พนักงานสาวยังคงบ่นพึมพำกับตัวเองขณะหันไปหยิบบุหรี่ให้เขา
“รอก่อนนะคุณ เรามีเรื่องที่ต้องคุยกันก่อนผมจะไปส่งคุณที่สถานีตำรวจ”
“ห้าสิบหยวนค่ะคุณลูกค้า”
“ช่วยคิดรวมกับส่วนของเธอได้ไหมครับ ผมจะจ่ายให้เธอเอง” โม่หันล้วงหยิบกระเป๋าเงินออกมา
พนักงานสาวตกใจ จ้องหน้าเขากลับ สีหน้าฉายแววไม่พอใจ “อะไรนะคะ ทำไมคุณต้องมาช่วยผู้หญิงวุ่นวายคนนี้ด้วย เชอะ เสียเวลาคนอื่นจริงๆ ทั้งหมด 108 หยวนค่ะคุณลูกค้า”
โม่หันเดินถือถุงออกมาจากร้านค้าในขณะที่เด็กสาวเดินก้มหัวตามมาเงียบๆ
เขาหยุดยืนพิงตัวกับเสาไฟ หันกลับไปถามเธอ “คุณกลัวที่จะไปสถานีตำรวจเหรอ”
“ใช่” เด็กสาวตอบพลางก้มหัวลงเล็กน้อย
“ถ้าอย่างนั้นที่คุณหนีไปวันนั้นก็เพราะกลัวว่าจะต้องไปสถานีตำรวจน่ะเหรอ”
“ใช่ค่ะ” เธอว่าขึ้น
“แล้วทำไมถึงไปขโมยของในร้านล่ะครับ”
“ไม่ได้ขโมยสักหน่อย ฉันบอกเธอแล้วนะ” เธอพยายามอธิบาย
“ไม่มีใครเขายอมให้คุณทำอย่างนั้นหรอกนะ คุณไม่ได้จ่ายเงินเขาด้วย ตามกฎหมายแล้วทำแบบนี้เขาเรียกว่าขโมยครับ” โม่หันพูดด้วยเหตุผล
เด็กสาวกล่าวขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน “ฉันหิวนี่”
โม่หันหัวเราะขึ้นเบาๆ ขณะเอนหลังพิงเสาไฟ ปล่อยสายตาล่องลอยไปกับความมืดยามค่ำคืนพลางจุดบุหรี่ในมือ เขาถอนหายใจพร้อมพ่นควันออกมา ท่ามกลางแสงไฟที่ริบหรี่ ความสว่างจากก้นบุหรี่ที่ถูกจุดยิ่งชัดเจนสะดุดตามากขึ้น “เสื้อผ้าที่คุณใส่ก็ขโมยมาเหมือนกันเหรอ”
เธอยิ้มเจื่อนๆ “ก็อย่างที่คุณเข้าใจนั่นแหละค่ะ”
“ไม่มีเพื่อนหรือญาติคนไหนมาตามหาคุณบ้างเลยเหรอ”
“หึ! ไม่มีหรอก ฉันความจำเสื่อม ต่อให้พวกเขามาหา ฉันก็ไม่รู้อยู่ดีนั่นแหละค่ะ”
โม่หันที่สูบบุหรี่เสร็จแล้วขยี้ก้นบุหรี่ทิ้งก่อนจะทิ้งมันลงในถังขยะใกล้ๆ เขาเอ่ยกับเธออย่างใจเย็น “ไปกันเถอะ”
เธอหันไปมองเขา “ไปไหนคะ”
“ไปหาอะไรกิน”
หลังจากครั้งแรกที่เจอกัน เธอไม่คิดว่าจะได้เจอเขาอีกครั้ง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ตอนนี้เขากำลังจะเลี้ยงข้าวเธอ แค่เห็นเขาก้าวไปที่รถ หัวใจของเธอก็เต้นระรัว เธอเดินตามเขาและสอดตัวเข้าไปในรถ
โม่หันพาเธอมาที่ร้านอาหารสไตล์ตะวันตกที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ทันทีที่พวกเขาเดินเข้ามาในร้าน ผู้จัดการก็รีบเดินมาต้อนรับด้วยรอยยิ้มทันทีที่เห็นโม่หัน “ทนายโม่ ทำไมแวะมาที่ร้านของเราเอาดึกดื่นป่านนี้ล่ะ”
ทนายโม่สีเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “มาหาอะไรกิน”
ผู้จัดการสังเกตเห็นเด็กสาวผมสั้นข้างๆ เขา เธอสวมเสื้อสีเทายับๆ กับกางเกงผู้ป่วย ดวงตาลุกวาวกวาดมองไปรอบร้าน เขาเกิดความสงสัยขึ้นมาทันที นอกจากแฟนสาวชาวอเมริกันของเขา ผู้จัดการก็ยังไม่เคยเห็นโม่หันพาผู้หญิงคนไหนมาที่ร้านมาก่อน แล้วนับประสาอะไรกับเด็กสาวแบบนี้
เขาตบบ่าโม่หันเบาๆ รอยยิ้มล้อเลียนปรากฏขึ้นบนใบหน้า “อย่าบอกนะ! นี่นายมี กิ๊ก เหรอ ว่าแต่เด็กผู้หญิงคนนี้ไม่เด็กไปหน่อยเหรอสำหรับคนอายุเท่านาย”
โม่หันเหลือบมองไปทางเขาก่อนเอ่ยออกมาอย่างเร็วๆ “ไป๋อวี่ ถ้านายมีเวลาเหลือมาล้อฉันเล่น ทำไมไม่ใช้เวลาไปคิดค่าธรรมเนียมประจำปีที่นายต้องจ่ายให้สำนักงานกฎหมายของฉันแทนล่ะ”
ไอ้ทนายหน้าเลือด ไป๋อวี่ก่นด่าในใจ “ล้อเล่นหน่อยไม่ได้เหรอ พ่อทนายใหญ่! แล้วนี่นายจะนั่งตรงไหนล่ะ จะกินอะไร เหมือนเดินไหม”
โม่หันทิ้งตัวลงนั่งที่โต๊ะใกล้ๆ แล้วมองไปยังเด็กสาวที่นั่งตรงข้าม “คุณจะกินอะไร”
เธอไม่ได้เป็นคนเลือกกินนักอยู่แล้ว “อะไรก็ได้ค่ะ แล้วแต่คุณเลย”
เขาหันไปหาไป๋อวี่ก่อนสั่ง “เอาเหมือนเดิม สองที่นะ”