“ประธานชลธี คนของพวกเราไปถามนลินประภามาแล้วครับ แต่เธอบอกไม่รู้อะไรทั้งนั้น พอบังคับอีก เธอก็ไม่พูดอะไรเสียเลย พวกเราจึงถามอะไรมาไม่ได้” คนที่ชลธีส่งไปกลับมาด้วยความผิดหวังมาก สอบถามอะไรไม่ได้เลย
“ปฏิกิริยาของเธอดูผิดปกติมาก คุณลองไปสืบดู ก่อนหน้าพวกเรา มีคนไปหาก่อนหรือเปล่า?” ชลธีพลันนึกถึงคนบงการเบื้องหลัง เนื่องจากสามารถทำให้บริษัทฮอนดากรุ๊ปตกอยู่ในความยุ่งยากได้ เช่นนั้นคนคนนั้นต้องนึกถึงนลินประภาได้แน่นอน
“ครับ ลูกน้องจะไปสืบทันที” ลูกน้องของชลธีไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้
คนที่บงการอยู่เบื้องหลังนี้ นับว่าเก่งมาก วางแผนเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด และยังทำการป้องกันล่วงหน้าเป็นอย่างดี สิ่งนี่ทำให้ชลธีไม่อาจหาคำตอบได้ คนที่มีสติปัญญาและความสามารถแบบนี้ ในพระนครมีไม่กี่คน
ชลธีนำคนเหล่านั้นออกมาเรียงลำดับ ก็มีวรกัญญากับประวีร์เป็นหนึ่งในนั้น
แต่ถ้าเป็นวรกัญญา ทำไมเธอต้องลงมือกับตนเองด้วย? ตนเองก็ไม่เคยทำเรื่องผิดต่อเธอ?
ส่วนคนที่เหลืออยู่ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้อุไรภัสร์ยิ่งไม่มีศักยภาพ ห้าปีก่อนแม้ธินิดาจะจากที่นี่ไป แต่อุไรภัสร์ก็แค่ทะเลาะกับตนเองสองสามครั้ง ไม่มีพฤติกรรมอย่างอื่นที่สุดโต่ง
หลังจากการวิเคราะห์ ชลธีไม่เข้าใจมากๆ ถ้าวรกัญญาต้องการแก้แค้นก็ต้องแก้แค้นกับตระกูลยืนนาน แต่เธอสูญเสียความทรงจำ และตอนนี้ตระกูลยืนนานไม่มีความสูญเสียใดๆ เรื่องเหล่านี้ทำให้ชลธีสับสนมาก
“ชลธี หลานดูสิหลานแต่งกับผู้หญิงแบบไหนเนี่ย? ตอนนี้ครอบครัวของพวกเราถึงคราวต้องทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาอำนาจแล้ว พวกเราตระกูลสุวรรณเลิศไปล่วงเกินหล่อนตรงไหน ทำไมหล่อนถึงได้ลงมือกับพวกเราโหดเหี้ยมแบบนี้?” ย่านิ่มเห็นชลธีกลับมาปุ๊บ เธอยันไม้เท้ามาทำท่าหงุดหงิดตรงหน้าชลธี
“คุณย่า ทำไมถึงคิดว่าเรื่องนี้มุกเป็นคนทำล่ะครับ? เธอไม่ใช่คนแบบนั้น” ชลธีพูดกับย่านิ่ม เขาพยุงย่านิ่มมานั่งลงบนโซฟา
“หลานอย่ามาหลอกย่า พี่รองกับพี่ใหญ่ของหลานวิเคราะห์กันในบ้านแล้ว ตอนนี้ในพระนคร คนที่สามารถทำเรื่องแบบนี้กับพวกเราได้ มีแต่หล่อน ตอนนี้หล่อนเกาะคุณโจนส์ คงไม่เห็นคนในตระกูลพวกเราอยู่ในสายตาหรอก?” ย่านิ่มได้ยินว่าชุติภาสโมโหจนเข้าโรงพยาบาล นีรชาเอะอะโวยวายต้องการหย่าอีก บ้านนี้ถูกทรมานซ้ำไปซ้ำมาจนไม่เป็นเหมือนบ้านแล้ว
“คุณย่า ก่อนจะตรวจสอบเรื่องเหล่านี้ พวกเราไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นใคร พวกเรายังไม่มีหลักฐาน” ในใจของชลธีไม่เชื่อว่ามุกจะทำเรื่องเหล่านี้ เธอคือผู้หญิงจิตใจดีงาม ไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้
“จนถึงตอนนี้แล้ว หลานยังปกป้องหล่อนอีก ห้าปีก่อนที่หล่อนหายสาบสูญไปเจออะไรมาบ้าง หลานรู้เหรอ? เดิมทีหล่อนเป็นผู้หญิงใจแตก หล่อนเกลียดคนของตระกูลพวกเรานี่คือหลักฐาน ผู้หญิงคนนี้ทำร้ายพ่อของหลานจนป่วยเข้าโรงพยาบาล สร้างความเสียหายให้ธุรกิจของตระกูลสุวรรณเลิศขาดทุน ทั้งหมดนี้หล่อนเป็นคนทำ!” ย่านิ่มได้ยินว่าหลานชายตนเองช่วยพูดให้วรกัญญา เธอก็ร้อนใจ
“จริงนะ ชล ผู้หญิงคนนี้ร้ายเกินไป เธอทำให้ตระกูลสุวรรณเลิศของพวกเรากลายเป็นยังไง? ตอนแรกพวกเราตระกูลสุวรรณเลิศก็ไม่ได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไร้ความยุติธรรม เธอมันเป็นหมาป่าที่เลี้ยงไม่เชื่องจริงๆ” ช่วงนี้ธีร์ธวัชไม่กล้าออกไปแม้แต่ประตูบ้าน แค่ออกไปก็ถูกผู้ถือหุ้นเหล่านั้นโยนไข่เน่าใส่
“พี่มีคุณสมบัติอะไรมาพูดถึงเธอ เงินของพี่ขาดดุลเป็นเรื่องจริง ผมตรวจสอบแล้ว หกปีก่อนพี่เริ่มโยกย้ายเงินทุนของบริษัท พี่คิดหาทางชดใช้เงินที่ขาดดุลไปบ้างไหม?” ชลธีไม่รู้จะทำอย่างไรกับพี่ชายของตนเองแล้ว เคยพูดหลายครั้ง แต่พวกเขาก็ทำเป็นหูทวนลม หากผู้ถือหุ้นรู้เรื่องเหล่านี้เข้า จะต้องโกรธมากแน่นอน
“น้องสาม พี่เอาเงินไปซื้อบ้านแล้ว ใช้หมดไปแล้ว พี่จะเอาที่ไหนมาใช้คืน?” ธีร์ธวัชไม่มีเงินแล้ว เงินของเขานำไปซื้อบ้านและรถหรูหรา แถมยังมีลูกอีกเขาจะมีเงินอีกที่ไหน
“งั้นผมไม่ยุ่งแล้ว ถ้าพี่ไม่ชดใช้คืนส่วนที่ขาด งั้นก็ให้ผู้ถือหุ้นบริษัทพวกเราฟ้องร้องพี่ พี่ไปหาทางออกเองเถอะ”
ตอนชลธีอยู่ ธีร์ธวัชยังไม่กล้า แต่หลังจากนั้นชุติภาสเป็นประธาน เขาไม่สามารถคำนึงถึงเรื่องราวมากมาย แถมยังละเลยบริษัทลูก ธีร์ธวัชจึงมีช่องโหว่ใช้ประโยชน์
“ชล แกไม่ช่วยพี่งั้นพี่ก็เหลือแค่ทางตัน พวกเขาจะฟ้องพี่ พี่ก็คงต้องติดคุก แกช่วยพี่เถอะนะ เห็นแก่ที่พี่สร้างคุณงามความดีแก่ตระกูลสุวรรณเลิศให้กำเนิดลูกชายคนหนึ่ง” ธีร์ธวัชทำได้เพียงอ้อนวอนชลธี
ชลธีเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา ประโยคหนึ่งกระเด็นออกมาจากปาก “เรื่องที่ตัวเองทำ ตัวเองต้องจัดการเอง ผมไม่มีหน้าที่เช็ดก้นให้พี่ ยังมีคุณย่า พี่พักฟื้นอยู่ในบ้านให้ดีเถอะ เรื่องของบริษัทผมรู้ว่าต้องจัดการยังไง พี่ไม่ต้องเป็นห่วงมาก” รัศมีของชลธีรุนแรงมากเกินไป คนเหล่านั้นไม่พูดสักคำ
“เอาล่ะ ผมไปละ ยังมีธุระอีกเยอะ” ชลธีไม่อยากคุยกับคนเหล่านี้อีก ช่องโหว่ในตระกูลนี้ใหญ่เกินไป การเงินของบริษัทลูกยังต้องปรับปรุงให้ดี ไม่มีลายเซ็นของตนเอง ธีร์ธวัชไม่สามารถจ่ายเงินได้
เรื่องที่ชลธีกลับมาดำรงตำแหน่งประธานของบริษัทฮอนดากรุ๊ปต่อ ในไม่ช้าก็กระจายไปทั่วทุกมุมพระนคร ห้าปีมาแล้ว ห้าปีนี้ชลธีไม่เคยถามถึงเรื่องของบริษัทฮอนดากรุ๊ป อยู่ดีๆ ก็กลับมา ผู้คนมากมายค่อนข้างไม่คุ้นเคย เพราะภายใต้การบริหารของชุติภาสมีความหละหลวมมาก
เมื่อชลธีกลับมาบริษัทฮอนดากรุ๊ปได้สัปดาห์แรก คุณฟิลลิปก็นัดเจอกับชลธี
คุณฟิลลิปเป็นคนที่มีคุณธรรมและบารมีสูงส่ง ดังนั้นชลธีจึงให้ความเคารพเขามาก การนัดทานข้าว ชลธีมาถึงสถานที่นั้นตรงเวลามาก
ห้องส่วนตัวที่คุณฟิลลิปจองไว้อยู่ริมหน้าต่าง สามารถมองเห็นทัศนียภาพด้านล่าง คุณฟิลลิปยังไม่มา บอกว่าติดธุระจะมาสายเล็กน้อย ชลธีนั่งริมหน้าต่าง พนักงานบริการรินน้ำชาให้เขาแก้วหนึ่ง
ในขณะดื่มชา ดูเหมือนชลธีจะเห็นธีรเมทออกไปกับผู้หญิงคนหนึ่ง และพูดอะไรบางอย่างด้านล่าง ชลธีตั้งใจฟัง ก็ได้ยินว่าเสียงนั้นคล้ายกับวรกัญญา และยังได้ยินอะไรเกี่ยวกับการกักบริเวณแว่วๆ
ชลธีได้ยินไม่ชัด
แต่วรกัญญาเอาแต่หันหลัง เธอมองไปรอบตัวอย่างระมัดระวัง เมื่อแน่ใจว่าไม่มีคนสนใจเธอ เธอจึงบอกลาธีรเมท หันตัวเรียกรถจากไป
วรกัญญาชอบใส่ชุดสีดำ และผมสั้นหยักศกนั้น แม้ท่าเดินบนถนนจะแปลกไปหน่อย แต่ชลธียังมั่นใจว่าแผ่นหลังนั้นคือวรกัญญา