ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – ตอนที่ 126 ใครสอนเธอ?

สัญชาตญาณการเอาตัวรอด มู่นวลนวลก้มหน้าจะเดินถอยหลังไป

“หยุดอยู่ตรงนั้น”

เสียงที่คุ้นเคยของโม่ถิงเซียวดังขึ้น ทำให้เธอหยุดชะงัก

เธอหันกลับมาหาโม่ถิงเซียว : “ฉันแค่จะไปเข้าห้องน้ำ”

โม่ถิงเซียวเป็นคนสูงขายาว เดินก้าวยาว ไม่ทันไรก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้ามู่นวลนวล เขาให้สายตาสำรวจเธอแล้วไปหยุดที่หน้าผากเพราะเห็นรอยที่นูนขึ้นมา เขาเหมือนตกใจแต่ไม่แสดงท่าทีออกมา

เขาพูดกับเธอ : “ไปสิ ฉันจะรอ”

มู่นวลนวล: “………”

มู่นวลนวลทำได้เพียงเดินตัวแข็งเข้าไปในห้องน้ำ

เธอเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำ ใช้มือเคาะหน้าผากตังเอง แต่ลืมไปว่าหน้าผากมีรอยนูนอยู่

“ซี๊ด…….” เจ็บ!

สุดท้าย เธอถ่วงเวลาได้สักพักก็เดินออกไป

เซินเหลียงและกูจื่อหยานหายไปไหนไม่รู้ มีแค่โม่ถิงเซียวที่ยืนรอเธออยู่

เขายังคงแต่งกายด้วยชุดสูทอย่างพิถีพิถันเหมือนเคย ด้วยรูปร่างที่สูงเพรียวของเขา แม้ว่าเขาจะยืนรอใครบางคนอยู่หน้าห้องน้ำ เขายังคงดูหล่อและสง่า

“20 นาที” โม่ถิงเซียวดูเวลา

มู่นวลนวลกำลังงงงวยอยู่ เขาพูด : “เธอขี้หรอ?”

มู่นวลนวลผงะไปครู่หนึ่งแล้วสำลักน้ำลาย : “อะแฮ่ม”

มู่ถิงเซียวคร่ำครวญเล็กน้อยจากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมาก: “กลับไปจะให้ซือเย่ช่วยคุณไปที่โรงพยาบาลเพื่อลงทะเบียนตรวจร่างกาย”

“ฮ่าฮ่า” มู่นวลนวลคิดว่าเธอจะพูดอะไรได้อีกนอกจากยิ้มในเวลานี้?

……….

ทั้งสองเดินออกจากร้านเหล้า

รถของกูจื่อหยานจอดอยู่หน้าร้าน เขานั่งเบาะคนขับเซินเหลียงนั่งเบาะข้างๆ

พอเห็นมู่นวลนวลและโม่ถิงเซียวเดินออกมา กูจื่อหยานยื่นหน้าออกมาจากรถ : “ถิงเซียว ฉันจะพาเซินเหลียงไปโรงพยาบาลนายไปไหม?”

โม่ถิงเซียวชี้ให้กูจื่อหยานเห็นรถของตัวเอง

กูจื่อหยานเข้าใจแล้วหันกลับไปยกมือให้เขา : “OK”แล้วขับรถออกไป

“ฉันไม่เป็นไร ไม่ไปโรงพยาบาล” มู่นวลนวลดึงแขนโม่ถิงเซียว

เธอก็แค่โดนตีจนหัวโน เลือดไม่มีจะไปโรงพยาบาลทำไม?

แล้วยังต้องไปต่อแถวรอลงทะเบียบอีก เสียเวลา ตอนนี้เธอคิดแค่ว่าเธอหิวมาก

ตอนนี้เป็นช่วงเวลาพลบค่ำ แม้ว่าจะมีไฟสาดส่องเข้ามาแต่สายตาของโม่ถิงเซียวยังคงน่ากลัว เขาพูดเสียงต่ำ : “ไม่เป็นไร?”

“ใช่” มู่นวลนวลพยักหน้า

ทันใดนั้นเธอได้ร้องเสียงแหลมออกมา : “อ้า!”

เพราะว่าโม่ถิงเซียวใช้มือกดไปที่หน้าผากเธออย่างแรง

รอยนูนผ่านไปอีกสองถึงสามวันจะสามารถหายเองได้ ตอนนี้มีคนใช้แรงกดลงไปยังคงรู้สึกเจ็บอยู่ดี

โม่ถิงเซียวลดมือลงพูดกับเธอ : “ไม่เป็นไรแล้วร้องทำไม?”

“ฉัน.………” เขาไม่ทำแบบนั้นเธอก็ไม่เป็นไรแล้ว

……………

โรงพยาบาล

มู่ถิงเซียวยืนกรานที่จะให้มู่นวลนวลเขาตรวจร่างกายกับคุณหมอ ตรวจอย่างละเอียดทุกส่วนบนร่างกาย

เซินเหลียงก็เช่นกัน เธอโดนกูจื่อหยานบังคับให้ตรวจร่างกาย

พอทั้งสองตรวจเสร็จก็ถูกจัดให้นั่งใกล้ๆกัน เธอมองฉัน ฉันมองเธอ

สุดท้ายเซินเหลียงพูดขึ้นมาว่า : “ฉันคิดว่าโม่ถิงเซียวเป็นห่วงเธอมากเกินไปนะ”

“ฮ่าฮ่า” มู่นวลนวลใช้มือลูบหน้าผากตัวเอง เธอยังรู้สึกราวกับว่ามีคนใช้มือกดลงไปที่แผลเธอ

มู่นวลนวลทำหน้าเย็นชา : “แต่ฉันคิดว่ากูจื่อหยานนั้นแหละที่เป็นห่วงเธอมากเกินไป เขาพูดว่าอะไรนะ?”

มู่นวลนวลหยุดพูดแล้วเรียนเสียงกูจื่อหยาน : “เธอเป็นพ่อทูนหัวของฉัน”

“มู่นวลนวล!”

เซินเหลียงเสียงดังทำตัวไม่ถูก

ตอนนี้กูจื่อหยานและโม่ถิงเซียวเดินออกมาจากห้องของคุณหมอ

มู่นวลนวลและเซินเหลียงลุกจากที่นั่งพร้อมกันโดยไม่พูดสักคำ

……………

เพาระมู่นวลนวลและเซินเหลียงทั้งสองยังไม่ได้ท่านข้าว ฉนั้นทุกคนจึงต้องไป Shengding Media ด้วยกัน

ขณะเดินทาง มู่นวลนวลนึกถึงโม่เจียเฉินพอดี เธอถามโม่ถิงเซียว : “โม่เจียเฉินละ?”

โม่ถิงเซียวหันหน้าไปมองเธอไม่มีการแสดงออกใดๆบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา : “เธอห่วงตัวเองเถอะ”

ถึง Shengding Media พวกเขาให้ทั้งสองสาวที่พึ่งมีเรื่องมาสั้งอาหารมาเต็มโต๊ะ

แม้มู่นวลนวลจะรู้สึกกังวล แต่ตอนนี้เธอหิวมาก

รอมู่นวลนวลกินข้าวเสร็จ โม่ถิงเซียวจะเริ่มคิดบัญชีกับเธอ

“ทำไมฉันไม่เคยรู้เลยว่าภรรยาของฉันเก่งเรื่องทะเลาะวิวาท ใครสอนเธอหรอ?”

โม่ถิงเซียวมองเธอด้วยสายตาที่น่ากลัวราวกับว่าคำตอบของเธอทำให้เขาไม่พอใจ แล้วจะจัดการเธอ

ส่วนจะจัดการอย่างไรนั้นมู่นวลนวลไม่รู้เลย

เธอรู้แค่ว่าตราบใดที่โม่ถิงเซียวปากฏอยู่ตรงหน้าเธอ มันทำให้เธอไม่เป็นตัวเองและกังวลใจ

มู่นวลนวลชี้นิ้วไปที่เซินเหลียง

เซินเหลียงเธอก็กลัวโม่ถิงเซียวเช่นกัน

เธอกลืนน้ำลายแล้วชี้นิ้วไปหากูจื่อหยานที่นั่งข้างๆเธอ : “ฉันเรียนมาจากเขา”

“แค่ก แค่ก………”

กูจื่อหยานที่กำลังดื่มไวน์อยู่เขาตกใจจนสำลัก

“เดี๋ยวนะ เซินเสี่ยวเหลียงตอนที่ฉันไม่อยู่ฉันให้คนช่วยปกป้องเธอแทนฉันไม่ได้ให้เธอเรียนเรื่องพวกนี้แล้วก่อเรื่องทะละวิวาทที่โรงเรียน……….”

เขายังไม่ทันได้พูดจบก็โดนเซินเหลียงตัดบท

“อะแฮ่ม”

โม่ถิงเซียวไม่ได้พูดอะไร ยิ้มอย่างเย็ยชา ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป

จริงๆแล้วมู่นวลนวลเข้าใจในคำพูดของเขาว่า : “กลับถึงบ้านฉันจะจัดการเธอ”

เธอไม่อยากกลับบ้าน

แต่ว่าเธอไม่กล้าที่จะไม่กลับบ้าน

……………..

โม่ถิงเซียวขับรถเร็วมาก

ถึงหน้าบ้าน มู่นวลนวลเวียนหัว เธอลงจากรถนั่งลงข้างถนนแล้วอ้วก

โม่เจียเฉินได้ยินเสียงรถก็วิ่งออกมาดู เห็นหน้ามู่นวลนวลเขาโล่งอกแล้วถอยหายใจ : “พี่นวลนวล ในที่สุดพี่ก็กลับมาแล้ว พี่รู้ไหมตอนที่พี่ผมกลับมาไม่เจอพี่อยู่บ้านพี่เขาโกรธและน่ากลัวมาก………”

มู่นวลนวลยืนขึ้น ไม่มีแรงแล้วพูดว่า : “เขามันน่ากลัวอยู่แล้ว”

พูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นก็เห็นโม่ถิงเซียวที่ยืนอยู่ด้านหลังโม่เจียเฉิน

คงพูดลับหลังไม่ได้เลยสินะ

มู่นวลนวลคิดว่าเผชิญหน้ากับเขาตรงๆก็ต้องโดนคิดบัญชี หลบหน้าเขาก็โดนคิดบัญชี ทางที่ดีเผชิญหน้าให้จบๆไปเลยดีกว่า

แล้วเธอก็เดินตามหลังโม่ถิงเซียวไป

มู่นวลนวลครุ่นคิดและยังไม่เข้าใจว่าเธอไปมีเรื่องข้างนอกแล้วทำไมโม่ถิงเซียวต้องโกรธมากขนาดนี้

หรือเพราะว่าเธอทำให้เขาเสียหน้าหรอ?

โม่ถิงเซียวเดินเข้าไปในห้องแล้วถอดเสื้อคลุมออก เขาหันหน้าไปหามู่นวลนวลที่ยืนลังเลอยู่หน้าประตู เขาเสียงต่ำ : “มานี้”

มู่นวลนวลเดินเข้ามา โม่ถิงเซียวก็ใช้มือกดเธอนั่งลงบนเตียง แล้วก็ดึงมือกลับมา

มู่นวลนวลพยายามจะหลบเขา แต่เสียงที่ต่ำและน่าเกรงขามของเขาแทรกขึ้น : “ทายา!จะหลบทำไม!”

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: "มันน่าเกลียดเกินไป" เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: "ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย" เธอจ้องเขา : "คุณ…คุณทำไม่ได้ … " ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: "ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset