กินข้าวเสร็จ มู่นวลนวลก็ลากแขนโม่เจียเฉินเข้าไปที่ห้องของเขา
มู่นวลนวลปิดประตูห้องเบาๆเหมือนมีความลับอะไร
โม่เจียเฉินสงสัย “พี่ทำอะไรเนี่ย?ตอนที่พี่ลากผมขึ้นมาสายตาพี่ชายผมราวกับว่าจะฆ่าผม แล้วยังปิดประตูอีก สักพักพี่เขาคงได้โยนผมออกจากบ้านแน่”
“ไม่หรอก” ถึงแม้ว่าโม่ถิงเซียวจะดุโม่เจียเฉินแค่ไหน แต่การที่เขายอมให้โม่เจียเฉินอยู่ที่บ้านด้วยก็แสดงว่าโม่ถิงเซียวก็เอ็นดูโม่เจียเฉินอยู่ไม่น้อย
“ถ้าเกิดว่าพี่เขาโยนผมออกนอกบ้านจริงๆพี่ต้องช่วยผมนะ” โม่เจียเฉินกระโดดขึ้นนั่งบนโต๊ะทานข้าว: “ว่ามา! มีเรื่องอะไรหรอพี่คิดดีแล้วว่าจะหย่ากับพี่เขาหรอ?”
“เด็กคนนี้! ทำไมอ้าปากพูดทีไรก็พูดถึงเรื่องหย่า!”มู่นวลนวลยื่นมือไปโขกหัวเขา
โม่เจียเฉินลูบหัวตัวเอง: “โอ้ยเจ็บ!”
มู่นวลนวลไม่มีกระจิตกระใจจะล้อเล่นกับเขา: “โดยปกติแล้วนิสัยของพี่ชายนายเป็นแบบนี้หรอ?”
แม้ว่าตอนที่โม่ถิงเซียวปลอมตัวเป็นโม่เจียเฉินจะรู้สึกได้ถึงความร้ายของเขา แต่ก็ไม่ร้ายเท่ากับตอนนี้
พอเขากลับมาเป็นโมถิงเซียว เขากลายเป็นคนที่คาดเดาได้ยากมาก และมีเป็นคนที่เข้าถึงได้ยากมาก
ทุกอย่างที่ทำลงไปเขารู้ตัวดี แต่เขาไม่คิดจะสนใจอะไร ตอนนี้เขากลับมาป็นโม่ถิงเซียวแล้วยิ่งหนักขึ้นกว่าที่เคยเป็น
“เขาก็เป็นแบบนี้แหละ เป็นคนที่ร้ายมาก” โม่เจียเฉินทำท่าเหมือนกับนึกถึงอะไรที่น่ากลัวสักอย่าง: “ผมพูดจริงนะ พี่เลิกกับพี่เขาเถอะ พี่คิดว่าพี่แท้ๆของผมพอไหวไหม?”
มู่นวลนวลยิ้มแหยะๆ: “เมื่อก่อนนายอยากให้ฉันเป็นแฟนนายไม่ใช่หรอ?”
“ผมคิดว่าพี่คงไม่ชอบผม พี่ของผมเป็นคนอบอุ่นเหมาะสมกับพี่มากว่า แน่นอนว่าดีกว่าพี่โม่ถิงเซียว เขาดุเกินไป!”
โม่เจียเฉินสร็จพูดก็ทำสีหน้าท่าทางพอใจ
มู่นวลนวลอดยิ้มไม่ได้ จงใจพูดแกล้งโม่เจียเฉิน: “นายรู้ไหมว่ามีผู้หญิงเยอะแค่ไหนที่อยากแต่งงานกับพี่นาย? แม้ว่าพี่นายจะอยากแต่งงานกับฉัน ตอนนั้นฉันก็คงเป็นแม่หม่ายไม่เหมาะสมกับเขาอยู่ดี”
“พี่ดีขนาดนี้ ทำไมจะไม่เหมาะสมละ?” เขาพูดแบบไม่คิดอะไร แต่จริงจังไม่น้อย
มู่นวลนวลคิดในใจ ฉันดีขนาดนั้นเลยหรอ?
พอเห็นมู่นวลนวลเงียบไป มู่เจียเฉินรู้สึกแปลกๆก็เลยอธิบาย: “เมื่อก่อนไม่ใช่ว่าผมไปแย้งห้องของพี่หรอ วันที่พี่ออกไปผมนึกว่าพี่จะเรียกคนมาตีผม แต่กลับทำอาหารให้ผมทาน…..”
มู่นวลนวลตัดบท : “เพราะว่านายบอกว่านายคือโม่เจียเฉิน ฉันก็เลยจะเรียกคนมาตีนาย”
“ต่อให้ผมไม่ใช่โม่เจียเฉิน พี่ก็ไม่ควรจะเรียกคนมาตีผม”
“นายรู้ได้ยังไง”
“พี่ไม่ต้องรู้หรอก” มู่เจียเฉินจับเธอเดินออกจากห้อง: “พี่ออกไปได้แล้วผมจะทำการบ้าน คำถามของผู้หญิงเป็นเรื่องที่ทำให้ปวดหัวจริงๆ”
ปัง!
เสียงปิดประตู
มู่นวลนวลหันหน้ากลับมาแล้วยิ้มอย่างพอใจ
เด็กคนนี้ไม่รู้เรื่องอะไรเอาสะเลย
พอถึงห้อง โม่เจียเฉินที่พิงหัวเตียงดูเอกสารอยู่ได้ยินเสียงเธอเปิดประตูเดินเข้ามา โม่เจียเฉินไม่ได้สนใจเธอแม้แต่น้อย
ทำไมวันนี้เขานอนเร็งจัง?
มู่นวลนวลไม่ได้พูดกับเขาก็เดินตรงไปที่ห้องอาบน้ำ
ตอนที่เธอเดินออกมา ในมือโม่ถิงเซียวไม่ได้ถือเอกสารแล้ว เขานั่งพิงที่หัวเตียง ตาก็จ้องมองมาที่เธอ
มู่นวลนวลก้มหน้ามองชุดนอนของตัวเองที่ปกปิดร่างกายไว้อย่างมิดชิด นวลนวลเดินมาที่เตียงเปิดผ้าห่มขึ้นแล้วขึ้นไปนอน
พอเธอหลับตาลงก็รู้สึกว่าโม่ถิงเซียวค่อยๆขยับตัวเข้าใกล้เธอ
พอลืมตาขึ้นก็เห็นโม่ถิงเซียวโน้มตัวเข้ามาใกล้เหมือนกำลังจะจูบเธอ
ในขณะที่มู่นวลนวลตัวแข็งทำอะไรไม่ถูกนั้น ริมฝีปากของโม่ถิงเซียวก็ประกบเข้ากับริมฝีกของมู่นวลนวล หลังจากนั้นก็ขึ้นคร่อมเธอ
ความดุดันของเขาทำให้มู่นวลนวลต้องเคริ้มไปกับสิงที่เขาทำ เธอปล่อยตัวปล่อยใจให้ไปตามอารมณ์
โม่ถิงเซียวเลื่อนลงมาจูบและไซร้คอเธอ เสียงกระเส่า: “วันนั้นที่จินติงเห็นตั้งใจเรียนมาก วันนี้เรามาทบทวนกันหน่อย”
มู่นวลนวลนึกถึงวันนั้นที่จินติงเลือดก็ปรี๊ดขึ้นหน้า โมโหมาก! เธอพยายามจะทุบตีเขาเพื่อหยุดการกระทำนั้น แต่เธอไม่มีแรงพอที่จะไปสู้กับแรงโม่ถิงเซียว
เธอโมโหมากแล้วพูดออกมา : “ทดสอบกับผีอะไร!”
“อยู่บนเตียงด้วยกันห้ามพูดคำหยาบ” โม่ถิงเซียวพูดเหมือนโกรธ เขากัดไปที่ริมฝีปากมู่นวลนวลเบาๆ: “แต่อีกสักหน่อยเธอสามารถร้องเสียงดังได้”
มู่นวลนวลรู้อยู่แก่ใจว่าไม่ช้าก็เร็วจะต้องมีวันนี้
แต่ว่าใจเธอกลับต่อต้าน ไม่อยากทำสิ่งนี้
พอได้ยินเขาพูดเช่นนั้นตัวเธอแข็งราวกับหิน
มู่ถิงเซียวรู้สึกถึงปฏิกริยาเธอไม่เหมือนเดิมเหมือนเธอกำลังโกรธ
เขาพูดกับมู่นวลนวลเบาๆ : ไม่ทำก็ได้ แต่คุณต้องช่วยผม”
สถานะการณ์ตอนนี้เธอเป็นเพียงลูกไก่ในกำมือ
โม่ถิงเซียวพูดเช่นนี้คือยอมที่จะไม่ทำแบบนั้นกับเธอ แต่มู่นวลนวลก็ไม่กล้าที่จะพูดว่า “ไม่!”
…………
เช้าวันรุ่งขึ้น
มู่นวลนวลลงมาจากตึกก็เห็นโม่เจียนเฉินยื่นง่วงอยู่ที่ห้องโถง แต่ไม่เห็นโม่ถิงเซียว
เธอเดินไปตบๆไหล่โม่เจียเฉิน: “เมื่อคืนไม่ได้นอนหรอ?”
“นอนตีสาม การบ้านเยอะ” โม่เจียเฉินไม่มีแรงจะลืมตา เขาหลับตาลงแล้วล้มตัวลงนอนที่โซฟา
“พี่ชายนายละ?”
“ไม่รู้ ออกไปแล้วหรือเปล่า……….”
มู่นวลนวลโล่งอกถอนหายใจออกมา
โม่ถิงเซียวไม่อยู่ก็ดีแล้ว
กินข้าวเสร็จเธอก็เดินทางไปที่มู่กรุ๊ป
พอถึงบริษัทก็ได้เข้าประชุมทันที
จริงๆแล้วนี้เป็นการประชุมผู้บริหารระดับสูงของบริษัท แต่พ่อของเธอเสนอชื่อให้เธอเข้าร่วม เธอจึงจำเป็นจะต้องเข้าร่วมประชุม
เหมือนกับมู่นวลนวลคาดเดาไว้ไม่ผิด สินค้าของมู่กรุ๊ปถูกกดราคา ยอดขายก็ลดลง หุ่นส่วนบางรายก็อยากจะยกเลิกสัญญา
ทันใดนั้นก็มีคนเสนอแนะแนวทาง: “ผู้คนในยุคนี้คอยอัปเดตสิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ถ้ามีดารามารับรองสินค้าให้เราก็จะสามารถแก้ไขสถานะการณ์นี้ได้”
“ใครละ?”
“ซือเฉิงยวี่เขาเป็นดารานักแสดงอายุน้อยที่ได้รับรางวัลไปนับไม่ถ้วน ถ้าเกิดได้เขามาเป็นนายแบบสินค้า พวกเราจะผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้แน่นอน”
มู่นวลนวลเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปที่ผู้ที่เสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหานี้ แล้วทำหน้าเหมือนเป็นไปไม่ได้
ให้ซือเฉิงยวี่มาเป็นนายแบบของสินค้า ช่างเป็นฝันที่ลมๆแล้งๆจริงๆ