บทที่ 83ต้องการที่จะพิจารณาฉัน
“ถ้าพูดแบบนี้ เธออาศัยอยู่บ้านฉัน ก็ต้องจ่ายค่าเช่าด้วยหรือเปล่า?” มู่วี่สิงหรี่ตาลง น้ำเสียงเขาเยือกเย็น
เวินจิ้งนิ่งงัน ถ้าเป็นเช่นนั้น หนี้สินของเธอก็ต้องเพิ่มขึ้น
มู่วี่สิงรับบัตรไปจากเธอ “แต่ถ้าเธอต้องการเช่นนั้น ฉันก็จะรับไว้”
เวินจิ้งมองเขา ชีวิตหลังจากนี้จะผ่านไปอย่างไร….
ถึงแม้ว่าปกติเธอจะทำงานอยู่ข้างกายมู่วี่สิงก็ตาม แต่เธอก็มีค่าใช้จ่ายรายวันอยู่เสมอ
เมื่อมองไปที่ท่าทางที่น่าอายของเวินจิ้ง มู่วี่สิงจึงกระตุกรอยยิ้มขึ้น
……
งานวันเกิดของเย่กวนกวนนั้นจัดขึ้นที่โรงแรมระดับห้าดาวในตัวเมือง เวินจิ้งและมู่วี่สิงมาถึงในเวลากลางคืน
นี่เป็นครั้งแรกที่เวินจิ้งเข้าร่วมกิจกรรมเช่นนี้ เธอคล้องแขนมู่วี่สิงไว้ เธอรู้สึกกังวลเล็กน้อย
“หมอมู่!” เมื่อเย่กวนกวนมองเห็นมู่วี่สิงก็รีบวิ่งลงมาจากชั้นสอง
มู่วี่สิงพยักหน้าอย่างไม่แยแส ที่เขามาก็เพราะกระชับความสัมพันธ์ของตระกูลมู่และตระกูลเย่
ของขวัญที่เตรียมไว้ให้ มู่วี่สิงก็ส่งให้
“หมอมู่ พ่ออยากเจอคุณ เราขึ้นไปด้านบนกัน” เย่กวนกวนยืนอยู่ข้างกายมู่วี่สิง
“ฉันมีเวลาไม่มาก” มู่วี่สิงกล่าว และเตือนเวินจิ้งอย่าวิ่งสุ่มสี่สุ่มห้าไปด้านบน
วันนี้เย่กวนกวนสวมชุดสีชมพูอ่อนที่มีเสน่ห์และสง่างามสดและน่ารื่นรมย์เมื่อมองแล้วดูอ่อนวัย เธอยืนอยู่ข้างกายมู่วี่สิง แต่ออร่านั้นดูแตกต่างกันมาก
มองย้อนกลับไป เวินจิ้งเดินไปยังโต๊ะอาหารอย่างเงียบๆ เธอไม่มีท่าทางสนใจขนมอบเหล่านั้นจึงเดินไปคว้าแก้วน้ำส้ม
ทันทีที่เธอหยิบแก้วขึ้นมาแก้วก็ถูกดึงออกไปจากมือเธอ จากนั้นกลับมีแก้วแชมเปญยื่นมาให้เธอ “น้ำส้มมีไว้ให้เด็กๆดื่ม”
เวินจิ้งขมวดคิ้ว และพบว่าไม่มีใครถือน้ำส้มจริงๆ
แต่ แชมเปญนี้จะไม่ทำให้เธอมึนเมาหรือ
“สบายใจได้ ไม่มีแอลกอฮอล์” ฉีเซินกล่าว
เวินจิ้งมองเขาอย่างสงสัย อย่างไม่มั่นใจ
ว่าแต่ ทำไมฉีเซินอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ เวินจิ้งมองเขาอย่างไม่ไว้วางใจ
ฉีเซินถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “เธอมีข้อสงสัยในตัวฉัน เวินจิ้ง”
เวินจิ้งจึงจิบและไม่ดื่มมากจนเกินไป
“ขอบคุณมู่วี่สิงแทนฉันด้วย ครั้งที่แล้วเขาได้เชิญฉันไปทานข้าว” ฉีเซินยกแก้วขึ้น
“ตอนนี้เขาเป็นเจ้าหนี้ของฉัน” เวินจิ้งขมวดคิ้ว ตอนนี้เธอหมดตัวจริงๆ แต่เธอก็อยู่กับมู่วี่สิงมาโดยตลอดและไม่เคยใช้จ่ายใช้จ่ายตัวเองเลย
“เฮ? แสดงว่าพวกคุณแบ่งเงินกันใช้เหรอ?” ฉีเซินขมวดคิ้ว
“ไม่ใช่งั้นเหรอ?” ในสายตาคนอื่น เธอกับมู่วี่สิงเป็นเพียงสามีภรรยา
“คาดไม่ถึงเลยว่ามู่วี่สิงจะงกกับเธอได้” ฉีเซินลูบคางของเขา
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เวินจิ้งก็ไม่พอใจ “ไม่ใช่แบบนั้น!”
ฉีเซินหัวเราะเบาๆ “โอเค ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ แต่ว่านะเวินจิ้ง ถ้าเธอเป็นหนี้ฉัน ฉันจะไม่ให้เธอชดใช้คืน อยากลองพิจารณาฉันดูไหม?”
เวินจิ้งสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ฉีเซินพูดว่าอะไร?
พิจารณาเขา?
ตั้งแต่นัดบอด ในใจเธอก็บอกชัดว่าฉีเซินไม่เหมาะสมกับเธอ
แม้ว่าจะไม่ได้แต่งงานกับมู่วี่สิงก็ตาม พวกเขาก็ยังไม่เหมาะสม
“ฉีเซิน คุณกำลังล้อเล่นหรือไง?” เวินจิ้งมองเขาด้วยความขุ่นเคือง
“ฉันน่ะพูดคำไหนคำนั้นนะ” สายตาของฉีเซินหนักแน่น
เวินจิ้งไม่กล้ามองตาเขา เธอจึงหลบสายตา
ในตอนนั้น เสียงดนตรีดังขึ้นอย่างช้า ๆ แขกที่มาเข้าร่วมงานก็เต้นรำกันใจกลางฟลอร์ เวินจิ้งมองไปรอบๆ กลับไม่เห็นเย่กวนกวนและมู่วี่สิง
“แฟนของเธอไม่อยู่ เธอให้เวลากับฉันก่อนจะได้ไหม?” เมื่อสิ้นคำกล่าว ฉีเซินโค้งตัวลงและยื่นมือออกมา