แต่งรักมัดใจบอส – ตอนที่ 243 ผู้ช่วยคนนี้ดีมาก

เนื่องจากครั้งก่อนตอนที่คุณฟิลลิปชวนตนไปทานอาหาร ตนได้ทำพลาดครั้งใหญ่ ดังนั้นจึงทำให้ไม่ได้ทานอาหารอย่างเพลิดเพลิน ดังนั้นวรกัญญาจึงตัดสินใจที่จะเลี้ยงอาหารฟิลลิป ครั้งก่อนเธอยังไม่ได้คุยเรื่องแผนงานความร่วมมือทางธุรกิจกับฟิลลิปเธอวางแผนอย่างรอบคอบแล้ว ครั้งนี้จะคุยกับคุณฟิลลิปให้เรียบร้อย

“ชลธี คุณไปจองโต๊ะที่โรงแรมรีเจนซี่ เอาห้องส่วนตัว ฉันต้องการเลี้ยงอาหารคุณฟิลลิป” วรกัญญาหาข้ออ้างไล่ชลธีออกไปข้างนอกเสมอ แต่กลับยิ่งใช้ง่ายขึ้นเรื่อยๆ มีไม่มากที่ไม่เต็มใจทำ

“ได้ครับ ผมจะไปจองโต๊ะให้เดี๋ยวนี้ เย็นวันศุกร์ใช่ไหมครับ” ชลธีถาม

วรกัญญาชะงักไป ตนยังไม่ได้บอกเวลาเลย เขารู้ได้อย่างไรว่าตนเตรียมจะเลี้ยงในเย็นวันศุกร์

“หรือว่าไม่ใช่ครับ” ชลธีเห็นวรกัญญามองตนแปลกๆ หรือว่านิสัยของเธอเปลี่ยน

“อืม วันศุกร์ เย็นวันศุกร์นั่นแหละ บ่ายนี้ฉันเลิกงานแล้วยังไม่กลับทันที คุณบอกที่บ้านให้หน่อยว่าไม่ต้องเตรียมอาหารให้ฉัน” วรกัญญาถือว่าชลธีเป็นคนของตัวเองโดยสมบูรณ์แบบ

“ได้ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้” ชลธีออกไป

วรกัญญายังคงปรับปรุงแผนงานความร่วมมือกับฟิลลิปต่อไปอีกครู่หนึ่ง แล้วจู่ๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็สั่นชั่วครู่ ที่แท้เป็นข้อความเข้า

“ทานขนมเออเจียวหรือยัง เธอเป็นโลหิตจางนิดหน่อย อย่าลืมทานนะ” เป็นจันวิภาส่งข้อความเข้ามา ครั้งก่อนตอนที่เอาโจ๊กรังนกมาให้ตน ได้เอาขนมเออเจียวจำนวนมากมาให้ด้วย ตนเป็นโรคโลหิตจางนิดหน่อย เธอรู้หมด เห็นแบบนี้แล้วเหมือนว่าตนไม่มีความลับอะไรเลย

หยิบขนมเออเจียวออกมาจากลิ้นชัก วรกัญญาชิมแล้วรู้สึกว่ารสชาติไม่เลว เธอจึงทานไปเยอะอย่างตะกละทันที ในนั้นมีวอลนัทอินผาลัมและอื่นๆ ทานแล้วหอมอร่อยจนหยุดไม่ได้ เหมือนว่าแม่ของจันวิภาจะเป็นคนทำ

ทุกวันเมื่อถึงเวลานั้น ข้อความของจันวิภาจะเข้ามา จนกลายเป็นความเคยชินของวรกัญญา เธอรู้สึกว่าขนมเออเจียวอร่อยมาก ขนมหนึ่งกองใหญ่ที่นำมาให้เธอทานหมดภายในไม่กี่วัน

แต่ที่ทานหมดแล้ว เธอไม่ได้บอกจันวิภา เพราะจันวิภาบอกว่าให้ทานเพียงสี่ถึงห้าชิ้นต่อวัน ทานมากไปจะทำให้ร้อนใน แต่จันวิภาทานทีไรก็ลืมเรื่องนี้ไปทุกที

เป็นแผลในปากหลายจุด เวลาดื่มน้ำก็เจ็บ

“ชลธี เป็นแผลที่ปากทานอะไร ในปากของฉันเจ็บมากเลย” วรกัญญาพูดกับชลธี น้ำตาแห่งความเจ็บปวดของเธอกำลังไหล

“คุณเป็นแผลในปากได้ยังไง ผมใส่ใจเรื่องอาหารของคุณทุกวันนะ ไม่ได้มีของที่ทำให้ร้อนในเลย” วรกัญญาสุขภาพไม่ค่อยดี มีของที่ทำให้ร้อนในนิดหน่อยเธอก็จะร้อนในทันที ดังนั้นทุกวันชลธีจะใส่ใจในเรื่องนี้อย่างมากเมื่อจัดอาหารให้เธอ เมื่อทานหม้อไฟไปก็ต้องให้เธอดื่มซุปถั่วเขียว

“ฉัน ฉันทานขนมเออเจียวไปเยอะ ที่คุณแม่ของจันวิภาทำ มันอร่อยมากฉันเลยทานเยอะไปหน่อย” วรกัญญามีแค่ต้องสารภาพอย่างซื่อสัตย์ เธอก็คิดไม่ถึงว่ามันจะมีผลกระทบขนาดนี้

“ผมจะไปซื้อยาให้คุณเดี๋ยวนี้ พรุ่งนี้มีกินเลี้ยง ผมจะดูว่าอะไรที่คุณทานได้” ชลธีรีบไปหาวิธีจัดการกับปัญหาของวรกัญญา

“คนคนนี้ค่อนข้างไม่เลว ไม่เหมือนที่คนภายนอกพูดกันว่าเป็นโรคประสาทเลย” เนื่องจากพฤติกรรมของชลธีในช่วงห้าปี คนภายนอกจึงลือกันหนาหูว่าสุขภาพจิตของเขาไม่ปกติอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม คนคนนี้ไม่เลว ตนใช้งานได้อย่างหายห่วง เทียบกับเลขาหญิงคนนั้นก็มีความใส่ใจรู้งานกว่ามาก เธอมีอะไรชลธีจะแก้ปัญหาให้ได้หมด ทำให้วรกัญญาเกิดความรู้สึกอยากพึ่งพา

ชลธีรีบกระวีกระวาดซื้อยา ยังโทรหานีรชาด้วย ขอให้เธอต้มชาดอกไม้ขจัดความร้อนล้างพิษส่งมา

“ต่อไปเวลาที่ทานอะไรต้องระวังนะครับ ทานของที่ร้อนในมากไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นปากของคุณจะเป็นแผล” ขณะมองดูวรกัญญาทานยาที่ให้ ชลธีก็ทำตัวเหมือนคนแก่ เอาแต่บ่นอยู่เป็นนานสองนาน แต่วรกัญญาทำผิด เธอจึงไม่เถียง

“ฉันมาแล้วๆ โธ่เอ๊ย ยังไงเนี่ย เป็นร้อนในเหรอจ๊ะ” นีรชาวางสิ่งของในมือไว้ข้างๆ แล้วไปดูๆ หน้าวรกัญญา

“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะคุณป้า ฉันแค่เป็นแผลในปาก ทานยานิดหน่อยก็หายแล้ว” วรกัญญาคิดไม่ถึงว่าตนแค่เป็นแผลในปากนิดหน่อย ชลธีจะเรียกแม่มา ต้มซุปชาขจัดความร้อนมาให้ตน ทำไมครอบครัวนี้ถึงได้ดีกับตนขนาดนี้ล่ะ

“จ้ะ กานต์จ๊ะ หนูทานยาของหนูกับชานี่ของฉันนะ ไม่นานก็จะหาย ได้ยินชลบอกว่าพรุ่งนี้ต้องไปกินเลี้ยง ฉันเลยเพิ่มยาสรรพคุณเยี่ยมที่ขจัดความร้อนอีกสองสามตัว” นีรชารินซุปชาออกมา

ใจของวรกัญญาเกิดความรู้สึกราวกับว่าเธอเป็นครอบครัวเดียวกันกับพวกเขา แต่แล้วเธอก็ส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว ถ้าเป็นครอบครัวเดียวกัน ทำไมพวกเขาไม่บอกตนล่ะ ต้องไม่ใช่แน่นอน คงอาจเพราะชลธีชอบตน ครอบครัวเดียวกันก็เลยชอบตามล่ะมั้ง

“คุณกานต์ สวัสดีครับ เราเจอกันอีกแล้ว” เมื่อคุณฟิลลิปเห็นวรกัญญา เขาก็รู้สึกมีความสุขมาก การบริหารของสาวน้อยคนนี้เขาตรวจสอบมารอบหนึ่งแล้ว เป็นนักธุรกิจหัวการค้าที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง

“สวัสดีค่ะคุณคุณฟิลลิป เราเจอกันอีกแล้ว ฉันดีใจมาก เรื่องครั้งก่อนต้องขอโทษด้วยจริงๆ” วันนี้วรกัญญาไม่ได้พาชลธีมากด้วย ที่พามาคือเลขาใบเตย

“ไม่ๆๆ ครั้งนั้นเป็นอุบัติเหตุ มีอะไรต้องขอโทษ วันนี้คุณเชิญผมมาไม่ใช่เหรอ มานั่งเถอะครับนั่งเลย ผู้ช่วยคนนั้นเมื่อครั้งก่อนวันนี้ทำไมไม่ได้มาด้วยล่ะครับ” ฟิลลิปมองดูครู่หนึ่งแล้วไม่เห็นชลธี

“อ้อ วันนี้เขามีธุระอื่นน่ะค่ะ ก็เลยไม่ได้มา นี่คือใบเคยเลขาของฉันค่ะ” วรกัญญาแนะนำใบเตยกับคุณฟิลลิป

“ฟิลลิป ทุกคนมาถึงแล้ว เราทานอาหารกันเลยไหมคะ” ธินิดาเห็นฟิลลิปทอดทิ้งเธอ จึงเตือนฟิลลิป ว่าเขาได้พาภรรยามาด้วย

“อ้อ คุณนายธินิดา ทานได้เลย แค่เราสี่คน” แม้วรกัญญาจะไม่ชอบคุณนายธินิดาคนนี้ แต่เพื่อรักษาหน้าจึงต้องปล่อยผ่าน

ทั้งสี่คนนั่งลง ร่วมทานอาหารด้วยกัน

อาหารในวันนี้ทั้งหมดชลธีเป็นคนสั่ง เขาสั่งตามรสปากของคุณฟิลลิปกับรสปากของวรกัญญา ดังนั้นจึงเป็นของโปรดของทั้งสองคน

“คุณกานต์ครับ ผมร่วมธุรกิจบางส่วนกับคุณพ่อของคุณ แต่ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้มันน้อยลง ครั้งนี้ผมตั้งใจร่วมธุรกิจกับคุณ คุณดูแล้วมีโครงการร่วมธุรกิจอะไรบ้างไหม” ขณะที่ทานอาหาร คุณฟิลลิปตั้งใจเสนอการร่วมธุรกิจกับวรกัญญาก่อน

ทันทีที่วรกัญญาได้ยิน มันเป็นความตั้งใจของเธอพอดี ที่เธอมาในวันนี้ก็เพื่อเรื่องการร่วมธุรกิจ

“โอ้ว คุณฟิลลิป ฉันก็ตั้งใจแบบนั้นเหมือนกัน บริษัทฟิลลิปเป็นบริษัทระหว่างประเทศขนาดใหญ่ เราต้องการอย่างมากที่จะร่วมธุรกิจกับคุณ ทานกันก่อนเถอะ ทานเสร็จแล้วเรามาค่อยๆ คุยกันนะคะ” ด้วยมารยาท วรกัญญาให้คุณฟิลลิปทานอาหารให้เสร็จก่อนแล้วค่อยคุยเรื่องงาน

“จริงเหรอครับ เช่นนั้นผมก็อยากรู้มากๆ เลย!” ทันทีที่คุณฟิลลิปได้ยิน เขาก็เริ่มสนอกสนใจ

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset