ฉินชวนมองดูจุดจบของเกมสักพักหนึ่ง “เธอเคยเล่นเกมนี้มาก่อนเหรอ”
เจี่ยนอีหลิงส่ายหน้า
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเล่นเกมนี้ แต่เธอก็เคยเล่นเกมยิงเกมอื่นมาก่อน
แต่ไม่ว่าจะเป็นเกมยิงเกมไหนก็ตามที่ทำมาอย่างดี การจัดการแรงสะท้อนของปืนและการตกกระทบของลูกกระสุนปืนนั้นใกล้เคียงกับสถานการณ์จริงมาก
ในกรณี “Zerg Invasion” ที่สร้างขึ้นโดยเจี่ยนหยุ่นเฉิงก็เข้ากรณีนี้เช่นกัน
ดังนั้นแม้ว่าเจี่ยนอีหลิงจะเล่นมันเป็นครั้งแรก แต่การเล่นเกมยิงปืนเกมอื่นมาก่อนทำให้เธอคุ้นเคยอย่างรวดเร็ว
ฉินชวนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรไปพักหนึ่ง
เจี่ยนอีหลิงดูเงียบขรึม แต่เมื่อเธอเริ่มเล่นเกมเธอกลับเหี้ยมและแม่นยำ เธอสลับการใช้งานระหว่างเมาส์และคีย์บอร์ดได้อย่างคล่องแคล่ว
หากเพียงแค่มองไปที่ตัวละครที่ถือปืนอยู่ในเกม เป็นไปไม่ได้ที่จะจินตนาการว่าคนที่นั่งตรงหน้าจอคอมพิวเตอร์นั้นเป็นเด็กผู้หญิงที่เงียบๆ
หลังจากที่เล่นจบรอบแล้ว เจี่ยนอีหลิงก็คืนคอมพิวเตอร์ให้กับฉินชวน
“ไม่เล่นอีกเกมเหรอ”
เจี่ยนอีหลิงส่ายหน้า
ดูเหมือนว่าการเล่นเกมนั้นไม่ใช่การพักผ่อนสำหรับเธอ แต่มันคือการทำภารกิจที่ย่าของเธอให้มาให้สำเร็จ
ฉินชวนนรู้สึกหงุดหงิดอย่างอธิบายไม่ถูก
เจี่ยนอีหลิงนั้นแตกต่างจากสิ่งที่โลกภายอธิบายไว้จริงๆ
จากนั้นฉินชวนก็เห็นเจี่ยนอีหลิงเปิดคอมพิวเตอร์และเปิดใช้งานสื่ออิเล็กทรอนิกส์และแบบฝึกหัดอิเล็กทรอนิกส์
เขาได้แต่เพียงนั่งอยู่ตรงข้ามเจี่ยนอีหลิงเหมือนก่อนหน้านั้นโดยไม่สามารถทำอะไรได้อีก
ในขณะที่เขารอเจี่ยนอีหลิงตั้งถามคำถาม ฉินชวนได้ใช้เวลานั้นเพื่อทำการสื่อสารกับแพทย์ประจำตัวของแม่ของเขา
[ได้โปรดถามด็อกเตอร์เจิ้งช่วยหาวิธีแก้ปัญหาเรื่องของแม่ผม ผมจะเตรียมเงินให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้]
แม่ของฉินชวนได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและอาการของเธอแย่ลงเมื่อไม่นานมานี้
[ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น โรงพยาบาลของเราได้แต่ให้การรักษาตามอาการสำหรับการป่วยของแม่คุณเท่านั้น ถ้าจะรักษาคุณต้องหาวิธีอื่น สถาบันวิจัยทางการแพทย์ฮุ่ยหลิงที่ผมแนะนำให้คุณเมื่อครั้งที่แล้ว คุณได้ติดต่อกับพวกเขาหรือเปล่า]
แพทย์ได้พยายามอย่างดีที่สุด แต่สิ่งที่เขาทำได้นั้นมีขีดจำกัด
[ผมพยายามที่จะติดต่อแล้ว แต่คนทางนั้นไม่ตอบรับผม]
[ไม่แปลกเพราะว่ามีคนไข้หลายร้อยคนที่พยายามจะติดต่อกับพวกเขาทุกวัน และพวกเขาก็ไม่สามารถตอบสนองหากไม่มีสถานการณ์พิเศษ]
[พอจะให้ที่อยู่สถาบันฮุ่ยหลิงกับผมได้ไหมครับ ผมต้องการไปที่นั่นด้วยตนเอง]
[ผมสามารถให้ที่อยู่แก่คุณได้ แต่ถึงคุณไปก็เปล่าประโยชน์ คุณไม่สามารถผ่านประตูเข้าไปได้]
ฉินชวนมองดูหน้าจอและเงียบไปชั่วขณะ จากนั้นก็พิมพ์ตอบกลับไปอย่างช้าๆ [ผมยังไก็ต้องพยายาม ผมยินดีเสียทุกอย่าง ตราบเท่าที่ผมสามารถช่วยแม่ของผมได้]
และเจี่ยนอีหลิงซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะเองก็กำลังตอบกลับข้อความของเธออยู่เช่นกัน
[Dr.FS คุณคงจะจำได้ว่าพวกเรามีนัดกันพรุ่งนี้ ใช่ไหม]
[อืม]
[คิวอาร์โค๊ดเข้าประตูที่ผมส่งให้คุณจะใช้งานได้เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ถ้าคุณมีคำถามอะไร คุณสามารถติดต่อผมได้โดยตรง หรือบอกให้ผมก่อนที่คุณจะมา ผมยินดีที่จะรอคุณอยู่ที่ประตูทางเข้า]
[ไม่มีปัญหา]
[ดี ถ้างั้นรอจนถึงพรุ่งนี้บ่ายค่อยพบและคุยกัน]
###
คนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งที่ติดต่อสื่อสารกับเจี่ยนอีหลิงอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นั้นเป็นชายหนุ่มในวัยยี่สิบกว่าปี ด้านหลังของเขามีศาสตราจารย์ชราผมสีดอกเลายืนอยู่
“เป็นยังไง” ศาสตราจารย์ชราถาม
“ไม่มีปัญหา เขาบอกว่าเขาจะมาที่นี่พรุ่งนี้บ่าย”
ชายหนุ่มที่รับผิดชอบในการติดต่อกับเจี่ยนอีหลิงเป็นนักศึกษาที่ศาสตราจารย์ภาคภูมิใจ เฉิงอี้
“โอเค เธอยืนยันกับเขาอีกทีพรุ่งนี้เช้า แต่เธอต้องทำให้มั่นใจว่าเขาสามารถมาได้” ศาสตราจารย์ชราย้ำ
เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 59: ช่องว่างช่างกว้างใหญ่
Posted by ? Views, Released on January 1, 2022
, เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ
เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง
ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป
เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น
เรื่อยๆ
อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ
ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ
Recommended Series
Comment
Facebook Comment