Eight Desolate Sword God – ตอนที่ 143

“อะไรนะ เจ้าบอกว่า ซานเสียน ตายแล้ว?”

 

เมื่อรู้ว่า โหย่วซานเสียน ตาย ชายในชุดคลุมดํา ได้จ้องมองไปที่ เฉินชางเทียน และ กล่าวถาม เสียงดัง

 

“ใช่แล้ว ซานเสียน ถูกฆ่าตาย โดย เย่เฉินเฟิง เป็น ฟู่เหยาเยว่ ช่วยเหลือ เย่เฉินเฟิง ในการจัดการกับพวกเรา” เฉินชางเทียน ไม่สามารถสบสายตาของ ชายในชุดคลุมดําได้ เขาได้หันหน้าหนีและกล่าวพูดด้วยเสียงต่ำ

 

“ท่านอาจารย์ได้โปรดเชื่อข้า ความตายของ โหย่วซานเสียน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับข้าเลย” ฟู่เหยาเยว่ จ้องมองไปที่ ดวงตาของ ชายในชุดคลุมสีดํา และ กล่าวพูดอย่างรวดเร็ว

 

“ชางเทียน บอกข้ามา ว่าเกิดอะไรขึ้น ซานเสียน ตายได้อย่างไร?”

 

ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียน ได้กล่าวถาม เฉินชางเทียน

 

“ขอรับปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียน”

 

เฉินชางเทียน จ้องมองไปที่ ฟู่เหยาเยว่ อย่างรุนแรง

 

“เย่เฉินเฟิง ได้ฆ่า ซานเสียน และ ศิษย์อัจฉริยะ จากนิกายทั้งสาม เกือบ 10 คน”

 

หลังจากได้ยินคําพูดของ เฉินชางเทียน แล้ว ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียน และ คนอื่น ๆ ก็แสดงอาการตกใจ พวกเขาล้วนไม่เชื่อ เพราะ เย่เฉินเฟิง เป็นเพียงผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้น 4 เขาไม่น่าจะมีความแข็งแกร่งขนาดนี้

 

ขณะเดียวกัน ในใจของ เฉียนตว๋อไป๋ กลับมีคลื่นลูกใหญ่ถาโถมเข้ามา เขากังวลเกี่ยวกับ เยู่เฉินเฟิง ที่ตอนนี้ยังไม่ออกมาจากอาณาจักรลับวิญญาณแท้จริง

 

“หวางหลินเล่า ? หวางหลิน ไปไหน? ”

 

ในเวลานี้ หลังจาก หลุมมิติสีดําค่อย ๆ หดเล็กลง และ หายไป อาวุโสจากนิกายหุบเขาวายุคลั่ง พบว่า มีเพียง ศิษย์ ที่เหลือรอดเพียง 3 ใน 10 คนเท่านั้นที่ออกมาจากอาณาจักรลับวิญญาณแท้จริง เขากล่าวถามตะโกนอย่างเสียงดัง

 

ศิษย์ทั้งสามนั้นเพราะพวกเขาไม่ได้เข้าใกล้วิหารหินโบราณ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ทราบสาเหตุการตายของ หวางหลิน และ คนอื่น ๆ

 

“ผู้เฒ่าวายุ,หวางหลิน และ คนอื่น ๆ พวกเขาถูกฆ่าตายโดย เย่เฉินเฟิง แม้แต่สหายจากนิกายหุบเขาวิหคอัสนีของข้าก็ถูกเขาฆ่าตาย”

 

ได้ยินคําตอบเหล่านั้นจากปากของ หยางปิงเฟิง จากนิกายหุบเขาวิหคอัสนี ผู้อาวุโสจากนิกายหุบเขาวายุคลัง กลายเป็น โกรธเคืองทันที

 

“เจ้าว่าอะไรนะ ?”

 

“เทียนซือจิน ศิษย์จากนิกายเพลิงผลายฟ้าของเจ้า ถือดียังไงกล้ามาฆ่าศิษย์ของนิกายหุบเขาวายุคลั่งของข้า!”

 

อาวุโสจากนิกายหุบเขาวายุคลั่ง ได้กล่าวตะโกนออกมา เมื่อเขารู้ว่า ศิษย์ ที่หายไป รวมถึง หวางหลิน ถูกฆ่าตาย โดย เย่เฉินเฟิน เขากลายเป็นโกรธและบ้าคลั่งอย่างมาก

 

“เย่เฉินเฟิง ไม่ได้เป็นศิษย์ของนิกายเพลิงผลาญฟ้าของข้า อีกอย่าง ศิษย์ของนิกายข้าที่มาจากตําหนักหยินหยาง อย่าง โหย่วซานเสียน ก็ตายในมือของเขาเหมือนกัน”ได้ยินเสียงตะโกนของผู้อาวุโสจากนิกายหุบเขาวายุคลัง ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียน รีบอธิบาย

 

“เหยาเยว่ อาวุธวิญญาณปฐพีระดับกลาง ที่เจ้าให้ข้า เป็น เย่เฉินเฟิง มอบให้เจ้าหรือไม่?” ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียน ไม่สนใจ ผู้อาวุโสจากนิกายหุบเขาวายุคลั่ง เขากล่าวถาม ฟูเหยาเยว่ด้วยสีหน้าน่าเกลียด

 

“ค่ะ!” ฟู่เหยาเยว่ พยักหน้าและตอบกลับตรง ๆ

 

“เช่นนั้นเจ้าบอกข้ามาว่า เย่เฉินเฟิง หายไปไหน?”ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียน กล่าวถามอีกครั้ง

 

“เขาได้เข้าไปในกระแสน้ำวนสีดํา แต่เพราะว่า ศิษย์ไม่สามารถต้านทานพลังของมันได้ ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าตอนนี้เขาเป็นตายร้ายดียังไง” ฟู่เหยาเยว่ ตอบกลับความจริง

 

“เจ้ายังมีอาวุธวิญญาณปฐพี อันอื่นอยู่อีกหรือไม่ ?”ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียน กล่าวถาม เพราะคิดว่า อาวุธที่ ฟูเหยาเยว่ แสดงให้เขาเห็น ก่อนหน้านี้ เป็นอาวุธวิญญาณปฐพี เช่นเดียวกัน

 

“ค่ะ!”

 

แม้ว่า ฟู่เหยาเยว่ จะรู้สึกผิดหวัง แต่เธอก็ไม่กล้าขัดคําสั่งของ ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียน เธอได้เอาดาบสีดําออกมาจากถุงจักรวาลและมอบให้กับเขา

 

หลังจากได้รับอาวุธวิญญาณปฐพีระดับกลาง สองอัน สีหน้าของ ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียน ก็กลายเป็นผ่อนคลายลง จากนั้นเขาก็จ้องมองไปที่ใบหน้าที่มีเสน่ห์ของ ฟู่เหยาเยว่ และ กล่าวพูดอย่างเยือกเย็น”เห็นแก่อาวุธวิญญาณปฐพีระดับกลาง สองอันนี้ ชายชราเช่นข้า จะไม่สนใจความผิดก่อนหน้านี้ของเจ้า แต่ถ้าเจ้ากล้ามีความสัมพันธ์กับ เย่เฉินเฟิง อีกครั้ง ข้าจะลงโทษเจ้าสถานหนัก”

 

“ขอบคุณท่านอาจารย์ที่ละเว้น ศิษย์ไม่กล้า” ฟู่เหยาเยว่ พยักหน้าอย่างรวดเร็ว

 

“ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียน วิหารหินโบราณ ที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาหลายพันปี ตอนนี้มันได้ปรากฏออกมา ไม่ทราบว่าพวกเรามีข้อมูลเกี่ยวกับมันผ่านบันทึกมากน้อยแค่ไหน” อาวุโสในชุดคลุมดําได้กล่าวถาม

 

“พวกเรามีข้อมูลเกี่ยวกับวิหารหินโบราณน้อยเกินไป” ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียนกล่าวตอบ

 

“ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียน เช่นนั้นพวกเราจะทําอย่างไรดี? เจ้าเด็กสารเลวนั่น ติดอยู่ในอาณาจักรลับวิญญารแท้จริง หากเราต้องการตัวเขาคงยากราวกับปีนปายสวรรค์” อาวุโสในชุดคลุมดํากล่าวถามอีกครั้ง

 

“พวกเราทําได้แค่รอ ถ้าเขาโชคดี เขาจะต้องสามารถออกมาได้อย่างแน่นอน” ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียน กล่าวตอบ เมื่อนึกถึงเหตุผลที่ว่า เย่เฉินเฟิง มีโอกาสที่จะนําสมบัติล้ำค่ากลับมาได้ เขาได้ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย

 

จากนั้น ผู้คนจากนิกายเพลิงผลาญฟ้า นิกายหุบเขาวายุคลั่ง และ นิกายหุบเขาวิหคอัสนี้ พวกเขาได้เลือกที่จะรอที่บึงทมิฬแห่งนี้

 

“เย่เฉินเฟิง ข้าหวังว่าเจ้าจะโชคดีหาเส้นทางอื่นออกมาจากอาณาจักรลับวิญญาณแท้จริงได้” ฟู่เหยาเยว่ ที่อยู่ข้างกาย ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียน เธอได้ถอนหายใจออกมา

 

……

 

“พลังวิญญาณแทรกซึมเข้าไปในเส้นโลหิต”

 

ในเวลานี้ เย่เฉินเฟิง ได้อดทนและควบคุม สมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์ ในการทําลายพลังชั่วร้ายของ ผลไม้ปีศาจโลหิต เพื่อที่จะส่งเสริมกล้ามเนื้อของเขาให้แข็งแกร่งมากขึ้น

 

ในเวลานี้ ร่างกายของเขา แทบจะไม่มีพลังวิญญาณหลงเหลืออยู่ เพราะได้ใช้มันในการบุกเบิก จุดชีพจรในร่างกายของเขา ร่างกายของเขา เจ็บปวดราวกับกําลังจะพังทลายลงทั้งหมด

 

สภาพแวดล้อมโดยรอบ แรงโน้มถ่วงจํานวนมากได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 6 เท่า ,7 เท่า, 2 เท่า …

 

เย่เฉินเฟิง ได้รับความทุกข์ทรมาน จากแรงโน้มถ่วงมหาศาล ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เขาได้ใช้เวลาอีก สี่วัน ในที่สุดก็สามารถผสานพลังของ ผลไม้ปีศาจโลหิต ได้อย่างสมบูรณ์ ตอนนี้ ความแข็งแกร่งของ เย่เฉินเฟิง เพิ่มขึ้นมากถึง 180,000 จิน หากเพียงขั้นตอนเดียว เขาก็จะเพิ่มถึง 200,000 จิน และ กลายเป็นความสําเร็จที่ยิ่งใหญ่

 

“มันยากมากที่จะปรับแต่ง จุดชีพจรศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด หากไม่ได้ ผลไม้ปีศาจโลหิต นี่ ข้าไม่มีทาง ปรับแต่งขั้นพลัง จนใกล้ไปถึงระดับความสําเร็จอันยิ่งใหญ่ได้”เย่เฉินเฟิง ถอนหายใจออกมาอย่างนุ่มนวล

 

พลลังวิญญาณของ เย่เฉินเฟิง ได้ค่อย ๆ ฟื้นฟูกลับมาเรื่อย ๆ แน่นอนว่า พื้นที่แรงโน้มถ่วงเอง ก็รุนแรงมากขึ้นเช่นเดียว กัน

 

เขาได้เสียเวลาปรับแต่งความแข็งแกร่งของเขาไปพอสมควร ในที่สุด เขาก็รู้สึกว่ามันได้เวลาแล้วที่เขาจะต้องหาทางทําลายพื้นที่แรงโน้มถ่วงแห่งนี้

 

เย่เฉินเฟิง ได้นั่งไขว่ห้างอยู่เงียบ ๆ อยู่พักหนึ่ง เพื่อปรับสภาพให้คืนค่าที่ดีที่สุดของเขา จากนั้น ก็ค่อย ๆ ยืนขึ้นอย่างช้า ๆ

 

“ฝ่ามือทลายเมฆา!”

 

เย่เฉินเฟิง ได้สูดลมหายใจเข้าลึก และรวมพลังวิญญาณของเขา เข้ากับ พละร่างกาย ตอนนี้ พละกําลังของเขามากถึง 250,000 จิน มันได้ถ่ายเทลงไปที่ ทักษะฝ่ามือทลายเมฆา และพุ่งโจมตีออกไป

 

คลื่นพลังฝ่ามือที่รุนแรง ได้บีบอัดเข้าใส่ผนังพื้นที่แรงโน้มถ่วงที่นี่ จนเกิดเสียงระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง

 

เย่เฉินเฟิง ได้ใช้ฝ่ามือทลายเมฆาอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุด ผนังพื้นที่แรงโน้มถ่วง ก็เกิดรอยปริแตกเป็นช่องจํานวนมาก

 

อย่างไรก็ตาม เย่เฉินเฟิง ไม่ได้มีความสุขกับรอยแตกเหล่านั้น เพราะว่า ผนังพื้นที่แรงโน้มถ่วง กําลังฟื้นฟูตัวเองอย่างช้า ๆ

 

“พลังการฟื้นฟูน่ากลัวขนาดนี้เลยงั้นเหรอ?”

 

เย่เฉินเฟิง ได้ใช้พลังความแข็งแกร่งเกือบสองเท่าของพละกําลังทางกายของเขา แต่ก็ยังไม่สามารถทําลาย ผนังพื้นที่แรงโน้มถ่วงแห่งนี้ได้ เขาเริ่มรู้สึกกังวล

 

หลังจากพักฟื้นอีกครู่นึง เย่เฉินเฟิง ก็ได้หยิบดาบหยกเขียวออกมา และ ใช้ปราณดาบ 6 ชั้นสวรรค์ ข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างหนึ่ง ได้ใช้ทักษะฝ่ามือทลายเมฆา

 

พลังโจมตีของ เย่เฉินเฟิง แข็งแกร่งมาก แต่ความ แข็งแกร่งของ ผนังพื้นที่แรงโน้มถ่วง ก็แข็งแกร่งเหนีอเกินกว่าจินตนาการของเขา แม้ว่า เขาจะโจมตีด้วยการโจมตีทั้งสองออกไป แต่เขาก็ไม่สามารถทําลายผนังพื้นที่แรงโน้มถ่วงได้

 

เย่เฉินเฟิง ได้ล้มลง และ รู้สึกหมดหวังจากก้นบึงของหัวใจ

Eight Desolate Sword God

Eight Desolate Sword God

ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนเมื่ออายุครบ 13 ปี จิตอสูร ของพวกเขาจะตื่นขึ้น อย่างไรก็ตาม เย่เฉินเฟิง จิตอสูรของเขาไม่ได้ตื่น เขาถูกขับไล่เเละเนรเทศในเวลาต่อมา จากนั้นไม่นาน เย่เฉินเฟิง ก็ได้รับความโปรดปรานจากสวรรค์ หลังจากพานพบเผชิญหน้ากับหลายปีเเห่งความอัปยศ ด้วยของขวัญที่สวรรค์ประทานเขาสามารถเลือกเดินไปยังเส้นทางของผู้ฝึกยุทธ์ที่เเข็งเเกร่งที่สุดได้ ฝากกดไลค์ฝากติดตามด้วยนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset