างก็อยู่ที่เขา” ความโกรธของเจี่ยนอีหายลงไปไม่น้อย
พอคำพูดนี้หลุดออกมา แก้มของเวินจิ้งก็แดงระเรื่อขึ้น
“ช่างเถอะ ขอเพียงแค่พวกลูกเชื่อใจแม่ ก็พอแล้ว ที่สำคัญที่สุดก็คือตรวจสอบคนของคฤหาสน์ให้แน่ชัด ไม่อย่างงั้น ต่อไปคนที่ได้รับความไม่เป็นธรรมก็คือลูก” สิ่งที่เจี่ยนอีเป็นห่วงต่างก็คือเวินจิ้งมาตลอด
เวินจิ้งกอดคุณแม่ “แม่ วางใจเถอะค่ะ”
ตอนเย็นเจี่ยนอีจะทำอาหาร เวินจิ้งเสนอว่าจะพาเธอออกไปทานข้าว แต่เจี่ยนอีไม่ชอบอาหารเกลือเยอะน้ำมันเยอะที่อยู่ด้านนอก ก็เลยทำอาหารอยู่ในคอนโด
เวินจิ้งมองดูเวลาเล็กน้อย อีกสักครู่ทานข้าวเสร็จค่อยกลับไป
กำลังคิดเช่นนี้อยู่ เสียงกริ่งที่หน้าประตูก็ดังขึ้น
ยังจะมีใครมาที่นี่อีก? หรือว่าจะเป็นมู่วี่สิง?
ในขณะที่กำลังคิดเช่นนี้ พอเปิดประตูออก เวินจิ้งก็ยังคงรู้สึกเหนือความคาดหมายเล็กน้อย
ชายหนุ่มสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงสีดำ ลักษณะท่าทางเยือกเย็นกว่าปกติเล็กน้อย เพียงแต่สายตาที่มองดูเวินจิ้ง กลับเป็นสายตาที่อบอุ่น