แต่งรักมัดใจบอส – ตอนที่ 249 การตั้งคำถามแปรเปลี่ยนเป็นการปลอบขวัญ

“ไม่ต้องกลัวครับไม่ต้องกลัว ผมอยู่ข้างคุณ ผมจะอยู่ข้างคุณตลอดไป ผมจะอยู่กับคุณตลอดไป” ชลธีกอดวรกัญญาไว้ในอ้อมแขน ห้าปีแล้วที่สองสามีภรรยาไม่ได้ใกล้ชิดกันแบบนี้

วรกัญญาที่อยู่ในอ้อมแขนของชลธี เธอรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเพราะอะไรตนมักจะฝันถึงสีแดงเป็นวงกว้าง เลือดแดงฉานไปทั่ว แถมเมื่อครู่ยังฝันถึงธินิดาด้วย!

“ดีขึ้นแล้วเหรอครับ” ชลธีเห็นวรกัญญาอารมณ์ค่อยๆ คงที่แล้ว เขาจึงถามเธอ

“อืม ดีขึ้นนิดหน่อยแล้ว ขอบคุณคุณมาก” เวลานี้วรกัญญาออกจากอ้อมกอดของชลธีแล้ว เมื่อครู่เธอกำลังตกใจ ชลธีพูดอะไร เธอได้ยินไม่ค่อยชัดนัก

“ชลธี เมื่อครู่คุณพูดว่าอะไรนะ” วรกัญญาถามชลธี

เห็นวรกัญญาอารมณ์สงบลงแล้ว บวกกับการเตือนตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีก ว่าอย่าทำตัวใกล้ชิดเธอมากเกินไป ชลธีจึงเกิดไหวพริบ

“เมื่อครู่ผมพูดว่า ต่อไปมีเรื่องอะไรให้เรียกผมก็ได้ ขายาวของผมจะวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” ชลธีพูดอย่างไม่จริงจัง

“อืม คุณวิ่งเร็วจริงๆ ครั้งนี้ต้องขอบคุณคุณมาก ข้อผิดพลาดที่คุณทำไว้ก่อนหน้านี้ถือว่าโมฆะแล้วกัน” หลังจากวรกัญญาฝันร้ายไป เมื่อมองชลธีอีกครั้ง หัวใจเธอก็ไม่เจ็บแล้ว

“งั้นผมก็ไม่ต้องกลัวว่าประธานวรกัญญาจะไล่ผมออกแล้ว ขอบคุณประธานวรกัญญามากจริงๆ ครับ” ชลธีเบาใจขึ้นเล็กน้อย ไม่อย่างนั้นประธานวรกัญญามักจะอยากไล่ตนออกอยู่เรื่อย เธอไม่มีความรู้สึกผูกพันกับตนสักนิดเลยเหรอ ลืมตนไปจนหมดไม่มีเหลือแล้วงั้นเหรอ

“ไม่ต้องขอบคุณหรอก คุณลงไปก่อนเถอะ จริงสิ ช่วยชงชาให้ฉันสักถ้วย ขอเป็นชาผ่อนคลายเส้นประสาทที่คุณป้าให้มานะ” วรกัญญาให้ชลธีลงไป แต่เธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าทั้งวันมานี้ตนยังไม่ได้ดื่มน้ำอะไรเลย

“ได้ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้” ชลธีเห็นวรกัญญาสามารถสั่งคนได้แบบนี้ เช่นนั้นคงจะเกือบฟื้นตัวดีแล้ว เวลาเธอป่วยจะแสนน่ารักน่าสงสาร แต่หลังจากหายดีแล้วจะเป็นสาวท่าทีแข็งแกร่งที่มีเสน่ห์อย่างมาก

วรกัญญาลุกจากเตียง เธอรวบผมสั้นของตัวเอง มาที่โต๊ะทำงานของตัวเองอีกครั้งเหมือนคนที่ไม่ได้เป็นอะไร แล้วเริ่มทำงาน

ครั้งนี้ธีร์ธวัชตัดสินใจแน่วแน่ เมื่อเมียน้อยออกจากโรงพยาบาล เขาได้พาลูกกับเมียน้อยกลับไปอยู่ที่บ้านด้วยกัน

เมื่อย่านิ่มเห็นหลานชายอ้วนจ้ำม่ำของตัวเองก็ยินยอม นีรชานั้นไม่ยุ่งเรื่องราว พวกเขาต้องการอย่างไรก็อย่างนั้น ยังไงบ้านหลังนี้ก็รกรุงรังมากพอแล้ว จะยุ่งเหยิงวุ่นวายอีกแค่ไหนก็ไม่สำคัญ เธอเองก็ไม่ได้อยู่บ้านบ่อยนัก ไม่อยู่ร้านน้ำชาของตัวเองก็ไปช็อปปิ้งกับเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ ดูแลเสริมสวยความงาม และอื่นๆ อีกจิปาถะ ชีวิตของเธอมีสีสันสดใสเหลือจะกล่าว

“คุณย่าดูธวัชสิคะ เขาเอาลูกกลับมาน่ะไม่เป็นไร แต่เขาพาเมียน้อยกลับมาด้วย คุณจะให้ฉันมีชีวิตอยู่ได้ยังไงคะ” วรรณวิมลไปร้องไห้ต่อหน้าย่านิ่ม

ธีร์ธวัชต้องการหย่ากับเธอ ไม่มีทาง การได้แต่งงานเข้าตระกูลสุวรรณเลิศมันไม่ง่าย ถ้าจะตายก็ต้องตายอยู่ในตระกูลสุวรรณเลิศ

“เจ้าธวัชนี่จริงๆ เลย จะเอาลูกกลับมาเราทุกคนก็ยอมรับแล้ว นี่เอาแม่ของเด็กกลับมาด้วยคืออะไร แถมยังจัดให้อยู่ห้องข้างๆ เขาอีก มันไม่สมควรเลยสักนิดจริงๆ” แม้ย่านิ่มจะชอบหลานคนนี้ แต่เธอก็ยังชอบวรรณวิมลมากกว่า เพราะหลานสะใภ้คนนี้ยังเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับตัวเอง

“คุณแม่คะ เราสามารถคุยกับธวัชได้ เขาอายุยังน้อย บางครั้งอาจจะยังไม่ค่อยรู้ใจตัวเอง ที่แล้วมาเขาชอบอ่อนมาก ช่วงนี้อาจจะแค่สับสนหรือเปล่า” สิริกรช่วยพูดให้ลูกชายตัวเอง

ผู้หญิงคนนั้นอยู่เดือนในห้องมาตลอด จะทานอะไรก็ต้องส่งเข้าไป เธอยังไม่เคยทานข้าวกับคนในครอบครัวหรือเคยพบหน้ากันเลย

ย่านิ่มรู้สึกโกรธมาก อยู่ในบ้านหลังนี้แล้วแต่ไม่มีการมาทักทายตนเลย แถมยังต้องให้คนไปบริการรับใช้ แค่คลอดลูกมันจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรนัก เธอยังคลอดลูกมาแล้วตั้งสองคน ถ้าไม่ใช่เพราะปู่ปรัณเกลียดเธอ มีความเป็นไปได้สูงที่จะคลอดลูกออกมามากมาย หลังจากคลอดลูกเสร็จแล้วเธอก็ลำบากทำงานเหมือนกันไม่ใช่หรือไง

“เราไปสั่งสอนผู้หญิงคนนี้สักหน่อย กฎระเบียบสักนิดก็ไม่เข้าใจ แม้แต่มาทักทายฉันก็ไม่มี” ย่านิ่มเองก็ตั้งใจอยากไปสั่งสอนผู้หญิงคนนั้น

ดังนั้นผู้หญิงสามคนจึงไปหาเมียน้อยของธีร์ธวัชด้วยกัน

หญิงสาวกำลังทานซุปไก่ เธอกลัวตัวเองจะอ้วนขึ้น จึงดื่มแค่น้ำซุป พวกเนื้อไก่เอย ขาหมูเอย เธอไม่ทานเลย อาจเพราะกลัวว่าอ้วนแล้วจะไม่เป็นที่โปรดปราน

ตอนที่ย่านิ่มพาทั้งสองคนเข้าไป หญิงสาวไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง เธอค่อยๆ ดื่มซุปไก่ ยังมีการเป่าน้ำมันออกเล็กน้อยด้วย

“นี่คือผู้หญิงบ้านไหน แม้แต่กฎระเบียบสักข้อก็ไม่มี ไม่รู้เลยหรือไงว่ามีผู้ใหญ่อยู่ในบ้านน่ะ” ย่านิ่มเปิดปากพูดก่อน

“คุณย่าคะ ขอโทษด้วยค่ะ ฉันเพิ่งมายังไม่เข้าใจกฎ ต่อไปฉันจะไปขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากคุณย่านะคะ นี่คือคุณแม่ใช่ไหมคะ” ปากของหญิงสาวนั้นหวานหยด เธอเห็นวรรณวิมลที่เดินมาคนสุดท้ายแล้ว แต่เธอทักทายแค่ผู้ใหญ่สองคนแรก

“อืม หล่อนเป็นแม่ของเธอ เป็นแม่แท้ๆ ของธวัช ต่อไปเธอต้องกตัญญูต่อหล่อนให้มากๆ” ย่านิ่มเห็นผู้หญิงคนนี้ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ความโกรธในใจเธอจึงสงบขึ้นมานิดหน่อย

“คุณย่า คุณแม่ ฉันเพิ่งกลับมาเมื่อวาน ธวัชมีธุระจึงไม่ได้พาฉันไปเยี่ยมเยียนพวกคุณ ของขวัญที่ฉันเตรียมมาให้พวกคุณจึงยังไม่ทันใดให้เลยค่ะ แจ๋ว เธอไปเอาของมา” หญิงสาวให้คนใช้ที่เป็นพี่เลี้ยงเด็กของตัวเองไปเอาสิ่งของที่ตนเตรียมไว้ออกมา

ทันทีที่ย่านิ่มกับสิริกรได้ยินว่าผู้หญิงคนนี้มีของจะให้ตน พวกเธอทั้งคู่ก็ลืมจุดประสงค์ที่ตัวเองมาไปเลย วรรณวิมลร้อนรนอยู่ข้างหลังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่อีกฝ่ายก็ยื่นของขวัญใส่มือย่านิ่มกับสิริกรไปเรียบร้อยแล้ว แต่ไหนแต่ไรมาเธอวรรณวิมลไม่เคยให้สิ่งของอะไรกับสองคนแก่ไร้ยางอายนี่เลย

“คุณย่าคะ คุณอายุมากแล้ว สวมหยกดีที่สุด หยกสามารถหล่อเลี้ยงชีวิตคนได้ จากที่เห็นตอนแรกคุณย่าดูอายุยังไม่มาก ถ้าคุณหล่อเลี้ยงดูแลร่างกายอีกก็ยิ่งดีค่ะ สร้อยข้อมือทองคำนี่ให้คุณแม่ค่ะ” เมียน้อยคนนี้ลงทุนจริงๆ กำไลหยกที่ให้มาดูดีมาก ดูดีกว่าอันที่ย่านิ่มให้กับวรรณวิมลเสียอีก

แถมยังมีสร้อยข้อมือทองคำนั่นอีก น้ำหนักก็พอเหมาะพอเจาะ ย่านิ่มกับสิริกรเห็นแล้วมีความสุขจนใจจะขาด

“ช่างน่าอายอะไรอย่างนี้ เธอยังให้ของแก่พวกเรา แต่พวกเราไม่มีของอะไรให้เธอเลย” สิริกรรับสร้อยข้อมือทองคำมาแล้วลองชั่งน้ำหนักมัน ความรู้สึกในใจที่มีต่อหญิงสาวนั้นได้เพิ่มขึ้นมาไม่น้อยเลย

“ไม่ต้องค่ะไม่ต้อง คุณย่า คุณแม่ พวกคุณสามารถมาเยี่ยมฉันกับลูกได้ ฉันก็มีความสุขมากแล้วค่ะ” ปากของหญิงสาวก็เก่งกาจมากด้วย เดิมทีเห็นแล้วว่าย่านิ่มกับสิริกรถูกคนยุแยงให้มาหาเรื่องตน แต่เธอกลับเปลี่ยนคำพูดว่าเป็นการมาเยี่ยมตน

“สวมควรแล้วๆ พวกเราเองก็เป็นผู้ใหญ่ของเด็ก มาเยี่ยมพวกเธอแม่ลูกก็เป็นสิ่งที่ดี เดิมทีฉันเองก็อยากมาเยี่ยมอยู่แล้ว”

คำพูดของย่านิ่มกับสิริกร ทำให้วรรณวิมลที่อยู่ข้างหลังแทบทรุด นี่เป็นการมาเพื่อตั้งคำถามไม่ใช่เหรอ

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset